ตอนที่ 68 คาบเรียนภาคปฏิบัติ~ช่วงแรก~
「เอาล่ะ ถ้างั้นก็...........ให้ทุกคนแสดงความสามารถให้ดูเลยแล้วกัน?」
ชั้นกวาดสายตามองนักเรียนห้องFพลางพูด
คำพูดฟังดูเหมือนวางท่าแต่ก็แค่ทำตามข้อเสนอของคุณเบียทริสที่จะใช้วันนี้ทั้งวันเป็นคาบปฏิบัติ
เพื่อให้ดูความสามารถของทุกคนเท่านั้นเอง
「คนที่อยากแสดงเป็นคนแรก---------」
「คร้าบคร้าบคร้าบ!ลูกพี่!ต้องผม-------」
「ฉันเอง」
「----------อ้าวเฮ้ย!? อย่าแย่งดิฟะ!?」
อากุโนสยกมือโบกไปมาด้วยความความร่าเริงว่าอยากแสดงเป็นแรกโดยส่งออร่ากดดันออกมาด้วย
แต่โดนเฮเลนพูดขัดซะงั้น
「เฮ้ย เฮเลน!คนแรกมันต้อง----------」
「นายน่ะหุบปากไป」
「..........ลูกพี่ ทุกคนปฏิบัติกับผมโหดร้ายจังอ่ะ...............」
ก็ใช้พลังใจพยายามเข้าไปสิ เหมือนที่ตอบในข้อสอบไง
ขณะที่ตะโกนแบบไร้ความรับผิดชอบอยู่ในใจ เบียสก็ตบไหล่อากุโนสแล้วเอาสเก็ตบุคให้ดู
『ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ วันแบบนี้ก็ต้องมีบ้างแหละ』
「แกนี่ใช้ประโยคเดิมมาตั้งแต่ตะกี้แล้วไม่ใช่เหรอไง!?
อ้าวเฮ้ยอย่าหันหน้าหนีโต้งๆแบบนี้ดิ!」
จะว่าไปตอนชั้นก็ใช้ประโยคเดียวกันนี้นี่นา.........
ขณะที่คิดอย่างนั้นไม่ทันไรเฮเลนก็มายืนประจันหน้าชั้นแล้ว
「เอ่องั้นก็...........ก่อนอื่นมากำหนดกฏกันก่อนดีกว่า อาวุธนี่ก็ใช้ตามที่ใช้ปกติได้เลยนะ」
อย่างที่รู้กัน ถ้าเป็นพลังป้องกันของชั้นล่ะก็สบายอยู่แล้ว!.............น่าจะนะ
「แล้วก็เพื่อยืนยันความสามารถจะใช้เวทด้วยก็ได้ โดยที่ชั้น------------จะไม่ใช้เวท」
「!」
ทันทีที่ชั้นบอกว่าจะไม่ใช้เวท สีหน้าของเฮเลนก็เปลี่ยนไป
จากที่ก่อนหน้านี้มีบรรยากาศชวนให้ตึงเครียดอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งคุกคามขึ้นกว่าเดิมอีก
「.........นาย ดูถูกกันเหรอ?」
「เปล่านะ ไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย..........」
ไม่ได้จะดูถูกอะไรเลยก็แค่เวทมนตร์ที่ชั้นใช้ยังอยู่ในระดับอันตรายเท่านั้นเอง
เกิดเผลอสร้างภัยพิบัติขึ้นมาละก็ไม่ขำแน่ อีกอย่างจะให้ชั้นใช้เวทไปก็ไม่มีความหมายอะไร
เพราะที่ทำอยู่นี่เพื่อดูความสามารถของทุกคน..........ไม่สิ ถ้าให้ชั้นใช้เวทด้วยเพื่อดูความสามารถ
ในการรับมือจะดีรึเปล่า? อืมมม............เอาเถอะ ครั้งนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า
ยังไงซะคาบปฏิบัติก็ไม่ได้จบแค่วันนี้ซะหน่อย
「...........อย่าเสียใจทีหลังแล้วกัน」
「อ อื้ม」
จ้องกันน่าดูเลยวุ้ย...............ไม่ชอบใจคำพูดที่บอกว่าจะไม่ใช่เวทของชั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?
ขอโทษด้วยครับ
「แต่ก็น่าเจ็บใจเหมือนกัน.............เพราะฉันเองก็ใช้เวทไม่ได้」
「เห?」
เนื้อหาของสิ่งที่บอกออกมาทำให้ชั้นเผลอส่งเสียงพิลึกออกมา
ใช้เวท...........ไม่ได้?
ชั้นเลยรีบใช้สกิล『ตาพิภพ』ทันที
ตอนที่สอนเวทพวกซาเรียก็ใช้สกิลนี้เพื่อดูศักยภาพในธาตุของแต่ละคนที่ถูกเก็บซ่อนไว้
และแล้ว ก็รู้ศักยภาพของเฮเลนที่แม้ตอนนี้จะบอกว่าใช้เวทไม่ได้ก็ตาม
แต่ก็มีคุณสมบัติในการใช้ถึง2ธาตุด้วยกันคือธาตุไฟกับธาตุดิน
ในกรณีที่ใช้เวทในธาตุนั้นๆได้แน่นอนจะแสดงธาตุนั้นๆในหมวดสกิลให้ชั้นเห็นตรงๆ
แต่ถ้าไม่แสดง---------สรุปคือพรสวรรค์ในเวทมีแต่ตอนนี้ยังใช้ไม่ได้
ซึ่งในกรณีนี้จะปรากฏออกมาข้างธาตุนั้นๆโดยเขียนว่า『ยังไม่ปรากฏ』
ก็นะ ยังไงก็สอนให้วันหลังอยู่แล้วขืนพูดเรื่องนั้นไปตอนนี้เดี๋ยวก็ไม่ได้เห็นความสามารถกันพอดี
เอาเป็นว่าตอนนี้เงียบไว้ก่อนดีกว่า
ยังไงก็ตามแต่............เหตุผลที่ถูกเรียกว่าของเหลือนี่เพราะใช้เวทไม่ได้รึเปล่าหว่า?
ขณะที่คิดเรื่องนั้นอยู่ เฮเลนก็หยิบดาบสั้นสองเล่มออกมาซึ่งก็คงหยิบจากไอเท็มบ็อกมาถือไว้สองข้าง
นั่นเหรออาวุธที่เธอใช้
พอเห็นเฮเลนตั้งท่าเตรียมพร้อมชั้นก็ชัก『เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ(White)』ขึ้นมาบ้าง
...........เป็นสัมผัสที่ไม่ได้รู้สึกมานานเลยแฮะ พักหลังๆมานี่ที่ใช้ดาบก็แต่กับการฝึกซ้อมกับรุยเอส
ได้จังหวะเหมาะพอดีเลย ตอนฝึกซ้อมเองก็ใช้แค่ดาบไม้แถมตอนฝูงมอนเตอร์นั่นก็ใช้แค่เวทกวาดด้วย
แล้วก็เหตุผลที่ไม่ให้ใช้อาวุธสำหรับฝึกที่ไม่มีคมเพราะคิดว่าถ้าเป็นอาวุธที่ใช้ประจำ
น่าจะแสดงความสามารถออกมาได้ ถ้าเกิดชั้นสเตตัสต่ำล่ะก็ไม่มีทางพูดว่าให้ใช้อาวุธประจำหรอก
ลองเป็นชั้นตอนโลกเดิมสิได้ตายในพริบตาแน่ สุดยอดมั้ยล่ะ
เหตุผลที่ชั้นใช้WhiteเพราะWhiteมีความสามารถ『ถ่ายพลังกายและพลังเวทให้พวกพ้องที่แตะ』
แล้ว『แตะ』ที่ว่านี่ชั้นไม่ต้องเข้าไปแตะแค่ใช้ดาบแตะก็ได้แล้ว
ต่อให้รักษาได้ยังไงก็ตามการประมือกันด้วยดาบธรรมดาอาจเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้
ทว่าในกรณีของWhiteหากชั้นตัดสินเป็น『พวกพ้อง』ต่อให้โจมตีไปเท่าไร
ก็ไม่เกิดความเสียหายหรืออาการบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น
ด้วยเหตุนี้ชั้นเลยเลือกใช้White
พอชั้นชักWhiteแล้วตั้งท่าปล่อยตัวตามสบาย คุณเบียทริสก็เอ่ยปากขึ้นด้วยสีหน้ากังวล
「คือว่า.........คุณเซอิจิ ไม่ใช้เวทเลยจะไหวจริงๆเหรอคะ? เธอ........คุณเฮเลน
แม้จะใช้เวทไม่ได้แต่สำหรับโรงเรียนนี้ก็ถือว่ามีฝีมือพอสมควรเลยนะคะ............」
「ไม่ต้องห่วงหรอกครับ อ้ะ แล้วก็ช่วยเป็นกรรมการตัดสินให้ด้วยได้มั้ยครับ?
เกณฑ์ตัดสินก็เอาเป็นบอกยอมแพ้หรือไม่ก็หมดสติแล้วกัน」
แม้เห็นชั้นยืนกรานแบบนั้น คุณเบียทริสก็ยังทำหน้าเป็นห่วงอยู่ดีแต่ก็ไม่พูดอะไรมากกว่านี้อีก
「เสียใจทีหลังไม่รู้ด้วยนะ」
「ไม่ต้องห่วงหรอก เข้ามาแบบเอาจริงได้เลย ..........อ้ะ เฮเลนเชิญเริ่มก่อนได้ตามสบายเลย」
「........เดี๋ยวได้ร้องไห้แน่」
พร้อมกับคำพูดนั้นเฮเลนก็ย่นระยะห่างกับชั้นในชั่วพริบตาแล้วใช้มือขวาแทงดาบสั้นเข้ามาที่หน้า
ทว่าชั้นกลับค่อยๆดูการเคลื่อนไหวอันรุนแรงนั้นแบบไม่รีบร้อน
อืมมม น่าเอาไปเทียบกับรุยเอสแฮะ
แต่ว่าต่อให้อาวุธนี่ไม่มีคมก็เป็นการโจมตีที่ทำให้ถึงชีวิตได้เลยนะเนี่ย
ขนาดรุยเอสตอนที่ฝึกหรือซ้อมต่อสู้ยังมีการลังเลไม่ปล่อยฝีมือที่แท้จริงตั้งแต่เริ่มซึ่งนั่นก็เสี่ยงน่าดู
ตรงจุดนั้นเฮเลนกลับไม่มีท่าทีลังเลพุ่งเข้ามาด้วยความรู้สึกที่ต้องฆ่าชั้นให้ได้
แบบนี้ประเมิณให้สูงได้เลย
คิดอย่างนั้นไปพลางชั้นก็ขยับเพียงครึ่งก้าวหลบการโจมตีนั้น
「ชิ!? ถ้างั้น..........!」
แม้จะแสดงสีหน้าตกใจที่ชั้นหลบได้แต่ก็หมุนตัวเตะต่อทั้งอย่างนั้นทันที
ซึ่งคราวนี้ก็ย่อตัวหลบ
หลังจากนั้นก็โจมตีต่อเนื่องมาเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีอันไหนโดนชั้น
หนำซ้ำชั้นยังแทบจะไม่ได้ขยับจากจุดที่ยืนอยู่ตอนแรกเลยด้วย
อื้ม ขยับร่างกายได้คล่องแบบนี้ทำให้รู้สึกเลยว่าผลลัพธ์จากการฝึกกับรุยเอสส่งผลออกมาแล้ว
เนื้อหาที่ชั้นฝึกกับรุยเอสส่วนใหญ่ก็เป็นการใช้งานร่างกาย
ให้เข้าใจถึงการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าการพึ่งพาสกิลสายต่อสู้
อย่างอื่นก็ทำแบบที่รุยเอสทำมาจนถึงตอนนี้คือเรียนรู้วิชาดาบต่างๆด้วยการมอง
ชั้นเองก็มองการเคลื่อนไหวนั้นแล้วขยับร่างกายตามบ้าง ซึ่งถ้าเป็นชั้นตอนอยู่โลกเดิมทำไม่ได้แน่
แล้วเหตุผลที่ไม่โผล่ขึ้นมาในสเตตัสก็เพราะทุกวิชาถูกรุยเอสปรับให้เหมาะสมกับตัวเอง
จนกลายเป็นวิชาดาบชนิดพิเศษไปแล้วและไม่เพียงแค่นั้นเพราะวิชาดาบที่ว่าไม่ได้ถูกจดจำ
ในฐานะวิชาดาบกับรุยเอส ที่เรียนรู้มาจึงไม่ได้เขียนอยู่ในสเตตัสของชั้นไปด้วย
ชั้นที่ค่อยๆแสดงผลลัพธ์จากการฝึกออกมาจึงหลบการโจมตีของเฮเลนได้เรื่อยๆ
การโหมกระหน่ำโจมตีอย่างต่อเนื่องถูกส่งออกมาได้แล้วสักพัก
แต่เฮเลนที่ไม่ว่าจะโจมตีมาสักเท่าไรก็ไม่มีทีท่าว่าจะโดนชั้นเลยสักนิดเลยถอยห่างออกไปช่วงใหญ่
แล้วจ้องมองมาพร้อมหอบหายใจ
「แฮ่ก แฮ่ก...........นาย เรียนรู้วิชาดาบมาขนาดไหนกันแน่!? ในขอบเขตที่ชั้นรู้จักก็มี
การก้าวเท้าแบบเฉพาะตัวของ【สำนักดาบพริ้วลมเฮลซาด】ทั้งยังที่เข้าใจยากอย่าง
พื้นฐาน≪ดาบเทพ≫ของ【สำนักดาบเทพกัลเดีย】............แล้วยังมีการเคลื่อนไหว
ที่ไม่เคยเห็นอีกตั้งไม่รู้เท่าไร!แถมน่าจะอยู่ในระดับอาจารย์........ไม่สิ ระดับเจ้าสำนักด้วยซ้ำ
ตกลงนายเป็นอะไรกันแน่!?」
「เอ.........ก็ไม่รู้สินะ..........」
「แล้วทำไมถึงไม่รู้!?」
แหม ถึงจะพูดมาอย่างนั้นก็เถอะ...........การเคลื่อนไหวของชั้นทั้งหมดแค่ก็อบจากรุยเอสมานี่นา......
แล้วก็ถ้าอยากรู้เรื่องราวให้กระจ่าง ก็พร้อมแจ้งแถลงไข................
เหมือนคำประกาศตัวของแก็งสามคนที่โด่งดังเลยนี่น่า? ลำบากจัง
ชั้นเป็นอะไรกันแน่นะ? จะผู้กล้าก็ไม่ใช่? นักผจญภัยงั้นเหรอ? อืมมม เป็นปรัชญาน่าดูเลยแฮะ
ขณะที่กำลังคิดเรื่องว่าชั้นเป็นอะไรโดยไม่ได้ตั้งใจ เฮเลนก็ทำหน้าตึงเครียด
「........บอกตามตรง ก็ดูถูกนายไปเหมือนกัน」
「เอ๋?」
「แต่ก็ดี จะได้เห็น-----------การเอาจริงของฉัน」
พูดแล้วเฮเลนก็เอาปลายดาบสั้นในมือสองข้างมาประสานกันแล้วชี้มาทางชั้น
จากนั้นก็ย่อสะโพกลงพลางดึงดาบเข้ามาที่ข้างใบหน้าของตัวเองโดยคงปลายดาบให้ชี้มาทางชั้น
จะว่ายังไงดีล่ะ เหมือนการตั้งท่าดาบเป็นเส้นตรงที่เป็นท่าของเคนโด้เลยแฮะ
มีอยู่รึเปล่านะ? การตั้งท่าแบบนั้น
ขณะที่คิดเรื่องอื่นไปไหนต่อไหน เฮเลนก็หรี่ตาลง
「----------อย่าตายล่ะ?」
「เอ๋!? ถึงตายเลยเหรอ!?」
จะปล่อยการโจมตีอันตรายขนาดนั้นมาใส่ชั้นจริงดิ!?
แต่ก็เป็นชั้นเองที่ไม่ให้ใช้อาวุธสำหรับฝึกเพื่อที่จะให้สู้ได้เต็มที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอไง!
เฮเลนไม่สนใจชั้นที่กำลังตกใจแล้วเร่งความเร็วในชั่วพริบตาพร้อมแทงแขนสองข้างมาอย่างรุนแรง
「ศาสตร์ลับ.......【แทงทะลวงคู่】!」
ดาบสั้นที่ปลายดาบผสานกันนั้นได้หมุนควงอย่างรวดเร็วพุ่งเข้ามาที่ใบหน้าชั้น
----------ทว่าสิ่งที่เกิดกับชั้นก็แค่『ก็เร็วกว่าตอนนิดหน่อย..........มั้ง? อ้าว?
ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหนเลย!』แบบนี้
ชั้นไม่ใช่มือโปรด้านการต่อสู้นี่นา จะให้แยกความแตกต่างเล็กน้อยขนาดนั้นคงไม่ไหวหรอก
เลยขยับตัวหลบการแทงพลางจับแขนสองข้างของเฮเลนที่พุ่งเข้ามาหา
โยนไปตามแรงส่งแบบเบาๆ..............เบ๊าเบาจริงๆนะ
「กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!」
「อ้าว เวรแล้วไง」
ทว่า ที่โยนดันเป็นสัตว์ประหลาดอย่างชั้น
ขนาดตั้งใจจะโยนเบาๆเฮเลนยังโดนสอยขึ้นฟ้าไปตั้งสูงแน่ะ
ถ้าให้พูดความสูงเป็นตัวเลขก็............อืม สัก50เมตรได้มั้ง? .............มัวคิดอะไรอยู่ฟะ!?
จากที่ชั้นใช้สกิล『ตาพิภพ』กับ『ตรวจสอบ』ทำให้รู้ได้เลยว่าเฮเลนไม่มีวิชา
ที่เอาตัวรอดจากการตกจากที่สูงแบบตอนนี้แน่
สรุปคือ ถ้าตกลงมาในสภาพนี้-----------ไม่ต้องคิดแล้วเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
ชั้นรีบไปยังจุดที่เฮเลนจะตกลงมาแล้วโดดเบาๆจากที่ตรงนั้น
ทันใดนั้นก็ขึ้นไปตรงจุดที่เฮเลนอยู่ในชั่วพริบตา
เฮเลนเปิดตากว้างมองชั้นที่อยู่ๆก็โผล่มาอยู่ตรงหน้า
「อ้ะ นาย!ทำไมถึง...........」
「โทษที!พอดีคิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้!จะช่วยเดี๋ยวนี้แหละทนหน่อยนะ!」
บอกขอโทษออกไปทันทีจากนั้นก็อุ้มเฮเลนที่หน้าซีดเพราะกลัวการตกจากที่สูงด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิง
「อ้ะ!?」
「โทษนะ!ทนหน่อยแล้วกัน!」
เพราะความผิดของตัวเองทำให้เฮเลนต้องมีอันตรายถึงชีวิตชั้นเลยลนลานจนคิดอะไรไม่ออก
ด้วยเหตุนี้เลยไม่ได้คิดเรื่องง่ายๆแบบใช้เวทที่ทำให้ลงมาอย่างช้าๆ
หรือไม่ก็ใช้『บู๊ตราชาท้องฟ้า』ที่ใส่อยู่ค่อยๆเดินลงมา
ด้วยแรงลมจากการตกลงมาทำให้ฮู้ดของชั้นหลุดออกอย่างง่ายดาย
แต่ถึงอย่างนั้นชั้นในตอนนี้ก็ไม่มีเวลาไปใส่ใจกับเรื่องนั้น
เฮเลนที่ใกล้ถึงพื้นได้แต่หลับตาด้วยความกลัว
「อาจจะมีแรงกระแทกนิดหน่อย ขอโทษด้วยนะ!」
「เอ๋........」
สุดท้ายชั้นกับเฮเลนก็ตกลงสู่พื้นกันทั้งอย่างนั้นเลย
ทว่า ตรงจุดนี้สเตตัสของชั้นก็แสดงพลังออกมาด้วยเช่นกัน
ทันทีที่เท้าของชั้นสัมผัสพื้นดินก็งอเข่าอย่างได้จังหวะพอดีเวลาจนสลายแรงกระแทกออกไปได้จนหมด
นอกจากนั้นยังไม่เกิดหลุมเครเตอร์บนพื้นดินด้วย ไม่เอาแล้ว ร่างกายของชั้นมันจะแปลกไปไหนฟะ
แต่ว่าเมื่อกี้ยังไม่ได้ใช้ทักษะป้องกันตัวเลยนะแค่งอเข่าลดแรงกระแทกเฉยๆเท่านั้นเอง
แล้วยังรอดมาได้โดยไร้รอยแผลชั้นนี่มันลาออกจากความเป็นมนุษย์ไปแล้วจริงๆแฮะ
นี่ไม่ได้จะพูดถึงใครหรอกนะแต่ทั้งที่หล่นมาจากความสูงขนาดนั้นยังสบายๆนี่มัน............
จะเอายังไงกับตัวชั้นที่ไม่รู้จักขีดจำกัดดีฟะเนี่ย? ชื่อเผ่าพันธุ์『มนุษย์』นี่ตอแหลชัดๆ!
แล้วก็มองดูเฮเลนด้วยท่าอุ้มเจ้าหญิงพร้อมงอเข่าหนึ่งข้าง
และแล้วคงเพราะรู้สึกประหลาดใจที่หลับตาตั้งนานแล้วแต่แรงกระแทกก็ยังไม่มาสักที
เลยค่อยๆเปิดตาขึ้นมาอย่างกลัวๆ จากนั้นก็เปิดตากว้าง
「ฉ ฉัน..........ยังมีชีวิตอยู่.............?」
「ขอโทษด้วยจริงๆนะ?」
「หือ?」
พอเฮเลนเปิดตาขึ้นมายืนยันสภาพ ชั้นก็เอ่ยปากขอโทษ
เฮเลนที่ได้ยินคำพูดของชั้นก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองหน้าชั้น
............อืม เฮเลนนี่สวยสุดยอดเลยมองใกล้ๆแบบนี้ชักเขินแฮะแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาทำแบบนั้น
เฮเลนที่มองหน้าชั้นก็มีเสียงป๊องออกมาแต่ไม่นานก็ได้สติกลับคืนมา
เลยหน้าแดงแล้วดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของชั้น
「นะอะอะอะ!? ป ปล่อยนะ!」
「เอ๋? อ อื้ม โทษที」
ชั้นค่อยๆเอาเฮเลนวางลงบนพื้นแต่เธอก็ไม่ยืนขึ้นมาไม่ไหว
เฮเลนเลยยิ่งหน้าแดงขึ้นไปอีก
「คือว่า.........?」
「..........หน่อย」
「ครับ?」
พอถามกลับไปเพราะไม่ค่อยได้ยิน ก็เลยหน้าแดงทำตาดุใส่ชั้น
「ก ก็บอกว่า!ข..........เข่าออกจนลุกไม่ขึ้นเลยขอให้ช่วยหน่อยไง!」
「ข ขอโทษครับ!?」
กดดันน่าดู ชั้นเลยช่วยดึงตัวขึ้นมาให้พลางขอโทษ
จากนั้นก็อุ้มเฮเลนที่เข่าอ่อนจนลุกไม่ขึ้นอีกครั้งแล้วเดินกลับไปที่พวกห้องF
แต่ทว่า----------
「「「........................」」」
「เซอิจิ สุดยอดอย่างที่คิดเลย!」
「.........อ๋า นายท่านอุ้มท่าเจ้าหญิงให้ด้วย............」
ซาเรียกับรูรูเนะยังเหมือนเดิมแต่อัลกับออริก้าจังรวมถึงทุกคนที่เหลือมองชั้นด้วยสีหน้าอึ้งทึ่งกันหมด
อัลกับออริก้าจังนอกจากเวทมนตร์แล้วยังไม่เคยเห็นความเคลื่อนไหวระดับสัตว์ประหลาดของชั้น
เลยไปร่วมตกใจกับพวกนักเรียนห้องFด้วย
โชคดีที่ห้องอื่นเรียนกันอยู่ไกลเลยไม่เห็น ค่อยยังชั่วหน่อย
「เอ่อ.........พอดีกลายเป็นแบบนี้แล้ว...........จะเอาไงดีล่ะ?」
พอถามเพื่อยืนยันว่าจะให้ซ้อมต่อสู้ต่อมั้ย เฮเลนก็หน้าแดงแล้วหันหน้าหนีพลางพึมพำเสียงค่อย
「...........จ จะต่อไหวได้ยังไงล่ะ สภาพแบบนี้..........」
「งั้นเหรอ」
ขณะที่พูดคุยกันอย่างนั้น คุณเบียทริสที่เรียกสติกลับมาได้เป็นคนแรกก็รีบประกาศออกมา
「อ้ะ ค คุณเฮเลนยืนยันว่าไม่สามารถต่อสู้ได้แล้ว ............ไม่นึกเลยว่าจะไม่เป็นไรจริงๆ..........」
「ฮะฮะฮะ.........โทษทีนะครับ ขอฝากเฮเลนด้วยได้มั้ย?」
「ค่ะ เข้าใจแล้ว」
ฝากเฮเลนไว้กับคุณเบียทริสแล้ว ชั้นก็สวมฮู้ดไปตามปกติพลางหันไปหานักเรียนที่เหลืออีกครั้ง
.........สวมฮู้ดไปเองแบบไม่รู้ตัวเลยแฮะ?
แต่ที่นี่ก็มีพวกผู้กล้าอยู่ซะด้วยอย่าเปิดเผยใบหน้าอย่างโจ่งแจ้งจะดีกว่า...........
ถึงอย่างนั้นถ้าได้เจอพวกโชตะก็อยากไปพูดคุยเหมือนกัน แต่ไม่อยากเจอพวกที่เคยรังแกชั้นนี่สิ
..........ก็ไม่ได้ถึงขนาดเป็นแผลใจหรอกแต่ก็ไม่อยากอยู่ดี
แถมไม่อยากถูกดึงไปพัวพันกับปัญหา พวกซาเรียเองก็ไม่อยากให้ถูกดึงไปเกี่ยวด้วย
「เอาล่ะ ถ้างั้น...........ต่อไปใครอยากลองบ้าง?」
แม้ชั้นจะขานเรียกแต่ทุกคนยังไม่หลุดจากภาพอันน่าตะลึงเมื่อครู่นี้เลยเงียบสนิทกันหมด
ทว่าบูลุคที่ได้สติเป็นคนถัดมาก็ทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อยแล้วเอ่ยปากขึ้น
「อื้ม..........ครูเซอิจิ.........ขอเรียกอย่างนี้ได้มั้ย?」
「เอ๋? อ อื้ม」
「ถ้างั้น ครูเซอิจิ คู่ต่อสู้คนถัดไปขอเป็นผมแล้วกัน」
「ได้เลย」
「---------แต่ว่าไม่ใช่แค่ผมเท่านั้น ให้พวกอากุโนสร่วมด้วยได้มั้ย? 」
「หา!?」
กับคำพูดของบูลุคที่มีปฏิกิริยาคนแรกคืออากุโนส
「เฮ้ย..........บูลุค ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ฟะ!?」
「ก็ไม่ได้อะไรทั้งนั้นแหละ แค่มันทำให้แสดงความสามารถของข้าได้มากที่สุดก็เท่านั้น」
「ให้ช่วยแกเนี่ยนะ!?」
「นอกจากนี้จะมีอะไรซะอีกล่ะ? นี่เป็นการซ้อมต่อสู้เพื่อให้รู้ถึงความสามารถของพวกเรานะ
แล้วความสามารถที่ข้าจะแสดงออกมาดันจำเป็นต้องใช้พลังของพวกแกเลยไม่มีทางเลือกน่ะ?」
「จะอวดเก่งก็อย่างพูดจาน่าสมเพชสิฟะ!?」
「น่าสมเพช? งี่เง่าชะมัด ความคิดที่ตัวคนเดียวทำอะไรได้ทั้งหมดนั่นแหละที่โง่เขลาสิ้นดี」
ทั้งสองคนเริ่มพูดคุยหาเรื่องกันเหมือนจับคู่เล่นตลกอีกแล้ว ..............พวกนายนี่สนิทกันดีเนอะ
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าการที่บุลุคจะแสดงความสามารถออกมาได้ต้องจากหลายคนแค่คนเดียวไม่ได้
ชั้นก็ไม่ว่าอะไรหรอก แถมตอนที่ฝึกกับรุยเอสเองก็มีซ้อมการต่อสู้กับหลายคนเผื่อไว้เหมือนกัน..........
「ถ้าบูลุคต่อสู้เป็นทีมถึงจะแสดงความสามารถออกมาได้ดีที่สุดก็ไม่ว่าอะไรหรอก」
「ต้องขอรบกวนแล้ว ............เอ้า? ตกลงจะเอายังไง?」
อากุโนสที่ถูกถามก็เกาหลังหัวแกรกๆแล้วตะโกนออกมาด้วยอารมส์ยอมแพ้
「เออเออเออเออ!เอาด้วยก็ได้!เจ้าคนที่ทำอะไรตัวคนเดียวไม่ได้อย่างแกจะช่วยให้ก็ได้!」
「เฮอะ ยอมพูดมาแต่แรกซะก็จบ」
「แกนี่จะหาเรื่องกันให้ได้ใช่มั้ย!?」
『บูลุค ฉันเองก็จะช่วยด้วย』
「เบียส........ขอบใจที่ช่วยนะ」
「ปฏิบัติต่างกับข้าเลยนี่หว่า!เดี๋ยวก็ร้องไห้ซะหรอก!?」
「เชิญร้องตามสบาย」
「อุว้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
เบียสเองก็ยอมร่วมทีมกับบูลุคด้วย ............อากุโนส อย่าร้องไห้จริงๆล่ะ............
บูลุคไม่สนใยดีกับอากุโนสที่ทำท่าจะร้องไห้หันหน้าไปยังนักเรียนชายคนสุดท้าย............เลออน
「เลออน ขอยืมพลังของนายด้วยได้มั้ย?」
ทว่าเลออนกลับแสดงท่าทางหวาดกลัวอย่างรุนแรงส่ายหัวไม่หยุด
「ขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับ!
ย อย่างผมน่ะ.............!」
「...........ไม่ต้องหรอก โทษทีนะที่ขอมากไป」
ไม่รู้ยังไงหรอกนะแต่ท่าทางของเลออนมันแปลกๆยังไงไม่รู้
ก็แบบ ถึงจะพึ่งเคยเจอกันเลยยังไม่รู้เรื่องราวโดยละเอียดแต่ที่แสดงอยู่นี่รู้สึกเลยว่าเป็น
『ความหวาดกลัว』อย่างแท้จริงไม่เหมือนตอนที่แนะนำตัวเองในห้องเรียน
「เลออน? ไม่เป็นไรนะ?」
เพราะเห็นท่าทางกลัวมากเกินไปเลยลองถามดู เลออนจึงสะดุ้งขึ้นมา
「ขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับ!ผม..........ไม่อยาก..........ต่อสู้......」
เลออนก้มหน้าพูดด้วยเสียงเบาปานยุงบิน
............แบบนี้คงให้ฝืนไม่ไหวแฮะ
ในฐานะอาจารย์ก็ควรจะบังคับให้ต่อสู้เพื่อแสดงความสามารถออกมาอยู่หรอก
แต่ชั้นก็ไม่อยากฝืนมากไป
พอนักเรียนห้องFคนอื่นได้เห็นก็คงคิดว่าท่าทางของเลออนแปลกตามคาด
เลยพากันเอียงคอมองเลออนด้วยสายตาสงสัย
「งั้นเลออนไปนั่งศึกษากับคุณเบียทริสแล้วกัน」
「ขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับ.................」
เลออนเอาแต่พึมพำ『ขอโทษครับ』พลางไปตรงที่คุณเบียทริสอยู่
พอเห็นท่าทางของเลออนแล้วคุณเบียทริสเองก็คงคาดเดาอะไรได้
เลยหันหน้ามาทางชั้นแล้วพยักหน้าให้ ................ฝากให้คุณเบียทริสดูคงไม่เป็นไรมั้ง
「เอาล่ะ ในเมื่อพร้อมแล้วงั้นมาเริ่มกันเลยมั้ย?」
ชั้นกลับมายืนตรงตำแหน่งที่สู้กับเฮเลนอีกครั้งแล้วชักWhiteออกมา
พร้อมกันนั้นบูลุคก็ชักดาบยาวธรรมดา เบียสหยิบสนับมือขึ้นมาสวม
ส่วนอากุโนสเป็น..............ไม้เบสบอลตอกตะปู
「เอ่อ...........อากุโนส? อาวุธของอากุโนส...............คือนั่นเหรอ?」
「ครับผม!อาวุธที่ผมใช้เป็นประจำ-------【เงาแดงไม่เจรจากับพวกงี่เง่า(Full swing)】!」
นั่นอ่ะนะชื่ออาวุธ!แต่ก็สมกับที่แนะนำตัวเองว่า『ขอความกรุณาด้วย』เลยอ่ะนะ!?
ชื่องี้สมกับเป็นนักเลงเลย!
เบียสเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงใช้อาวุธนั้นแต่ก็เหมาะกับสนับมือมากเลย
เห็นแต่ละคนเตรียมอาวุธพร้อมเลยจะทำการเริ่ม บูลุคก็ยกมือขึ้นมา
「ครูเซอิจิ ขอเวลาสักนิดได้มั้ย? คืออยากได้เวลาวางแผนหน่อย」
「เอ๋? อ อื้ม ไม่มีปัญหา」
ก็การวางแผนเป็นเรื่องสำคัญนี่นะ สำหรับชั้นไม่ค่อยถนัดกับเรื่องแบบนี้หรอก
ช่วงที่ชั้นว่างระหว่างรอการวางแผนเลยใช้สกิล『ตาพิภพ』ดูพวกบูลุคกับเลออน
และแล้วก็ตามที่คาด พวกบูลุคนั้นมีพรสวรรค์ในการใช้เวทมนตร์แต่ยังอยู่ในสถานะไม่ปรากฏออกมา
ทว่ามีแต่เลออนเท่านั้นที่ผิดกัน
พอใช้สกิลดู ก็แสดงเวทมนตร์ที่เลออนใช้ได้ออกมาเหมือนกัน ทว่า------มีถึง5ธาตุแน่ะ
จากการตรวจสอบที่ห้องสมุดในปราสาทหลวงกับห้องสมุดของเทลเวล
โลกนี้แค่สามารถใช้เวทได้ถึง2ธาตุก็สุดยอดแล้ว
สรุปคือพูดได้เต็มปากว่าเลออนเป็นอัจฉริยะของแท้
แต่นั่นแหละที่ไม่เข้าใจ
ทำไมเลออนถึงมาเป็นนักเรียนห้องFแบบนี้ อะไรทำให้ขี้ขลาดมองตัวเองต่ำต้อยถึงขนาดนั้น
ไม่เข้าใจเลยสักนิด
ขณะที่เผลอครุ่นคิดกับเรื่องนั้น ดูเหมือนว่าพวกบูลุคจะพูดคุยกันเสร็จแล้วเลยตั้งท่าเตรียมอาวุธกัน
「โทษทีที่ต้องให้คอย」
「เปล่า ไม่เป็นไรหรอก งั้นก็เชิญเริ่มก่อนได้เลย」
พูดแล้วชั้นก็จับWhiteขึ้นมาเตรียมพร้อม
จากนั้น------------
「งั้น ผมขอเริ่มก่อนเลยแล้วกันนะลูกพี่!」
อากุโนสพุ่งเข้ามาหาชั้น
เงื้อไม้เบสบอลตอกตะปูมาอย่างกว้างแล้วพาดลงมาที่หัวของชั้น
.............อากุโนสเองก็เหมือนกับเฮเลนเลยแฮะ ไม่มีการลังเลเลยสักนิด
พอหลบการโจมตีนั้นแบบสบายๆ อากุโนสก็ใช้ไม้เบสบอลที่ฟาดลงมาเป็นแกนหมุนตัวเตะเข้ามา
「โอร่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
「!」
เพราะไม่คิดว่าจะเคลื่อนไหวได้ราวกับกายกรรมถึงขนาดนั้น เลยตั้งตัวไม่ติดไปชั่วพริบตา
ไม่สิ เพราะรุยเอสพออาวุธแตะพื้นก็รีบถอยทิ้งระยะห่างทันทีต่างหาก..............
คิดถึงตรงนั้น ชั้นถึงได้รู้ตัวว่าติดนิสัยแปลกๆในการต่อสู้ในการสู้ระหว่างบุคคลซะแล้ว
ไม่ไหวแฮะ............ทั้งที่การเคลื่อนไหวต่างคนก็ต่างกันไปแท้ๆ............นิสัยแบบนี้ต้องรักษาให้ได้
ขณะที่คิดเรื่องนั้นอยู่ก็หลบการโจมตีที่คาดคะเนไม่ออกไปเรื่อยๆ
จะว่ายังไงดีล่ะ การโจมตีของอากุโนสนี่เป็นการโจมตีที่อิสระดีจัง
ต่างกับการเคลื่อนไหวที่ถูกขัดเกลาของเฮเลนที่สู้ด้วยเมื่อกี้เลย
เรื่องนั้นสรุปคือเป็นการโจมตีที่อ่านได้ยากมาก และเพราะอ่านได้ยาก
ทำให้ชั้นได้แต่เคลื่อนไหวไปเองตามสัญชาตญาณ
「อ้ะ!」
ชั้นที่ประสบการณ์ในการต่อสู้น้อยพอโดนจี้จุดที่ไม่คาดคิด ทำให้ร่างกายที่อุตส่าห์ฝึกมา
เพื่อที่จะไม่ต้องถูกสกิลควบคุมก็โดนสกิลควบคุมโดยไม่รู้ตัวอีกจนได้
ครั้งนี้แม้จะเผลอแต่ก็เพื่อการป้องกันตัว Whiteที่ถูกแทงออกไปจึงยั้งไว้ได้แบบสุดๆ
ถ้าเป็นปกติล่ะก็อากุโนสคงจบตรงนี้แล้ว
แต่ทว่า----------
「!」
คาดไม่ถึง เบียสนั้นปรากฏตัวออกมาอยู่ตรงหน้าอากุโนสที่จะโดนWhiteของชั้นแทง
โดยใช้สนับมือหนีบบนล่างป้องกันการโจมตีเอาไว้
จริงอยู่ที่เพราะยั้งไว้แบบสุดๆเลยมีความเร็วอยู่ในระดับที่หลบหรือสวนกลับมาได้
แต่ก็ด้วยความขาดประสบการณ์ของชั้นเลยเปิดช่องว่างอีกแล้ว
อากุโนสไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดรอดไปได้กระหน่ำการโจมตีที่คาดเดาไม่ได้เข้ามาอีกครั้ง
「โอร่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
「โอ๊ะ」
แต่ก็เพราะเป็นสัตวประหลาดอย่างชั้นอีกนั่นแหละ
ด้วยพลังกายระดับสัตว์ประหลาดที่ใช้งานได้คล่องแคล่วทำให้หลบได้ทั้งหมด
..........แม้อากุโนสกับเบียสจะโจมตีประสานชนิดหายใจเข้าคู่กันแต่ก็ยังเอามาเทียบระดับกับชั้นไม่ได้อยู่ดี
จริงอยู่ที่ด้วยสเตตัสของชั้นต่อให้ฝีมือการต่อสู้ระดับมือสมัครเล่นก็คงไม่มีทางแพ้
แต่ในการต่อสู้หากแสดงส่วนที่เป็นมือสมัครเล่นออกมามากก็อาจพลาดครั้งใหญ่ขึ้นมาก็ได้?
ความรู้สึกคงประมาณนี้มั้ง
แต่แทนที่จะห่วงเรื่องแพ้ชั้นกลับห่วงเรื่องความเสียหายรอบข้างมากกว่า
ยังไงก็ตามแต่ทำหัวให้เย็นลงแล้วคอยใจเย็นๆหลบการโจมตีของอากุโนสกับเบียสไปเรื่อยๆอย่างนี้แหละ
----------ทว่าชั้นกลับลืมนึกไปสนิท
「ลืมผมไปรึเปล่า?」
อยู่ๆก็มีเสียงมาจากด้านหลังของชั้น
ไม่ต้องคิดก็รู้เลยว่าเป็นเสียงของบูลุค
ใช่แล้ว ชั้นเอาแต่ตั้งสมาธิกับอากุโนสและเบียสที่อยู่ตรงหน้าจนลืมตัวตนของบูลุคไปสนิท
พอหันไปด้านหลังก็มีคมดาบมาอยู่ตรงหน้าแล้ว
แม้สำหรับชั้นแล้วจะเข้ามาอย่างช้ามากเลยแต่อีกไม่กี่มิลก็จะโดนชั้นแล้ว
อา แบบนี้ก็หลบไม่พ้นแหง............ก็มีเผลอคิดแบบนี้อยู่หรอกนะ
..............แต่ก็คาดไม่ถึงเลยว่าร่างกายของชั้นจะพลิกสถานการณ์ได้
สกิล『ป้องกันอัตโนมัติ』ที่ควบคุมไม่ได้ทำงานของมันเองอีกแล้ว
ร่างของชั้นย่อตัวลงอย่างรุนแรงพลางเตะกวาดที่บริเวณเท้าของทั้งสามคน
พลังโจมตีที่ไม่มีทางป้องกันได้ของชั้นกวาดขาของทั้งสามคนได้อย่างง่ายดาย
พอยืนยันการล้มไปกองกับพื้นของแต่ละคนด้วยสายตาสโลโมชั่นของชั้น
ร่างกายของชั้นก็ยังปล่อยคมดาบเล็กๆไปเฉียดหน้าของทั้งสามคนจนเหลือรอยฟันเล็กๆทิ้งไว้บนพื้น
จากนั้นชั้นก็ชี้Whiteไปจ่อบูลุค
.............................................
ทำไปอีกแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววว!
พยายามเท่าไรก็ควบคุมไม่ได้สักทีเลยเฟ้ย!ทั้งที่เป็นร่างกายของชั้นแท้ๆ!
พอมีการโจมตีที่เป็นอันตรายเข้ามาใกล้ทีไรร่างกายมันขยับไปเองทุกที
ชั้นยังอ่อนหัดอยู่จริงๆด้วย
เผลอตัวง่ายๆ ทั้งยังโดนหลอกอีก.............
ต่อให้มีสกิลร้ายกาจขนาดไหน หากไม่สามารถควบคุมได้มันจะไปมีความหมายอะไร
ร่างกายคงอยากจะบอกอย่างนี้กับชั้นสินะ
แน่นอน ตอนที่ต่อสู้ก็ทำให้ได้รู้ถึงวิธีการต่อสู้ของแต่ละคนเป็นที่เรียบร้อย
แต่เหนือสิ่งอื่นใดทำให้รู้ถึงสิ่งที่ต้องเก็บไปแก้ไขของชั้นด้วย
พูดไปอาจฟังดูแปลกแต่สรุปคือชั้นยังเก่งขึ้นไปกว่านี้ได้อีก
..................ที่สำคัญคืออยากให้ร่างกายของชั้นเลิกซี้ซั้วขยับไปเองอ่ะนะ..............
ขณะที่คิดแบบนั้นอยู่ อากุโนสก็มองมาด้วยตาเป็นประกาย เบียสเอาสเก็ตบุคออกมา
บูลุคยิ้มเศร้าพลางพูดกันออกมา
「ส สมกับเป็นลูกพี่!ขอยอมแพ้เลยครับ!」
『ยอมแพ้แล้ว』
「ฮิ..............หน้าตาใต้ฮู้ดนั่นก็ดี ทั้งยังเก่งเป็นสัตว์ประหลาดอีก............
ครูประจำชั้นคนใหม่มีเรื่องให้พวกเราตกใจเยอะจริงนะ ยอมแพ้ก็ได้」
ดูเหมือนว่าทุกคนจะยอมแพ้แล้วแฮะ
หน้าตาไม่รู้ว่ายังไงหรอกนะแต่เกี่ยวกับความเก่งนี่...............อื้ม เอาเป็นว่าไม่ได้ยินแล้วกัน
แต่ขอพูดสักประโยคนะ
ที่ตกใจที่สุดน่ะมันชั้นต่างหาก!