ตอนที่ 74 ผลกระทบของความโกรธ
วันที่เซอิจิ(สัตว์ประหลาด)โกรธเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่มาต่างโลก
ผลกระทบไม่ได้หยุดอยู่แค่มอนเตอร์หรือโรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดล
ในพื้นที่หลายๆแห่งก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ซึ่งอาณาเขตของจอมมารก็เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่ได้รับผลกระทบนั้นด้วย----------
◆◇◆
「「「โหยงง!?」」」
ข้า------------เบล กิเซล ร่างกายสั่นอย่างไปหมดอยู่ดีๆก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมา
แต่ว่านะ...............
「เฮ้ย พวกแกรู้สึกหนาวกันมั่งมั้ย?」
「ค ครับ..........」
「เอ๋? งั้นก็แปลว่า คุณเบลก็ด้วย....?」
ไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้นที่รู้สึกหนาวสั่น
เทอรี่ เฮม กับ บอสโก้ ดัน ที่เป็นลูกน้องและพรรคพวกคนสำคัญก็รู้สึกด้วย
「พวกเราสามคนที่รู้สึกหนาวขึ้นมาพร้อมกันได้นี่.............เยือกเย็นกันจังเลยเนอะ」
「ไม่อ่ะ ต่อให้ไม่รู้สึกหนาวปกติก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องเยือกเย็นอะไรนั่นอยู่แล้ว...........」
「อย่าพูดสิฟะ เดี๋ยวก็ร้องไห้หรอก」
พูดคุยกันอย่างนั้นไปพลางก็ขยับมือทำสิ่งที่ทำก่อนหน้านี้ต่อให้เสร็จ
สรุปแล้วความหนาวนั่นมันอะไรกันหว่า?
ขณะที่คิดแบบนั้นจู่ๆบอสโก้ก็ถามขึ้นมา
「คุณเบล..........นี่พวกเราเป็นหน่วยพิเศษใช่มะ?」
「อ๋า? ก็ใช่สิ หน่วยที่ขึ้นตรงกับท่านเรย์ย่า..........สรุปก็คือเป็นหัวกะทิที่ต่างกับพวกทหารทั่วไป」
「แต่เห็นพูดว่าเป็นหน่วยพลีชีพนะ?」
「ไอ้บ้า นั่นก็แค่คำพูดของพวกขี้อิจฉาเท่านั้นแหละ」
「ไม่อ่ะ คำพูดนี้พวกระดับแกนนำของท่านเรย์ย่าทุกคนเป็นคนพูดเองเลย..........」
「..................เงียบแล้วขยับมือต่อไป」
「อย่าเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนสิครับ!ถ้าเป็นหัวกะทิจริงๆล่ะก็-------------」
「โธ่เว้ย!ถ้าพูดมากกว่านี้----------」
「----------คงไม่ต้องมานั่งทำความสะอาดปราสาทกันอยู่แบบนี้หรอก!?」
「หยุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!」
เจ้าบอสโก้พูดออกมาจนได้! ทั้งที่ข้าอุตส่าห์หันสายตาหนีสุดชีวิตแล้วแท้ๆ!
「บอสโก้!แก.............ในที่สุดก็พูดออกมาแล้วสินะ!? ทั้งที่ข้าอุตส่าพยายามหนีความจริง..........!
เทอรี่!จะจัดการกับเจ้านี่ยังไงดี!?」
「คุณเบล ข้ากับบอสโก้ก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ............」
「เทอร์รี่แกก็ด้วยเหรอออออออออออออ!!」
พอมาคิดดูดีๆ พวกเราก็ไม่เคยได้รับคำสั่งอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย
ไม่สิ ตอนที่เทพมังกรดำถูกปราบ ก็ได้รับคำสั่งอังทรงเกียรติอย่างให้เฝ้าปราสาทนี่นา!
「แทนที่พลังรบจะสูงขึ้น พลังในฐานะพ่อบ้านสูงขึ้นแทนแล้วเนี่ย............!」
「ก ก็ดีไม่ใช่เหรอ พ่อบ้านน่ะ!ตำแหน่งสูงดีออก!?」
「ตกลงพวกเรายังเป็นสมาชิกของหน่วยหัวกะทิอยู่อีกมั้ยเนี่ย!?」
「จบกัน!」
พอเผลอเอามือกุมหัว บอสโก้ชี้นิ้วไปยังกระจกที่ขัดจนเงาปิ๊ง
「ดูสิ!ดูกระจกที่เงาจนเหมือนกับของใหม่นี่!
เทคนิคนี่เอาไปใช้ในการรบได้ตรงไหนไม่ทราบ!?」
「ก ก็เอาไปขัดอาวุธของพวกผู้กล้าไง!」
「พูดมานี่คิดแล้วเรอะ!?」
「ขอโทษ!」
ก็อย่างที่บอสโก้พูด
สกิลงานบ้านที่ฝึกฝนกันอยู่นี่มันจะไปมีประโยชน์อะไรกับการรบ
ถึงเทอรี่จะไม่พูดอะไรแต่ลึกๆในใจก็คิดเหมือนกับบอสโก้แหง
แต่ถึงยังไงพวกเราก็ต้องทำความสะอาดกันต่อไปให้เสร็จ
ข้าเลยสูดลมหายใจลึกๆปรับท่าทางพร้อมออกคำสั่งเสียงดังใส่บอสโก้ที่ยังคงพูดด้วยความไม่พอใจ
「จัดแถววววววววววววววววว!」
「「ค ครับ!」」
พอได้รับสัญญาณจัดแถวที่ถูกฝึกมาแต่ไม่ได้ใช้
พวกบอสโก้ก็ยืนตัวตรงส่งเสียงตอบอย่างแข็งขันด้วยปฏิกิริยาตอบโต้
「ฟังนะ!ถ้าไม่พอใจสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็จงพลิกแพลงมันให้กลายเป็นตัวกระตุ้นซะ!
อย่างเช่นคิดว่าคราบสกปรกที่ขัดออกยากนี่เป็นผู้กล้าดู!ฮึ่ย เจ้าพวกผู้กล้าดื้อด้าน
.............พวกเรานี่แหละจะขัดแกให้สะอาดเอง!..............เป็นไง?
แค่นี้กำลังใจที่จะต่อสู้กับพวกผู้กล้าก็สูงขึ้นแล้ว!?」
「ย อย่างนี้นี่เอง!」
「สมกับเป็นคุณเบล!」
「ดีล่ะ!งั้นมาทุ่มเต็มที่กัน!เอาแบบรวดเดียวล้างเผ่าพันธุ์ผู้กล้าไปเลย!」
「「ครับ!」」
แล้วพวกเราแต่ละคนก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาด(อาวุธ)เข้าจัดการกับเหล่าผู้กล้า
「---------------จะเป็นอย่างนั้นไปได้ไงล่ะ!?」
「นั่นสิ!」
อย่างที่คิดใช้วิธีนี้ตบตาได้ก็บ้าแล้ว ชั้นนี่ท้อเลย
ชั้นเลยถอนหายใจอย่างแรงแล้วบอกคำพูดไม้ตายไปอย่างช่วยไม่ได้
「งั้น กล้าไปพูดต่อหน้าท่านเรย์ย่ามั้ยล่ะ」
「ดีล่ะ เจ้าพวกผู้กล้าเอ๋ยเตรียมใจสูญพันธ์ซะเถอะ!」
「ไว้ใจได้เลย!พวกเราคือผู้เชี่ยวชาญในการกำจัดผู้กล้าอยู่แล้ว!」
ต่อให้ดื้อกันขนาดไหน สุดท้ายก็ยังกลัวการลงโทษของท่านเรย์ย่าไม่เปลี่ยนแปลง
◆◇◆
『!!??』
ฉัน--------เรย์ย่า ฟาร์ซ่าจู่ๆก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันจาก【อะไรสักอย่าง】จนร่างกายแข็งเกร็งไปหมด
ม เมื่อกี้มัน.........อะไรกัน?
วันนี้ก็มารวมตัวกันที่ปราสาทจอมมารอีกครั้งเนื่องด้วยเรื่องที่จะเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรวินบุค
ที่ท่านรูเทียประกาศไปในการประชุมครั้งก่อน
ทั้งที่ไม่มีอะไรแต่กลับเหงื่อไหลท่วม ร่างกายสั่นไปหมด
พอวงจรความคิดเริ่มสงบลงก็พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
กวาดตามองไปรอบข้างอันเงียบเชียบก็ได้เห็นภาพของเหล่าผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพปีศาจ--------
หัวหน่วยที่1แห่งกองทัพปีศาจ เซรอส อัลบาน่า กับ หัวหน้าหน่วยที่2แห่งกองทัพปีศาจ โซลัว วัลเร่
และหัวหน้าผู้คุมกฏแห่งกองทัพปีศาจ เจด เรเวนเข้าสู่โหมดพร้อมรบ
เซรอสส่งพลังเวทอันน่าสะพรึงกลัวออกมา โซลัวห่อหุ้มตัวด้วยความมืดจนไม่เห็นอะไร
เลยนอกจากตาสีแดง เจดปล่อยไอเวทที่ดูอันตรายไปโดยรอบ
หาได้ยากเลยที่ทั้งสามคนจะอยู่ในสถานะพร้อมต่อสู้เต็มที่แบบนี้
ทว่าสีหน้าของพวกเขานั้นทั้งลนลาน อึดอัดและ----------เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
「...........มันอะไรกัน? พลังนี่-------」
「จะไปรู้ได้ไงล่ะฟะ!ตั้งสติหน่อยไอ้จิ้งเหลน........!」
「เดี๋ยวเถอะ..........โธ่ มันอะไรกันเนี่ย...........!」
แม้จะหวาดกลัวทั้งสามคนก็ยังสามารถสนทนากันได้
เทียบกันแล้ว ระดับผู้นำคนอื่นๆอย่างพวกเราแม้ขยับตัวยังไม่ได้เลย เรียเองก็ไม่ไหว
..............อ้ะ ยูรูสตาเหลือกเลยนี่นา? สลบไปแล้วงั้นเหรอ?
「ท่านรูเทียจะปลอดภัยมั้ยนะ...........」
「ไม่เป็นไรแหงอยู่แล้ว..............ไอ้คลื่นพลังโคตรบ้านี่ปล่อยมาจากที่ไกลเหลือเชื่อ............
แถมไม่เจาะจงว่าเป็นใครปล่อยใส่ทุกคนไม่เลือกหน้า...........ใช่ว่าเล็งใส่เฉพาะท่านรูเทียซะเมื่อไร」
「ช่างเป็นเด็กที่ซนจังเลยเนอะ.............」
อยู่ในสภาพที่ไม่อาจขยับเขยื้อนไปได้สักพักแรงกดดันที่มีจนถึงก่อนหน้านี้ก็หายไปราวกับโกหก
ด้วยเหตุนี้พวกเราจึงกลับมาขยับกันได้อีกครั้ง
ฉันเลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆหลายครั้ง
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก...........นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ เมื่อกี้พวกเราแค่หาสาเหตุของอาการหวาดกลัว
นี่ก็แทบแย่แล้ว..............」
「ก็จริงนะ ขนาดพวกเราพยายามสู้เต็มที่ก็ยังรู้สึกเลยว่าพลังมันยิ่งใหญ่ซะจนไม่รู้ว่าจะชนะได้รึเปล่า
แต่ยังไงเป้าหมายก็ไม่ได้เล็งมาที่พวกเรา............ไม่สิ ไม่ได้เล็งมาที่เผ่าปีศาจ
เพราะงั้นกังวลไปก็เปล่าประโยชน์」
「ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ............」
「บ่นนั่นบ่นนี่อยู่นั่นแหละ.............ตอนนี้รู้แค่ว่ามันไม่ได้มุ่งร้ายกับพวกเราก็พอ
แค่นี้ก็น่ายินดีเท่าไรแล้ว」
เซรอสกับโซลัวพูดมาอย่างนั้นฉันเลยไม่พูดอะไรอีก
แต่ฉันไม่เข้มแข็งพอที่จะทำใจยอมรับหรือให้มองในแง่บวกได้หรอก
...................หลังจากนี้ไว้ใช้พวกเบลอีกครั้งให้สืบหาข้อมูลดีกว่า?
ก็คิดหรอกนะว่างานนี้มันอันตราย............แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็เป็นหน่วยพลีชีพอยู่แล้ว
ขณะที่พูดคุยกันอย่างนั้นอยู่โซลัวก็ชี้นิ้วไปที่ยูรูส
「ดูยูรูสเป็นตัวอย่างสิ เห็นมะไม่ไหวติงเลย...........สลบไปแล้วนี่หว่า!? น่าสมเพชชะมัด........」
「น่าเสียดายนะแต่อย่าเอาพวกเราไปรวมกับสิ่งมีชีวิตอย่างพวกนายจะดีกว่า」
「คำพูดจากปาก【ฟีนิกซ์】เรย์ย่าเนี่ยนะน่าเชื่อตายล่ะ」
คำพูดนายนั่นแหละย่ะที่น่าเชื่อตายล่ะ!
ฉันตบมุขในใจกับคำพูดของโซลัวที่เป็นแวมไพร์เลือดแท้
จริงอยู่ที่เผ่าพันธุ์ของฉันคือ【ฟีนิกซ์】
โดยเฉพาะฉันที่ความสามารถเฉพาะตัวของฟินิกซ์อย่าง『ไฟฟื้นฟู』บวกกับมี
『เวทอากาศ』ที่ใช้ควบคุมบรรยากาศ ทำให้ได้ขึ้นมาเป็นผู้นำกองทัพปีศาจ
ถึงพวกเบลจะเข้าใจผิดคิดว่าเวทของฉันคือ『เวทก๊าซ』แต่ที่ฉันทำได้ก็แค่ควบคุมอากาศ
ที่ลอยอยู่รอบๆในโลกนี้เท่านั้นเอง แน่นอนว่าใช้ควบคุมก๊าซทั้งหลายแหล่ได้ด้วย
แต่ไม่ใช่ว่าฉันสามารถสร้างขึ้นมาได้สักหน่อย
ตอนที่เทพมังกรดำถูกปราบแล้วฉันมุ่งหน้าไปหาเพื่อที่จะให้คืนชีพกลับมาโดยเร็วนั้น
ก็เพราะมีพลังของ『ไฟฟื้นฟู』
ไฟฟื้นฟูหากยังไม่ตายสนิทล่ะก็แม้จะต้องใช้เวลาแต่ไม่ว่าบาดแผลแค่ไหนก็ฟื้นฟูขึ้นมาได้
แต่ก็ไม่ได้มีพลังที่สามารถใช้คลายผนึกหรือกำจัดสภาวะผิดปกติ
............ถ้าใช้คลายผนึกได้คงทำให้พ่อของท่านรูเทียคืนชีพอย่างสมบูรณ์แบบไปแล้ว..........
พ่อของท่านรูเทีย----------สรุปคือท่านจอมมารคนปัจจุบันที่ถูกปิดผนึกมาเนิ่นนานนั่นแหละ
พอท่านจอมมารที่เป็นผู้ก่อตั้งถูกผนึกพวกเราเผ่าปีศาจที่สูญเสียผู้นำจึงต้องให้คนที่มีพลังแข็งแกร่ง
มาทำหน้าที่เป็นราชาแทนจนกลายมาเป็นอย่างที่เห็นในตอนนี้
เผ่าปีศาจก็แค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเท่านั้นเอง
ทั้งที่เป็นอย่างนั้นมนุษย์กลับคอยส่งกำลังทหารเข้ามาไม่หยุดหย่อนทำการก่อสงคราม
แถมยังมาปิดผนึกท่านจอมมารอีก
----------ทั้งที่น่าจะเกลียดชังอีกฝ่ายขนาดนั้น ท่านรูเทียกลับกล่าวว่าอยากจับมือกับมนุษย์
เพราะงั้นพวกเราเลยทำได้แค่ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
คนที่มาขัดขวางท่านรูเทียไม่ว่าใครก็ไม่ยกโทษให้เด็ดขาด
「..............」
ฉันจินตนาการถึงบุคคลที่ปล่อยคลื่นปริศนาที่มีพลังอันมากล้นนี้
.............ถ้าเกิดตัวตนนั้นทำการขัดขวางท่านรูเทีย----------
「ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตก็จะหยุดให้ดู.............」
ฉันตัดสินใจอย่างนั้น