ตอนที่ 62 ออกเดินทาง
พอไปหาคุณบาน่าที่เป็นแขกพักอยู่ในปราสาทก็บอกว่าสามารถออกเดินทางได้ทันที
พวกเราก็เลยมาอยู่ที่หน้าประตูเมืองหลวง
สัมภาระทั้งหมดใส่อยู่ในไอเท็มบ็อกแล้วจึงไม่ต้องสนใจเรื่องการขนย้าย
ก็มีถามเรื่องวิธีเดินทางไปโรงเรียนมาแล้ว ถ้าเป็นคุณบาน่าคนเดียวยังพอจะใช้เวทวาร์ปกลับไปได้
แต่ครั้งนี้มีพวกชั้นไปด้วยจึงกลายเป็นว่ามีพลังเวทไม่พอ เลยต้องใช้รถม้าเดินทางจากเมืองหลวง
ไปยังโรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดลตามเส้นทางที่ใช้ประจำ
.......ถึงจะป่านนี้แล้วแต่ตอนแรกที่ซื้อรูรูเนะก็เพื่อใช้ลากรถม้า
ตอนนี้กลับต้องมาใช้ม้าธรรมดาลากรถแทนซะนี่............
ขณะที่ชักมึนกับเรื่องที่ว่ามา ก็มีเสียงเรียกจากด้านหลังกะทันหัน
「รักษาตัวด้วยนะ เซอิจิ」
พอหันหลังไปด้วยความตกใจก็เจอคุณรันเซ่ที่หน้าตายิ้มแย้ม
ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีคนมากมายตามมาด้วย
「เซอิจิคุง เวทมนตร์ที่นายสอนให้จะพยายามฝึกให้เชี่ยวชาญให้ได้เลยล่ะ
ทางนายเองก็พยายามเข้านะ」
「อาจารย์คะ ฉันภูมิใจที่มีคุณเป็นอาจารย์ค่ะ หากมีโอกาสกลับมาก็ช่วยสั่งสอนให้อีกนะคะ」
「ฮะฮะฮะ อย่างเซอิจิคุงน่ะไม่ต้องเป็นห่วงหรอกมั้ง」
「คูจัง!พูดแค่ส่งๆไปอย่างนั้นไม่ดีนะ!ช่างเถอะเสร็จจากนี่แล้วไปซื้อของกันดีกว่า!
อ้ะ พวกเซอิจิ ลาก่อนนะ! 」
「..........โรน่า เธอนั่นแหละที่พูดส่งๆไปที่สุด」
ต่อจากคุณรันเซ่ที่เป็นพระราชา ก็เป็นคุณโฟริโอ้และรุยเอส
แล้วก็คุณคลาวเดียร์กับคุณโรน่าที่ยืนอยู่ในกลุ่ม【นักรบสาวแห่งดาบสวรรค์(valkyrie)】ทุกคน
「เซอิจิคุง!ต่อจากนี้ไปไม่ว่าเธอจะยากลำบากแค่ไหนก็อย่าทรยศกล้ามเนื้อของตัวเองล่ะ!
จงเปล่งพลังของกล้ามเนื้อออกมาให้สาแก่ใจ!จะตั้งตาคอยนะว่ากลับมาคราวหน้า
เธอจะพัฒนาร่างกายตัวเองได้ขนาดไหน!」
「ทุกคน รักษาตัวกันด้วยนะคะ ต่อให้เจอความเจ็บปวดก็จงเปลี่ยนมันเป็นความหรรษา
เอ้า ทุกคนคะ!มาเปิดประตูบานใหม่กันเถอะ!」
จากกิลด์ก็เป็นกัลซุสที่เป็นกิลด์มาสเตอร์กับคุณเอลิส ...........ที่จริงคุณวอเตอร์ก็อยากมาส่งเหมือนกัน
แต่น่าเสียดายโดนคุณทหารหิ้วตัวไปแล้วเลยมาไม่ได้
「คุณเซอิจิ ฝากอัลโทเรียจังด้วยนะ? มิลด์จังเองก็ตั้งตาคอยการกลับมาอยู่นะคะ」
「ซาเรียจังงงงงงงงงงงงงง!ถึงจะเหงาที่เธอไม่อยู่แต่จะให้ความน่ารักของเธอ
มาหยุดอยู่แค่ที่นี่ไม่ได้!ช่วยไปเผยแพร่ความน่ารักดุจเทพธิดาของเธอแก่โลกนี้ด้วยเถอะ!」
มีคุณอโดเรียน่าที่เคยช่วยดูแลตอนสอบเข้ากิลด์กับคุณแคร์ที่เป็นผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้า
「ขอบคุณที่อุดหนุนโรมแรมของพวกเรามาจนถึงวันนี้ ทุกคนรักษาตัวด้วยนะคะ」
「ระวังตัวอย่าให้เป็นหัวหรือบาดเจ็บล่ะ ร่างกายของพวกเธอต้องมาเป็นอันดับหนึ่งนะ 」
「สุดท้ายก็ยังไม่ได้ฟังเรื่องรักๆของพวกคุณเซอิจิเลย............แต่ใช่ว่าจะได้เจอกันแค่นี้ซะเมื่อไร
กลับมาคราวหน้าต้องมาเล่าให้ฟังให้ได้ล่ะ!」
เจ้าของโรงแรม≪ต้นไม้แห่งความสงบ≫ที่พวกเราพักกัน คุณฟีน่า คุณไลค์ และแมรี่
「.........คุณเซอิจิรักษาตัวด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเมื่อไรทางร้านยินดีต้อนรับเสมอ」
คุณโนอาสแห่งร้านอัสคอเรี่ยนที่ช่วยรับฟังปัญหาเกี่ยวกับอัล
「จะว่ายังไงดีล่ะ.............รู้สึกเศร้าใจยังไงไม่รู้สิ พวกนายเองก็สนิทสนมกับเมืองนี้กันมาก
พอเห็นออกไปกันแบบนี้ก็เกิดเหงาขึ้นมาเลย แต่ก็นะ............รักษาตัวด้วยล่ะ
พวกเรารอการกลับมาของพวกนายเสมอ」
และคุณโคลสที่เป็นคนรู้จักคนแรกในตอนที่มาเมืองนี้
ทุกคนมากันเพียงเพื่อมาส่งพวกเราเท่านั้น
「ทุกคน............ขอบคุณมาก!」
ชั้นในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณจนพูดอย่างอื่นไม่ออก
แม้ญี่ปุ่นจะเป็นบ้านเกิดของชั้นก็ตาม
แต่สภาพของที่นั่นก็ทำแค่ได้แค่ใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ สะท้อนแค่สีขาวดำในสายตาของชั้น
แล้วช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตในเมืองนี้ล่ะเป็นไง?
เป็นเมืองที่มาครั้งแรกในต่างโลกทั้งยังไม่รู้ติ้นลึกหนาบางอะไรเลย
แต่กลับได้พบเจอผู้คนมากมาย สัมผัสประสบการณ์มากมาย.............แต่ละวันที่ใช้ในต่างโลกนี้
เทียบไม่ได้เลยกับของโลกเดิม สะท้อนออกมาเป็นสีสรรสดใสในสายตาของชั้น
โลกแห่งนี้ได้สอนให้รู้ถึงสีสรรที่น่าซาบซึ้งและปลื้มปิติยินดี
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ๆมีความสำคัญกับชั้นยิ่งกว่าที่ไหนไม่แพ้แม้แต่โลกเดิมที่เป็นบ้านเกิด
ดีจริงๆที่ออกจาก【ป่าแห่งรักอันน่าเศร้าไร้สิ้นสุด】แล้วได้เจอเมืองนี้เป็นเมืองแรก
ชั้นคิดแบบนั้นจากก้นบึ้งหัวใจ
ถ้ายังอาลัยอาวรอยู่แบบนี้ล่ะก็ไปไหนไม่ได้แน่พวกเราเลยขึ้นรถม้าไป
และแล้วรถม้าก็ได้เริ่มเคลื่อนตัว
แต่ชั้นก็ยังเผลอยื่นตัวออกจากหน้าต่างรถม้าแล้วโบกมือให้
「ทุกคน ขอบคุณมาก!งั้นก็-----------ไปก่อนนะ!」
『โชคดีนะ!』
「ลาก่อน!」
「รักษาตัวกันด้วยล่ะ!」
「ฉันสาบานว่าจะกลับมากินอาหารที่นี่อีกให้ได้!」
「..........ลาล่ะ」
ไม่ใช่แค่ชั้น พวกซาเรียเองก็ยื่นตัวออกจากหน้าต่างบานอื่นแล้วโบกมือลา
ยังดีที่คนโดยสารรถม้าคันนี้มีแค่พวกเรากับคุณบาน่าถ้ามีลูกค้าทั่วไปอยู่ด้วยคงรบกวนคนอื่นเขาแย่เลย
แต่ยังไงพวกเราในเวลานี้ก็ไม่ใส่ใจกับเรื่องนั้นอยู่ดี แล้วพวกเราโบกมือลาจนกระทั่งมองไม่เห็นทุกคน
◆◇◆
「เมืองของรันเซ่นี่เป็นเมืองที่ดีนะ」
หลังจากที่ไม่เห็นทุกคนแล้ว คุณบาน่าที่นั่งรถม้ามาด้วยกันก็ยิ้มให้แล้วพูดออกมา
「..........นั่นสิครับ」
「เหงางั้นเหรอ?」
ชั้นตอบความรู้สึกตอนนี้ออกไปตรงๆกับคำถามของคุณบาน่าที่ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
「แน่นอนครับ เหงามากเลย แม้ตัวผมจะเป็นแบบนี้ก็ยังต้อนรับกันอย่างอบอุ่น
เป็นเมืองที่ดีและน่าอยู่มาก-----------แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจากลาไปชั่วชีวิตสักหน่อย
อีกทั้งตอนที่กลับมาพบกันใหม่อีกครั้งก็อยากให้เห็นสภาพที่เติบโตและเข้มแข็ง
เพราะงั้นจนกว่าจะได้เจอกันครั้งหน้าต้องเติบโตขึ้นให้ได้」
พอฝืนยิ้มพลางพูดแบบนั้น คุณบาน่าก็ตอบกลับเพียงแค่「นั่นสินะ」
แล้วพูดต่ออย่างนุ่มนวล
「...........เอาล่ะถ้างั้นเซอิจิคุง ขอบอกเรื่องเกี่ยวกับโรงเรียนให้พวกเธอทราบก่อนนะ」
คุณบาน่าปรับท่านั่งเพื่อเตรียมเข้าเรื่องที่จะพูด
「จะว่าไปก็ยังไม่ได้ถามเรื่องที่จะให้ทำอย่างเป็นรูปธรรมเลยนี่นา」
จริงอยู่ที่คุณบาน่ามาขอร้องให้ไปเป็นครูที่โรงเรียน
แต่ยังไม่ได้รับการอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมเลยว่าเข้าไปแล้วต้องทำอะไรบ้าง
「อื้ม ก่อนอื่นซาเรียคุงที่จะเข้าไปเรียนในฐานะนักเรียน
ทางโรงเรียนจะมีการอธิบายรายละเอียดให้อยู่แล้วไม่ต้องเป็นห่วง」
「ค่า--!」
「ต่อไป นักผจญภัย..............อัลโทเรียคุงสินะ? สำหรับอัลโทเรียคุงอยากให้เข้าไปเป็นครูที่โรงเรียน
เหมือนกับเซอิจิคุง แต่ไม่ได้ให้ไปเป็นครูประจำห้องเรียน จะให้ช่วยเป็นคนแนะนำและดูแล
คาบเรียนของภาควิชาที่ชื่อว่า【วิชาผจญภัย】วิชานี้ตั้งแต่เมื่อก่อนก็จะจ้างพวกนักผจญภัยมา
แต่ก็เพราะพวกเขาเป็นนักผจญภัยเลยผูกมัดให้อยู่ประจำที่โรงเรียนไม่ได้............
เพราะงั้นเลยอยากให้ไปทำหน้าที่แทนนักผจญภัยที่ว่ามา」
「อย่างนี้นี่เอง..........ข้าเข้าใจแล้วว่าต้องทำอะไร แต่หลักๆที่จะให้สอนคือ?」
「ก็ไม่ยากอะไรหรอก เช่นการเตรียมใจของนักผจญภัย เรื่องที่ควรรู้แล้วก็ฝึกการต่อสู้แบบง่ายๆ」
「เข้าใจล่ะ...........แต่ก็นะไม่เคยสอนคนอย่างเป็นจริงเป็นจังซะด้วยจะทำได้รึเปล่าก็ไม่รู้
.............แต่ข้าจะลองพยายามดูแล้วกัน」
「อื้ม ต่อไปก็รูรูเนะคุงสินะ.............ก็นะ จะทำอะไรก็ตามใจเถอะ」
「ทำไมล่ะ!? ทำไมทีฉันถึงไม่สนใจเลยล่ะ!?」
รูรูเนะตบมุขคำพูดของคุณบาน่าออกมาเดี๋ยวนั้นเลย
ก็จริงนะ เป็นคนเดียวที่ให้ทำตามใจชอบจะดีกว่า..............
「งั้นจะเข้าไปในฐานะนักเรียนเหมือนกับซาเรียคุงเหรอ?」
「ทำอย่างนั้นแล้วจะมีข้อดีอะไรสำหรับฉันบ้างล่ะ?」
「ถ้าพูดถึงข้อดีก็...........อย่างบุฟเฟ่ต์ของทางโรงเรียน-------------」
「มาเป็นนักเรียนกันเถอะ」
「ตอบไวจัง!?」
คุณรูรูเนะ จิตใจที่ยึดติดกับเรื่องกินของคุณนี่เกินกว่าระดับน่านับถือไปแล้ว
คุณบาน่ากระแอมครั้งหนึ่งและอธิบายต่อ
「อะแฮ่ม!...........เอ ออริก้าคุงสินะ..........ออริก้าคุงในฐานะที่เป็นผู้ช่วยของเซอิจิคุง
ก็คอยตามเซอิจิคุงไปแล้วกัน」
「...........อื้อ ถ้าได้อยู่ด้วยกันกับเซอิจิโอนี่จัง............ก็ได้」
「งั้นเหรอ เอาล่ะ...........สุดท้ายจะบอกหน้าที่ของเซอิจิคุงล่ะนะ............」
「?」
คุณบาน่าหยุดพูดเพียงแค่นั้นแล้วทำหน้าลำบากใจ
「.................เกี่ยวกับเรื่องนั้นก่อนอื่นคงต้องบอกเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันของโรงเรียนก่อน」
「สถานการณ์ของโรงเรียน?」
「ใช่แล้ว ปัจจุบัน『โรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดล』ของข้ามีผู้กล้าที่อาณาจักรไคเซอร์
อัญเชิญมาอยู่ พวกเขาถูกอัญเชิญมาเพื่อปราบจอมมารจึงมีขีดความสามารถอันเหลือล้นต่างกับพวกเรา
พอมาเรียนที่โรงเรียนส่วนหนึ่งของขีดความสามารถนั้นก็แสดงออกมา พลังเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่จากผลลัพธ์นั้นทำให้พวกเขาดูแคลนนักเรียนคนอื่นสร้างความแตกแยกขึ้นมา」
「...........」
「แม้โรงเรียนของข้าจะเน้นย้ำเรื่องความเป็นกลาง แต่จะให้เป็นกลางกับทุกอย่างมันก็ยาก
เพราะหากลงโทษพวกผู้กล้าไปอาจทำให้อาณาจักรไคเซอร์หาเรื่องกับนักเรียนคนอื่น
ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่สามารถทำอะไรเด็ดขาดกับพวกผู้กล้าได้ รู้สึกน่าสมเพชสินะ..........」
「ไม่หรอกครับ..........」
「และที่จะพูดต่อจากนี้แหละคือประเด็นสำคัญ อย่างที่บอกไปพวกผู้กล้าปัจจุบันยึดครองตำแหน่ง
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของโรงเรียน ในหมู่นักเรียนที่มีอยู่แต่เดิม ผู้ที่มีพลังพอจะต่อกรกับผู้กล้าได้
นั้นก็มีอยู่ทว่าจำนวนนั้นน้อยนิด แต่ว่าตรงจุดนั้นนี่แหละเลยอยากให้เซอิจิคุงมารับหน้าที่เป็น
ครูประจำชั้นของนักเรียนส่วนน้อยนั้นให้หน่อย」
「!?」
อ เอาจริงดิ? ให้เด็กที่ถูกรังแกจากโลกเดิมอย่างชั้นพรวดไปเป็นอาจารย์ประจำชั้นเลยเนี่ยนะ?
...........ไม่อ่ะ เป็นไปไม่ได้หรอกเนอะ?
「ด เดี๋ยวก่อนครับ!ถึงอยู่ดีๆจะบอกให้เป็นครูประจำชั้นแต่เรื่องสอนคนอะไรนี่
เอาจริงๆยังไม่เคยเลยนะครับ...........」
「ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก จะให้มีครูพิเศษอีกคนประกบไปด้วย ยิ่งกว่านั้น เซอิจิคุงก็เคยสอน
การต่อสู้ระยะประชิดกับเวทมนตร์ให้รุยเอสคุงกับโฟริโอ้คุงไม่ใช่เหรอ อีกอย่างถ้าให้บอก
ก็ได้ยินมาว่าทำให้ถึงกับใช้เวทธาตุที่ไม่เคยใช้มาก่อนได้ด้วย............คงไม่มีปัญหาอยู่แล้วล่ะ」
「...........」
ไม่มีปัญหาซะเมื่อไรล่ะเฟ้ย!
ขณะที่กำลังอ้าปากพะงาบๆเป็นปลาทอง คุณบาน่าก็พูดตัดจบมาอย่างหน้าชื่นตาบาน
「ก็นะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด!มาตั้งเป้าโค่นผู้กล้ากันเถอะ!」
「จะให้สร้างจอมมารออกมาเรอะ!?」
จะให้โค่นได้ไงเล่าเฮ้ย!? นั่นมันผู้กล้านะ!?
「โฮ่โฮ่โฮ่!เรื่องเล็กน้อยแบบนั้นไม่ต้องไปคิดมากหรอกน่า?
ยังไงก็ตามแต่ข้าขอเดิมพันกับพลังของเซอิจิด้วยนะ」
「.............」
ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเอาความมั่นใจมาจากไหนแต่ถ้าพูดถึงขนาดนี้เห็นทีต้องพยายามหน่อยล่ะ.........
ทว่าคุณบาน่าสุดท้ายก็ยังทิ้งเรื่องปวดหัวมาให้อีก
「โอ๊ะ ลืมบอกไป นักเรียนส่วนน้อยที่เซอิจิคุงจะไปประจำชั้นน่ะ
เป็นพวกเด็กที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพวก『ของเหลือ』ประจำโรงเรียนเพราะงั้นพยายามเข้าล่ะ」
「ไหงงี้อ่ะ」
เผลอตบมุขตบมุขออกมาตรงๆเลย
ก็ดูสิมันไม่แปลกไปหน่อยเหรอ!? ทั่วไป ถ้าอยากเอาไปแข่งกับผู้กล้า ก็ควรเลือกพวกคะแนนดีมาสิ!?
แล้วไหงจัดแบบตรงกันข้ามมาให้แบบนี้อ่ะ!?
แม้จะเจอชั้นตบมุขคุณบาน่าก็ยังยิ้มไม่เสื่อมคลาย
...........ตกลงคนๆนี้่อยากให้เอาคนไปแข่งกับพวกผู้กล้าจริงรึเปล่าเนี่ย?
เอาเถอะ ชั้นเองก็เคยเป็นมนุษย์ชั้นล่างยิ่งกว่าพวกของเหลือ
เพราะงั้นไม่มีสิทธิไปพูดอะไรเรื่องคนอื่นเขาหรอก
ยิ่งกว่านั้นถ้าใช้สกิล『สอน』ของชั้นอาจได้เรื่องอะไรขึ้นมาก็ได้
แล้วถึงยังไงคุณบาน่าก็คงไม่เข้มงวดมาก เรื่องยากๆอย่างจะให้ไปแข่งกับพวกผู้กล้าไว้ค่อยคิด
สำหรับนักเรียนที่จะไปเป็นครูประจำชั้นก็ช่วยให้เก่งขึ้นมาหน่อยแล้วกัน
ขณะที่พูดคุยกันไปท่ามกลางรถม้าที่เขย่าอยู่นั่นเอง จู่ๆคุณบาน่าก็มองออกไปนอกหน้าต่าง
「..........พวกแขกไม่ได้รับเชิญมากันแล้ว」
「เอ๋?」
พอถามออกไปเพราะไม่เข้าใจคำพูดของคุณบาน่า คุณบาน่าก็ถอนหายใจพลางตอบกลับมา
「อีกไม่นานจะมีโจรบุกมาน่ะ」
「หา!?」
ทันทีที่คุณบาน่าตอบก็เริ่มใช้สกิล『ตาพิภพ』จับสัญญานจากเรดาร์ได้ว่าพบสัญญานสีแดง
ที่บ่งบอกว่าเป็นศัตรูกำลังโอบล้อมรถม้าของพวกเราไว้โดยยังทิ้งระยะห่างอยู่ช่วงหนึ่ง
จากนั้นจุดสีแดงก็บุกเข้ามาหาพวกเราโดยพร้อมเพรียงกัน
ทันใดนั้นพอคนขับรถม้าสังเกตุเห็นพวกโจรก็หยุดรถม้าแล้วรีบเข้ามาบอกพวกชั้นที่อยู่ด้านใน
「ค คุณลูกค้า!มีโจรบุกมาครับ!」
「ท ทำยังไงดีล่ะ?」
「ก็จะทำอะไรซะอีกล่ะ จัดการพวกมันเลย.............」
พูดถึงแค่นั้นคุณบาน่าก็เปิดตาโตแล้วยิ้มออกมา
「ดูท่าพวกเราคงไม่ต้องลงมือแล้วล่ะ」
「เอ๋?」
ทันทีที่ส่งเสียงสับสนออกมาเพราะไม่เข้าใจสิ่งที่คุณบาน่าพูด ชั้นก็จับจากเรดาร์ได้ว่ามีสัญญาณสีเขียว
ที่เป็นฝ่ายเดียวกันกำลังเข้ามาหาด้วยความเร็วสูง