ตอนที่ 99 คำเชิญเข้าร่วมประชุม
「อื้มๆ」
「แหมๆ」
ชั้นดันกอดกับซาเรียแบบแนบแน่นต่อหน้าพ่อแม่อย่างโจ้งแจ้งเลยหน้าแดงไปหมด
ทำไปได้!ลืมตัวตนของพวกคุณพ่อไปอย่างสมบูรณ์แบบ!
ก ก็แบบว่าถึงจะไม่นานแต่ชั้นต้องห่างจากพวกซาเรียเลยเหงาจนลีมตัวไปหน่อย?
ไม่รู้ว่าแก้ตัวกับใครอยู่แต่ขณะที่ในใจกำลังลนลานพลางหันสายตาไปทางพวกคุณพ่อ
ทั้งสองคนก็ทำสายตาอบอุ่นให้ชั้นแบบรู้อยู่แล้วไม่จำเป็นต้องพูดก็ได้
ม่ายยยยยยยยยยยยย!อายจังเฟ้ย!อายจนจะทนไม่ไหวแล้ว!?
พวกเพียบพร้อมคนอื่นนี่เขาทนความอายแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย!?
สำหรับชั้นมันยังเร็วเกินไป!
ขณะที่กำลังคิดเรื่องไม่ได้ความอยู่ ซาเรียก็สังเกตุเห็นพวกคุณพ่อ
「อ้ะ? คนพวกนี้คือ?」
「หะ!? อ อ๋อ..........คนพวกนี้คือคนที่มีชะตาร่วมกับชั้น............มั้ง?」
「ทำไมถึงเป็นประโยคคำถามล่ะ?」
แบบว่า หลังเกณฑ์ของชะตานี่ชั้นเองยังไม่รู้เลย......
ทันใดนั้นเซนอสก็แสดงสีหน้าอ่อนโยนส่งเสียงเรียกซาเรีย
「ไม่เจอกันนานเลยนะท่านกอลิล่า.........ไม่สิ ท่านซาเรีย」
「เอ๋? .........อ้ะ!คุณเซนอสนี่เอง!」
ทำไมเซนอสถึงเห็นซาเรียในร่างมนุษย์แล้วรู้ว่าเป็นกอลิล่านั่นได้อ่ะ!?
ซาเรียกลายร่างเป็นมนุษย์จำได้ว่ามันหลังจากจัดการเซนอสไปแล้วไม่ใช่เหรอ......
ยิ่งกว่านั้น ซาเรียเองก็มองออกว่าเป็นเซนอสทันทีด้วย.........
ตกลงชั้นที่มองไม่ออกนี่แปลกเหรอ?
「เอ๊ะ แต่คุณเซนอสน่ะ.........」
「อื้ม ฉันพ่ายแพ้ในการดวลกับท่านเซอิจิและได้จากโลกนี้ไปเรียบร้อย.........
ทว่าด้วยสาเหตุบางอย่างทำให้ฉันได้พบกับท่านเซอิจิที่ปรภพ
รวมทั้งคนสำคัญของฉัน..............แมรี่ด้วย」
「ถ้างั้นคุณก็คือคุณแมรี่สินะ?」
พอซาเรียส่งเสียงเรียกแมรี่ที่อยู่เยื้องไปด้านหลังของเซนอส แมรี่ก็ก้มหัวทักทาย
「ค่ะ ฉันคือเมดผู้ทำหน้าที่รับใช้ท่านเซนอส แมรี่ค่ะ」
ซาเรียที่ได้รับการแนะนำตัวจากคุณแมรี่ก็ยิ้มกว้างพลางเข้าไปกอดคุณแมรี่
「ดีจังนะ!ได้อยู่ด้วยกันกับคุณเซนอสแล้ว!」
「เอ๋!? อ เอ่อ............ค่ะ」
คุณแมรี่ตอนแรกก็เปิดตากว้างกับการกระทำของซาเรีย
แต่หลังจากมองไปทางเซนอสอย่างเขินอายก็พยักหน้ารับทั้งหน้าแดง
.........ชั้นกับซาเรียที่อ่านประวัติของเซนอสจึงได้รู้จุดจบของเซนอสกับคุณแมรี่
พอได้รู้ว่าในที่สุดทั้งคู่ก็ได้มีความสุขซาเรียเลยดีใจ
ขณะที่ซาเรียกำลังกอดกับคุณแมรี่ คราวนี้เป็นคุณลูเชียสที่ส่งเสียงเรียก
「ไง รู้จักของผมรึเปล่า? ไม่สิ จะไปรู้จัก---------」
「ท่านจอมมารรุ่นแรก?」
「ทำไมถึงรู้ล่ะ!?」
เจ้าตัวคุณลูเชียสที่เป็นคนถามตกใจกับคำตอบของซาเรีย
ไม่สิ ชั้นเองยังตกใจเลย รู้ได้ไงอ่ะ?
「งั้นรู้จักพวกเรารึเปล่า?」
「เดี๋ยวเถอะ จะไปรู้ได้ยังไงล่ะจริงมั้ย?」
อาเบลทำหน้ายิ้มๆถามซาเรีย แอนนาที่เป็นพรรคพวกเลยมองแบบตำหนิ
ทว่า ซาเรียกลับยิ้มแย้มตอบกลับมาอย่างชัดเจน
「คุณผู้กล้าอาเบลกับคุณนักรบกัลลูส
แล้วก็คุณนักล่าแอนนากับคุณนักปราชญ์ลิลิแอน!」
「โกหกน่า!?」
「ทายถูกด้วยแฮะ...........」
อาเบลตกใจตามด้วยกัลลูซพึมพำเบาๆ
「อ เอ่อ...........ทำไมถึงรู้เรื่องพวกเราได้ล่ะคะ........?」
พอลิลิแอนถามออกไปตามความรู้สึก ซาเรียหลังจากทำท่าคิดนิดหน่อยก็ตอบกลับ
「สัญชาตญาณสัตว์ป่า!」
สัญชาตญาณสัตว์ป่านี่มันอะไรกัน
เห็นซาเรียใช้สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่ว่านี่อยู่บ่อยๆยังเดาไม่ออกเลย
แต่นี่มันระดับรู้แจ้งไปแล้วนะ? สัตว์ป่าเจ๋งโคตร
พอได้ฟังคำตอบของซาเรีย พวกอาเบลก็ทำหน้าซับซ้อนบอกไม่ถูกตามคาด
..........ก็นะ ที่ซาเรียใช้อ่านศึกษาคำศัพท์คือบันทึกของอาเบลนี่นา
การรู้จักชื่อมันจึงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว.......ไม่สิ ถึงรู้จักชื่อก็ใช่ว่าจะทายถูกซะเมื่อไร
ถ้าใช้สกิล『ตรวจสอบ』ก็ว่าไปอย่าง
จะว่าไปป่านนี้แล้วแต่ถึงชั้นกับซาเรียจะได้อ่านไดอารี่ของอาเบล..........
อ้ะ เดิมทีไดอารี่ที่ว่าตราบเท่าที่ไม่ได้เอาไว้แลกเปลี่ยนกันก็ไม่ได้มีไว้ให้คนอ่านสักหน่อย
แล้วการที่พวกชั้นดันไปอ่านมันเข้า.............เงียบไว้ดีกว่า
ก็แหม ถึงไม่ได้เขียนอะไรแปลกๆไว้แต่ความในใจมันก็ไม่ควรรู้อยู่ดี
「........ข้า จำได้มั้ย?」
「คุณกล่องสมบัติล่ะ!จำได้สิ!」
ขณะที่กำลังเก็บเรื่องไดอารี่ของอาเบลไว้ในใจอยู่คนเดียว
ซาเรียก็ไปพูดคุยกับกล่องสมบัติแล้ว
.......แบบว่า อื้ม การพบกันกับกล่องสมบัติ...........และการลากจากส่งผลกับจิตใจชั้นมาก
ถึงจะพูดหลายครั้งแล้วแต่นี่ไม่ได้ตั้งใจฆ่านะ!
แค่ร่างกายของชั้นมันอันตรายเกินคาดไปเยอะเท่านั้นเอง!
สุดท้ายซาเรียที่ทายคนเกือบทั้งหมดถูกในครั้งเดียว พอเห็นคุณนาชูเรียน่ากลับเอียงคอ
「เอ่อ..........ฉันชื่อว่านาชูเรียน่าค่ะ คือว่า..........คุณรู้จักฉันด้วยมั้ยคะ?」
「อือออ............คุณนาชูเรียน่านี่ไม่รู้จักนะ...........」
「งั้นเหรอคะ............」
คุณนาชูเรีย่าทำหน้าลำบากใจ
ก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก
นั่นเพราะทั้งที่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับชั้นสักอย่างแต่กลับหาไม่เจอเลย
ตกลงไปมีชะตากันที่ไหนหว่า...........
ขณะที่คิดเรื่องชะตากับคุณนาชูเรียน่าอยู่ พวกคุณพ่อก็เข้ามาคุยกับซาเรีย
「สวัสดี คุณซาเรีย.............สินะ?」
「เอ๋?」
「ดูเหมือนว่าเซอิจิจะได้คุณช่วยเหลืออยู่เสมอเลย」
「จริงด้วย ขอบคุณมากนะจ๊ะ นี่มองปราดเดียวก็รู้เลยว่าคุณให้ความสำคัญกับเซอิจิ.......
แล้วเซอิจิเองก็ให้ความสำคัญกับคุณเช่นเดียวกัน」
ก็เป็นตามที่คุณพ่อกับคุณแม่พูดแต่พอมีคนพูดออกมานี่มันเขินชะมัด!
ซาเรียมองพวกคุณพ่อหลังจากทำหน้างงไปแป๊ปนึงก็ตาเป็นประกาย
「หรือว่าจะเป็น.........คุณพ่อกับคุณแม่ของเซอิจิงั้นเหรอคะ!?」
「ใช่แล้วล่ะ」
พอคุณพ่อกับคุณแม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนตอบกลับไป
ซาเรียจึงรีบร้อนไปอยู่ต่อหน้าพวกคุณพ่อ
「เอ่อ........ฉันซาเรียค่ะ!เป็น........ภรรยาของเซอิจิค่ะ!」
พอซาเรียหน้าแดงพูดแบบนั้นออกมา
พวกเซนอสก็พยักหน้าอะไรไม่รู้ ส่วนพวกอาเบลยิ้มๆมองพวกชั้น
จากนั้นพวกคุณพ่อก็----------
「คุณมาโกโตะได้ยินมั้ย!?」
「อา ชัดเต็มสองรูหูเลย」
「เด็กน่ารักขนาดนี้ถึงขั้นเป็นภรรยาของเซอิจิไม่ใช่แค่แฟน.................
วันนี้ต้องหุงข้างฉลองแดงแล้ว!」
「ช่วงที่พวกพ่อไม่อยู่นี่เติบโตขึ้นอย่างสง่างามจริงๆ」
「พอทีเถอะ!」
ไม่สิ ก็ไม่ได้จะปฏิเสธที่ซาเรียบอกว่าเป็นภรรยาหรอก!เพราะชั้นเองก็รักนี่นา!
แต่ว่านะคิดไม่ถึงเลยว่าการประกาศกับพ่อแม่จะน่าอายกว่ากอดกันให้เห็นขนาดนี้!
มีสายตาจากรอบข้างนอกจากพวกคุณพ่อด้วยยิ่งอึดอัดขึ้นไปอีก!
ขณะที่ชั้นกำลังปวดร้าวกับความเขินอายก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมาที่สนามแข่งนี้
พอหันสายตาไป-----------
「โอ้ย ซาเรีย!อยู่ๆก็วิ่งไป----------เซอิจิ!?」
「น นายท่าน!」
「เซอิจิโอนี่จัง!?」
พวกอัลเห็นชั้นก็ตกใจกัน
อายจนไม่ทันคิดแต่ก็ว่าน่าแปลกที่มีแต่ซาเรียที่มาสนามแข่ง
ว่าแต่รู้ได้ยังว่าพวกเรากลับมากันแล้วน่ะ?
ขณะที่คิดด้วยความประหลาดใจ พวกอัลเองก็วิ่งเข้ามากอดชั้นด้วย
「เซอิจิ...........!ค่อยยังชั่วหน่อยที่ปลอดภัย..........!」
「นายท่าน ฉันเชื่อค่ะ!ว่าต้องสยบปรภพกลับมาได้อย่างแน่นอน!」
「...........เซอิจิโอนี่จัง ยินดีต้อนรับกลับนะ」
แม้ชั้นจะเจอหลายเรื่องกระชั้นชิดมาอย่างต่อเนื่องก็ยังกอดพวกอัลไว้อย่างดี
「อา กลับมาแล้วล่ะ」
เป็นห่วงกันถึงขนาดนี้............มันดีเกินไปสำหรับคนอย่างชั้นจริงๆ
ว่าแต่ที่รูรูเนะประเมินชั้นไว้นี่มันอะไรกัน
แต่ผลลัพธ์มันออกมาคล้ายๆตามที่ว่าเลยเถียงไม่ออกอ่ะนะ!
ซาเรียเองพอเห็นชั้นกอดกับพวกอัลก็แสดงสีหน้ายินดี
แต่ทว่า-----------
「ค คุณมาโกโตะ ช่วงที่พวกเราไม่อยู่นี่เซอิจิเติบโตไปมากจริงๆ........」
「อ อา..........โตเกินคาดเลยล่ะ..........」
พวกคุณพ่อพอเห็นสภาพชั้นกับพวกอัลก็ทำหน้าแข็งค้าง
............ลืมพวกคุณพ่อไปอีกแล้ว
◆◇◆
--------เทลเวลเมืองหลวงของอาณาจักรวินบุค
「อืม.........」
ในห้องแห่งหนึ่งของวัง รันเซ่ผู้เป็นราชาของอาณาจักรวินบุคครางกับจดหมายตรงหน้า
「เอาล่ะ จะเอายังไงดีนะ.........」
「ท่านรันเซ่!ได้ยินว่ามีธุระด้วย กัลซุสผู้นี้ จึงกระโดดกระต่ายมาหาแล้ว!」
「จำเป็นต้องทำด้วยเหรอ?」
ที่ปรากฏตัวออกมาที่ห้องของรันเซ่โดยไม่เคาะประตู
คือผู้ที่เปลือยใส่แต่กางเกงบูมเมอร์แรงตัวเดียวตลอด กัลซุสนั่นเอง
ที่จริงการโดดเข้าห้องพระราชาโดยไม่เคาะประตูถือว่าไม่ให้เกียรติอย่างมาก
แต่รันเซ่ทำเพียงถอนหายใจเท่านั้น
「โทษทีนะที่อยู่ๆเรียกมา」
「ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ!ต่อให้ฉันไม่อยู่กิลด์ก็ทำงานกันได้ปกติอยู่แล้ว!」
「งั้นนายก็ไม่จำเป็นสำหรับกิลด์สินะ」
「ปากร้ายจัง!」
ทั้งที่คำพูดโหดร้ายพอสมควรแต่สีหน้ากัลซุสกลับไม่ได้เศร้าอะไร
เอามือตบหัวตัวเองพลางหัวเราะอย่างร่าเริง
「เรื่องนั้นช่างเถอะ แล้วมีธุระอะไรเหรอ?」
「อา.........ประเทศมีคำขอร้องกับกิลด์อย่างหนึ่งน่ะ」
「.............โฮ่?」
พอได้ยินคำว่าประเทศมีคำขอร้อง กัลซุสก็เปลี่ยนเป็นบรรยากาศจริงจัง
「เรื่องนั้น คือให้จัดบรรยาย『วิธีสร้างกล้ามเนื้ออย่างมีประสิทธิภาพ』สินะ?」
「จะเป็นไปได้ไงล่ะ!? สมองก็เป็นกล้ามไปด้วยแล้วเหรอไง!」
「แหม ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก」
「ไม่ได้ชม!」
บรรยากาศจริงจังนั่นสรุปคือคิดไปเอง
「ถ้าไม่ให้จัดบรรยายแล้วจะมีคำขออะไรกับกิลด์อีกล่ะ?」
「มีเยอะอยู่แล้วเฟ้ย!? ต่อให้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ยังมีให้ปราบมอนเตอร์ไม่ใช่เรอะ!」
「อ๋อ------ มีเรื่องนั้นอยู่ด้วยนี่เนอะ」
「ใครก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งกิลด์มาสเตอร์กับหมอนี่ที!」
คำตบมุขของรันเซ่ช่างสมเหตุสมผล
「แล้วอะไรล่ะ? ถ้าเนื้อหาเป็นพวกให้เข้าร่วมสงครามนี่ปฏิเสธเด็ดขาดนะ........」
「ไม่พูดของอย่างนั้นหรอก........อยากให้เรียกนักผจญภัยระดับSทุกคนมาที」
「ว่าไงนะ!?」
พอกัลซุสแสดงท่าทางตกใจก็ถามด้วยสีหน้าจริงจัง
「เรื่องนั้นเอาแค่ที่เป็นนักผจญภัยพลังระดับS?
หรือว่าเอาระดับSทั้งตำแหน่งและพลัง?」
「มันก็ต้องทั้งตำแหน่งและพลังระดับSอยู่แล้วสิ!?
ใครมันจะจ้างพวกโรคจิตมีแค่พลังที่ระดับSจากที่ของนายกันฟะ!」
「เข้าใจล่ะ........แต่บอกไว้ก่อน พวกนักผจญภัยระดับSตัวจริงก็ทำอะไร
ตามความอยากของแต่ละคนเหมือนกันนะ」
「เวรชิบ ชักคิดผิดที่ขอร้องกับกิลด์แล้ววุ้ย」
「เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วง!ยังไงพลังก็เป็นของแท้แน่นอน!
แล้ว...........ทำไมอยากให้เรียกนักผจญภัยระดับSมาล่ะ?」
พอกัลซุสถามคำถามที่เป็นเรื่องธรรมดา
รันเซ่ก็เอาจดหมายที่ดูอยู่จนถึงเมื่อกี้ให้ดูพลางพูด
「มีคำเชิญเข้าร่วมประชุมมาจากจอมมารน่ะสิ」