ตอนที่ 69 คาบเรียนภาคปฏิบัติ~ช่วงหลัง~
「จะว่าไป แผนการของบูลุคนี่มีว่ายังไงบ้างเหรอ?」
มองพวกบูลุคยืนขึ้นมาพลางถามข้อสงสัย บูลุคก็ตอบมาให้
「ก็ไม่ได้ยากอะไร แค่ให้สติของครูเซอิจิจดจ่อกับอากุโนสและเบียส โดยให้ทั้งสองคนโจมตีครูเซอิจิ
จนไม่มีเวลาว่างใช้ความคิด แล้วทันทีที่ลืมตัวตนของผมไปอย่างสมบูรณ์ ผมก็เข้าไปโจมตีจากข้างหลัง
เนื้อหาก็มีแค่นี้แหละ」
「อย่างนี้เอง............ถ้างั้นบูลุคก็พลาดที่ส่งเสียงเรียกชั้นน่ะสิ?」
ใช่ ตอนนั้นน่ะถ้าบูลุคไม่ส่งเสียกเรียกอาจโดนโจมตีโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ได้
.............การมีอยู่ของสกิล『ตาพิภพ』กับ『ป้องกันอัตโนมัติ』อาจจะสุดยอด
แต่หาก『ตาพิภพ』ไม่ทันรับรู้ล่ะก็สุดท้ายสกิล『ป้องกันอัตโนมัติ』ก็ไม่ทำงาน
เดิมที หากชั้นควบคุมร่างกายเองได้ต่อให้ไม่พึ่งพาสกิล『ป้องกันอัตโนมัติ』
ก็หลบการโจมตีธรรมดาได้อยู่แล้วเพราะงั้นแค่สัมผัสถึงสิ่งรอบตัวให้ดีๆก็พอ
ทันใดนั้น บูลุคก็ส่ายหัว
「ไม่หรอก ที่ผมส่งเสียงเรียกก็เพื่อบังคับดึงสติให้หันมาทางผมอีกครั้ง
การทำแบบนั้นเป็นการแบ่งสติที่จดจ่อกับพวกอากุโนสออกไปเป็นอย่างมาก
เพราะการที่อยู่ๆผมปรากฏตัวออกมาทำให้สั่นคลอนจิตใจได้เป็นอย่างดี
ที่ทำแบบนั้นเพราะผมรู้ตัวดีว่าแม้ผมจะใช้ดาบก็ยังขาดพลังในการตัดสินผล ตรงจุดนั้นเลยทำให้ระแวงว่า
การโจมตีของอากุโนสเป็นตัวล่อซึ่งตัวล่อของจริงคือผมที่อยู่ๆโผล่มา
โดยที่การโจมตีของจริงนั้นเป็นของพวกอากุโนส」
「..............」
ชั้นคาดไม่ถึงจนอ้าปากหวอ
สรุปคือ บูลุคแกล้งทำให้เห็นเป็นการโจมตีของจริงซึ่งที่จริงเป็นตัวล่อ
ตรงกันข้าม อากุโนสที่คิดว่าเป็นตัวล่อกลับเป็นการโจมตีของจริง ไม่ได้ยากอะไร.............ตรงไหนฟะ!
คิดวิธีการสู้ไปถึงขนาดนั้นชั้นทำไมได้แน่ คนอายุใกล้เคียงกันก็คิดไม่ได้หรอก
...........ไม่สิ ชั้นอาจทำไม่ได้ แค่อาจจะมีใครทำได้อย่างคาดไม่ถึงอยู่ก็ได้
แต่ที่น่าผิดหวังที่สุดเลยคือ...............ระหว่างที่ชั้นสู้ไม่ได้คิดเรื่องใครเป็นตัวล่อใครเป็นของจริงสักนิด!
ช่างเถอะ สุดท้ายแค่ล้มทุกคนได้ก็พอ เรื่องที่ว่าไม่ต้องไปสนก็ได้............
เหตุผลดีเนอะ!ครับ ไม่ค้านเลยสักนิด!ยอมรับได้จริงดิ!?
ขณะที่ในใจกำลังปั่นป่วน บูลุคก็ยิ้มเศร้าๆออกมา
「ก็นะ เรื่องนั้นอย่างครูเซอิติไม่ต้องสนก็ได้」
โดนมองออกด้วยอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!
ชั้นทำได้แต่ยิ้มแห้งๆกลับไป
แล้วพวกบูลุคก็ไปหาคุณเบียทริสเข้าสู่โหมดชมการต่อสู้ทั้งอย่างนั้น
พอยืนยันเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้วชั้นก็หันไปถามนักเรียนที่เหลือ
「เอาล่ะ.............งั้นคราวนี้จะเป็นใครล่ะ?」
ทันใดนั้น ฟลอร่า เรเชล อิเรเน่ยกมือขึ้นมา
「ค่าค่าค่า!คราวนี้พวกเราสามคนจะลุยเองค่า!」
「ขอความกรุณาด้วยนะค้า~」
ดูท่า ฟลอร่า เรเชล อิเรเน่จะร่วมทีมกันมาสู้แฮะ
แน่นอน พวกบูลุคยังยอมให้ พวกฟลอร่าจะไม่ยอมให้ได้ไง
อีกอย่าง การต่อสู้เมื่อกี้ก็ทำให้ได้ทบทวนตัวเองด้วยเพราะงั้นชั้นยินดีอยู่แล้ว
「ดีล่ะー!แบบนี้ต้องพยายามหน่อยแล้วー!」
「ช่วยเบามือด้วยนะค้า~」
ฟลอร่าส่งเสียงกู่ร้องอย่างแข็งขันส่วนเรเชลรู้สึกอ่อนยังไงไม่รู้แฮะ
ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงท่าทางที่แปลกๆของอิเรเน่
「เป็นอะไรไปเหรอ? อิเรเน่」
「..............」
อิเรเน่ก้มหน้า
พอชั้นมองอย่างสงสัย ไม่นานก็ทำหน้าซีเรียสตะโกนออกมา
「เสียของที่สุดเลยค่ะ!」
「หา?」
คำพูดของอิเรเน่ทำให้ชั้นส่งเสียงสับสนออกมา
แล้วอิเรเน่ก็พูดเรื่องที่อย่างพูดต่อโดยไม่สนใจชั้น
「คุณน่ะเข้าใจความงดงามของตัวเองบ้างมั้ย? การเอาฮู้ดไปปิดแบบนั้นน่ะ.........
รู้มั้ยมันเป็นความเสียหายต่อมนุษยชาติแค่ไหน!เพียงแค่งดงามก็มีหน้าที่ๆแบกรับแล้วนะคะ!
ใช่ หน้าที่นั้นคือการแสดงความงามนั้นให้ปวงชนได้เห็น!『ความงาม』คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่
เพราะงั้นหากมี『ความงาม』ก็ต้องดูแลมันให้ดีที่สุดอยู่เสมอ!
ครูเซอิจิ............คุณน่ะกำลังละทิ้งหน้าที่นั้นอยู่นะคะ!」
「ข ขอโทษด้วยครับ!?」
「ไม่ค่ะ ไม่ยกโทษให้!จนกว่าครูจะเข้าใจคุณค่าความงามของตัวเอง
ไม่ว่าจะกี่ครั้งชั้นก็จะเทศนาให้ฟัง!นี่แหละคือความสมบูรณ์แบบของฉัน!」
「ไม่เอาอ่ะ เกรงใจครับ」
ได้แต่ยิ้มแข็งๆกลับไปให้อิเรเน่ที่พูดเรื่องที่ต้องการแบบน้ำไหลไฟดับ
ยังไงก็ตามแต่ ตกลงหน้าตาของชั้นเป็นยังไงหว่า? ตั้งแต่มาที่โลกนี้ยังไม่เคยเห็นกระจกด้วยสิ
.................ต้องบอกว่าไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของกระจกด้วยซ้ำ แล้วสำหรับคำถามที่คิดในตอนแรกนั้น
เหตุผลหลักๆเลยคือไม่ได้สนใจเรื่องหน้าตาเท่าไรนักหรอก ก็ต่อให้ไม่รู้ก็ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน
ก็นะ『ผลวิวัฒนาการ』ปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้ซะด้วยสิ................
ไม่สิ ไม่ใช่เปลี่ยนแบบศัลกรรม พูดให้ถูกต้องเรียกว่าเปลี่ยนระดับพันธุกรรมสร้างร่างใหม่เลยดีกว่า?
เอาเป็นว่าทั้งส่วนสูงและน้ำหนักเทียบกับตอนอยู่โลกเดิมแล้วต่างกันฟ้ากับเหวเลยแล้วกัน
หรือว่าที่จริงแล้วชั้นจะมีหน้าตาตามในภาพวาดของเมย์ ..............แหม ถ้าได้แบบนั้นจริงก็ดีสิ
ก็ในภาพนั้นชั้นเป็นหนุ่มซุปเปอร์หล่อเลยนี่นา
ขณะที่คิดเรื่องหน้าตาตัวเองเพลินไปหน่อย อิเรเน่ที่หอบหายใจอย่างตื่นเต้น
ก็เตรียมอาวุธแล้วไปอยู่กับพวกฟลอร่าโดยไม่ทันรู้ตัว
「ครูเซอิจิ!ทำอะไรอยู่คะ? รีบๆมาเริ่มได้แล้ว!ใช่ การต่อสู้เพื่อ『ความงาม』...........!」
「ไม่อ่ะ นี่แค่การซ้อมต่อสู้เฉยๆ」
ตบมุขพลางไปประจันหน้ากับพวกอิเรเน่
แล้วก็อย่างที่คิด พอยืนยันเรื่องคุณสมบัติด้านเวทมนตร์ของทุกคนก็เหมือนกับพวกบูลุคที่มีแต่ยังไม่ปรากฏ
ตกลงใช้เรื่องนี้เป็นตัวตัดสินกันงั้นเหรอ?
ก็เห็นชัดเลยว่าขนาดพวกบูลุคมีพลังต่อสู้ขนาดนั้นยังถูกเรียกว่าเป็นห้องของเหลือ
เพราะงั้นเหตุผลที่ถูกเรียกว่าของเหลือน่าจะเป็นเรื่องการใช้เวทนี่แหละ
ก็นะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นโรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดลก็ต้องยึดเรื่องเวทมนตร์เป็นหลักสิ
เลยมีการตัดเกรดที่เอียงได้ขนาดนี้
ถ้าบอกว่าโรงเรียนนี้มีพวกที่มีความสามารถมากกว่าพวกบูลุคอยู่เป็นกอง การที่เป็นของเหลือก็ไม่แปลก
แต่คุณเบียทริสเป็นคนบอกเรื่องระดับความสามารถของเฮเลนมาเอง เพราะงั้นคงไม่ใช่เหตุผลนั้น
อย่างอื่นก็ เลออนที่ใช้เวทมนตร์ได้ถึงขนาดนั้นยังมาอยู่ห้องของเหลือได้นี่แหละที่ไม่เข้าใจ
อ้ะ แล้วก็นอกจากส่วนของเวทมนตร์แล้วชั้นไม่ได้ดูข้อมูลส่วนตัวของทุกคนเลยนะ!
ปกป้องความเป็นส่วนตัวของทุกคนเป็นอย่างดีแน่นอน!
สัดส่วนของผู้หญิงอะไรนี่ก็ไม่ได้เหลือบตาไปมองเลยสักนิด!『ตาพิภพ』นี่อันตรายจริงๆ!
ด้วยเหตุนี้เลยไม่รู้ว่าเฮเลนฝึกวิชาการต่อสู้อะไรมาบ้าง
คิดเรื่องที่ว่าไปพลางชั้นก็กวาดตามองสามคนที่ประจันหน้าอยู่
ฟลอร่าใช้ดาบใหญ่เท่ากันส่วนสูงของตัวเอง เรเชลเป็นหอก ส่วนอิเรเน่เป็นเคียวยักษ์
「อ๊า!ตัวฉันนี่ช่างบาปยิ่งนักไม่ว่าถืออะไรก็เหมาะไปหมด...............
ใช่แล้ว ฉันคือยมทูตผู้งดงาม บมทูตอันแสนงดงามที่จะมามอบความตายให้กับ
คุณครูผู้โง่เขลาที่ไม่รู้จัก『ความงาม』ของตัวเอง!」
「ขอฝากตัวด้วยนะค้า~」
「จะลุยแบบเอาจริงล่ะนะ!เตรียมใจไว่ได้เลย!」
นิสัยแต่ละคนนี่แค่เห็นก็รู้เลยแฮะ
ขณะที่มองทั้งสามคนพลางคิดอย่างนั้น ชั้นก็ตั้งสติปรับสู่โหมดต่อสู้
และแล้ว พริบตาถัดมา-----------คนแแรกเป็นฟลอร่าที่กวัดแกว่งดาบใหญ่ได้สบายๆเข้ามาประชิดตัว
「ลุยล่ะนะ!โซล่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
การโจมตีที่เฉียบคมและรุนแรงฟันกวาดโดยเล็งมาที่สีข้างของชั้น
ทว่า ชั้นก็รับไว้ได้อย่างง่ายดายแล้วใช้แรงส่งนั้นทิ้งระยะห่างทั้งสามคน
ทันใดนั้น ผู้ที่ไล่ตามมาคืออิเรเน่ที่สะบัดเคียวยักษ์มาบั่นคอชั้น
「คอนั่นขอไปล่ะนะคะ!เดี๋ยวจะเอาไปจัดแสดงต่อหน้ามวลชนให้เอง!」
「ชั้นไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย ทำไมต้องโดนตัดหัวเสียบประจานด้วยอ่ะ!?」
「ไม่หรอกค่ะ ถ้าร่างกายได้รูปสมบูรณ์แบบก็คิดจะเอาศพไปจัดแสดงด้วยกันเลย!」
「จะโหดไปไหนฟะ............!」
ตอบโต้คำพูดสุดโหดของอิเรเน่ไปพลางหลบการโจมตีของอิเรเน่ไปเรื่อยๆ
............เยี่ยม เคลื่อนไหวได้คล่องดีแฮะ
การก้าวเท้าอะไรพวกนี้ก็ศึกษาจากรุยเอสมาเป็นอย่างดีที่เหลือก็แค่ชั้นเอาไปใช้จริงได้ก็พอ
ชั้นใจเย็นคอยหลบและปัดการโจมตีของอิเรเน่กับฟลอร่าด้วยการเคลื่อนไหวที่น้อยที่สุด
「อ๊า-โธ่!ไม่โดนสักที!」
「ฮึ่ม............ไม่เลวเลยนะ ครูเซอิจิ!แต่ว่าฉันยังไม่ยอมแพ้หรอก!
คอนั่นจะเอาไปจัดแสดงต่อหน้ามวลชนให้ได้..............!」
「ไม่อ่ะ อันนั้นช่วยยอมแพ้ทีเถอะ!」
อิเรเน่โจมตีเข้ามาเรื่อยๆโดยที่ดูเหนื่อยแค่เล็กน้อย ส่วนฟลอร่าไม่มีท่าทางเหนื่อยเลย
แม้แต่ตอนนี้ยังฟันดาบใหญ่เข้ามาเรื่อยๆโดยแรงไม่ตกลงแม้แต่น้อย ..........พลังกายสุดยอดเลยแฮะ
ขณะที่คิดอย่างนั้นไปพลางตั้งรับการโจมตีอย่างหนักจากทั้งสองคน ทันใดนั้นก็รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมา
ชั้นยังคงสติจดจ่อกับอิเรเน่และฟลอร่าสองคนพลางใช้『ตาพิภพ』ตรวจดูที่ด้านหลัง
และแล้วก็รับรู้ได้ทันทีว่าเรเชลเข้ามาด้านหลังชั้นโดยไม่ทันรู้ตัว
พอยืนยันตัวตนของเรเชลได้ ชั้นก็ก้มสุดตัวที่ตรงนั้นทันที
พริบตานั้นก็มีหอกที่แม้จะเฉียบคมแต่มีการลังเลอยู่บ้างแทงเข้ามาตรงจุดที่หัวของชั้นเคยอยู่
..............อย่างนี้นี่เอง แม้จนถึงตอนนี้ทุกคนจะโจมตีเข้ามาโดยไม่มีการลังเล
แต่ดูเหมือนว่าเรเชลจะทำไม่ได้สินะ
พอหันไปมองเรเชลทั้งที่ยังก้มตัวอยู่ ก็เห็นเรเชลที่ยืนจับหอกอยู่มีสีหน้าตกใจปนกับโล่งอกที่หลบได้
ชั้นที่อยู่ในสภาพก้มตัวก็กวาดตามองตำแหน่งของทั้งสามคนแล้วถอยทิ้งระยะห่างออกมา
ทว่า คราวนี้เรเชลเองก็มาเข้าร่วมการโจมตีด้วย เลยเริ่มต้นการไล่โจมตีจากทั้งสามคน
「ย้ากกกกกกกกกกกกกกก!」
ซู่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
ฟลอร่าฟาดลงมาอย่างแรงจนพื้นทรุดตัว
「ย่ะ!」
สวบ!
แน่นอนต้องเป็นอิเรเน่ที่เล็งคอของชั้น
และ------------
「ย่าาา!」
ฟิ้ว!
แม้จะมีการลังเลแต่เรเชลเคลื่อนไหวแต่ละท่วงท่าแสดงให้เห็นถึงการขัดเกลามาแล้ว
ฟลอร่าทำแค่ควงดาบกดดันมาเรื่อยๆอย่างบ้าระห่ำแต่การเคลื่อนไหวของอิเรเน่กับเรเชลเหมือนกับเฮเลน
เป็นการเคลื่อนไหวที่ผ่านการฝึกวิชาอะไรสักอย่างมา
โดยเฉพาะเรเชลนี่ร้ายกาจมาก
แม้จะมีการลังเลจนเด่นสะดุดตาแต่ทั้งการก้าวเท้าและการโจมตีกลับได้จังหวะ
และเหนือสิ่งอื่นใดไม่ได้มาจากการใช้สกิล การโจมตีที่เข้ามาหาชั้นทุกอย่างมาจาก『ฝีมือ』ล้วนๆ
..........แล้วก็ สกิล『ขโมยวิชา』ของชั้นแม้จะทำให้สามารถใช้สกิลที่อีกฝ่ายใช้ได้
แต่ไม่สามารถใช้กับศาสตร์ลับอย่างที่เฮเลนใช้หรือเวทมนตร์
แต่ก็นะ ถ้ามีคนสอนให้ล่ะก็ร่างกายของชั้นก็จดจำได้ในพริบตาของมันเองอยู่ดีนั่นแหละ...........
รู้สึกได้เลยว่าเรเชลแม้จะมีฝีมือแต่ไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้
ชั้นที่ตั้งรับและหลบการโจมตีเรื่อยๆก็คิดว่าได้เวลาสวนกลับบ้างแล้ว
「ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!」
ทันทีที่ดาบใหญ่เงื้อขึ้นมาอย่างกว้างฟาดลงมาใส่หัวของชั้น
ชั้นก็ใช้【เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ(White)】สัมผัสที่ด้านข้างของดาบใหญ่
แล้วปล่อยให้ลื่นไหลออกไปด้านข้างทั้งอย่างนั้นพร้อมกับเข้าประชิดตัวฟลอร่า
「หา!? โกหกน่า!?」
「ไม่มีทาง!」
ทันใดนั้น เฮเลนก็เข้ามาขวางการโจมตีของชั้นโดยที่เคียวยักษ์ไม่ได้เล็งไปที่คอแต่ฟันมาที่ลำตัวแทน
ทว่าชั้นก็เอาเท้าเหยียบเคียวยักษ์นั้นแล้วเข้าไปหาฟลอร่าอีกครั้ง
「ก่อนอื่นก็ คนที่หนึ่ง」
「หวา!」
ชั้นที่ตรวจดูสไตล์การต่อสู้หลักๆว่าเป็นยังไงเรียบร้อยแล้ว
ก็เอาWhiteที่ลื่นไถลไปกับดาบใหญ่กดเข้าไปที่คอให้ล้มลงจากนั้นก็จิ้มไปที่คอเบาๆทั้งอย่างนั้น
「ฟลอร่า!」
「คนที่สอง」
ต่อมาชั้นที่ยังเหยียบเคียวยักษ์ที่ปลายเคียวยังจมอยู่กับพื้นก็หันไปหาอิเรเน่ที่ร้องตะโกน
ใช้สองแขนจับเคียวยักษ์ยกขึ้นมาจากพื้นแล้วโยนไปพร้อมกับอิเรเน่เบาๆที่ด้านหลังทั้งอย่างนั้น
ทันทีที่โยนไปด้านหลังแน่นอนว่าไม่ลืมจิ้มWhiteที่คอย้ำไปด้วย
「กรี๊ดดดดดดดดด!」
「เอาล่ะ สุดท้ายก็-----------」
「ย้า~!」
ทันทีที่หันไปหาเรเชลที่เหลืออยู่ก็เจอหอกอันเฉียบคมพุ่งเข้ามาใส่
แต่ก็หลบแล้วใช้Whiteฟันสวนไปแบบไม่รีบร้อน
「ฮึบ!!!!」
「!」
「ย่าาาา!」
ทว่าน่าตกใจที่เรเชลป้องกันWhiteชั้นได้
หนำซ้ำยังสวนกลับมาด้วย
แม้จะยังมีความลังเลอยู่แต่เรเชลก็ยังโจมตีใส่ชั้นเรื่อยๆ
............สุดยอดเลย เฮเลนกับอิเรเน่เองก็ฝึกวิชาอะไรสักอย่างมาเหมือนกัน
แต่เรเชลดูจะเก่งกว่าแฮะ
แต่ทว่า-------
「ก่อนอื่น วันนี้ก็จบแค่นี้แล้วกัน?」
「เอ๋?」
พอจับส่วนด้ามหอกของเรเชลที่โจมตีมาใส่ชั้นก็ดึงเข้ามาหาชั้นทั้งอย่างนั้น
「หวาา!」
เรเชลเองก็พยายามยื้อไว้แต่ก็เทียบไม่ได้กับสเตตัสสัตว์ประหลาดของชั้นที่แม้จะออมมือแล้วก็ตาม
เลยดึงเข้ามาหาชั้นได้แบบสบายๆ
แล้วก็ใช้แรงส่งนั้นสะบัดโยนเรเชลไปแบบเบาๆ
ในเวลานั้นเองก็เอาWhiteจิ้มไปที่คอในชั่วพริบตาเหมือนอย่างสองคนนั้น
「อาเรเร้~!」
คราวนี้ไม่มีพลาดเหมือนตอนเฮเลนโยนไปได้อย่างพอเหมาะ
อื้ม ชั้นเองก็เติบโตขึ้นแล้ว
แต่เอาจริงๆการต่อสู้ครั้งนี้ชั้นก็พยายามเต็มที่เหมือนกัน
เพราะต้องต่อสู้โดยใช้สกิลตามความต้องการของตัวเองไม่ให้โดนสกิลควบคุม
ได้ตรวจสอบผลจากการซ้อมต่อสู้กับรุยเอสด้วย สรุปแล้วชั้นเก็บเกี่ยวจากการซ้อมครั้งนี้ได้มากเลย
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่ สามคนที่ชั้นจัดการไปเมื่อกี้ก็ลุกขึ้นมา
「เจ็บบบบ...............โธ่ ครูเซอิจิรุนแรงจัง!ถ้าเกิดหัวของเราติงต๊องขึ้นมาจะทำยังไง?」
「............แพ้แล้ว.........ตัวฉันที่สมบูรณ์แบบ.........แพ้ให้กับการต่อสู้เพื่อ『ความงาม』แล้ว......!」
「โห~...........ครูเซอิจิ~เก่งจังเลยค่า~」
ปฏิกิริยาของอิเรเน่น่ะช่างเถอะแต่ทั้งสามคนยังร่าเริงดีอย่างคาดไม่ถึงเลยแฮะ
ก็นะ ออมมือไว้อย่างเต็มที่ด้วยแหละเลยไม่ต้องกังวลเรื่องการบาดเจ็บ............
「...........อ้ะ!? ผ ผู้ชนะ ครูเซอิจิค่ะ!」
ขณะที่กำลังฝืนยิ้มกับปฏิกิริยาของทั้งสามคน คุณเบียทริสท่าทางตะลึงก็ประกาศออกมา
ก่อนอื่นนอกจากซาเรียทุกคนก็ซ้อมต่อสู้กันครบแล้ว ทันทีที่จะพักก็ได้ยินเสียงระฆังของโรงเรียน
「อ้ะ........ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาพักกลางวันแล้วนะคะ」
「เห? สายป่านนี้แล้วเหรอ?」
คำพูดของคุณเบียทริสทำให้ชั้นตกใจ
ซ้อมต่อสู้เพลินไปหน่อยเลยไม่ทันรู้ตัว เวลาผ่านไปขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย...........
「เยี่ยมมมมมมมมมมมมมมม!เคลื่อนไหวไปตั้งเยอะหิวจนใกล้ตายแล้วนะเนี่ย!」
「เหรอ ตายไวจังนะ」
「ยังไม่ตายเฟ้ย!?」
「...........ครูเซอิจิงั้นเหรอ ทั้งที่เก่งขนาดนั้นแต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรเลย..........
เป็นชายที่มากด้วยปริศนาจริงๆ」
「นั่นสิ..........แต่เรื่องที่เรเชลเคลื่อนไหวได้ถึงขนาดนั้นฉันนี่ตกใจหมดเลย」
「เฮอะ เอาแต่มองคนที่ภายนอกก็แบบนี้แหละ」
「............โฮ้ย ฟังอยู่มั้ย? ข้ายังไม่ตายน้า?」
พวกอากุโนสเข้าสู่โหมดพักเที่ยงเรียบร้อย
พอมองดูดีๆคนห้องอื่นเองก็เริ่มแยกย้ายกันไปแล้ว
「คุณเบียทริส ถ้าจะให้พักเที่ยงกันทั้งอย่างนี้เลยจะเป็นอะไรมั้ยครับ?」
「ค่ะ ไม่มีปัญหา แล้วหลังพักเที่ยงจะเอายังไงคะ? พวกซาเรียเองก็เป็นคนรู้จักของคุณเซอิจิอยู่แล้ว
คิดว่าน่าจะรู้ความสามารถกันดี................」
「นั่นสินะครับ.............แต่เรื่องนั้นไม่ลองถามทั้งสองคนดูก่อนคงไม่ได้หรอกครับ」
「เข้าใจแล้วค่ะ ถ้างั้นก่อนอื่นไปพักเที่ยงกันเถอะ」
พูดแล้วคุณเบียทริสก็ไปสั่งอย่างคล่องแคล่ว พวกอากุโนสเองก็หิวกันแล้วเลยเริ่มไปกันทันที
แต่พวกชั้นยังไม่รู้เรื่องโรงเรียนนี้ดีพอเลยยังไม่รู้ว่าไปกินข้าวเที่ยงกันที่ไหน
และแล้วคุณเบียทริสก็เป็นคนชวนพวกเราไป
「จะว่าไปยังไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับโรงอาหารให้ทุกคนฟังเลยนี่นา
ไหนๆก็ไหนๆแล้วไปทานอาหารด้วยกันมั้ยคะ?」
「ขอโทษที่รบกวนครับแต่ว่าจะดีเหรอ?」
「ค่ะ!ถึงจะมีนักเรียนอยู่แต่ก็ฝันอยากทานอาหารด้วยกันกับคนที่เป็นครูเหมือนกันค่ะ.........」
คุณเบียทริสยิ้มแบบเขินๆแต่ชั้นรู้กลับรู้สึกสงสัยคำพูดของคุณเบียทริสแทน
..........ทำไมถึงฝันฝันอยากทานอาหารด้วยกันกับคนที่เป็นครูล่ะ?
เอ? หรือว่า? จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยทานอาหารกับครูด้วยกันเลย...........เหรอ?
ไม่ใช่แค่นักเรียน ครูเองก็โดนปฏิบัติแบบเดียวกัน? ไม่เอาแล้ว สังคมมันจะมืดมนไปไหน
ขอสังคมที่มันสนุกสนานกว่านี้หน่อยได้มั้ย?
ขณะที่ได้รับรู้ถึงอีกด้านของสังคมที่ไม่อยากรับพวกเราก็ตามคุณเบียทริสไปที่โรงอาหาร
ระหว่างทางก็ลองถามเรื่องซ้อมต่อสู้กับพวกซาเรียดู...........
「จะสู้ล่ะ!อยากสัมผัสกับตัวว่าตั้งแต่ออกจากป่ามาเซอิจิเก่งขึ้นแค่ไหน!」
「นายท่าน!โรงอาหารจะมีของอร่อยแบบไหนอยู่ก็ไม่รู้เนอะ!อดใจรอไม่ไหวแล้ว!」
ขณะที่ซาเรียแสดงความตั้งใจจะสู้กับชั้น รูรูเนะสติไปอยู่กับอาหารเรียบร้อย
เอาเถอะ ไหนๆก็สู้กับซาเรียแล้วสู้กับรูรูเนะด้วยดีกว่า รูรูเนะที่ไม่ยอมฟังแหละผิดเอง
อื้ม เอาแบบนี้แหละ
ขณะที่คุยกันไปเรื่อยพวกเราก็มาถึงโรงอาหาร
ที่นั่นเป็นโรงอาหารอันหรูหราเทียบไม่ได้เลยกับของม.ปลายที่โลกเดิม
มีคนมากมายมารวมกันที่โรงอาหารแถมไม่ได้มีแค่ที่นั่งตามโต๊ะ ยังมีที่นั่งเคาน์เตอร์ ที่นั่งระเบียงด้วย
แทนที่จะบอกว่าเป็นโรงอาหารของม.ปลายน่าจะเรียกว่าโรงอาหารของมหาลัยมากกว่า
ชั้นได้แต่ตะลึงไปกับโรงอาหารที่หรูหราและสวยงามกว่าที่คิด
「สุดยอด............」
「อ้ะ นายท่าน!ดูนั่นสิคะ!」
พอหันสายตาไปตามที่รูรูเนะบอกก็เห็นป้ายเมนูอาหารมากมายติดไว้อยู่บนที่รับออเดอร์ของโรงอาหาร
「สุดยอด..........เมนูอาหารของโรงเรียนนี่มีให้เยอะขนาดนี้เลยเหรอ...........」
อัลเองก็ตกใจกับเมนูอาหารที่มีมากมาย คุณเบียทริสเลยตอบให้อย่างภาคภูมิใจ
「ที่นี่สามารถหาอาหารพื้นเมืองหรืออาหารหลากหลายประเภทได้หมดเลยนะคะ
เพราะทางประเทศต่างๆได้เตรียมเมนูอาหารต่างๆไว้มากมายเพื่อนักเรียนและครู
ขนาดที่วัตถุดิบอาหารที่หาไม่ได้ยังมีเลย และทั้งหมดนี้เกิดจากการร่วมมือกันของแต่ะประเทศ
เพื่อโรงเรียนแห่งนี้จึงสามารถทำได้ค่ะ」
「อ อาหารจากทั่วโลก..........งั้นเหรอ..........!?」
「.........คนตะกละ น้ำลายย้อยแล้ว」
ออริก้าจังต้องปีนไปเช็ดน้ำลายรูรูเนะที่ตัวสั่นอ้าปากค้าง
...............ใครอายุมากกว่ากันดูไม่ออกเลยนะเนี่ย รูรูเนะเอ๋ย
ส่วนพวกเราก็ได้แต่ตะลึงไปกับความสุดยอดของโรงอาหารของโรงเรียนแห่งนี้
และแล้วซาเรียที่ตาเป็นประกายก็ดึงแขนชวนชั้นไป
「เซอิจิ!รีบไปดูกันเถอะ!」
「เดี๋ยวสิ!ไม่ต้องดึงก็ไปอยู่แล้วน่า!」
แล้วตอนที่พูดคุยกันอยู่นั่นเอง
「..............เซ................อิจิ...................?」
「เอ๋?」
เสียงชวนคิดถึงที่ได้ยินมาตั้งแต่สมัยก่อนเข้ามาที่หูของชั้น
พอหันกลับไปด้วยปฏิกิริยาตอบโต้ ที่นั่นก็เป็น----------
「---------」
รุ่นพี่ที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กของชั้น-----------คันนะซึกิ คาเร็นกำลังยืนตัวแข็งเปิดตากว้าง