ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 91 ปรภพ

ตอนที่ 91 ปรภพ


ผลจากการเชื่อคำพูดของวงเวทวาร์ปที่ชายเปลือยใช้---------


「-------ที่นี่มันที่ไหนเนี่ย!?」


ผลคือชั้นมาโผล่ในโลกที่ท้องฟ้าสีแดงคล้ำชวนขนลุก ต้นไม้ใบหญ้าก็มีแต่สีดำ


「นี่มันไม่ใช่แล้ว ให้ชั้นมาเจอสิ่งดีๆที่นี่โกหกใช่มั้ย!?
มองมุมไหนก็เดาได้เลยว่าเจอเรื่องแย่ๆแหง!?」


เผลอร้องตะโกนเหมือนตอนที่ถูกส่งไป【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】
แล้วจู่ๆก็ได้ยินเสียงจากที่ไหนสักแห่ง


『.........ที่นี่คือปรภพ ดินแดนที่วิญญานคนตายเร่ร่อน............』
「ป ปรภพ!.......ปรภพ!? ว่าแต่ใครน่ะ!?」


สะดุ้งเฮือก!? เสียงมาจากไหน.........จากใครกัน!?


『.........ฉันคือปรภพ ตัวตนของปรภพ...........』
「ขนาดมันจะใหญ่ไปมั้ย!」


ไม่คิดเลยว่าวันที่สามารถคุยกับโลกได้จะมาถึง!
แต่เฮ้ย พูดได้ด้วยเรอะ..........!


「ปรภพ!? เอาจริงดิ!?」
『.......ใช่.......ส่วนคุณก็ตายแล้ว..........』
「ห้ะ」


อยู่ดีๆก็บอกแบบตอกหน้ากันเลย
ไม่เข้าใจสิ่งที่ปรภพอะไรนี่พูดไปชั่วขณะ ขอภาษาคนด้วยคร้าบ
ทว่า พอค่อยๆประมวลความคิดไป ในที่สุด..........


「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?」


หลุดตะโกนออกมาเลย
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่!ตายแล้ว!? โอเค นี่อำกันเล่นสินะ!?


「อยู่ๆก็ออกมาแล้วบอกคนอื่นตายนี่จะแกล้งกันมากไปมั้ย!ขอค่าทำขวัญด่วน!」
『..........ที่นี่คือปรภพ.........สิทธิมนุษยชนไม่มี............』
「ทำไมจะไปที่ไหนชั้นก็มีแต่ถูกปฏิเสธสิทธิมนุษยชน!」


เผ่าพันธุ์ชั้นยังเป็น『มนุษย์』อยู่ไม่ผิดแน่นะ?
แล้วทำไมถึงไม่ถูกปฏิบัติด้วยในฐานะ『คน』กันล่ะ?
ขณะที่พยายามเปล่งคำพูดสุดชีวิต เสียงปรภพก็ทิ้งช่วงนิดหน่อยแล้วเริ่มพูดอีกครั้ง


『................ทว่าจากที่ปรากฏนั้นดูจะคือยังไม่ตายจริงๆ..........』
「อื้ม ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ขอแบบง่ายๆหน่อยสิ」
『..........คุณยังไม่ตาย...........』
「เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!」


เล่นอะไรเนี่ย!ทำเอาใจหายหมดเลย!
ชั้นกู่ร้องดีใจแต่ทว่าเสียงต่อมาของปรภพกลับเหมือนถูกน้ำสาดใส่


『..........แต่สรุปแล้วยังไงก็ตาย.........』
「ตกลงเอาไงแน่!?」


นี่แค่ถูกส่งมาที่โลกนี้ด้วยการวาร์ปเองนะ
ไม่เห็นจำได้ว่าถูกแทงหรือหัวใจหยุดเต้นสักหน่อย
.........ไม่สิ อาจถูกลอบสังหารตายโดยไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้


『..........ขอพูดอีกครั้ง.........ที่นี่คือปรภพ..........ปรภพ เป็นดินแดนคนตาย..........
เพราะฉะนั้น สิ่งที่อยู่บนโลกนี้ต้องตายถึงจะอยู่บนโลกนี้ได้............
การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเป็นไปไม่ได้............』
「อ้ะ」


จากการอธิบายของปรภพในที่สุดชั้นก็เข้าใจ
กล่าวคือการมาอยู่ในโลกหลังความตายของคนที่มีชีวิตอยู่ยังไงก็ต้องตาย


「โกหกน่า...........นี่จะตายจริงๆเหรอ..........?」


คราวนี้สิ้นหวังอย่างแท้จริง
ก็........ดูสิ? จะให้ยอมรับได้ไง?
ทั้งที่ทางโน้นทิ้งพวกซาเรียไว้..........
การเชื่อคำพูดวงเวทเป็นสิ่งผิดพลาดงั้นเหรอ........?
เฮ้อ.........ชั้นมาได้แค่นี้----------
ทันทีที่คิดอย่างนั้นก็มีประกาศดังขึ้นในหัว


≪ประสิทธิภาพของสกิล【วิวัฒนาการ】ทำงาน
ด้วยเหตุนี้จะปรับร่างกายให้เข้ากับปรภพ≫
『........อ้ะ...........ตั้งแต่เมื่อสักครู่นี้ ร่างกายของคุณไม่มีปัญหาแล้ว.........』
「ปรับได้ด้วยเรอะ!」


ร่างกายของชั้นปรับสภาพเข้ากับปรภพเรียบร้อย


『..........ไม่เข้าใจแต่ดูเหมือนว่าคุณจะกระทำการต่างๆในปรภพนี้ได้แล้ว........
กลายเป็นคนตาย...........ก็ดูจะต่างกันนิดหน่อย......ไม่เข้าใจเลยจริงๆ.........』


ร่างกายของชั้นพิศดารระดับที่ปรภพยังสับสนบอกไม่ถูกเลย
ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ขอพูดเถอะ
นี่มันร่างกายของมนุษย์จริงดิ!? คนที่สงสัยเป็นอันดับหนึ่งก็ชั้นนี่แหละ!
ขณะที่ตบมุขในใจไปพอประมาณ ก็ทำให้ใจเย็นลงสักรอบ


「ช่างเถอะ..........แค่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่ได้ก็ดีใจแล้วล่ะ ว่าแต่จะออกไปจากที่นี่ยังไงเหรอ?」


ใช่ นี่แหละคือเรื่องสำคัญที่สุด
นั่นเพราะถ้าออกไปไม่ได้ก็ไม่มีความหมาย


「อ้ะ จริงสิ!ชั้นวาร์ปกลับบ้างก็น่าจะได้นี่นา!」
『........เสียใจด้วย ปรภพนั้นเป็นคนละโลกกับโลกมนุษย์........
เวทวาร์ปสามารถใช้ได้แต่กับโลกเดียวกันเท่านั้น』
「อ้ะ............」


ใช่ จนถึงตอนนี้ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
ถึงจะไม่เคยรู้สึกตัวเลยแต่เวทวาร์ปนั้นใช้ได้แค่ภายในโลกเดียวกันเท่านั้น
เพราะงั้นตอนที่ชั้นใช้เวทวาร์ปถึงไม่มีสถานที่ของโลกเดิมให้กลับ
........เดี๋ยวสิ? งั้นก็หมายความว่า.........
ด้วยลางสังหรณ์ไม่ดี ชั้นจึงรีบใช้ประสิทธิภาพของ【สร้อยคอแห่งรักไร้สิ้นสุด】
พยายามติดต่อกับพวกซาเรีย
แต่ทว่า.........


「เฮ้ ซาเรีย!อัล!รูรูเนะ!ได้ยินมั้ย!?」


ไม่มีใครตอบกลับเสียงเรียกของชั้น
เอาจริงดิ..........จะติดต่อหรือจะกลับก็ทำไม่ได้เลยเหรอ.........
ขณะที่เผลอทรุดตัวด้วยความท้อแท้ ทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้


「........อ้าว? แต่ชั้นถูกส่งมาที่นี่จากโลกมนุษย์นี่นา? นั่นก็เป็นเวทวาร์ป.........」
『.......หากใช้วิธีพิเศษก็พอจะสามารถข้ามโลกได้...........เพราะเหนือสิ่งอื่นใดเลย
วิธีการมาปรภพนั้นแสนง่าย.........แค่ตายก็พอ........ทว่า คนตายไม่สามารถคืนชีพ
กลับไปได้..........เพราะงั้นจึงไม่สามารถกลับโลกมนุษย์จากปรภพด้วยเวทวาร์ปได้........』


ตกลงก็ต้องตายอยู่ดีไม่ใช่เรอะ!


「......เดี๋ยวนะ งั้นชายที่ส่งชั้นมาก็ต้องเคยมาที่นี่ครั้งนึงถึงได้สามารถส่งชั้น
มาที่ปรภพนี้ได้สินะ..........? .........เอ๊ะ? หรือว่า.........คนๆนั้นตายแล้ว........!? 」


ขณะที่ขนลุกกับความรู้สึกสยองขวัญที่นึกขึ้นมา ปรภพก็ปฏิเสธกับเรื่องนั้น


『.......เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้........อย่างที่ได้บอกไป ต่อให้ใช้วิธีพิเศษ
ก็สามารถทำได้แค่ใช้เวทวาร์ปเพื่อมายังปรภพเท่านั้น...........』
「แล้ววิธีพิเศษที่ว่านี่?」
『..........ตัวเวทวาร์ปนั้นขอเพียงส่วนหนึ่งของร่างกายเคยสัมผัสพื้นที่นั้นๆ
ก็สามารถสร้างวงเวทเพื่อวาร์ปไปยังจุดหมายได้.....หากใช้ประตูที่เชื่อมต่อ
ระหว่างปรภพกับโลกมนุษย์............สรุปคือที่ปากทางเข้าปรภพ
ขอเพียงโยนอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่แทนร่างกายตัวเองเข้ามาแค่นั้นก็เพียงพอ.....』
「การวาร์ปมาปรภพนี่ทำได้ง่ายอย่างคาดไม่ถึงเลยแฮะ」
『..........ผิดแล้ว........ตัวอุปกรณ์ที่ว่าเองก็เป็นสิ่งที่อยู่ในมิติระดับสูง.........
สรุปคือหากไม่มีพลังของเทพก็ไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้........』


สรุปคือชายเปลือยนั่นใช้อุปกรณ์ที่ได้รับจากเทพเพื่อเอาพลังวาร์ปไปปรภพสินะ


「สรุปคือ........หากไม่มีพลังของเทพก็ไม่สามารถวาร์ปข้ามโลกได้?」
『.........ถูกต้องตามที่ว่ามา............』


อย่างนี้นี่เอง.........งั้นการกลับโลกเดิมอย่างจริงจังของพวกเราดูท่าจะยากแฮะ.........
ก็นะ ถึงชั้นจะไม่กลับแต่ก็อยากให้พวกโชตะได้กลับบ้านกัน
ชั้นน่ะมีพวกซาเรียอยู่เพราะงั้นยังไงก็อยู่ที่โลกนี้แหละ
เอ แต่จากที่ฟังรู้สึกสะกิดใจอยู่อย่าง........


「คือว่า.........งั้นปรภพกับโลกมนุษย์ก็มีทางเชื่อมต่อกันอย่างเป็นรูปธรรมน่ะสิ......?」
『.........ใช่............』
「จริงดิ」


ข้อเท็จจริงเหลือเชื่อจนชั้นอดตกใจไม่ได้


『........ประตูสู่ปรภพนั้นมีตัวตนอยู่ที่ปลายสุดทางตะวันตกของโลกมนุษย์....』
「.........ถ้าเป็นอย่างที่ว่าแล้วไม่มีคนตายพยายามออกไปจากทางนั้นบ้างเลยเหรอ?」
『.........กับเรื่องที่ว่ามาก็เกี่ยวเนื่องกับการที่ฉันมาพูดคุยกับคุณนี่แหละ......』
「หา?」


จะว่าไปก็ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆถึงมาพูดคุยกับชั้นเหมือนกัน


『......อาจจะพูดช้าไปแต่อัตตาของฉันอีกเดี๋ยวก็จะหายไปแล้ว.........』
「นั่นมันเรื่องสำคัญเลยไม่ใช่เรอะ!? แล้วทำไมถึงไม่รีบพูดล่ะ!?」
『.......ก็มัวแต่ตอบคำถามคุณอยู่ไง.......』
「ขอประทานโทษอย่างยิ่งครับ!」


ชั้นคุกเข่าขอขมาที่ตรงนั้นเลย
ชั้นผิดเต็มๆ!ขอโทษจริงๆนะ!


『........ไม่หรอก ไม่เป็นไร.........เอาล่ะ กลับมาว่ากันต่อ......ที่ฉันมาพูดกับคุณ
เพราะอยากให้คุณช่วยจัดการวิญญาณร้ายที่ออกอาละวาดในปรภพแห่งนี้.........』


โอ๊ะโอ ท่าจะเป็นเรื่องยุ่งยากแฮะ


『......ก็ตามที่คุณกังวล พวกวิญญาณร้ายต่างพากับบุกไปที่ประตูปรภพ
เพื่อออกไปสู่โลกมนุษย์........โดยปกตินั้นประตูจะเปิดทิ้งไว้โดยมีผู้เฝ้าประตูคุมอยู่.......
ทว่าผู้เฝ้าได้ถูกจัดการไปแล้วแต่เพื่อไม่ให้วิญญาณร้ายหลุดออกไป
จึงได้ทำการปิดประตูลง.........หากแต่การปิดประตูก็ทำให้วิญญาณคนตาย
จากฝั่งโลกมนุษย์ตกค้างอยู่ที่โลกมนุษย์
จนกลายเป็นอันเดดมอนเตอร์อย่างพวกซอมบี้..............』
「อุหวา」


เรื่องมันร้ายแรงเกินคาดจนชั้นหลุดอุทานออกมา
ว่าแต่ นี่มันมีตรงส่วนไหนให้ชั้นเจอสิ่งดีๆเนี่ย?


「ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวแล้ว.........แต่ทำไมต้องเป็นชั้นล่ะ?」
『.........เดิมทีวิญญาณคนตายจะไม่คงรูป เป็นเพียงตัวตนที่ล่องลอยไปมาเท่านั้น........
ทว่าวิญญาณร้ายจะมีอัตตาที่ชั่วช้าและคงรูปโดยที่ไม่มีใครไปจัดการ..........
หากเป็นตามปกติล่ะก็ในสถานการณ์เช่นนี้ผู้เฝ้าประตูจะเป็นคนคอยทำให้สงบ.........
แต่ครั้งนี้มีราชาวิญญาณร้ายปรากฏตัวออกมา ทำให้วิญญาณร้ายทั้งหมดแกร่งขึ้น....』


อะไรเนี่ย? สถานการณ์อย่างในเกมส์แบบนี้น่ะ
ไม่สิ การที่พวกเราถูกส่งมาต่างโลกก็เหมือนเกมส์พอกันนั่นแหละ


『.........และคุณเป็นหนึ่งเดียวที่มีอัตตาในปรภพนี้..........การที่ฉันจะสร้าง
ผู้เฝ้าประตูคนใหม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมด แทนที่จะบอกว่าอัตตาหายไป
ควรเรียกว่าเข้าสู่การหลับลึกเพื่อสะสมพลังจะเหมาะกว่า..........
ด้วยเหตุนี้จึงอยากให้คุณช่วยจัดการราชาวิญญาณร้ายและวิญญาณร้ายอื่นๆให้ที......』
「เป็นคำขอที่โหดสุดๆไปเลย」
『........ต้องขอโทษที่ทำให้ลำบากเป็นอย่างยิ่ง..........อย่างแย่ที่สุดจะไม่จัดการกับ
ราชาวิญญาณร้ายก็ไม่เป็นไร.........ความจริงแล้วฉันควรเป็นคนทุ่มเทจัดการเอง
.......แต่หากลงมือจะทำให้อัตตาหายไปจริงๆ.......ทว่า อย่างน้อย อย่างน้อย..........
ช่วยยื้อเวลาจนกว่าฉันจะให้กำเนิดผู้เฝ้าประตูเสร็จ..........จะไม่บอกให้ทำฟรี.......
ขอสัญญาว่าจะช่วยส่งคุณออกไปจากปรภพให้............』


งั้นเหรอ......ปรภพเองก็ลำบากแฮะ เป็นการพูดคุยที่สุดกู่เกินไปจนไม่รู้สึกอะไรแล้ว
แต่จากที่ฟังคำขอของปรภพดูท่าชั้นมีทางกลับได้แฮะ


「เข้าใจแล้ว จะช่วยก็ได้ แต่ชั้นอาจช่วยอะไรไม่ได้เลยก็ได้นะ」


ถ้าโลกมนุษย์ก็ว่าไปอย่างแต่ในความเป็นจริงที่ปรภพนี้
ชั้นเก่งสักขนาดไหนก็ไม่รู้ อาจจะทำอะไรไม่ได้เลยก็เป็นได้
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่ ก็ได้ยินเสียงทำนองซาบซึ้งจากปรภพ


『............ขอบคุณมาก............ขอบคุณจริงๆ............』


ด้วยเหตุนี้ชั้นจึงรับหน้าที่ปราบวิญญาณร้ายในปรภพนี้

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate