ตอนที่ 67 ความขุ่นเคืองใจ
「เอาล่ะ การแนะนำตัวเองจบเรียบร้อย ต่อไปจะทำการคืนผลสอบวิชาสมุนไพรเมื่อครั้งก่อน
ให้ออกมารับตามชื่อที่เรียกทีละคนนะคะ」
หลังจากทุกคนแนะนำตัวเองเสร็จ คุณเบียทริสก็พูดเรื่องนั้นออกมา
ก็แหงล่ะ เพราะก่อนหน้าที่ชั้นจะมาปกติคุณเบียทริสก็เป็นคนสอนในฐานะครูประจำชั้นอยู่แล้ว
การที่เป็นคนคืนผลสอบให้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก
「อากุโนสคุง」
「โอ๊ส!ฮึ อย่างผมน่ะเรื่องผลสอบ--------」
「ศูนย์คะแนน」
「โกหกน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!? แต่ มาแฉคะแนนกับแบบนี้โหดร้ายอ่ะ เจ๊เบียทริส! 」
อากุโนสร้องเสียงหลงกับผลสอบที่คุณเบียทริสยื่นให้
ก็รู้สึกสงสารหรอกนะที่ถูกแฉคะแนน แต่สอบได้ศูนย์แบบนี้ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ย?
คุณเบียทริสนวดหว่างคิ้วพลางพูด
「ทำไมถึงคิดว่าคำตอบแบบนี้จะได้100คะแนน.............」
「แบบว่า ก็มัน..........」
「วิธีทำยารักษาขั้นกลาง?」
「พลังใจ!」
「ประสาทดีรึเปล่าหา?」
เอาจริงดิ
พอชั้นไล่มองข้อสอบของอากุโนส ทั้งหมดมีเขียนคำเดียวคือ『พลังใจ』แล้วจบแค่นั้น
เฮ้ย คิดได้ไงฟะว่าคำตอบแบบนี้จะได้100คะแนนเต็ม!? สมองกล้ามมันก็มีขีดจำกัดนะเฟ้ย!
「ผมไม่ผิดนะ!พลังใจ ที่ทำไม่ได้แค่มีพลังใจไม่พอเท่านั้น!
ทุกอย่างในโลกนี้ทำได้ด้วยพลังใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ!」
「เข้าใจล่ะ งั้นอากุโนสคุงช่วยกลายเป็นผู้หญิงทีสิ」
「ขอโทษครับที่พูดไม่คิด」
ยอมไวชิบ!รับผิดชอบคำพูดของตัวเองหน่อยสิฟะ!ไม่มีพลังใจเอาซะเลย!?
อากุโนสเดินอย่างหมดเรี่ยวแรงกลับไปนั่งที่ ............น่าเศร้าจังเนอะ
「เฮ้อ........ต่อไป บูลุคคุง」
「เฮอะ」
บูลุคที่ถูกเรียกเป็นคนถัดมาเดินอย่างสง่ามารับผมสอบ
「คะแนนดีมากเลยนะคะ ครั้งต่อไปก็พยายามให้ได้แบบนี้ล่ะ」
「ของมันแน่นอนอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้」
「ทำไมคะแนนของเจ้านี่ดีแต่คะแนนของข้าไม่ดีกัน!รับไม่ได้เฟ้ย!」
「แกน่ะบ้ารึเปล่า คำตอบของแกน่ะมันไม่ใช่คำตอบ คะแนนมันก็ต้องแย่อยู่แล้ว」
「ไม่ใช่!แค่พลังใจไม่พอต่างหาก!?」
「งั้นอากุโนสคุง ช่วยแก้ผ้าบุกปราสาทที่ไหนสักแห่งให้ดูทีสิ」
「ขอโทษครับ」
อากุโนสที่แง่งใส่บูลุคสุดท้ายเจอคุณเบียทริสจัดการในประโยคเดียว
แต่ว่านะ..........ไม่พูดดีกว่า
ว่าที่กิลด์ศูนย์ใหญ่น่ะมีคนโรคจิตที่แก้ผ้าไม่อายฟ้าดินเก่งขนาดบุกปราสาทได้อยู่
เบียสที่ถูกเรียกถัดมาก็รับผลสอบไปโดยไม่พูดอะไรแล้วกลับไปนั่งที่ทั้งอย่างนั้น
ก็แอบมองอีกเหมือนกัน ซึ่งผลสอบของเบียสนั้นได้สูงถึง90คะแนนแน่ะ
..............ปริศนาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ทว่าผลสอบของเลออนที่ถูกเรียกเป็นคนถัดมาทำให้ชั้นเปิดตากว้าง
「น นี่มัน...........」
「เฮ้อ.........เอาอีกแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะเป็นอย่างนี้ประจำแหละ」
「ประจำ!?」
คำพูดของคุณเบียทริสทำให้ตกใจมากจนกลับไปดูผลสอบของเลออนอีกครั้ง
ต่อให้ยังไงก็เถอะนะ............
「เลออนคุง ช่วยตอบคำถามให้ดีๆสักทีได้มั้ยคะ」
「ขอโทษครับขอโทษครับ!ตตตตแต่ อย่างผมไม่กล้าโอหังเขียนคำตอบลงไปหรอกครับ!
อีกอย่าง อักษรที่ผมเขียนได้เห็นจะชวนให้รู้สึกไม่ดีด้วย............!
เพราะงั้นต้องขอโทษด้วยจริงๆครับ!แล้วก็ขอโทษครับที่ทำให้สายตาของครูต้องเปรอะเปื้อน!
อ้ะ!? ที่เถียงไปก็ขอโทษด้วยครับขอโทษด้วยครับ!จะไม่พูดแล้วครับ!」
เหลือเชื่อเลย ข้อสอบของเลออนมีเขียนแต่คำว่า【ขอโทษ】แถมยาวๆหน่อยก็จะเป็น
『จะให้คนอย่างผมแสดงความคิดเห็นมันดีเกินไปครับ!อีกอย่างให้เห็นตัวอักษรของผม
.............ขอโทษครับ อ้ะ!แต่นี่ก็เป็นอักษรนี่นา...........ขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับ
ขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับขอโทษครับ』แบบนี้
ขนลุกฟ่ะ!รู้สึกได้ถึงความผิดปกติทางจิตเลยวุ้ย!?
นี่มันก้าวเหนือขอบเขตที่เรียกว่าNegativeไปแล้ว!?
อีแบบนี้แค่มาโรงเรียนได้อย่างปลอดภัยนี่ก็นับเป็นปาฏิหารได้เลยนะเนี่ย!
ยังมีชีวิตมาจนถึงตอนนี้ด้วยนิสัยแบบนี้ได้นะ...............ปกติต้องคิดอะไรน่ากลัวอย่างฆ่าตัวตายไปแล้ว
เรื่องฆ่าตัวตายนี่ไม่ได้ล้อเล่นนะ
ที่โลกเดิมน่ะถึงจะไม่ค่อยมีโอกาสคิดแบบนั้นแต่ก็เคยคิดอยากฆ่าตัวตายเหมือนกัน
แต่จะให้ฆ่าตัวตายกับการถูกแกล้งน่ะไม่เอาด้วยหรอก
ทำไมต้องตายเพื่อเจ้าคนที่มาแกล้งด้วยล่ะ เหลวไหลสิ้นดี
ไม่ว่าจะขมขื่นยังไงก็มีแค่ความตายเท่านั้นที่ไม่คิด
คนที่ลำบากกว่าชั้นน่ะยังมีอยู่ตั้งมากมาย................คิดแนวๆนี้
เพราะความคิดนั้นทำให้ชั้นอยู่มาได้จนถึงเดี๋ยวนี้
ก็นะเรื่องของชั้นยังไงก็ช่างเถอะ
กังวลจังว่าเลออนไม่เคยคิดเรื่องฆ่าตัวตายบ้างเหรอ แต่ในเวลาเดียวกันก็กลัวจะคิดเหมือนกัน
............ช่วยมีชีวิตอย่างเข้มแข็งทีเถอะ
หลังจากนั้นเฮเลนกับเรเชลก็มารับผลสอบต่อซึ่งก็ได้90คะแนนกันทั้งสองคนไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
ถึงจะมีบรรยากาศคุยด้วยยากแต่ทั้งเฮเลนและเรเชลสำหรับห้องนี้แล้วก็ถือเป็นเด็กดี
.............ไม่สิไม่สิไม่สิ!ชั้นถลำลึกไปแล้วแฮะ!? ก็ทั้งสองคนไม่ใช่เด็กที่ยอดเยี่ยมอะไรเป็นพิเศษ
แค่คนรอบข้างมันพิลึกเกินไปเท่านั้นเอง!? เกือบไปแล้ว!สามัญสำนึกของชั้นเกือบตั้งมาตรฐาน
ให้อยู่ระดับพวกโรคจิตซะแล้ว...............!อ้ะ อีกอย่างทันทีที่รู้สึกตัวอย่างกับว่าได้ยินเสียงหัวเราะ
ของพวกโรคจิตที่กิลด์ศูนย์ใหญ่แว่วเข้าหูมาด้วยอ่ะ!
ขณะที่พยายามสลัดภาพหลอนที่ลอยขึ้นมา ก็มาถึงคราวของอิเรเน่
หล่อนนั้นเดินอย่างสละสลวยเข้ามาหาคุณเบียทริส
「นี่ค่ะ คุณอิเรเน่ 100คะแนนเต็มแบบไร้ที่ติ」
「ขอบคุณมากค่ะ แต่ว่าเรื่องที่ฉันสมบูรณ์แบบมันก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วล่ะ」
พูดแบบแสดงความเห็นไปธรรมดาๆไม่ได้โอ้อวดอะไรแล้วยิ้มแบบสบายๆ
ชั้นก็แอบมองซึ่งคะแนนของอิเรเน่ก็100เต็มจริงๆแถมคุณเบียทริสเองก็พอใจด้วย
100คะแนนเต็มนี่ขนาดที่โลกเดิมยังไม่ค่อยได้เห็นเลยแต่ดูจากท่าทางของอิเรเน่
ราวกับว่า100คะแนนเป็นเรื่องปกติธรรมดา .............ไม่สิ แล้วทำไมถึงมาอยู่ห้องนี้ได้ล่ะ?
อย่างเธอไม่น่าตกมาอยู่ในบรรดาพวกของเหลือได้เลย ชั้นอดไม่ได้ที่จะเอียงคอสงสัย
ไม่สิ ไม่ใช่แค่อิเรเน่เท่านั้น บูลุคกับเบียสก็ด้วย..........
「ถ้างั้น คนสุดท้าย...........คุณฟลอร่า」
「ค่ะ!」
「ปกติค่ะ」
「นี่ก็เจ็บไปอีกแบบนะคะเนี่ย!?」
ฟลอร่าที่ถูกรูรูเนะเหยียบจนถึงตะกี้ตบมุขคำพูดของคุณเบียทริส
อ๋อเหรอ สำหรับเธอความผิดปกติเป็นคำชมสินะ ..............สายเกินแก้ซะแล้ว
คุณเบียทริสที่คืนผลสอบให้ทุกคนเรียบร้อยก็มาพูดกับชั้น
「ถ้างั้น คุณเซอิจิคะ เกี่ยวกับตารางประจำวันนี้...........ให้ใช้กำหนดการของวันนี้ทั้งวัน
ตรวจดูความสามารถของทุกคนเห็นว่าเป็นยังไงบ้างคะ?」
「ทุกคนที่พูดถึงนี่...........นักเรียนห้องFทุกคนสินะครับ?」
「ค่ะ ถ้าแค่ดูตามผลสอบวิชาสมุนไพรจะเห็นได้ว่าในภาคทฤษฏีอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี
แต่ในคาบเรียนภาคปฏิบัติจากนี้ไปจำเป็นต้องให้คุณเซอิจิช่วยสอน
เพื่อการนั้นเลยอยากให้ใช้วันนี้ทั้งวันตรวจดูความถนัดของพวกเขาแต่ละคน」
「อย่างนี้นี่เอง...........ถ้าคุณเบียทริสบอกว่าภาคทฤษฏีไม่มีต้องห่วงงั้นก็ไม่เป็นไรครับ」
ยังไงชั้นก็ไม่เข้าใจวิธีดำเนินการในทางทฤษฏีดีอยู่แล้ว
พอคุณเบียทริสได้ยินคำตอบของชั้นก็พยักหน้าแล้วหันไปทางทุกคนอีกครั้ง
「เอาล่ะทุกคน คิดว่าคงได้ยินการสนธนาเมื่อกี้แล้ว วันนี้เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธ์กับคุณเซอิจิ
ที่เป็นครูประจำชั้นคนใหม่ เชิญใช้สนามฝึกสำหรับคาบเรียนภาคปฏิบัติได้ทั้งวันเลยค่ะ」
「เจ๋งเป้งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!เท่านี้ก็ไม่ต้องเรียนแล้ว!」
อากุโนสส่งเสียงดีใจกับคำพูดของคุณเบียทริส ก็นะเรื่องที่ไม่ชอบการเรียนนี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เข้าใจ
แต่พอมาคิดถึงคนที่อยากเรียนแต่ไม่ได้เรียนในโลกนี้แล้ว
ก็ไม่ค่อยอยากให้ประกาศออกมาโจ่งแจ้งแบบนี้สักเท่าไร
ว่าแต่บอกว่าเชื่อมสัมพันธ์แต่ไหงสถานที่ดันเป็นสนามฝึกล่ะ ชักหวั่นๆแล้วสิ
「ถ้างั้น ก่อนคาบแรกจะเริ่มก็ให้ไปที่สนามฝึกกันเลยนะคะ
แล้วอาจจะมีนักเรียนของชั้นอื่นไปใช้ด้วย อย่าไปรบกวนเขาเด็ดขาดล่ะ」
『ครับ/ค่า』
พอทุกคนตอบกลับ คนในห้องFรวมถึงพวกซาเรียก็ไปยังสนามฝึกกัน
อัลเองก็เดินตามพวกซาเรียไปด้วย
「อ้ะ คุณเบียทริส ขอเวลาเดี๋ยวนึงได้มั้ยครับ?」
「ค่ะ มีปัญหาอะไรคะ?」
「คือคิดว่ายังไงก็อยากได้ตารางสอนเพื่อความสบายใจน่ะครับ............」
「นั่นสินะ..........ฉันเองก็ลืมคิดไป ถึงคุณเซอิจิจะรู้ว่าต้องมาทุกวันแต่ก็ไม่รู้ว่า
ต้องสอนเวลาไหนนี่นา ต้องขอโทษด้วยนะคะ」
「เปล่า ไม่เป็นไรครับ!ไม่ต้องใส่ใจหรอก」
「ขอบคุณมากค่ะ ถ้างั้นพวกเราก็ค่อยตามไปหลังจากที่ไปห้องพักครูแล้วกัน」
「ครับ!..........ออริก้าจังล่ะว่าไง? จะไปที่สนามฝึกก่อนมั้ย?」
「...........ไม่ จะไปด้วยกัน」
「ง งั้นเหรอ」
「.........อีกอย่าง..........」
「?」
「.........หลงทางด้วย」
นั่นสิเนอะ
ก็โรงเรียงนี้น่ะกว้างจะตาย แบบนี้ต้องมีห้องเรียนที่ยังไม่เคยได้ใช้อยู่แหง!?
ขนาดชั้นเองยังไม่มั่นใจเลยว่าจะกลับหอพักชายถูกมั้ย?
ทั้งที่มีสกิล【จดจำสมบูรณ์แบบ】แต่ยังไม่เห็นวี่แววของการทำงานเลย หรือทำแล้วแต่ไม่รู้สึกตัว?
ขณะที่คิดเรื่องไร้สาระแบบนั้นไปพลางพวกเซอิจิก็ตามคุณเบียทริสไป
◆◇◆
นักเรียนห้องFที่ออกไปจากห้องเรียนก่อนพวกเซอิจิกำลังอยู่ในระหว่างเดินไปสนามฝึกด้วยกัน
「ยังไงก็เถอะ.............เจ้าเซอิจิที่ว่านี่มันเป็นใครกันแน่? ขนาดโดนข้าขู่ยังไม่หงอเลย」
「เฮอะ ก็ง่ายๆแค่แกไม่น่ากลัวเท่านั้นแหละ」
「ว่าไงนะเฮ้ย!?」
「เลิกเห่าสักที น่าสังเวชชะมัด」
「หาเรื่องสินะ? นี่ตั้งใจหาเรื่องสินะ?」
「ค คือว่า...........ทะเลาะกันมันไม่ดี............ข ขอโทษครับขอโทษครับ
ที่เสนอหน้าออกความเห็น ต้องขอโทษด้วยครับ!」
เรื่องที่อากุโนสตอบสนองกับคำพูดของบูลุคนั้นนอกจากเลออนแล้วทุกคนเดินกันต่อไปไม่ใส่ใจ
จากนั้นพอทั้งสองคนได้ฟังคำพูดของเลออนเลยทำหน้าเหนื่อยใจออกมาพร้อมกัน
「อีกแล้วเหรอ..........」
「เฮ้อ........ช่วยทำอะไรกับนิสัยของแกหน่อยได้มั้ย? จะขี้กลัวเกินไปแล้ว..........
แค่ออกความเห็นน่ะไม่มีใครเขาโกรธกันหรอก」
「ขอโทษครับขอโทษครับ!ที่ต้องมาคอยดูแลต้องขอโทษด้วยครับ!」
「...........เฮ้อ..........」
ถ้านิสัยมันเปลี่ยนกันง่ายๆก็คงไม่ต้องลำบากแล้วล่ะ...........นี่คือสิ่งที่บูลุคคิดพลางถอนหายใจอีกรอบ
「แต่ว่าถึงจะไม่เกี่ยวกับที่พูดเมื่อกี้ ข้าเองก็ไม่รู้ที่มาของครูประจำชั้นคนใหม่นั่นเหมือนกัน
หน้าตาเองก็ปิดฮู้ดไว้จนมองไปเห็น ขนาดความสามารถยังไม่รู้เลยว่ามีเท่าไร」
「เรื่องนั้นยังไงเดี๋ยวก็ได้รู้จากนี้แหละใช่มะ? ก็เจ๊เบียทริสเป็นคนบอกเองว่าจะให้คาบเรียนวันนี้
เป็นการฝึกปฏิบัติทั้งหมด」
「นั่นสินะ...........เบียส แกเห็นว่าครูประจำชั้นคนใหม่เป็นไง?」
จู่ๆบูลุคหันไปพูดคุยกับเบียส แต่เบียสก็ยังเอาสเก็ตบุคออกมาเหมือนเดิมแล้วเอาให้ดู
『คิดว่าเป็นคนดีนะ』
「คนดี.........สินะ......... แกเองก็เหมือนเดิมเลยนะ」
การตอบกลับที่เหมือนทุกครั้งทำให้บูลุคได้แต่ฝืนยิ้ม
นอกจากที่คุยกันแบบนั้น ฟลอร่าก็ชวนพวกซาเรียคุยด้วยท่าทางคึกคัก
「เน่เน่เน่!คุณซาเรียกับคุณรูรูเนะนี่เป็นคนรู้จักกันเหรอ!?
มีความสัมพันธ์กันยังไงเราอยากรู้จังเลย」
「ใช่แล้วล่ะー แถมไม่ใช่แค่รูรูเนะจังเท่านั้นน้า อัลกับออริก้าจัง...................แล้วก็เซอิจิด้วย!」
「เอ๋?」
คำพูดของซาเรียทำให้ฟลอร่าแสดงสีหน้าตกใจออกมา
และไม่ใช่แค่ฟลอร่าเท่านั้น ทุกคนที่บังเอิญได้ยินก็ตกอยู่ในสภาพเดียวกัน
..........แต่ของเบียสก็ยังอ่านสีหน้าไม่ออกเหมือนเดิม
「อา.............เอ่อ............กับครูนี่มีความสัมพันธ์ยังไงกันเหรอ..........?」
ฟลอร่าที่เรียกสติกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็วก็ถามไปอย่างละล้าละลัง
ซึ่งซาเรียก็ตอบกลับทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
「เจ้าสาว!」
「เเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเเอ๋!?」
「ส่วนฉันเป็นทาสรับใช้」
「ทาสสสสสสสสสสสสสสสรับใช้!?」
「อัลเองก็เป็นคนรักของเซอิจิด้วยนา」
「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?」
ฟลอร่าตะลึงอย่างต่อเนื่อง
แค่ซาเรียพูดอย่างเด็ดขาดว่าเป็นเจ้าสาวก็เกินพอแล้ว หลังจากนั้นยังตามด้วยรูรูเนะที่พูดอย่างภูมิใจ
ส่วนอัลหน้าแดงกับคำพูดของซาเรียจนต้องหันหน้าหนี
สรุปคือ ไม่มีใครปฏิเสธ
ฟลอร่าที่ยืนยันคำพูดทั้งหมดก็นึกอีกเรื่องขึ้นได้เลยถามแบบตะกุกตะกักไปอีก
「ง งั้น..........เด็กตัวน้อย.........ออริก้าจังล่ะ? เด็กคนนั้นเป็นอะไรกับครูเหรอ............?」
「ออริก้าจัง? ออริก้าจังก็เป็นน้องสาวของเซอิจิไง!」
「น น้องสาว..............น นั่นสินะ!ถ้าขนาดเด็กยังเอาด้วยก็เป็นอาชญากรรมแล้วเนอะ!」
ถ้าเซอิจิอยู่ที่นี่ล่ะก็คงคิดอยากให้เอาคำพูดนี้ไปบอกโลลิค่อนที่กิลด์ศูนย์ใหญ่อย่างแน่นอน
บูลุคที่ได้สติกลับคือมาช้าไปเล็กน้อยก็พึมพำเสียงค่อย
「.........ปริศนามีแต่จะมากขึ้นเรื่อยๆแฮะ...........」
「...........พี่」
「หา?」
จู่ๆอากุโนสที่เดินอยู่ด้านข้างบูลุคก็ก้มหน้าพลางพึมพำอะไรสักอย่างออกมา
พอบังเอิญถามกลับไปก็เงยหน้าควับขึ้นมาพร้อมตะโกนด้วยตาเป็นประกาย
「ล ลูกพี่!ต้องคนนี้สิถึงเหมาะจะเรียกว่าลูกพี่!เป็นชายในหมู่ลูกผู้ชายของแท้!」
「..................อ๋อเหรอ」
จากท่าทางของอากุโนส ครูประจำชั้นคนใหม่ท่าจะลำบากซะแล้ว............คิดแบบนั้นอยู่ในใจ
「โหย ครูคนใหม่สุดยอดจังเน้อ」
「ก็นะ การจะมีผู้หญิงเข้าหาได้ก็ต้องมีความสามารถ ของมันแน่อยู่แล้ว
ยิ่งได้สาวสวยจากในห้องเราไปถึงสามคนยิ่งสุดยอดเข้าไปใหญ่」
สำหรับโลกนี้ ผู้มีอำนาจหรือมีความสามารถจะมีชายหญิงเข้าหาเพื่อการมีทายาทอันยอดเยี่ยม
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ด้วยเหตุนี้ การจดทะเบียนซ้อนอย่างการมีสามีหรือภรรยาหลายคนจึงสามารถยอมรับกันได้
สรุปคือในเวลานี้สำหรับห้องF ตัวตนของเซอิจิที่มีสัมพันธ์แบบคนรักกับพวกซาเรีย
ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถหรือมีอำนาจมากล้นอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน
ขณะที่เรเชลกับอิเรเน่พูดคุยกันอย่างนั้นอยู่ เฮเลนที่ปกติจะไม่พูดคุยกับใครก็เข้าไปหาซาเรีย
พอเห็นท่าทางอย่างนั้น นักเรียนคนอื่นก็ประหลาดใจกันอีกครั้ง
ส่วนซาเรียที่เฮเลนเข้ามาหาก็ทำท่าเอียงคอ
「มีอะไรเหรอ?」
「..........เธอ เป็นคนรักของครูประจำชั้นคนใหม่สินะ?」
「อื้ม ใช่แล้วล่ะー!」
「......งั้นหมอนั่นเก่งมั้ย?」
กับคำถามที่ไม่มีความสัมพันธ์กันเลยนั้นทำให้ซาเรียแสดงสีหน้าไม่เข้าใจออกมา
แต่ก็ยิ้มแย้มอีกครั้งแล้วตอบไปอย่างชัดเจน
「เก่งมากๆเลยー!」
「.........เหรอ」
ได้ฟังแค่นั้น เฮเลนก็กลับไปเดินคนเดียวโดยทิ้งระยะห่างจากทุกคนนิดหน่อยเหมือนตอนแรก
สุดท้ายซาเรียก็ไม่เข้าใจถึงความต้องการของเฮเลนแต่ระหว่างที่กระชับความสัมพันธ์กับทุกคนในชั้น
ก็มาถึงสนามฝึกจนได้
พอทุกคนไปถึงสนามฝึกก็เจอคนอยู่หลายสิบคนซึ่งก็เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นห้องอื่นที่มาใช้สนามฝึกอยู่
「ชิ...........มีพวกอื่นอยู่ด้วย..............แย่ชะมัด เอาเถอะ ยังไงสนามฝึกก็ใช้ได้ตามใจชอบอยู่แล้ว
ทนเอาหน่อยก็ได้ฟะ」
พออากุโนสเปิดปากพูดด้วยท่าทางไม่พอใจนิดหน่อย
นักเรียนห้องอื่นที่มาอยู่ก่อนแล้วเลยสังเกตุเห็นห้องF
และการมาของห้องFนั้นก็ทำให้ห้องอื่นเริ่มซุบซิบกันทันที
「? ทุกคนเป็นอะไรกันไปเหรอ?」
พอซาเรียเอียงคอกับการที่จู่ๆก็ซุบซิบกัน อิเรเน่ก็เสยผมแล้วบอกให้
「เรื่องนั้นแน่นอน ซุบซิบกันเรื่องความสวยของฉันไงล่ะ」
「เห!อย่างนั้นเหรอ!」
「ไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่!อย่าไปเชื่อเข้าล่ะ!?」
ฟลอล่ารีบปรับความเข้าใจให้แต่ก็ตามด้วยรอยยิ้มแบบน้อยเนื้อต่ำใจ
「เฮ้อ...........ที่ทุกคนมองกันเพราะพวกเราเป็นของเหลือน่ะ」
「ของเหลือ? ทำไมล่ะ? ไม่มีคนแบบนั้นสักหน่อย?
ทุกคนต่างคนก็ต่างกันไปไม่มีใครเก่งใครด้อยกว่ากันหรอก」
ซาเรียที่มีความคิดแบบนั้นจริงๆเลยยิ่งเอียงคอเข้าไปอีก
แล้วขณะที่คุยกันอย่างนั้นอยู่นั่นเอง
「เฮ้ยเฮ้ย ทำไมพวกของเหลือถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะเนี่ย?
ข้าไม่อยากสูดอากาศเดียวกับพวกของเหลือหรอกนะ?」
ชายผมทองที่มีรอยยิ้มน่ารังเกียจเข้ามาหาโดยมีผู้คนห้อมล้อมไว้อยู่หลายคน
สำหรับนักเรียนห้องFนั้นการถูกเยาะเย้ยจากผู้คนรอบข้างถือเป็นเรื่องปกติ
การที่จะมีพวกแบบนี้มาหาเรื่องจึงเป็นเรื่องธรรมดา
เพราะงั้นเลยไม่มีอะไรให้ประหลาดใจแต่คราวนี้กลับผิดกัน
「อ้ะ ท่านพี่!? ท่านพี่น่าจะอยู่โรงเรียนเรย์รุที่อาณาจักรไคเซอร์........!
ทำไมมาอยู่ที่โรงเรียนนี้ได้!?」
บูลุคแสดงกริยาสับสนที่ไม่ค่อยได้เห็นพลางส่งเสียงขึ้นมา
กับท่าทางแบบนั้นชายผมทองก็ยิ่งยิ้มเข้าไปอีก
-----------เทโอโบล เทลา ไคเซอร์
เจ้าชายลำดับหนึ่งแห่งอาณาจักรไคเซอร์และเป็นพี่น้องต่างมารดาของบูลุค
「บูลุคเหรอ เป็นห้องที่เหมาะกับเจ้าดีนะ」
「อึก.............!」
บูลุคกัดริมฝีปากด้วยความเจ็บใจ อากุโนสที่เงียบมาตลอดเลยทนไม่ไหว
「เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย!พูดตามใจปากเลยนี่หว่า.............คงเตรียมเจ็บตัวแล้วสินะ!?
อ๋า อ๋า!?」
「อย่านะ อากุโนส!」
「โดนดูถูกขนาดนี้จะให้ทนเงียบต่อไปได้ไง!อย่ามาห้ามนะเฟ้ย!」
「เฮอะ พวกของเหลือก็ดีแต่ใช้กำลังแบบนี้แหละ........สุดท้ายก็แค่พวกขยะที่เกินเยียวยา」
「ว่าไงนะ? แก ลองพูดใหม่อีกทีซิ............!」
บูลุคพยายามยื้ออากุโนสที่ทำท่าจะชกต่อยอยู่เดี๋ยวนี้แล้วอย่างสุดความสามารถ
เบียสเองก็เห็นว่าปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้เหมือนกันเลยรีบเข้าไปช่วยห้ามด้วย
พอเห็นสภาพอย่างนั้นเทโอโบลเลยหัวเราะเยาะ
「น่าทุเรศชะมัด แบบนี้แหละข้าถึงไม่อยากมาอยู่ในที่ป่าเถื่อนแบบนี้..........
นี่เพราะท่านพ่อกับเฮริโอ้บอกให้ข้ามาโรงเรียนด้วยกันกับผู้กล้าหรอกนะถึงได้ยอมมา
แต่ตอนนี้ก็รู้สึกขอบคุณเหมือนกัน เพราะเป็นสถานที่ๆเหมาะกับการแสดงควาสามารถ
ของข้าให้โลกได้ประจักษ์ยังไงล่ะ!」
「ใช่เลยครับท่านเทโอโบล!」
「ก็พรสวรรค์ของท่านเทโอโบลยอดเยี่ยมนี่นา!」
พวกคนที่ยืนล้อมต่างพากันสรรเสริญเยินยอเทโอโบล
ขณะที่กำลังพยักหน้าด้วยความพึงพอใจกับคำพูดเหล่านั้นก็หันไปเห็นซาเรีย
「โฮ่? เป็นเพรชเม็ดงามใช้ได้เลยนี่นา」
「เอ๋?」
เทโอโบลยิ้มอย่างน่ารังเกียจพลางใช้สายตาโลมเลียซาเรียไปทั่ว
รูรูเนะที่สังเหตุเห็นสายตานั้นก็เอาตัวมาบังขวางทางเทโอโบลปกป้องซาเรียไว้
「อย่าเข้ามาใกล้นะเจ้าคนต่ำช้า」
「ฮะ!นี่ก็สวยไม่แพ้กัน.........ดีมาก ชื่อว่าอะไรล่ะ?」
「ฉันเหรอ? ฉันซาเรีย!」
「งั้นเหรอ........พวกเจ้าจงดีใจซะเถอะ ตั้งแต่นี้ไปจงมาเป็นผู้หญิงของข้าผู้นี้
ว่าไง ดีใจใช่มั้ยล่ะ?」
เทโอโบลประกาศอย่างมั่นใจราวกับไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน
ทว่าซาเรีย---------
「ขอโทษด้วย!ฉันชอบเซอิจิอยู่แล้วน่ะ!」
ตอบกลับอย่างชัดเจนแถมยิ้มหน้าบานอีกต่างหาก
เทโอโบลที่ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธรับไม่ทันจนพูดไม่ออกไปสักพัก
ได้แต่แสดงสีหน้าตะลึงงันออกมา
「......แปลกจังแฮะ หูของข้ามันเพี้ยนไปรึเปล่า? อย่างกับได้ยินคำชวนของข้าถูกปฏิเสธ------------」
「ไม่มีทาง!ก็ฉันชอบเซอิจินี่นา!」
ไล่ซ้ำเติมอย่างใสซื่อ
จนเทโอโบลเผลอยิ้มแบบแข็งๆ
「เป็นคำชวนของข้าผู้นี้เลยนะ? ผู้ที่หน้าตาหล่อเหลา เก่งทั้งบุ๋นและบู๊แถมยังเป็นว่าที่ราชาคนถัดไป
ของอาณาจักรไคเซอร์!? คนที่จะมาเทียบข้าได้--------」
「เอ๋? เซอิจิน่ะเท่ห์กว่าคุณตั้งเย้อออออออ!แถมยังเก่งมากด้วย!」
「ท่านซาเรีย........ต้องขอประทานโทษด้วยนะคะ แต่เจ้านั่นคงไม่รู้จักนายท่านหรอกค่ะ...........
ความไม่รู้นี่ก็น่ากลัวเหมือนกันนะเนี่ย...........น่าสงสารจัง」
ความภาคภูมิใจของเทโอโบลถูกทำลายราบคาบ
ถ้าคำพูดเมื่อกี้มาจากความอิจฉาหรือเพื่อป้องกันตัวความภาคภูมิใจของเทโอโบลคงไม่เสียหายเท่าไร
ทว่ารอยยิ้มที่ใสซื่อของซาเรียและสายตาที่เวทนาปนดูแคลนของรูรูเนะ
ได้ทำให้ภาคภูมิใจของเทโอโบลแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อากุโนสที่มองดูเรื่องนั้นเลยหัวเราะก๊ากออกมา
「ก๊ากฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!จ เจ้านั่น..........!ทั้งที่พูดจามั่นใจขนาดนั้น
แต่ดันถูกหักอกฟ่ะ!?『ตั้งแต่นี้ไปจงมาเป็นผู้หญิงของข้าผู้นี้』.........พูดงี้ด้วยอ่ะ!?
คิดว่าทำอย่างนั้นแล้วอีกฝ่ายจะยอมเหรอฟะ......ก๊ากฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
โอย ปวดท้อง............!」
「อุ๊บ..........อ อากุโนส อ อย่า......คิกคิก..............หัวเราะเยาะ.......ท่านพี่นะ.......คิกคิก」
『ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ วันแบบนี้ก็ต้องมีบ้างแหละ』
บุลุคเองก็ขำแต่พยายามกลั้นไว้สุดชีวิต ส่วนเบียสช่วยพูดปลอบใจให้
ความภาคภูมิใจของเทโอโบลแหลกเป็นผุยผงแล้วยังจะซ้ำเติมกันอีก
เทโอโบลเลยหน้าแดงจนกลายเป็นม่วงด้วยความโกรธและอับอาย
และแล้วอัลโทเรียที่นิ่งเงียบมาจนถึงตอนนี้เลยเปิดปากพูดบ้าง
「เมื่อวานก็ได้ฟังจากคุณเบียทริสอยู่หรอกว่าการทะเลาะกันของนักเรียน
โดยพื้นฐานแล้วไม่ควรเข้าไปยุ่ง............แต่ถ้าคิดจะมายุ่งกับพวกซาเรียข้าเองก็คงเฉยไม่ได้หรอกนะ?」
「.........แกเป็นใคร.........!」
แม้จะได้ฟังเสียงทำนองข่มขู่ของเทโอโบลท่าทีของอัลโทเรียก็ไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด
「ข้าเหรอ? ข้าคือครูคนใหม่ประจำวิชาผจญภัยไงล่ะ
ก็นะ อีกไม่นานก็คงไปสอนที่ห้องพวกนายเหมือนกัน ยินดีที่ได้รู้จัก」
「.......พวกนักผจญภัยงั้นเหรอ........อย่ากำแหงให้มากนัก..........!」
「หา?」
พอใช้สายตาจ้องมองอัลโทเรีย เทโอโบลก็กวาดตามองห้องFทุกคนแล้วพล่ามออกมา
「อย่าคิดว่ามาหาเรื่องข้าที่เป็นชนชั้นสูงอย่างที่เทียบกันไม่ได้แล้วคิดว่าจะจบง่ายๆนะ.........
เจ้าพวกของเหลือ!คนที่ใช้-เวท-ไม่-ได้ อย่างพวกแกชั่วชีวิตนี้ก็เป็นได้แค่ขยะเท่านั้น!」
「.........」
「แทงใจดำล่ะสิ? แทงใจดำสินะ!? พวกแกที่รู้ตัวว่าต้องถูกตราหน้าว่าเป็นขยะไปชั่วชีวิต
แล้วยังจะพยายามทำอะไรอยู่อีกนี่น่าขำเป็นบ้าเลย!?」
「..........」
เทโอโบลพูดไปตามใจโดยไม่เกรงใจใครแต่ก็มีเสียงที่คาดไม่ถึงมาแทรก
「ว่าที่ราชาคนต่อไปของอาณาจักรไคเซอร์นี่ว่างจังนะ」
「โรเบอร์โต้ อีรอส วินบุค.........!」
ผู้ที่เข้ามาแทรกระหว่างห้องFกับเทโอโบลคือชายหนุ่มผมทองตาสีฟ้า----------โรเบอร์โต้นั่นเอง
「เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า อย่ามายุ่ง!」
「พูดอะไรกัน? ก็นายไม่คิดจะเรียนเลยนี่นา? แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเรื่องคนอื่นหรอกนะ
ก็เพราะผลการเรียนของนายเองก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยสักนิด」
「โง่เง่า ครูห้องSน่ะเป็นขุนนางของอาณาจักรไคเซอร์ของเรา.............
ของพรรณนั้นเดี๋ยวก็ช่วยจัดการให้เอง」
「ที่โง่เง่าน่ะนายต่างหากเทโอโบล เป็นนักเรียนธรรมดาแล้วยังจะใช้อำนาจอีก หัดรู้จักอายซะบ้าง」
「เฮอะ!ประเทศอ่อนๆที่ไม่มีอำนาจให้ใช้ อิจฉาล่ะสิ? น่าทุเรศชะมัด」
「.........เฮ้อ พูดกับนายแล้วนี่เหนื่อยใจชะมัด นี่ขนาดเพื่อตัวนายเองแต่ชักไม่อย่างยุ่งด้วยแล้วแฮะ.......」
「อะไรนะ?」
「ช่างเถอะ ฉันกลับไปเรียนต่อล่ะ............เทโอโบล ท่าทีแบบนั้นอย่าให้มันมากไปนักล่ะ」
「ว่าไงนะ...........!」
เทโอโบลเดือดกับคำพูดของโรเบอร์โต้จนอยากสวนกลับไปเดี๋ยวนั้นแต่ก็ทำไม่ได้
พอจ้องแผ่นหลังของโรเบอร์โต้ที่จากไปแล้วก็หันสายตาไปที่ห้องFต่อ
「ช่างเถอะ............ซาเรียสินะ? หนี้ในครั้งนี้ต้องเอาชำระคืนแน่ .........ไปกันได้แล้ว」
「อ้ะ ท่านเทโอโบล!」
พอเทโอโบลพูดเรื่องที่อยากพูดจบก็นำพวกที่อยู่รอบๆจากไปทั้งอย่างนั้น
หลังจากนั้นก็มีคนหนึ่งในพวกที่อยู่รอบๆจ้องหน้าเลออน
「อึ๋ย!」
「..........เฮอะ」
เลออนสะอึกกับสายตานั้น พอคนๆนั้นเห็นท่าทางแบบนั้นก็ยิ้มเยาะแล้วตามเทโอโบลไป
หลังจากเทโอโบลจากไป จู่ๆบูลุคก็หันไปทางนักเรียนห้องFแล้วก้มหัวให้
「ที่พี่ของข้าทำให้ลำบาก ต้องขอโทษด้วย」
การกระทำของบูลุคทำให้ทุกคนเปิดตากว้าง
「ซาเรียกับรูรูเนะที่ทำให้รู้สึกไม่ดีช่วยยกโทษให้ด้วย」
「ฉันไม่เป็นไรเลยสักนิด? ไม่ต้องกังวลไปหรอก」
「ฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว」
「...............ขอบคุณ ถ้าท่านพี่ทำอะไรล่ะก็จะช่วยอย่างแน่นอน」
พอได้ฟังคำพูดของพวกซาเรียเลยเงยหน้าขึ้น อากุโนสที่อารมส์ไม่ดีก็พูดบ้าง
「ชิ ไม่ใช่เรื่องที่แกต้องคิดมากสักหน่อย ทุกอย่างมันเพราะไอ้เวรนั่นต่างหาก」
『ใช่แล้ว พวกเราไม่คิดมากหรอก』
「ค คือว่า!ผ ผมเองก็ไม่เป็นไรครับ!」
ไม่ใช่แค่อากุโนส เบียสเองก็ไม่ถือสา
จากนั้นเรเชลกับฟลอร่าก็ยิ้มแห้งๆแล้วเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย
「แหม ถึงจะถูกเยาะเย้ยแต่มันก็เรื่องจริงนี่เนอะ อีกอย่าง บูลุคก็ไม่ได้ผิดสักหน่อย
ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจหรอกน่า」
「ใช่แล้วล่ะ~ จริงอยู่ที่ไม่ชอบหน้าแต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนี่นา~ 」
พอได้ฟังคำพูดของทั้งสองคนบูลุคก็ยิ้มออกมานิดหน่อยแต่ก็ยังก้มหัวให้กับอิเรเน่และเฮเลนต่ออีก
「ที่ให้พวกเธอเห็นสิ่งที่ไม่น่าดูต้องขอโทษด้วย」
「ฉันก็ไม่ได้คิดมากอะไรหรอกนะ? ถึงจะถูกจี้จุดบกพร่องไปอย่างนึงแต่ยังไงฉันก็ยังเลิศอยู่ดี!
ตัวฉันสุดยอดอยู่แล้ว!」
「ฉันเองก็ไม่ได้ใส่ใจ นายต่างหากที่ลำบาก」
「............ต้องขอขอบคุณจริงๆ」
ทุกคนไม่ต่อว่าบูลุคเลย
ทว่าคำพูดของเทโอโบลก็ยังเหลือค้างอยู่ในใจ
ทำให้ตอนนี้บรรยากาศอึมครึมไม่เป็นธรรมชาติราวกับบรรยากาศที่มากันตอนแรกเป็นเรื่องโกหก
ขณะที่รอคอยกันด้วยบรรยากาศอึมครึมแบบนั้นในที่สุดพวกเซอิจิก็มาถึงที่สนามฝึก
◆◇◆
ชั้น--------ฮิรากิ เซอิจิ พอมาถึงสนามฝึกไม่รู้ทำไมรู้สึกบรรยากาศเงียบเหงาจัง
ช่วงสั้นๆที่ไม่อยู่นี่เกิดอะไรขึ้นเหรอ!? ไม่สิ ก็มีบางคนที่ยังไม่เปลี่ยนไปจากตอนที่แนะนำตัวอ่ะนะ!
ขณะที่กำลังเอียงคอกับบรรยากาศของห้องF คุณเบียทริสเองก็สังเกตุเห็นเลยถามด้วยสีหน้าสงสัย
「มีอะไรเกิดขึ้นกันนะ?」
「ถึงจะไม่เข้าใจแต่...........ก่อนอื่นไปหาทุกคนไปกันเถอะ」
พอเข้าไปใกล้นักเรียนห้องF ซาเรียที่รู้สึกตัวเป็นคนแรกก็ยิ้มหน้าบานหันมาหาชั้น
「อ้ะ เซอิจิ!」
ซาเรียกับรูรูเนะยังเหมือนเดิมค่อยสบายใจหน่อย
หลังจากนั้นคนอื่นก็สังเกตุเห็นพวกเราเลยหันสายตาตามๆกันมา
ทว่า รู้สึกได้ถึงสายตาปริศนาคู่หนึ่ง
พอหันไปหาสายตานั้นไม่รู้ทำไมถึงเจออากุโนสที่มองกันแบบตาเป็นประกายอยู่
「อะ.........อากุโนสคุง? ทำไมถึงมองด้วยสายตาแบบนั้นล่ะ?」
「ลูกพี่!อย่าเรียก『อากุโนสคุง』แบบเป็นคนอื่นคนไกล เรียกแบบสนิทสนมเถอะครับ!」
「มันเกิดอะไรขึ้น!?」
ทำไมชั้นถึงถูกอากุโนสเรียกว่าลูกพี่ได้อ่ะ!?
พอหันมองไปรอบๆ ฟลอร่าก็ยิ้มแห้งๆช่วยบอกให้
「อะฮะฮะฮะฮะ.........แบบว่า พวกเราได้ฟังเรื่องความสัมพันธ์ของพวกซาเรียกับครู
..........ประมาณนั้น?」
「เอ๋?」
สิ่งที่ฟลอร่าบอกมาทำให้ชั้นสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาได้อย่างนึง
ชั้นเลยถามรูรูเนะแบบเกร็งๆ
「คือว่า..........คุณรูรูเนะ? คุณตอบไปว่ายังไงเหรอครับ..........?」
「ฉันเหรอคะ? ฉันเป็นทาสรับใช้ของนายท่าน----------」
「ทายถูกเผง!」
ทำไมรูรูเนะถึงตอบได้แต่แบบที่ชวนให้เข้าใจผิด!? อยากให้ช่วยพิจารณาถึงสถานภาพทางสังคม
ของชั้นหน่อยจะได้มั้ย!ถ้าเป็นอัศวินล่ะก็อย่าเอาแต่ปกป้องร่างกายชั้นช่วยปกป้องหน้าตาชั้นด้วยสิ!
ขณะที่กุมหัวโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็มีใครบางคนมาตบไหล่ชั้น
พอหันสายตาไปมองก็เห็นหัวหมีที่น่ารักน่าเอ็นดู
『ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ วันแบบนี้ก็ต้องมีบ้างแหละ』
คำปลอบใจนี่แหละที่ไม่อยากได้ที่สุด!
อยากร้องไห้ชิบ
「คือว่า.........คุณเบียทริสคะ」
「คะ? มีอะไรเหรอ?」
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอย่างนั้นอยู่ อัลก็ส่งเสียงเรียกคุณเบียทริส
「ผลการเรียนของวิชาผจญภัยเนี่ยฉันตัดสินได้ตามใจสินะ?」
「ค่ะ ก็คิดจะอธิบายรายละเอียดอีกครั้งหลังเลิกเรียนแต่ถ้าพูดให้ง่ายๆก็แบ่งเป็นผลการสอบ
กับคะแนนจิตพิสัย.........หรือก็คือคะแนนที่ตัดสินจากอัตราการเข้าเรียนกับพฤติกรรมในชั้นเรียนค่ะ」
「อย่างนี้นี่เอง...............เข้าใจแล้วค่ะ」
อัลพยักหน้าครั้งหนึ่งด้วยสีหน้าเข้าใจแล้วประกาศออกมาอย่างจริงจัง
「เทโอโบล........คะแนนจิตพิสัยของเจ้านั่นศูนย์คะแนน」
「ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย!?」
ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใครแต่ในเวลานี้คะแนนจิตพิสัยของเทโอโบลหายวับไปด้วยมือของอัลแล้ว
คุณครูน่ากลัวจัง