ตอนที่ 92 พบกันอีกครั้ง
「ก็จะช่วยล่ะนะแต่.............ราชาวิญญาณร้ายที่ว่านั่นอยู่ที่ไหนเหรอ?」
ชั้นถามปรภพแบบนั้น
『.......ต้องขอโทษด้วย.........ได้เข้าสู่การเตรียมให้กำเนิดผู้เฝ้าประตูคนใหม่แล้ว
สติกำลังเลือนหายไป..........』
「นี่พูดเล่นใช่มั้ย!?」
ยังไม่ได้อธิบายรายละเอียดอะไรให้เลยนะ!?
แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะ!? ราชาวิญญาณร้ายนั่นน่ะ!
『........ต้องขอโทษด้วย.........ต้องขอโทษด้วย...........ขอฝากด้วย--------』
「เอ๋!? ด เดี๋ยวสิ!」
แม้ว่าจะตะโกนเรียกหลายครั้ง สุดท้ายก็ไม่ได้ยินเสียงของปรภพอีก
「อยู่ๆก็เพิ่มความยากขึ้นเลยเหรอ? ก่อนที่จะถามเรื่องราชาวิญญาณร้ายอยู่ที่ไหน
ตัวชั้นเองอยู่ตรงไหนยังไม่รู้เลย?」
เอ๊ะ? แบบนี้คิดตามปกตินี่ซวยเช็ดเลยนะ?
「แบบว่าเดินเรื่องเร็วจนตามไม่ทันเแล้วเนี่ย..........」
ความรู้สึกยุ่งเหยิงแบบนี้.........ทำเอาคิดถึง【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】
แม้ตอนนี้มาย้อนนึกดู ไม่อธิบายอะไรก็โดนโยนไปในที่สุดโต่งแบบนั้น
แค่รอดมาได้ก็บุญแล้ว!นี่ขนาดค่าโชคของสเตตัสแค่1นะเนี่ย!
ขณะที่สิ้นหวังไปครึ่งโดยคิดว่าต่อจากนี้จะทำยังไงดี
จู่ๆตรวจหาศัตรูของสกิล『ตาพิภพ』ก็จับสัญญาณได้
พอหันสายตาไปตามทิศทาง ก็เจอที่ตาที่ไม่มีประกายเลยสักนิดและมีตัวสีดำลอยอยู่
มีเขี้ยวสีขาวเผยอขึ้นมาจากมุมปาก ตัวตนที่น่ากลัวแบบนี้จ้องเขม็งมา
「จี่-」
「กลัวกลัวกลัวกลัวเฟ้ย!」
อะไรกันน่ะเจ้านี่!? อยู่ๆก็โผล่มา!?
ตัวที่น่ากลัวขวัญผวานี้อยู่ๆดีก็โผล่ขึ้นมาในขอบเขตการตรวจจับของสกิลชั้น
「จี่-」
「อ อะไรเล่า.........แกเป็นตัวอะไรกันล่ะ..........
ว่าแต่ จ้องกันขนาดนั้นเดี๋ยวก็ทะลุเป็นรู-----」
ทันทีที่พูดแบบนั้น ตาปริศนาก็ส่องแสงยิงเลเซอร์มาที่ชั้น
「ไหงเป็นจั่งซี้!?」
ชั้นเผลอหลุดสำเนียงคันไซพลางบิดงอร่างกายหลบเลเซอร์
「ทะลุเป็นรูตามตัวอักษรเลยวุ้ย!? แกนี่มันอะไร!? จะขู่กันเรอะ!」
「จี่--」
「เลเซอร์น่ะพอสักทีได้มั้ย!?」
ตัวตนปริศนาไม่สนใจคำพูดของชั้นแถมยังยิงเลเซอร์ใส่เรื่อยๆ
ส่วนชั้นก็หลบด้วยท่วงท่าพิศดารได้ตลอด
「เดี๋ยวสิ ตกลงแกมันตัวอะไรกันแน่!?」
ชั้นเลยใช้สกิล『ตรวจสอบขั้นสูง』ดู
『วิญญาณร้าย Lv: ???』
「แกเองเหรอวิญญาณร้าย!?」
ชั้นหลุดตะโกนออกไป
ยิ่งกว่านั้นLvยังไม่รู้ด้วย!นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่UMAที่เคยเห็นที่ร้านขายมอนเตอร์
ของบัลซัสที่เทลเวลเลยนะ!เจ้าUMAนั่น........ตอนนี้เป็นยังไงบ้างนะ?
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เพราะวิญญาณร้ายเป็นวิญญาณเลยจู่ๆก็โผล่มา
ในรัสมีตรวจจับของ『ตาพิภพ』ได้งั้นเหรอ?
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงล่ะก็ราชาวิญญาณร้ายก็น่าจะมีความสามารถเหมือนกัน.........
อย่างนี้ก็หาตัวไม่ได้สิ? ซวยเช็ดขึ้นไปอีกเรื่อยๆแล้ว!
ชั้นชัก『เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง(Black) 』กับ
『เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ(White)』พร้อมตั้งท่า
「ถ้าแกเป็นวิญญาณร้ายอย่างที่บอกก็ขอจัดการเลยแล้วกัน」
แม้จะสื่อสารกับอีกฝ่ายไม่ได้แต่ชั้นก็พูดเผื่อไว้ก่อนพลางโดดเข้าหาวิญญาณร้าย
พอจะจำระดับพลังที่ใช้ชกชายในชุดกราวน์จนกระเด็นได้
เลยฟันBlackใส่ในขอบเขตที่โลกไม่เสียหาย แถมยังใส่สกิล『นรกอเวจี』เผื่อไว้ด้วย
คงไม่เป็นไรมั้ง ............ต้องมาเป็นห่วงโลกนี่ชักพิลึกใหญ่แล้วแฮะ
ชั้นทอดสายตาออกไปพลางโจมตีใส่วิญญาณร้าย
วิญญาณร้ายสายตาจับความเร็วของชั้นไม่ทันแม้แต่ตอนนี้ยังคงจ้องตรงจุดที่ชั้นเคยอยู่
และตอนที่Blackแตะถูกตัววิญญาณร้ายนั่นเอง
「เฮ้ย!?」
ร่างของวิญญาณร้ายกระเพื่อมไปมา ทันทีที่Blackแตะถูกแรงกระแทกก็เป็นดั่งคลื่น
ไหลไปตามตัววิญญาณร้าย
พอคิดว่าแรงกระแทกจะไหลไปออกด้านล่างของตัววิญญาณร้าย
จู่ๆก็เริ่มเปลี่ยนทิศทางมุ่งไหลกลับมาทางชั้น
ทันทีที่สังเกตุเห็น ชั้นรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีจึงรีบหลบออกมาจากตรงนั้นทันที
และแล้ว-----------
ตูม!
เสียงกระแทกดังกึกก้อง
จุดที่ชั้นยืนอยู่เมื่อกี้เกิดเป็นหลุมเครเตอร์ขนาดใหญ่เหลือเชื่อไปเลย
「นี่ โกหกใช่มั้ย.........」
เหงื่อเย็นไหลลงมาข้างแก้มของชั้น
วิญญาณร้ายเองก็ไม่สะทกสะท้านหยุดอยู่ที่เดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
「นี่มัน........ไม่ว่าดูยังไงก็เป็นการสะท้อนการโจมตีของชั้นชัดๆ?」
การโจมตีของชั้นถูกสะท้อนกลับมา ยิ่งกว่านั้นอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรเลยด้วย
จากสถานการณ์แล้วชั้นควรจะแสดงความหวาดกลัวอีกฝ่าย
ทว่าในหัวของชั้นกลับเต็มไปด้วยเรื่องอื่น
「การโจมตีของชั้นมันเถื่อนขนาดนี้เลยเรอะ....!?」
อาจจะบอกว่าพึ่งมาคิดได้เรอะแต่พอมาอันตรายนั้นกลับมาหาตัว
ถึงพึ่งสัมผัสได้ว่าพลังโจมตีที่สูงส่งของชั้นมันผิดเพี้ยนแค่ไหน
การโจมตีไม่ได้ผล? เรื่องนั้นช่างมันเถอะ!
การโจมตีระดับภัยพิบัติของชั้นยังน่าห่วงกว่าอีก!
「เวรล่ะ...........ต่อจากนี้คงต้องคิดวิธีใช้พลังอย่างจริงจังหน่อยแล้ว.....」
「จี่--」
บรรยากาศของวิญญาณร้ายดูเหมือนเปลี่ยนเป็นอารมส์ไม่ดียังไงไม่รู้
แบบเหมือนคาดหวังท่าทางสิ้นหวังที่การโจมตีของชั้นไม่ได้ผล
แต่วิญญาณร้ายกลับจับสังเกตุได้ว่าชั้นไปตกใจกับเรื่องอื่นแทน
ก็นี่มันเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับชั้นเหมือนกันนะ!
ทว่าสำหรับเรื่องนี้วิญญาณร้ายดูจะไม่ชอบใจอย่างยิ่งเลยกราดยิงเลเซอร์ใส่
「จี่--!」
「เกือบไป!? เดี๋ยวสิใจเย็นก่อน!」
เสียงของชั้นไม่เข้าหู วิญญาณร้ายยังคงโจมตีชั้นอย่างไม่ลดละ
เอาเป็นว่าการโจมตีกายภาพไม่ได้ผล............งั้นเวทมนตร์ล่ะเป็นไง?
ชั้นเลยลองใช้เวทธาตไฟขั้นต้น『Fire』
「เอ้า!」
ก้อนไฟขนาดยักษ์ที่ไม่มีทางถูกเรียกว่าเวทขั้นต้นถูกยิงไปหาวิญญาณร้าย
ทันใดนั้นวิญญาณร้ายก็หยุดยิงเลเซอร์เอาตัวรับ『Fire』
แล้วก็กระเด็นคืนมาตามคาด
「เฮ้เฮ้.........แล้วอย่างนี้จะให้ทำไงล่ะ」
อีกฝ่ายการโจมตีทั้งทางกายภาพและทางเวทมนตร์ไม่ได้ผลแล้วจะให้สู้ยังไงเนี่ย?
แต่นี่น่าประหลาดคือแม้จะต้องสู้กับตัวพรรณนี้แต่ชั้นกลับไม่รู้สึกลนลานเลย
ทว่าทันใดนั้นก็จับสัญญาณอื่นได้ พอระวังวิญญาณร้ายตรงหน้าพลางหันสายตาตามก็.......
「OH..........」
「จี่--」
「จี่--」
「จี่--」
「จี่--」
วิญญาณร้ายจำนวนมากจ้องเขม็งมาทางชั้น
ว่าแต่นี่โคตรสยองเลยเฟ้ย!? เดิมทีชั้นก็ไม่ถูกกับพวกผีหรือของสยองขวัญอยู่แล้วด้วย!?
อยากกลับบ้าน!ถึงจะกลับไม่ได้ก็เถอะ!
ขณะที่หลุดยิ้มแข็งค้าง พวกวิญญาณร้ายก็พร้อมใจกันยิงเลเซอร์ใส่
『จี่--』
「แบบนี้ไม่ตลกแล้ว!」
พอรีบย่อตัวลงไปที่ตรงนั้น เลเซอร์จำนวนมากก็พุ่งผ่านเหนือหัวชั้น
ทว่าด้วยการที่ชั้นหลบทำให้เลเซอร์ไปโดนวิญญาณร้ายตัวอื่น
แล้วสะท้อนกลับซ้ำไปซ้ำมา จนอยู่ในสภาพที่เหนือหัวมีเลเซอร์วิ่งอยู่ตลอด
「จบเห่ของแท้!? สภาพแบบนี้ไปจัดการราชาวิญญาณร้ายไม่ได้แหง!?」
ใช้สองมือกุมหัวหมอบคู้ไปกับพื้นเพื่อไม่ให้โดนหัวพลางร้องตะโกน
ตกลงต้องทำยังไงถึงจัดการมันได้เนี่ย!?
「ไม่เอาแล้ว!Help!Help Meeeeeeeeeeeeeeeeeeeee!」
「รับทราบ」
「เห!?」
พอเผลอร้องขอความช่วยเหลือทั้งที่รู้ว่าส่งไม่ถึงก็มีการตอบกลับจากที่ไหนสักแห่ง
「จิ๊!?」
ทันใดนั้นก็ราวกับได้ยินเสียงคุดคู้ของวิญญาณร้ายอย่างคาดไม่ถึง
พอหันสายตาไปมอง ที่แถวๆอก?ของวิญญาณร้ายตัวหนึ่งก็ถูกแทง
ด้วยดาบพิมพ์เดียวกับ『เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง(Black) 』ที่ชั้นถืออยู่
พอดาบนั้นถูกถอนออกจากวิญญาณร้าย วิญญาณร้ายนั้นก็เป็นเม็ดแสงเล็กๆหายไป
ขณะที่มองภาพนั้นด้วยความตกตะลึงก็เจอชายรูปงามคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา
ผมสีเงินขาวยาวนิดหน่อยแบ่งแสกกลาง.........ทรงที่เรียกว่าCenter partมั้ง?
ยังไงก็ตามแต่ทรงผมประมาณนั้นแหละ ดวงตาสีมรกตมองมาที่ชั้นอย่างสงบนิ่ง
「ไม่พบกันนานเลยนะท่านเซอิจิ」
「เหยอ!?」
ใครเหรอครับพี่!? คนรู้จักชั้นไม่มีหนุ่มหล่อขนาดนี้นะ!?
ชายรูปงามเดินเข้ามาหาชั้นโดยไม่สนชั้นที่กำลังสับสน
พอดูดีๆก็เหมือนเคยเจอที่ไหนสักแห่ง
สวมเสื้อผ้าอย่างดีพร้อมด้วยชุดคลุมสีดำราวกับเป็นชุดไว้ทุกข์
อย่างกับขุนนางของที่ไหนสักแห่ง
ขณะที่กำลังตกตะลึงกับการปรากฏตัวของชายรูปงาม
วิญญาณร้ายรอบๆตัวก็เริ่มแสดงความโกรธ
「จิ---!」
「จิ---!」
「จิ---!」
「เหวอ!?」
พอเผลอส่งเสียงร้องกับท่าทีของวิญญาณร้าย
ทันใดนั้นหอกดำทมิฬจำนวนมากก็แทงทะลุวิญญาณร้าย
「ให้พวกผมช่วยด้วยมั้ย?」
「ขอโทษนะคะ.........คือฉันสู้ไม่เป็น.........」
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!นั่นสินะ..........งั้นก็ไปรอกับคุณหนูเมดทางโน้นแล้วกัน」
เสียงสบายๆของผู้ชายกับเสียงอ่อนโยนของผู้หญิงดังเข้าหูชั้น
「เฮ้อ...........ทั้งที่ไม่ได้สู้ตั้งนานคู่ต่อสู้ดันแค่นี้เอง...........ไม่ไหวเอาซะเลย」
พอหันสายตาไปมองก็เจอชายผมดำตาดำที่สีหน้าดูสงบ
ใกล้ๆกันเป็นหญิงในผ้ากันเปื้อนอยู่กับหญิงสวมชุดเมด
ที่สำคัญกว่านั้นชั้นถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นรูปร่างของชายผมดำตาดำ
นั่นเพราะที่หน้าผากของชายคนนั้นมีเขาอันสง่างามงอกอยู่สองอัน
นี่เป็นลักษณะเฉพาะที่เหมือนกับพวกเบลที่เคยเจอก่อนหน้านี้เลย
งั้นก็หมายความว่า........เป็นเผ่าปีศาจ? พอดูดีๆหญิงในผ้ากันเปื้อนเองก็มีเขางอกด้วย.....
หน้าตาไม่ถึงกับเป็นหนุ่มรูปงามแต่ก็เป็นเผ่าปีศาจผมดำตาดำที่หน้าตาได้รูป
ทางนี้ก็ใส่ชุดพื้นสีดำหรูหราเช่นกัน ทั้งยังติดผ้าคลุมสีแดงด้วย
「เอาล่ะ ถ้างั้นก็---------ลาก่อนนะ」
ชายเผ่าปีศาจค่อยๆอ้าแขนสองข้าง หอกดำทมิฬจำนวนนับไม่ถ้วนก็ลอยขึ้นฟ้า
พลันพุ่งไปหาวิญญาณร้าย
ทั้งที่การโจมตีชั้นถูกดูดซับแต่การโจมตีของชายรูปงามกับเผ่าปีศาจ
กลับเจาะทะลุวิญญาณร้ายได้แบบสบายๆจนจำนวนค่อยๆลดลงเรื่อยๆ
ภาพที่เห็นราวกับเป็น『จอมมาร』แน่ะ
「พวกเราก็เอาด้วย!」
「โอ้!」
「เข้าใจแล้ว!」
「จะพยายามค่ะ!」
ทั้งที่แค่นี้ก็ตามสถานการณ์ไม่ทันแล้ว
คราวนี้เป็นปาตี้4คนปรากฏตัวออกมาโจมตีวิญญาณร้าย
คนแรกเป็นชายร่างใหญ่กำยำสวมเกราะอย่างหนาถือโล่ป้องกันเลเซอร์ของวิญญาณร้าย
ต่อมาชายหนุ่มผมฟ้าใส่ชุดเรียบง่ายกับเสื้อคลุมสีน้ำตาลราวกับนักเดินทาง
อาศัยช่องว่างที่ชายร่างใหญ่ป้องกันการโจมตี ใช้ดาบจัดการกับวิญญาณร้าย
สาวผมแดงท่าทางเข้มแข็งใส่ชุดเคลื่อนไหวสะดวกราวกับนายพราน
ใช้ธนูยิงป่วนวิญญาณร้าย
และคนสุดท้ายเป็นสาวผมทองสวมเสื้อคลุมสีขาวใช้เวทช่วยชายร่างใหญ่
เสริมพลังการโจมตีอีกทั้งยังใช้เวทโจมตีจัดการวิญญาณร้ายเองด้วย
อะไรเป็นอะไรก็ไม่รู้แล้ว
ทั้งที่การโจมตีของชั้นไม่ได้ผลแต่การโจมตีของพวกคนที่อยู่ๆโผล่มากลับได้ผล
ที่สำคัญคือ---------
「พวกคุณเป็นใครกันเนี่ย!?」
ตกลงเป็นใครกัน!? อยู่ๆก็โผล่มาช่วย............เดี๋ยวนะ
พอมาคิดดูดีๆชักจะหวั่นๆแล้วแฮะ!นี่คงไม่ได้กะมารีดไถกันหรอกนะ!?
ถึงเงินจะเหลือเฟือแต่ก็อดกลัวไม่ได้!
พอสังเกตุดู วิญญาณร้ายรอบๆตัวชั้นโดนคนที่อยู่ๆโผล่มาจัดการเรียบ
จนถึงเมื่อกี้กลัวแบบสยองขวัญแต่ตอนนี้กลัวโดนไถเงินแทน
ชายรูปงามเข้ามาหาชั้นโดยไม่สนใจความรู้สึกของชั้น
「พบกันในรูปร่างแบบนี้คงเป็นครั้งแรกสินะ」
「ค ครับ.........เอ่อ.........เป็นใครเหรอครับ? เงินเหรอ? อยากได้เงินเหรอครับ?」
「ง เงิน!? ท่านเซอิจิเข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่า?」
ชายรูปงามแสดงสีหน้าลำบากใจ
อืม คนงามทำอะไรก็งามไปหมดเลยนะ!อิจฉาเฟ้ย!
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่หญิงในชุดเมดที่อยู่ห่างออกไปกับหญิงในผ้ากันเปื้อน
ก็เดินเข้ามาหาชายรูปงาม
「ท่านเซนอสคะ..........ดูเหมือนว่าท่านเซอิจิจะจำท่านเซนอสไม่ได้นะคะ.......」
「หืม? ท่าจะเป็นอย่างนั้นนะ...........」
ชายรูปงามทำหน้าเหมือนเข้าใจอะไรสักอย่างพลางพยักหน้า
ว่าแต่ ตะกี้พูดว่าเซนอสใช่มั้ย...........?
ขณะที่รู้สึกเหลือเชื่อจนต้องไล่มองชายรูปงามตรงหน้า
เขาก็โค้งทักทายอย่างสง่างาม
「งั้นจะขอแนะนำตัวอีกครั้ง --------เจ้าบ้านดยุคเซโฟส เซนอส เซโฟส
ไม่ได้พบกันตั้งแต่ที่【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】เลยนะ? ท่านเซอิจิ」
หนุ่มรูปงาม------เซนอสยิ้มละมุลพร้อมพูด
ส่วนชั้นที่ได้รับฟังก็................
「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?」
ตกใจเต็มที่
ก็!ก็มัน!เซนอสเลยนะ!?
ขุนนางแห่งความืดเซนอสที่เคยสู้กันที่【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】เลยนะ!?
ตอนนั้นมีแต่โครงกระดูกไม่ใช่เรอะ!แล้วนี่มันอะไร!โคตรงามแงะเลยเฟ้ย!?
ขนาดตัวเองยังพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเลย!
ง งั้นผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนั่นก็..........?
เพราะความคิดออกมาที่หน้ามั้ง หญิงในชุดเมดเลยโค้งด้วยกริยาที่ขัดเกลามาเป็นอย่างดี
「ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ดิฉันเป็นข้ารับใช้ของท่านเซนอส มีนามว่าแมรี่ค่ะ」
「แแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแแมรี่!?」
ใช่จริงด้วย!ตามที่คิดเลย!
เมดแมรี่ผู้น่าชื่มชมที่ได้อ่านจากช่วงชีวิตของเซนอส
ขณะที่ตกใจจนอ้าปากค้าง สมาชิกทุกคนที่ร่วมกำจัดวิญญาณร้ายกับเซนอสก็มารวมกัน
「เซนอส ดูเหมือนจะเจอตัวแล้วสินะ」
「อา.........ทันเวลาพอดีเลยล่ะ ต้องขอบคุณพวกท่านด้วยที่ช่วยเหลือ」
「ไม่ต้องใส่ใจหรอกน่า พวกเราเองก็ได้อัตตาคืนมาจากเรื่องนี้ด้วย
อย่างนี้จะไม่ร่วมด้วยช่วยได้ไง」
ขณะที่ชายเผ่าปีศาจกับหนุ่มมาดนักเดินทางคุยกับเซนอส จู่ๆก็หันสายตากันมาทางนี้
「นายสินะเซอิจิคุง」
「ค คือว่า..........ทำไมถึงรู้เรื่องของผม?」
「ได้ฟังจากเซนอสที่อยู่ตรงนี้กับอีกสองคนมาน่ะ」
「หา?」
「พวกเรารู้สถานการณ์ในตอนนี้ของเซอิจิแล้วล่ะ
นั่นเพราะด้วยตัวตนของเซอิจิพวกเราจึงได้อัตตากลับคืนมา
เลยร่วมใจกันรวมพลมาช่วยเซอิจิไง」
「อ เอ่อ..........」
ยังไงดีล่ะ หัวแย่ๆของชั้นตามไม่ทันเลย
สรุปแล้วหมายความว่าไง?
เห็นท่าทางของชั้น ชายเผ่าปีศาจเลยยิ้มพลางบอกมาให้
「พวกเรารวมทั้งวิญญาณร้ายที่จัดการไปเมื่อครู่นี้เดิมทีก็เป็นวิญญาณที่ไม่มีอัตตา
ล่องลอยในปรภพนี้ แต่ด้วยการที่ตัวนายมาปรากฏตัวที่ปรภพนี้
ทำให้พวกเราที่มีโชคชะตาข้องเกี่ยวกับนายสามารถมีตัวตนขึ้นมาได้」
「โชคชะตา?」
เซนอสพอเข้าใจ นั่นเพราะเคยสู้กันมา
ทว่า สมาชิกคนอื่นเป็นใครไม่เห็นจะรู้จักเลย..........
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่ ชายเผ่าปีศาจก็แนะนำตัวเอง
「ก่อนอื่นเริ่มจากการแนะนำตัวก่อนดีกว่า?
ผม ลูเชียส อัลซาเรส จอมมารคนแรก............พูดแบบนี้คงเข้าใจง่ายสินะ?」
ไม่เข้าใจเลยคร้าบ
ก็จะไปเข้าใจได้ไงล่ะ!? จอมมารคนแรก!? เริ่มมาก็ไม่รู้เรื่องแล้ว!?
ด เดี๋ยวก่อน ใจเย็นไว้ ไม่แน่ว่าจะเป็นตัวจริงสักหน่อย!
「ไม่รู้ว่าจะรู้รึเปล่าแต่ตอนที่ยังไม่มีประเทศของเผ่าปีศาจ
ก็ได้ร่วมกับพรรคพวกที่พึ่งพาได้อย่างเทพมังกรดำก่อตั้งประเทศ
เพื่อทุกคนจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ถึงพรรคพวกคนอื่นจะสิ้นอายุขัยกันไปแล้ว
แต่พวกเทพมังกรดำน่าจะยังสบายดีอยู่」
ของแท้เลยเฟ้ย!
「งั้นก็ตาพวกเรานะ ชั้นชื่ออาเบล อาเบล สตาเดีย ประมาณว่าเป็นผู้กล้าน่ะ」
「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?」
「ข้าก็พวกพ้อง กัลลูส ล็อกการ์ด เป็นนักรบ」
「เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเห!?」
「ฉัน แอนนา ลูส เป็นนักล่า」
「โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห!?」
「ฉัน ลิลิแอน มอส เป็นนักปราชญ์ค่ะ」
「หืออออออออออออออออออออออออออออออ!?」
ที่ออกมามีแต่『หาเหโหหือ』
ก็มันไม่ไหวแล้วนี่นา มากกว่านี้หัวชั้นได้ระเบิดพอดี!
อาเบลที่ว่านี่!? คนในไดอารี่ที่ได้อ่านกับซาเรียใน【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】!?
แล้วชะตานี่มันยังไงกันแน่!? ใช้หลักเกณฑ์อะไรวัด!?
ขณะที่ในหัวปั่นป่วนโกลาหล หญิงในผ้ากันเปื้อนก็ยิ้มอ่อนพลางแนะนำตัว
「ฉัน นาชูเรียน่า กริซ ค่ะ ฉันไม่ใช่คนยิ่งใหญ่อะไร
ถึงจะบอกว่ามีชะตากันก็ไม่ตรงซะทีเดียว..........」
「อ ครับ」
ก็จริงนะ ความเกี่ยวข้องกับคุณนาชูเรียน่านี่ชั้นเองยังไม่รู้เลย
ของพวกอาเบลถือว่ายังพอเคยได้ยินชื่อมา
แต่ของคุณนาชูเรียน่าไม่เห็นจะรู้ถึงความเกี่ยวข้องกันเลย โชคชะตามาจากไหนหว่า?
ขณะที่เอียงคอสงสัย คุณลูเชียสก็พูดอย่างยิ้มแย้ม
「เอาล่ะ การแนะนำตัวของพวกเราก็จบแล้วแต่ยังมีพวกคนที่อยากให้เจออยู่」
「เอ่อ คนที่อยากให้เจอ?」
ใครกันล่ะ?
ที่สำคัญกว่านั้น..........
「คือว่า..........สำหรับคุณลูเชียสจะดีเหรอครับ? .........มาร่วมมือกับพวกอาเบล........」
ตกใจสุดขีดจนเผลอลืมไปแต่คุณลูเชียสเป็นจอมมารคนแรก ส่วนอาเบลเป็นผู้กล้า
ทั่วไปเจอหน้าเป็นซัดกันก็ไม่แปลก...........
「เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ในยุคนั้นจริงอยู่ที่โกรธแค้นกันเป็นฟืนเป็นไฟ
แต่ก็พอจะรู้ว่าผู้กล้าที่มาสู้และจัดการผมเองก็เป็นผู้รับเคราะห์เช่นกัน」
「พวกเราที่จัดการกับจอมมารในสมัยนั้นเพราะถูกปิแอร์หักหลัง
ถึงได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของจอมมาร แต่ตอนที่พวกเรารู้ก็สายไปซะแล้ว..........」
「.......เลิกพูดเรื่องมืดมนกันเถอะน่า!ที่สำคัญกว่านั้นก็อย่างที่บอกไป
มีคนที่อยากให้นายพบหน่อยน่ะ?」
「เอ๋? อ ครับ เอ่อ........แล้วเป็นใครเหรอครับ?」
「ไม่ต้องรีบ กำลังมาเดี๋ยวนี้แหละ เพราะเมื่อกี้มันอันตรายเลยให้คนนึงไปคุ้มกันไว้
จากตรงที่ห่างออกไปน่ะ ก็พวกเขาเป็นคนไร้พลังยิ่งกว่านาชูเรียน่าอีก」
「?」
ถึงไม่เข้าใจขึ้นไปเรื่อยๆแต่พอยอมทำตามที่พวกเซนอสเสนอ.........
「..........ขอโทษที่ให้รอ」
「เฮ้ย!?」
ที่อยู่ตรงนั้นคือกล่องสมบัติที่เคยเจอในดันเจี้ยนเทพมังกรดำ
「ท ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้!?」
「.........ข้า มีโชคชะตา.........ที่ถูกแกจัดการ..........」
「นี่ยังแค้นกันอยู่เหรอ!?」
「.......เปล่า ไม่แค้นแล้ว........ที่สำคัญกว่านั้น รีบไปพบสิ...........」
「ไม่เห็นจะเข้าใจเลยเฟ้ย!」
ขอบเขตของโชคชะตามันกว้างจนงงไปหมดแล้ว!
อีกอย่างทั้งที่กล่องสมบัติโผล่มา
แต่ตัวอื่นที่เคยจัดการไปอย่างSand manหรือClever monkeyกลับไม่เห็นตัวเลย........
เดินไปโดยในหัวเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
แต่พอได้เห็นคนที่ยืนรออยู่ในหัวชั้นก็ขาวโพลน
「ได้เจอกันซะทีนะ..........」
「เป็นไงสบายดีมั้ย?」
เพราะคนที่รอชั้นอยู่---------คือพ่อกับแม่