ตอนที่ 90 ความตายของเซอิจิ?
จากเรื่องที่ลงมือกับอัลทำให้เลือดขึ้นหน้า ผลลัพธ์นั้นทำให้ใจเย็นไม่อยู่
แม้จะไม่ได้ชกจริงจังมากขนาดนั้น
แต่ชายเปลือยที่ตอนนี้แม้จะได้สติกลับมาก็ยังหมดสติซ้ำไปซ้ำมาอยู่อีก
ทว่าพอมองดูดีๆเส้นผมที่หลุดร่วงไปงอกขึ้นเป็นหย่อมๆ
ถ้าสังเกตุดูฟันที่น่าจะร่วงไปหมดเองก็มีงอกขึ้นมาใหม่ด้วย
ในเวลาสั้นๆกลับเปลี่ยนแปลงได้ถึงขนาดนี้............คนแน่รึเปล่าเนี่ย?
ไม่สิ ชั้นเองก็ไม่มีสิทธิจะพูดอ่ะนะ
พอหันหลังไปดูก็เจอคุณเบียทริสที่นั่งนิ่งตกตะลึง
ชั้นเลยยื่นมือออกไปช่วยคุณเบียทริสยืนขึ้น
「คุณเบียทริสเป็นอะไรมั้ยครับ?」
「เอ๋? อ้ะ.........ค คุณเซอิจิ........?」
「ครับ ผมเอง」
「คือว่า..........คนๆนั้น..........」
「คนๆนั้น? อ๋อ ถ้าคนที่เข้ามาโจมตีล่ะก็นองกลิ้งอยู่ตรงนั้นแล้วครับ..........
แต่อย่าไปมองดีกว่า? มันไม่น่าดูสักเท่าไร」
「สภาพเป็นยังไงกันคะ!?」
พูดแล้วก็ลนลานใหญ่เลย
แต่แบบ จะให้อธิบายก็ไม่อยากอ่ะ
ขณะที่บ่ายเบี่ยงคำถามของคุณเบียทริสไปตามความเหมาะสม
พลางพยายามแบบแปลกๆโดยการบังสายตาไม่ให้เห็นภาพของชายล่อนจ้อน
ซาเรียรวมถึงสาวห้องFที่อยู่ห่างออกไปก็วิ่งเข้ามาหา
「เซอิจิเป็นอะไรมั้ย!?」
「โอ้ ปลอดภัยดี」
「สมกับเป็นนายท่านเลยค่ะ........!」
ซาเรียมองสภาพชั้นพอยืนยันว่าปลอดภัยดีก็ลูบอกด้วยความโล่งใจ
ส่วนรูรูรเนะมองด้วยสายตายกย่อง
「เป็นห่วงแทบแย่แน่ะ!คนๆนั้นน่ะรู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้น่ากลัวมากเลย..........」
「.....น่าขายหน้าจังค่ะที่ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีกับผู้ชายคนนั้นจนไม่กล้าสู้ด้วย.........」
「เอ๋!?」
ชั้นตกใจกับคำพูดของทั้งสองคน
นั่นเพราะถ้าไม่นับชั้นคนที่เก่งที่สุดในที่นี้น่าจะเป็นซาเรียไม่ก็รูรูเนะ
ถึงไม่นับรูรูเนะที่เป็นปริศนาเกินจนคาดเดาพลังไม่ได้
แต่ซาเรียที่Lvเกิน500ซึ่งเกินขีดจำกัดของมนุษย์จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะแพ้มนุษย์
ทว่าสองคนที่เป็นอย่างนั้นกับกลัวผู้ชายคนนั้นมันหมายความว่ายังไง..........
เลยระวังตัวพลางหันไปมองชายเปลือยดูอีกสักหน่อย
ชายเปลือยนอนอยู่ในสภาพนอนก้นชี้ฟ้าดูปัญญาอ่อนมาก
..........ไม่ไหว เกินกว่าที่จะทำความเข้าใจได้
ขณะที่ชั้นกลุ้มใจกับสภาพที่ตรงข้ามกันเกินเพราะดูยังไงก็อย่างกับเล่นมุขอยู่
พวกเฮเลนก็เข้ามาหา
「เว่อร์เกินเหมือนเคยเลยนะครู」
「น นี่ถึงขนาดนั้นเลยเหรอ......」
「ขนาดนั้นเลยค่ะ แถมยังจัดการซะน่าเกลียดจนรับไม่ได้อีก」
「แบบนั้นน่ะละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเกินไปแล้วเนอะ」
「คิดว่าครูน่าจะเรียนรู้สามัญสำนึกอีกสักนิดนะคะ~」
「ข ขนาดเรเชลก็เอากับเขาด้วย...........」
ขนาดเรเชลที่ใจดียังพูดโดยยิ้มแบบกระอักกระอ่วนใจเลย
นี่มันรุนแรงขนาดนั้นเลยเหรอ
「อื้ม.........มันก็มั่วซั่วเกินเหตุจริงๆนั่นแหละ แต่เราที่ได้คนแบบนี้
มาเป็นครูประจำชั้นก็ดีออก!เพราะงั้นช่วยถ่ายทอดวิธีที่ทำให้สาวสวย
อย่างซาเรียจังเข้าหาให้ทีสิ!」
「ไม่อ่ะ จะไปรู้ได้ไง!? ว่าแต่ที่พูดคุยกันอยู่ตอนนี้ไหงกลายเป็นวิธีเข้าหาหญิงไปได้!?
ทั่วไปมันต้องเป็นวิธีทำให้เก่งขึ้นไม่ใช่เรอะ!?」
「ไม่เอาอ่ะ ของแบบนั้น」
「อย่าปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจังสิ!」
เฮ้คุณนักเรียน!ลืมหน้าที่ในฐานะนักเรียนแล้วเหรอไง!?
แต่ชั้นเองจะให้สอนก็ใช่ว่าจะสอนได้สักหน่อย!
「ช่างเถอะ........แล้ว? ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นเหรอ?」
ถามอัลดูอีกครั้ง อัลก็ถอนหายใจพลางบอกให้
「เฮ้อ........แบบว่าพวกที่เรียกตัวเองว่าลัทธิเทพปีศาจอยู่ดีๆก็ปรากฏตัวที่สนามแข่ง
แล้วก็จับคุณบานาบัสกับครูที่เซอิจิจัดการก่อนพาเลออนไปเป็นตัวประกัน
แล้วก็เริ่มเล่นเกม..........」
「เกม?」
「ใช่ ถ้าชนะเจ้าคนที่เซอิจิจัดการก็จะสามารถรอดชีวิตออกไปจากสนามแข่งได้
ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้น พวกอากุโนสก็ออกไปสู้ด้วยแต่...........ความต่างของLvมันมากเกินไป
จนถูกจัดการอย่างน่าสมเพชง่ายๆเลยล่ะ แล้วก็ผู้หญิงที่ถูกของคล้ายๆกันจับอยู่ตรงนั้นเอง
ก็เป็นพวกพ้องกับชายคนนั้นแต่อยู่ๆก็ถูกทรยศ.........เอาจริงๆจากเนื้อหาที่ฟังดู
น่าสะอิดสะเอียนอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย」
「..........แล้วว่าไงบ้างเหรอ?」
「ตอนที่มาเจอผู้หญิงคนนั้นมีรอยแผลไฟไหม้ใช่มั้ยล่ะ? เจ้านั่นน่ะเป็นต้นเหตุ
ที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นทุกข์ทรมานจากบาดแผลบนใบหน้า ยิ่งกว่านั้นยังกับขุนนางด้วย
ถ้านักผจญภัยอย่างข้าล่ะก็กับแค่แผลที่หน้าคงไม่คิดมากหรอก.........
เจ้านั่นเปิดเผยว่าตัวเองเป็นสาเหตุของแผลที่หน้าแล้วยิ่งกว่านั้นยังขุดแผลใจขึ้นมาด้วย」
「...............」
ถามเกี่ยวกับสิ่งที่ชายเปลือยพูดอะไรบ้างอย่างละเอียด
พอได้ฟังสิ่งที่อัลพูดมา ชั้นก็รู้สึกขึ้นมาเลย
นั่นก็คือ.........
「ขอต่อยอีกสักหมัดเหอะ..........」
「นั่นพูดเล่นก็ไม่ขำหรอกนะ!」
ก็นะ ตอนที่ได้ยินว่าอัลโดนเล่นงานก็เกือบหลุดไปรอบแล้วด้วย
ไม่ต่างจากตอนที่พวกซาเรียช่วยกันหยุดไว้ที่โรงอาหารเลย.............
ถึงอย่างนั้นที่ชกไปเต็มแรงก็ไม่เสียใจหรอก แบบว่าโลกท่าจะแย่เอาเลยต้องทนไว้ก่อน
แต่นั่นก็เพราะมายุ่งกับคนสำคัญของชั้นหรอกนะ
ว่าแต่โลกเองก็อดทนหน่อยสิ!กะแค่หมัดเดียวของมนุษย์แค่นี้จะถึงกับพังเลยเรอะ!?
นี่ชั้นไม่ได้ตั้งใจจะทำลายโลกด้วยนะ!?
แล้วก็จากเนื้อหาที่คุยกันก็น่าคลื่นไส้อยู่............แถมพล่ามเรื่องความสิ้นหวังซะสุดกู่ด้วย
....................เอาแต่สิ้นหวังสิ้นหวังนี่บ้ารึเปล่าเนี่ย?
นั่นเพราะชั้นใช้ชีวิตโดยเปี่ยมด้วยความหวัง ใช่ ถึงร่างกายของชั้นจะ...........!
น นี่ไม่ได้ร้องไห้นะ!? เชื่อสิ!?
「เอาเถอะ สภาพแบบนั้นคงไม่ต้องห่วงไปสักพัก
ทุกคนเองก็ได้เวทของเซอิจิช่วยไว้แล้วด้วย」
ก็ตามที่อัลพูด พอชั้นมาก็รีบใช้เวทรักษาให้ทันที เลยไม่มีผู้บาดเจ็บเลยสักคน...........
อ้ะ ยังมีครูคลิฟที่โดนการโจมตีของชั้นกระหน่ำจนเละอยู่นี่นา........
น่าจะยังมีชีวิตอยู่แหละ!...........บางทีนะ
「แล้วพวกรุ่นพี่คันนะซึกิเป็นอะไรกันมั้ยนะ?」
พอชั้นมองหาพวกรุ่นพี่คันนะซึกิตรงอัฒจรรย์
ไม่รู้ทำไมถึงสบตากับรุ่นพี่คันนะซึกิเข้าอย่างจังเลย .........เอ แปลกจังแฮะ
ทำไมทั้งที่อยู่ในหมู่คนมากมายขนาดนี้กลับสบตากันได้............
ทางรุ่นพี่คันนะซึกิดูจะไม่เป็นไรเลยแต่พวกผู้กล้าที่อยู่รอบข้างผิดกัน
มีทั้งคนที่หน้าซีด คนที่หมดสติ ไปจนถึงคนที่ไม่รู้ทำไมถึงส่งสายตาอาฆาตมาหาชั้น
.........เอ่อคือ แบบว่านะ..........ยังไงก็เป็นผู้กล้ากันทั้งทีไม่คิดจะทำอะไรเลยเหรอ?
ทั้งที่มั่นใจในพลังของตัวเองกันซะขนาดนั้น...........เอาเถอะมุมมองของชั้น
ถ้าเกิดสิ่งที่ทำมันทำให้อันตรายไปถึงพวกรุ่นพี่คันนะซึกิก็อย่าทำเลยดีกว่า
ว่าแต่ ทำไมต้องมองราวกับเป็นศัตรูของพ่อแม่ด้วยไม่เข้าใจเลย
หรือว่าแบบนั้น? ผู้กล้าก็ไม่ใช่ดันทำตัวเด่นสะดุดตายกโทษให้ไม่ได้?
ถ้างั้นก็ใจแคบเป็นบ้าเลย!
ยังไงก็ตามแต่ก็ยังไม่รู้ความสามารถของผู้กล้าดีนัก
แต่สมมติว่าตั้งใจจะสู้กับจอมมารจริงๆล่ะก็สภาพเป็นกันซะแบบนี้จะดีเหรอ?
ถึงจะช่วยพวกรุ่นพี่คันนะซึกิอยู่แล้วก็เถอะ
「โอ๊ะ..........จะปลดที่มัดพวกคุณบาน่าให้เดี๋ยวนี้แหละครับ」
「อ โอ้ ฝากด้วยนะ」
ชั้นร่าย『ประธานาธิปดีลินคอน』แก้มัดให้ผู้หญิงกับคุณบาน่า.........
เป็นสุดยอดผลงานเลยนะ『ประธานาธิปดีลินคอน』เนี่ย
ทั้งที่คิดว่าไม่มีเรื่องอะไรให้ใช้อีกแล้วแท้ๆ...........
ทันใดนั้นไม่ใช่แค่ที่มัดผู้หญิงไว้เท่านั้นห่วงสีดำที่ติดอยู่ตรงคอก็พลอยหลุดไปด้วย
..........ปลอกคอสีดำนั่น หรือว่า..........
「เซอิจิ ผู้หญิงคนนั้น..........」
อัลมองผู้หญิงที่แก้มัดให้ด้วยสายตากังวลแต่ชั้นคิดว่าไม่เป็นไรเลยแก้มัดให้
ถึงเดิมทีดูเหมือนจะเป็นศัตรูแต่ก็โดนหักหลังนี่นา
แถมตอนนี้ก็เอาแต่จับหน้าตัวเองอย่างตกตะลึงด้วย
「ห หน้าของฉัน........กลับเป็นปกติ...........? นอกจากนั้นปลอกคอก็.......ทำไม.......」
「อ้าว? ก็แบบว่าบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ชั้นพอดีมีทางรักษาเลยรักษาให้แค่นั้นเอง.......」
เดาจากท่าทางแล้วแผลคงมีผลกระทบน่าดู ทั้งด้านร่างกายและด้านจิตใจ............
อีกอย่างปลอกคอนั่นดูจะเป็น『ปลอกคอสวามิภักดิ์』ที่ออริก้าจังเคยสวมอย่างที่คิด
ชายที่ชั้นต่อยไปนั่นต้องทำเรื่องชั่วสักเท่าไรถึงพอใจเนี่ย?
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่ นักเรียนชายที่หน้ามีแผลไฟไหม้เหมือนกันก็ตะลึงตาม
「.............เอ๋......อา........」
จับคอทำท่าทางเหมือนกับจะยืนยันเสียงที่ออกมา..................ว่าแต่ ใครเนี่ย?
บรรยากาศดูคล้ายเบียสแต่ไม่ได้สวมหมวกหมีนี่สิ...............
ทางผู้หญิงแค่มีรอยแผลไฟไหม้ที่หน้าแต่ทางนักเรียนชาย
จากที่มีแผลไฟไหม้เต็มไปทั้งหัว ตอนนี้กลายเป็นผมสีน้ำตาลเข้ม แววตาคมเข้มสีเดียวกัน
หน้าตาผึ่งผาย ..........นี่ทำให้ผมงอกขึ้นมาด้วยแฮะ
สุดยอด อย่างนี้เอาไปขายเป็นธุรกิจปลูกผมที่โลกเดิมได้เลยมั้ง?
ขณะที่คิดเรื่องไร้สาระอยู่ บูลุคกับอากุโนสที่อ่อนเพลียเหมือนอัลก็เดินเข้ามาหา
「ค ครูเซอิจิ............」
「บูลุค อากุโนสเป็นอะไรกันมั้ย?」
「อ อา พวกเราไม่เป็นไร............」
「ลูกพี่!เบียสทำไมเป็นอย่างนั้นได้ล่ะครับ!?」
「เบียส?...........คนนั้นเป็นเบียสจริงๆเหรอ!?」
「รักษาไปโดยไม่รู้เลยเหรอครับ!?」
「อืม.........แต่หายก็ดีแล้วนี่?」
「แค่เนี้ยะ!?」
「เกินมาตรฐานจริงๆ.............เอาเถอะ สภาพอย่างนั้นก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?
กลับกันควรตกใจกับการรักษาหายในพริบตาอย่างไร้เหตุผลมากกว่า...........」
แหม เจ็บปวดสุดๆเลยนะเนี่ย............แต่ก็ค่อยยังชั่วหน่อย ดีใจด้วยนะที่แผลหาย
แต่ถ้ามีเหตุผลอะไรสักอย่างที่อยากให้หลงเหลือแผลไว้ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน
「ยังไงก็ตามแต่ ระหว่างที่ชั้นพาเลออนไปห้องพยาบาลกลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้......」
「ทางข้าเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน........จากนี้คงต้องกวดขัดการตรวจตรา
รวมทั้งตรวจสอบถึงจุดประสงค์ของชายกับหญิงคนนี้ โทษทีนะ เซอิจิคุง
ช่วยเฝ้าชายกับหญิงคนนี้ที่นี่สักเดี๋ยวได้มั้ย? ข้าจะไปสงบใจพวกนักเรียนหน่อยน่ะ 」
「เข้าใจแล้วครับ」
คุณบาน่าพูดอย่างนั้นแล้วก็เริ่มไปสงบใจพวกนักเรียน
ขณะที่เหม่อมองอยู่ อัลที่นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เลยถามมา
「หือ? จะว่าไป เซอิจิมาจากด้านนอกสินะ?」
「เอ๋? ก็อย่างนั้นแหละ」
「...........แล้วมาจากทางไหน」
「ทางไหน............ก็จากทางเข้าออกปกติไง」
「...........」
ทันทีที่พูดอย่างนั้น สีหน้าอัลก็เคร่งเครียดพลางตรวจดูร่างกายชั้น
「ไม่มีอะไรเลยจริงๆเหรอ? ร่างกายมีตรงไหนไม่ดีมั้ย?」
「เอ๋? เอ๋? อะไรเหรอ? ก็ไม่มีปัญหาอะไรนี่............」
ขณะที่ชั้นสับสน แววตาของชายเปลือยที่พึมพำอะไรสักอย่างจนถึงตอนนี้ก็เปล่งประกาย
「ใช่แล้ว............อย่างนั้นเหรอ.......ฮะฮะ...........ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
ดูเหมือนว่าสุดท้ายชัยชนะก็เป็นของผม!」
「เอ๋?」
พอหันสายตาไปทางผู้ชายก็เจอโงนเงนลุกขึ้นมาพลางจ้องด้วยสายตาเกลียดชังจนน่าตกใจ
「ผมคือสาวกของท่านเทพปีศาจ!สาวกผู้ได้รับนาม『ส่งลงนรก』!
แกที่บังอาจมาขัดขวางพวกเราต้องตายที่นี่!」
「!」
ทันทีที่ชายตะโกน บริเวณเท้าของชั้นก็มีของเหมือนวงเวทปรากฏขึ้น
ขณะที่ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกะทันหัน จู่ๆเวลารอบด้านก็หยุดลง
พอมองไปรอบๆด้วยความประหลาดใจ ก็เจออัลที่ตัวแข็งโดยมีสีหน้าตกใจ
กับชายหัวเราะอย่างบ้าคลั่งที่ตัวแข็งไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิ้วเดียว
「เอ๋? หา? เกิดอะไรขึ้น!?」
『มาสเตอร์ ช่วยใจเย็นๆแล้วฟังหน่อยนะ』
「เอ๋?」
พอหันไปตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน ก็เจอว่าเสียงมาจากวงเวทที่ใต้เท้า
「เอ่อ.........ตะกี้เป็นเสียงจากวงเวทที่ใต้เท้าของชั้นใช่มั้ย?」
『ใช่ ถูกต้อง!ความจริงอยากส่งเสียงเรียกตั้งแต่ทีแรกแล้ว..........
แต่ถ้าพลังเวทของชายคนนั้นไม่ส่งมาก็ตื่นขึ้นมาไม่ได้เลยต้องเงียบมาถึงตอนนี้』
「ง งั้นเหรอ...........แล้วทำไมอยู่ๆถึงมาพูดด้วยล่ะ?」
『เรื่องนั้นคือว่า อย่างแรกเลยที่ทุกคนหยุดนิ่งนอกจากมาสเตอร์
ก็ด้วยผลจากคุณสมบัติของวงเวทนี้』
「น่าสนแฮะ แล้วที่ใช้อยู่นี่เป็นเวทอะไรเหรอ?」
『เวทที่ชายคนนนั้นใช้คือ.........วาร์ป เพราะงั้นฉันคือเวทวาร์ปนั่นเอง
และคุณสมบัติที่มีคือมิติ............สรุปคือทำการแบ่งมิติที่มีแค่ฉันกับมาสเตอร์ออกมาชั่วคราว
เพราะงั้นถึงจะไม่นานนักแต่ก็สามารถใช้พูดคุยกันได้!』
สุดยอดใช่ม้า !พูดออกมาว่างี้ แต่ไม่รู้ทำไมอย่างกับเห็นภาพวงเวทยืดอกภูมิใจเลย
.........แสดงอารมส์เก่งจังนะ..........ถึงจะเป็นเวทมนตร์ก็เถอะ
「เข้าใจล่ะ.........แล้วเธอจะป้องกันวาร์ปให้ชั้นงั้นเหรอ?」
พอถามอย่างนั้น วงเวทก็ตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
『ถ้าตามปกติแล้วควรจะเป็นอย่างนั้น แต่จากลางสังหรณ์ของวงเวทอย่างฉัน
ของตอบว่าจุดหมายที่จะวาร์ปไปเป็นที่ๆต้องไปให้ได้สำหรับมาสเตอร์』
「ที่ๆชั้นต้องไปให้ได้? ว่าแต่วงเวทมีลางสังหรณ์ด้วยเหรอ!?」
ที่ไหนกันล่ะนั่น?............เดิมทีตั้งแต่ที่มาต่างโลกชั้นก็ไม่ค่อยได้ไปที่ไหนเลยนี่นา
ป่ารักเศร้า เทลเวล แล้วก็หมู่บ้านเล็กๆที่นั่งรถม้าผ่านมาจนถึงโรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดล
ทั้งที่เป็นอย่างนั้นลางสังหรณ์ของวงเวทกลับบอกว่าต้องไปให้ได้..............
ไม่สิ จุดหมายที่วาร์ปไปชายเปลือยเป็นคนกำหนดมันก็น่าจะเป็นที่ๆชั้นไม่น่าไปมากกว่านะ
『ถึงจะอธิบายอย่างละเอียดไม่ถูกแต่วงเวทสายวาร์ปอย่างพวกฉัน
มีฟังชั่นรับรู้ถึงความเข้ากันได้ของคนที่จะวาร์ปกับจุดหมายที่จะวาร์ป
แต่ก็นะ คนที่สามารถพูดคุยกันได้ก็มีแต่มาสเตอร์เลยไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไร.......』
เป็นความจริงที่เหลือเชื่อ!
อะไรกัน? จะบอกว่าวงเวทเห็นความเข้ากันได้อะไรเทือกนั้นด้วยเรอะ!?
『แบบว่าความเข้ากันได้ของมาสเตอร์กับจุดที่วาร์ปไปในตอนนี้ดีแบบเหลือเชื่อเลย
เพราะงั้นเพื่อความสุขของมาสเตอร์จะไม่ทำได้ไง!พอคิดแบบนี้แล้ว
จุดหมายที่ชายคนนั้นให้วาร์ปไปก็ไม่เลวเลยใช่มั้ยล่ะ!』
「ไม่อ่ะ แล้วจุดวาร์ปที่ว่านั่นมันที่ไหนล่ะ!?」
『ขอโทษที เรื่องนั้นก็ไม่รู้เหมือนกัน!』
「ไหงงี้อ่ะ!?」
ทั้งที่รู้ของที่เข้าใจยากอย่างความเข้ากันได้แต่จุดหมายที่วาร์ปดันไม่รู้เนี่ยนะ!?
『คือว่านะ..........มาสเตอร์ ที่ฉันอยากให้วาร์ปไปก็เพื่อมาสเตอร์
เพราะอยากให้มาสเตอร์ได้เจอสิ่งดีๆ............』
「แหม ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ............จะไปที่ไหนยังไม่รู้เลย
เหนือสิ่งอื่นใดถ้าชั้นโดนวาร์ปไปจากที่นี่ตอนนี้ก็ไม่มีใครรับมือหมอนั่นได้น่ะสิ.........」
『อ้ะ เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง!วงเวทวาร์ปอย่างฉันสามารถดูดพลังเวททั้งหมด
ของชายคนนั้นให้ไหลมายังวงเวทนี้ได้ ส่วนแหล่งพลังของชายคนนั้น........เทพปีศาจ?
พลังคุ้มครองนั่นก็วาร์ปไปที่มิติอื่นซะ ถือโอกาสนี้เอาพลังกายกับแรงไปด้วยเลย.......
แค่นี้หลังจากมาสเตอร์วาร์ปไปชายคนนั้นก็ขัดขืนอะไรไม่ได้แล้วสบายใจได้』
「อะไรฟะนั่นเจ๋งเป็นบ้า!?」
วาร์ปพลังคุ้มครองได้ด้วยไม่เห็นรู้มาก่อนเลย!? หนำซ้ำยังวาร์ปแรงอะไรพวกนี้ได้อีก!?
เวทวาร์ปนี่มีวิธีใช้อย่างนั้นด้วยเหรอ..........เจ้านี่ถ้าใช้วาร์ปพลังกับชั้นบ้างจะเป็นไงหว่า?
『อ้ะ ไหนๆก็ทำทั้งทีวาร์ปพลังทั้งหมดของชายคนนั้นมาให้มาสเตอร์ดีกว่า』
「หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!」
ชั้นไม่อยากได้พลังมากกว่านี้แล้ว!? แค่นี้ก็ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วเนี่ย!?
ทว่าวงเวทก็ไม่ได้ยินเสียงร้องให้หยุดของชั้น
วาร์ปพลังที่ชิงจากชายคนนั้นมาให้ชั้นอย่างร่าเริง
『เป็นไงบ้างมาสเตอร์!ส่วนที่แย่ๆรวมถึงพลังคุ้มครองก็แยกวาร์ป
ไปที่มิติอื่นให้แล้วเพราะงั้นหายห่วง!』
ชมหน่อยสิชมหน่อยสิ!เจอวงเวทแสดงบรรยากาศอย่างนั้นออกมา
ถึงชั้นจะโมโหจนแทบระเบิดก็ไม่อาจแสดงออกมาได้
คิดไปมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนี่
ชั้นก็แค่โดนสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ใช่เหรอ
หลังจากที่ชั้นถอนหายใจก็ถามวงเวทด้วยสีหน้าจริงจังนิดหน่อย
「งั้นแบบนี้ต่อให้ชั้นไปก็ไม่มีปัญหาสินะ??」
『ใช่แล้ว สบายใจได้เลย』
「............แล้วเรื่องนี้สำคัญสำหรับชั้นจริงๆเหรอ?」
『........เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็อย่างที่บอกไปว่าไม่รู้อะไรเลยนอกจากความเข้ากันได้
เพราะงั้นคงบอกว่ามีอะไรรออยู่อย่างเป็นรูปธรรมไม่ได้
แต่ฉันอยากให้มาสเตอร์เจอสิ่งดีๆ เรื่องนี้ขอโปรดเชื่อใจ..........』
「..............งั้นเหรอ」
ชั้นเลยฝืนยิ้มพลางพูดกับท่าทางของวงเวทที่หงอยลงไป
「เข้าใจแล้ว ถ้างั้นก็วาร์ปชั้นไปที่นั่นได้เลย」
『..........เอ๋? จริงเหรอ!?』
「อา ถ้าพวกซาเรียไม่มีอันตรายก็ไม่มีอะไรต้องห่วงแล้วล่ะ
..........ถึงจะยังกังวลกับท่าทีของผู้กล้าอยู่ก็เถอะ...........」
『วางใจได้เลย!จะแผ่ขยายเวทออกไปปกป้องพวกเลดี้ของมาสเตอร์
เหมือนอย่างที่ชิงพลังเวทของชายเมื่อกี้นี้ให้เอง!』
ประสิทธิภาพมันจะเยอะไปมั้ยวงเวท ว่าแต่เลดี้งั้นเหรอ..........
「ถ้าพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็ขอเชื่อใจคำพูดของวงเวทแล้วกัน」
『..........ขอบคุณ..............ขอบคุณเป็นอย่างสูง..............!』
พอเห็นวงเวทพูดแบบน้ำตาจะไหลออกมาชั้นก็อดยิ้มพลางปลอบวงเวทไม่ได้
『อ้ะ มาสเตอร์!เวลาหมดลงแล้ว!』
ทันทีที่วงเวทพูดออกมา เวลารอบๆก็กลับคืน อัลกับชายเปลือยเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ตายซ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
ชายเปลือยตาแดงก่ำ น้ำลายแตกฟองพลางตะโกนออกมา
แสงจากเวทวาร์ปใต้เท้าของชั้นเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ
อัลที่หลุดจากอาการตกตะลึงก็รีบยื่นมือมาหา
「เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเซอิจิ!」
「โทษที ขอไปเดี๋ยวนึงนะ!ทุกคน!พยายามเรื่องสอบเข้าล่ะ!」
「นี่มันใช่เวลามาพูดเรื่องนี้เรอะ!?」
อัลตบมุขโดยไม่หยุดยื่นมือเข้ามาหา ทว่าในที่สุดมือก็ยื่นมาไม่ถึงชั้น
ชั้นหายตัวไปต่อหน้าพวกอัล
◆◇◆
「คุคุคุ...........ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!เท่านี้ตัวขัดขวางก็ไม่มีแล้ว!จะฆ่าพวกแกให้หมด!
จะให้ลิ้มรสชาติของการที่มาดูถูกผมคนนี้ อย่าคิดว่าจะได้ตาย-------------」
「ส่งเซอิจิไปที่ไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!」
「อ๊อก !?」
ข้า--------อัลโทเรียชกชายตรงหน้า------เดมิโอรอสเต็มแรง
ทั้งที่จนถึงตะกี้การโจมตีของข้าไม่ได้ผลเลยแต่ตอนนี้กลับชกได้ง่ายๆ
「หา? หา? ท ทำไม? ทำไมการโจมตีของแกถึงได้.........」
「『แสงผนึกเวท』!」
「อึกกกกกกกกกกกกก!? ซ『เซียนเวท』!?」
ท่านบานาบัสใช้เวทมัดชายที่กำลังตกตะลึง
「ไม่ให้เจ้าทำอะไรตามใจได้อีกแล้ว」
「น่าขำ!กับเวทแค่นี้เดี๋ยวเดียวก็.........ฮึบ!ฮึบ!
อึก..........อือออออออออออออออออออออออออ!?」
เดมิโอรอสเบ่งพลังจนหน้าแดงพยายามหลุดจากเวทมนตร์
ทว่าเดมิโอรอสก็ไม่อาจหลุดจากเวทมนตร์ได้
「ท ทำไมกัน!? ทำไมพลังถึงไม่ออกมา!? แถมพลังเวทก็ไม่เหลือด้วย!?」
「..........ถึงไม่เข้าใจรายละเอียดแต่ยอมแพ้ซะเถอะ」
เดมิโอรอสถูกมัดลงไปกลิ้งในสภาพดูไม่ได้
ข้าเข้าไปคาดคั้นเดมิโอรอสในสภาพนั้น
「เฮ้ย!เอาเซอิจิไปไหน!?」
พอถามอย่างนั้น เดมิโอรอสก็ยิ้มอย่างน่าขนลุก
「บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ชื่อผมคือ『ส่งลงนรก』 ก็แค่ส่งไปนรกตามชื่อเท่านั้นเอง」
「ว่าไงนะ!?」
「ผมเคยไปที่ซึ่งเรียกว่า【ปรภพ】มาก่อน เข้าใจมั้ย?
สรุปคือ..........ผมมีสามารถส่งคนมีชีวิตไปปรภพได้โดยตรงไงล่ะ!」
「หา!?」
「ใช่ ชายคนนั้นน่ะ----------ตายแล้ว!」
ข้าทำได้เพียงตกตะลึง