ตอนที่ 57 เดทกับรูรูเนะที่ร้านแผงลอย~งานแข่งกินจุ~
วันถัดมาหลังจากที่ไปรับดรอปไอเท็มของมอนเตอร์ในฐานะรางวัลจากทางการ
เพราะรุยเอสยังไม่กลับ วันนี้เลยรีบทำตามสัญญาพารูรูเนะไปกินของอร่อยด้วยกัน
...........ไหนๆก็พูดแล้วเรื่องดรอปไอเท็มทั้งหมดที่ได้มาจากที่ชั้นจัดการ
ก็อย่างที่รู้กันคือในนั้นมีของล้ำค่าชนิดที่หาไม่ได้อยู่ด้วยคุณทหารที่เป็นคนคัดแยกเลยตกใจใหญ่เลย
ทว่าคุณทหารไม่ได้คิดว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของชั้น และแม้คุณรันเซ่ที่เป็นพระราชาสะกิดใจขึ้นมา
คุณรันเซ่ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าแค่โชคดีมากเท่านั้น ...........คุณพระราชาปล่อยไปแบบนี้มันจะดีเหรอครับ?
เอาเถอะ ยังไงสำหรับชั้นแค่ผ่านไปได้ไม่ยุ่งยากก็ดีแล้วล่ะ..........
และนี่คือดรอปไอเท็มที่ชั้นได้รับมา
『สนับพันมือ』.......อุปกรณ์ระดับเทพนิยาย เมื่อโจมตีพลังจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ทั้งยังโจมตีติดธาตุแสงด้วย
『บู๊ตราชาท้องฟ้า』.......อุปกรณ์ระดับเทพนิยาย สามารถเดินหรือยืนบนอากาศได้ตามที่ต้องการ
ทั้งยังติดธาตุลมที่ขาทำให้ความเร็วเพิ่มขึ้นเวลาโจมตี
『กระติกน้ำเทพวารี』.......อุปกรณ์ระดับเทพนิยาย เป็นกระติกน้ำที่ต่อให้ดื่มไปเท่าไรก็ไม่มีวันลด
น้ำที่อยู่ข้างในเพียงดื่มไปอึกเดียวผู้ดื่มก็จะหายจากสภาพผิดปกติทั้งหมดทั้งยังทำให้สุขภาพดีอีกด้วย
ท่าทางชั้นจะฆ่าพวกเทพไปอีกแล้วแฮะ
แถมยังได้ของที่มีพลังเว่อร์ๆมาอีก
พลังของสนับพันมือนี่ยกตัวอย่างง่ายๆเลย ถ้ามีสัตว์ประหลาดที่ไหนตีทีนึงสัก100ก็จะถูกเปลี่ยนเป็น200
ยิ่งกว่านั้นยังตีติดธาตุแสงอีก ............บอกไว้ก่อนสัตว์ประหลาดที่ว่าไม่ได้พูดถึงตัวชั้นเองนะ?
ก็ไม่ได้ใส่ใจกับค่าตอบแทนที่ได้มาหรอกแต่จากข้อมูลที่ได้มาจากการปราบมอนเตอร์
มันเป็นไอเท็มที่ได้มาจาก『Thousand Golem』
ส่วนบู๊ตราชาท้องฟ้านี่ก็เป็นเวอร์ชั่นอัพของ『รองเท้าสีฟ้า』ที่ซาเรียใส่อยู่
คือไม่มีข้อจำกัดในการเดินหรือยืนบนอากาศ แถมยังเพิ่มความเร็วอีกต่างหาก
ของชิ้นนี้ก็ไม่รู้หรอกนะว่าดรอปมาจากตัวไหน เพราะชื่อออกแนวๆราชาแห่งท้องฟ้า
อย่าง『Sky dragon』หรือ『สิงโตสวรรค์』ดันมีอยู่เยอะแยะเลยนี่สิ
แล้วถึงจะไม่ใช่เครื่องป้องกันแต่กระติกน้ำเทพวารีนี่ก็โกงไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
ถึงจะไม่เกี่ยวอะไรกับชั้นแต่ทำให้สถานะผิดปกติหายได้หมดทุกอย่างเลยนะ?
ยิ่งกว่านั้นน้ำที่อยู่ข้างในก็ไม่มีวันลดแถมทำให้สุขภาพดีรักษาอาการป่วยอีกต่างหาก?
โกงได้ใจเลยมั้ยล่ะ
ไอเท็มชิ้นนี้ก็ไม่รู้อีกเหมือนกันแหละว่าดรอปจากตัวไหน
ก็เพราะมีชื่ออย่าง『งูน้ำ』หรือ『Aqua Lord』เยอะแยะเหมือนกับอันก่อน
ก็มีอุปกรณ์อย่างอื่นที่ได้รับมาเยอะเหมือนกันแต่ก็เป็นของเล็กๆน้อยๆ
อย่างชิ้นส่วนของมอนเตอร์ทุกตัวที่ปราบถ้าให้มาสารยายก็คงเสียเวลาแย่เลย
แล้วก็อย่างที่บอกไปตอนต้น วันนี้ชั้นจะไปกินของอร่อยกับรูรูเนะก็เลยงดอาหารเช้า
เลยกะจะไปที่ร้านแผงลอยกันแต่หัววัน
ส่วนพวกซาเรียไม่ไปรับคำร้องขอที่กิลด์ก็นอนเล่นอยู่ที่โรงแรมกัน
ยังไงก็ตามแต่ รูรูเนะกำลังรออยู่เพราะงั้นพอชั้นเตรียมตัวเสร็จก็รีบออกจากห้องไปทันที
◆◇◆
พอออกไปรอนอกห้องไม่นานนัก รูรูเนะก็มาจนได้
「น นายท่าน ขอโทษด้วยค่ะ!เอ่อคือ.........รอนานมั้ยคะ?」
「เปล่า? ไม่นานหรอก เลิกพูดถึงเรื่องนั้นเถอะเพราะยังไงวันนี้ก็จะไปกินของอร่อยกันไม่ใช่เหรอ?
นี่อาหารเช้าก็ไม่ได้กินหิวจะแย่แล้วเนี่ย...........」
「ย อย่างนั้นเหรอคะ!งั้นก็ไปกันเลย!」
รูรูเนะยิ้มแย้มออกมาแล้วรีบมุ่งหน้าออกไปทันที
ถึงท้องจะว่างอยู่แต่วันนี้ก็อยากจะค่อยๆตระเวณกินของอร่อยอย่างสบายๆ
เลยจับมือดึงรูรูเนะเอาไว้
「รูรูเนะ ต่อให้ไม่รีบของอร่อยก็ไม่หนีไปไหนหรอก ค่อยไปกันเถอะนะ?」
「อะ.........เอ่อ นั่นสินะคะ .............แล้วก็ นายท่าน...........」
「หืม?」
「มือ.........」
「อ้ะ โทษที!」
รูรูเนะพูดออกมาอย่างเขินอายชั้นถึงได้พึ่งรู้ตัวว่ากำลังจับมือกับรูรูเนะอยู่
พอลนลานกำลังจะปล่อยมือ รูรูเนะกลับมาจับมือชั้นแทน
「รูรูเนะ?」
เพราะคาดไม่ถึงเลยมองดูสีหน้าของรูรูเนะ รูรูเนะก็พูดทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่
「.........แค่วันนี้ก็ยังดี...........ขอจับมือไว้อยู่แบบนี้ได้มั้ยคะ?............」
「.............」
ยัยนี่เป็นใครกัน
ก็เคยเห็นรูรูเนะที่ชอบวางมาดแต่ความจริงติงต๊องทั้งยังตะกละอีกต่างหาก
แต่รูรูเนะที่เขินอายจนหน้าแดงไปถึงหูนี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
ขณะที่กำลังตะลึงกับบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิม รูรูเนะก็ส่งเสียงเรียกด้วยความกังวล
「นายท่าน..........?」
「อ้ะ ม ไม่มีปัญหา!เอ่อ ถ้าอย่างชั้นใช้ได้ล่ะก็จะจับมือเท่าไรก็ได้!」
ตอบอะไรกลับไปฟะตัวชั้น
เพราะชั้นตื่นเต้นไปหน่อยเลยตอบกลับไปแบบงงๆ
แต่สำหรับรูรูเนะแค่คำพูดนั้นประโยคเดียวก็ทำให้หน้าแดงขึ้นนิดหน่อยแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย
รอยยิ้มอันกระทันหันนั้นทำให้ชั้นหน้าแดงแต่เพื่อไม่ให้รู้เลยรีบหันหน้าหนี
แล้วเริ่มเดินออกไป
「อ เอ้า!มายืนอยู่แบบนี้ก็รบกวนคนอื่นเขาใช่มั้ยล่ะ? ไปหาร้านแผงลอยที่เหมาะๆกันเถอะ」
「ค่ะ!」
ถึงจะเสียเวลาไปหน่อยแต่ในที่สุดพวกเราก็ได้ไปกันสักที
แต่ก็ไม่ได้มีจุดหมายอะไรกันเลยเดินเล่นกันไปเรื่อยๆอย่างสนุกสนาน
โดยมุ่งไปที่ตรงลานกว้างที่มีร้านแผงลอยอยู่เยอะ
หลังจากนั้นก็คิดจะพารูรูเนะไปร้านกาแฟของคุณโนอาสด้วย
ก็เค้กกับชาของที่นั่นอร่อยนี่นา
「อ้ะ นายท่าน!ดูนั่นสิคะ!」
「หือ?」
ระหว่างทางไปลานกว้าง จู่ๆรูรูเนะก็หยุดเดินแล้วชี้นิ้ว
พอหันสายตาตามไปก็เป็น.............
「..........งานแข่งกินจุ?」
ป้ายขนาดใหญ่เขียนว่างานแข่งกินจุ
ร้านอาหารตรงหน้าบังเอิญจัดงานแข่งกินจุพอดี
พอดูชื่อของร้านอาหารก็เขียนไว้ว่า【ร้านอิ่มจัง】
...........จากชื่อร้านไม่แปลกใจเลยว่าจะมีการจัดงานแข่งกินจุแบบนี้
ก็กะจะไปกินข้าวที่ร้านแผงลอยแต่เจอของแปลกๆแบบนี้ก็น่าสนดีเหมือนกัน
อีกอย่างจากรายละเอียดที่ป้ายเขียนไว้ ผู้ชนะเลิศไม่ต้องเสียเงินค่าอาหารที่ใช้แข่ง
「รูรูเนะ ลองเข้าร่วมดูมั้ย?」
「เอ๋? แต่ว่า.........จะดีเหรอคะ?」
「โอ้ ไว้ชั้นไปกินทีหลังก็ได้ ถ้ารูรูเนะอยากกินชั้นก็จะตามไปให้」
「งั้นเหรอคะ แต่ว่า.........ถ้างั้น..........」
รูรูเนะสับสนอยู่พักนึกแล้วก็ตัดสินในเข้าร่วมแข่ง
หลังจากนั้นพอไปแจ้งกับพนักงานร้านอาหารว่าจะเข้าร่วมแข่ง.............
「คือว่า...........จะเข้าร่วมแข่งจริงๆเหรอ? งานแข่งนี้น่ะรวมพวกนักกินจุชื่อดังระดับโลกมาไว้ด้วยกัน
ไม่มีแยกสำหรับผู้หญิงด้วยถ้าจะแข่งก็ต้องรวมกับพวกผู้ชายเขานะ...........」
นักกินจุชื่อดังนี่มันอะไรฟะ?
ยิ่งกว่านั้นยังระดับโลกด้วยนะ
พนักงานอุตส่าห์เตือนไว้ก่อนแต่รูรูเนะก็ไม่สนใจ............
「ไม่เป็นไร!ฉันกินไหวอยู่แล้ว!」
จิตใจมุ่งไปอยู่แต่กับอาหารซะแล้ว ก็สมกับเป็นรูรูเนะแหละนะ
พนักงานผงะกับความกระตือรือร้นผิดธรรมดาของรูรูเนะแต่ในฐานะมืออาชีพเลยยอมให้เข้าแข่ง
พอเข้าไปด้านในร้านอาหารก็พบบรรยากาศของร้านอาหารแบบชาวบ้าน
มีโต๊ะกลมขนาดใหญ่วางอยู่เรียงราย มีที่นั่งเคาน์เตอร์ที่ประจันหน้ากับเจ้าของร้าน
ที่นั่งตรงระเบียงก็มีด้วย
รูรูเนะมุ่งตรงไปยังผู้เข้าร่วมแข่งทั้งอย่างนั้น พอชั้นดูรูรูเนะได้สักพักก็ไปนั่งลงตรงที่นั่งเคาน์เตอร์
ทันใดนั้นที่ด้านข้างก็มีควันลอยออกมา
พอหันสายตาตามไปโดยบังเอิญก็เห็นคนสวมผ้าคลุมซอมซ่อขาดๆสีดำนั่งอยู่ที่ด้านข้าง
「โอ๊ะ ควันนี่โทษทีนะ ยังไงก็มีแต่เจ้านี่แหละที่ห้ามไม่ได้............」
คนที่อยู่ด้านข้างสวมฮู้ดปิดบังหมดเลยไม่เห็นหน้าแต่ที่รู้คือปากที่คาบบุหรี่ไว้อยู่นั้นมีหนวดเครารุงรัง
และเสียงเป็นผู้ชาย..............ว่าแต่โลกนี้ก็มีบุหรี่กับเขาด้วยเหรอเนี่ย............
「อ้ะ เปล่า ไม่เป็นไรครับ」
「เหรอ? งั้นก็ขอบใจนะ..........ลุง!เอลแก้วนึง!แล้วนายล่ะเอาไร?」
「เอ๋?」
「ก็ขอโทษเรื่องควันไง จะดื่มอะไรล่ะ?」
「ไม่ต้องหรอกครับ!ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักหน่อย!」
「เอาเถอะน่าเดี๋ยวเลี้ยงเอง!ว่าไง? เอาไรดี?」
「เอ่อ..........งั้นขอเป็นน้ำผลไม้อะไรก็ได้............」
「โอ้ ลุง ขอน้ำผลไม้อร่อยๆเพิ่มอีกแก้ว!」
「ได้เลย!」
ถ้าจำไม่ผิด เอลนี่มันเบียร์ชนิดหนึ่งนี่นา?
จากที่เคยดูทีวีมารู้สึกว่าจะต่างกันตรงที่หมักโดยไม่มีฮอป.............
ขณะที่คิดไปเรื่อยแบบนั้นก็มีเอลมาวางให้ชายที่อยู่ด้านข้างและน้ำส้มมาให้ชั้น
แล้วชายคนนั้นก็ซดเอลลงไปรวดเดียว
「อุก๊าาาา!เจ๋งเป็นบ้าเลย!」
「ครับ อร่อยดีจัง」
ถึงชั้นจะเป็นน้ำส้มไม่ใช่เหล้าแต่น้ำผลไม้100%แบบนี้ก็ต้องถูกใจในความเข้มข้นของเนื้อผลไม้อยู่แล้ว
ชายที่แสดงท่าทางถูกใจกับการดื่มเป็นอย่างมากก็หันมาคุยกับชั้น
「ยังไงก็ตามแต่...........ประเทศนี้นี่ดีจังนะ.........นายคิดอย่างนั้นมะ?」
「เอ๋? อะ ครับ ก็คิดอย่างนั้น ขนาดผมไม่ได้เกิดที่นี่แต่ก็ยังคิดเลยว่าเป็นประเทศที่ดี」
「ใช่เลย..........ชั้นน่ะมีงานที่ต้องออกเดินทางตั้งเยอะ โดยเฉพาะที่ประเทศนี้แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ
ก็ยังได้รับการบริหารจากประเทศเป็นอย่างดีบอกไว้ก่อนบริหารที่ว่านี่ในความหมายที่ดี
ไม่ใช่ในทางที่แย่นะ? มีประเทศสอดส่องดูแลเป็นอย่างดี กองอัศวินก็คอยตรวจตราความปลอดภัย
ในบริเวณโดยรอบอยู่เสมอ ถ้ามีสถานการณ์ที่ทำให้เก็บภาษีได้ลดลงก็จะรีบสนับสนุนหรือช่วยเหลือ
..............สาธารณูปโภคมีพร้อม คนยากจนมีน้อยแล้วถึงต่อให้ยากจนยังไงก็ยังได้รับความช่วยเหลือ
ต้องบอกว่าเป็นประเทศในอุดมคติอย่างแท้จริงเลยล่ะเนอะ?」
「ขนาดนั้นเลยเหรอครับ...........」
「พระราชาของประเทศนี้ก็เจ๋งไม่แพ้กัน ลองไปประเทศอื่นดูสิจะเห็นชัดๆเลยว่าชอบแบ่งชนชั้น
ไม่ใช่สถานที่ๆจะอยู่ได้อย่างสบายใจเลยสักนิด........จะว่าไปนายเป็นนักผจญภัยใช่มะ?」
「เอ่อ ใช่แล้วครับ」
「งั้นสักวันคงต้องออกจากประเทศนี้ไปทำงานที่อื่นแต่เวลานั้นน่ะอย่าเอาประเทศนี้
ไปเป็นมาตรฐานเชียวล่ะ เพราะประเทศนี้น่ะทั้งดีและสงบสุข
แต่ก็ทำให้สัญชาติญานระวังภัยลดลงไปเหมือนกัน」
นั่นสิ...........อย่าคิดเอากิลด์ศูนย์ใหญ่ของเมืองนี้เป็นมาตรฐานของกิลด์ทั่วไปดีกว่า
ก็ถ้ากิลด์ที่อื่นมีโรคจิตเต็มไปหมดนี่แย่กันพอดี มีแค่เมืองนี้ก็เกินพอแล้ว
「นั่นสินะ ของคุณมากเลยครับ」
「ช่างเถอะน่า ว่าแต่ขอถามชื่อได้มั้ย?」
「อ้ะ เซอิจิครับ」
「เซอิจิงั้นเหรอ เป็นชื่อที่ดี จากที่ฟังดูคงมาจากประเทศตะวันออกถูกมะ?
ส่วนชั้น.............สโล การที่ได้มาพบกันที่นี่อาจมีโชคชะตาต่อกันก็ได้ ถ้าได้พบกันอีกที่ไหนสักแห่งก็ดีนะ
ลุง!วางเงินไว้ตรงนี้นะ!」
พูดจบแค่นั้นชายคนนั้น........คุณสโลก็ห่อหุ้มร่างกายด้วยควันพลางออกไปจากร้านอาหาร
「แบบว่า เป็นคนที่ดูลึกลับจังแฮะ...........」
ไม่นานนักหลังจากที่คุยทำความรู้จักกับคุณสโล ในที่สุดการเตรียมงานแข่งกินจุก็เสร็จเรียบร้อย
จากนั้นก็ได้ยินเสียงของพิธีกร
『เอาล่ะครับ ในที่สุดก็ได้เวลาเริ่มงานแข่งกินจุของ【ร้านอิ่มจัง】แห่งนี้!
เพื่อไม่ให้เสียเวลาขอเริ่มแนะนำตัวผู้เข้าแข่งกันเลยนะครับ!
คนแรกนักกินจุอันดับหนึ่งประจำเมืองนี้!≪ฮารา เฮ็ตตะ≫ครับ!』
「โอ้วววววว!ชั้นนี่แหละคือมาสเตอร์นักกินจุตัวจริง!」
คนแรกที่แนะนำตัวเป็นชายใส่เสื้อแท็งท๊อปมีกล้ามพอตัวแม้จะไม่เท่ากับกัลซุส
........ว่าแต่มาสเตอร์นักกินจุนี่มันอะไรฟะ? แล้วยังชื่อที่แปลว่า『หิว』นั่นอีก............
『คนต่อมาเป็นราชานักกินจุที่มาจากอาณาจักรไคเซอร์!≪โซชากุ≫ครับ!』
「ข้าพเจ้านี่แหละคือมาสเตอร์นักกินจุ!」
คนที่แนะนำตัวถัดมาเป็นชายชราในชุดทหารไว้หนวดทรงไคเซอร์
..........ชื่อคราวนี้ก็แปลว่า『เคี้ยว』ได้อีกเนอะ?
『คนต่อมาก็เป็นผู้ท้าชิงจากต่างแดนเช่นกัน!เป็นจ้าวนักกินและนักชิมอันดับหนึ่ง
ของอาณาจักรวัลชา≪โยกุทาเบรุ≫ครับ』
「ฟุฟุฟุ......คิดว่าจะชนะกระเพาะของฉันได้งั้นเหรอ?」
ชายวัยกลางคนที่ยิ้มอย่างไม่กลัวใครมีผมหงอกเซ็ตไว้อย่างเรียบร้อย
เท่าที่ดูผ่านๆก็แต่งตัวหรูหราทั้งยังมีร่างกายที่อ้วนจากการกินดีอยู่ดี
..............ก็ไม่อยากจะตบมุขอีกหรอกนะแต่นี่ก็แปลว่า『กินเก่ง』อีกเหรอ?
เรื่องนั้นเอาไว่ก่อน เรื่องชื่อประเทศพึ่งเคยได้ยินนี่แหละ
อาณาจักรไคเซอร์น่ะพอจะมีความเกี่ยวข้องกับชั้นแต่จากที่คุยกับคุณสโลก็ทำให้รู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ว่ายังมีประเทศอีกมากมายหลายแห่งนอกจากประเทศนี้
『แล้วก็มาถึงคนสุดท้าย!เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในงานแข่งนี้!≪รูรูเนะ≫ครับ!』
「เรื่องแนะนำตัวน่ะช่างเถอะ รีบๆเอาอาหารมาให้กินได้แล้ว」
สมกับเป็นรูรูเนะเลยนะ
ขณะที่กำลังทึ่งกับรูรูเนะที่ไม่มีความรู้สึกตึงเครียดเลยสักนิด พิธีกรก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับงานแข่งนี้
『เอาล่ะ ถ้างั้นจะขออธิบายกฏกติกาของงานแข่งครั้งนี้แบบคร่าวๆนะครับ
กฏมีอยู่ว่าให้ผู้เข้าร่วมทานอาหารที่จัดเตรียมให้ไปเรื่อยๆ ผู้ที่เหลืออยู่คนสุดท้ายจะเป็นผู้ชนะเลิศ
แน่นอนว่ารายการอาหารและปริมาณรับประกันว่าเท่าเทียมกันทุกคน!
และผู้ชนะเลิศไม่ใช่แค่จะไม่ต้องจ่ายค่าอาหารเท่านั้นยังจะได้รับ≪Great parfait≫
ที่เป็นของหวานชื่อดังของทางร้านเราไปอีกด้วยครับ!』
โอ๊ะ อันนี้ไม่มีเขียนไว้ในประกาศแฮะ ให้ของหวานด้วยงั้นเหรอ
『ถ้างั้นก็มาเริ่มจานแรกกันเลยดีกว่า!ชื่ออาหารคือ..........【สเต็กUmashika】ครับ!』
เจ้าUmashikaนั่นเหรอฟะ!? เฮ้ย งั้นแบบนี้รูรูเนะก็ต้องกินพวกเดียวกันเองอ่ะดิ!?
แม้ชั้นจะตกใจแต่สเต็กเนื้อชิ้นโตอันน่าอร่อยก็ได้มาวางเรียงรายอยู่ตรงหน้าผู้เข้าแข่งแล้ว
『เอาล่ะ ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านเตรียมตัวกันพร้อมแล้วสินะครับ? งั้นก็.........เริ่มได้! 』
พอพิธีกรให้สัญญาณ พวกผู้เข้าแข่งก็เริ่มกัดกินสเต็กโดยพร้อมเพรียงกัน
รูรูเนะเองก็กินสเต็กเข้าไปเหมือนคนอื่นเขาเช่นกัน อา.............กินพวกเดียวกันเองไปซะแล้ว............
พอพวกผู้เข้าแข่งยัดสเต็กลงกระเพาะเข้าไปเรื่อยๆ สปีดของผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะก็เริ่มช้าลง
จากนั้น---------
「ย ยอมแพ้แล้ว...........!อุ๊บ!」
ผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะก็ร่วงลงไป
เฮ้ย!นี่เพิ่งจานแรกเองนะเฟ้ย!? จริงอยู่ที่แค่เห็นก็รู้ว่าสเต็กมันชิ้นใหญ่เวอร์
แต่อย่างน้อยก็น่าจะกินให้หมดสักจานสิ !
ผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะกินสเต็กแค่ครึ่งจานก็ยังไม่หมดคิดยังไงถึงได้มาเข้าร่วมงานแข่งแบบนี้นะ
『โอ๊ะ ร่วงไปอย่างรวดเร็วคนนึงแล้วครับ!ถ้างั้นผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะ
ช่วยชำระค่าอาหารที่กินไปรวมถึงอาหารที่เหลือตามจำนวนนี้ด้วยครับ!』
พอพิธีกรพูดจบก็มีพนักงานคนหนึ่งเข้าไปหาผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะพร้อมยื่นกระดาษให้หนึ่งใบ
คงเป็นบิลค่าอาหารมั้ง
「!?」
พอผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะรับไปก็ทำหน้าเหมือนกับภาพThe Scream
...............ชักสงสัยแล้วสิว่าเขียนจำนวนเงินเข้าไปเท่าไร
『เอาล่ะดูเหมือนว่าผู้เข้าแข่งท่านอื่นทุกท่านจะทานกันเสร็จแล้วนะครับ!
งั้นก็ไปต่อที่จานต่อไปกันเลย!』
จากนั้นอาหารก็ถูกยกออกมาเรื่อยๆจนกระเพาะอาหารของผู้เข้าแข่งต้องย่อยไม่หยุด
...........ผู้เข้าแข่งฮารา เฮ็ตตะนี่อ่อนเกินไปสินะ?
จานที่สอง จานที่สาม...........จานแล้วจานเล่าถูกยกออกมาจนในที่สุดก็มีคนตกรอบเป็นคนที่สอง
「ม..........ไม่ไหวแล้ว...........!」
『คร้าบ!ผู้เข้าแข่งโซชากุตกรอบ!ถ้างั้นเชิญมาชำระค่าอาหารทางนี้ได้เลยครับ!』
แล้วก็มีพนักงานออกมาเอาบิลให้ผู้เข้าแข่งโซชากุที่จับท้องด้วยสภาพที่เห็นก็รู้เลยว่าทรมาณ
「!!??」
ทันใดนั้นก็มีThe Screamคนที่สองปรากฏออกมา ก็แล้วมันเท่าไรกันฟะ?
『ในที่สุดก็เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวแล้วครับ!
แต่ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าผู้เข้าแข่งรูรูเนะจะเหลือมาถึงจุดนี้ได้!』
ก็ตามที่พิธีกรพูด ในสายตาคนทั่วไปลองบอกว่าสาวสวยอย่างรูรูเนะน่ะกินจุไม่มีทางเชื่อกันหรอก
แต่คนใกล้ตัวอย่างชั้นไม่สงสัยเลยกลับกันเรื่องที่ว่าตัวแค่นั้น
เอาอาหารที่กินไปเก็บไว้ตรงไหนยังจะน่าพิศวงมากกว่าอีก
『เอาล่ะครับแม้จะเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัวแต่ทางนี้ก็ได้มาถึงอาหารจานสุดท้ายแล้ว
ทว่าอาหารจานนี้เรียกได้ว่าคนละชั้นเลยกับอาหารที่ผ่านๆมา ถ้างั้นก็............เชิญครับ!』
ทันทีที่พิธีกรพูดก็มีพนักงานนำนกย่างทั้งตัวที่ใหญ่กว่า5เมตรมาตั้งอยู่ตรงหน้ารูรูเนะและโยกุทาเบรุ
『อาหารจานสุดท้ายคือ【นกบุโยบุโยย่างทั้งตัว】!สมกับเป็นอาหารจานตัดสินใช่มั้ยล่ะครับ』
ทว่าปฏิกิริยาตอบโต้ที่เห็นอาหารที่เอาออกมาของทั้งสองคนกลับตรงกันข้ามกันเลย
「อึก..............!ไม่นึกเลยว่าจะเตรียมอาหารรุ่นเฮฟวี่เวทรอไว้แบบนี้..........!」
「โอ้ววววว!เป็นนกที่น่าอร่อยจัง!」
รูรูเนะเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุกินเข้าไปช้าๆเหมือนกับพยายามจะยัดเข้าไปให้หมด
แต่ทว่า---------
「~~~~!」
ผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุเอามือสองข้างกดปากแล้วหงายท้องลงไปทั้งเก้าอี้
『โอ้!ผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุDown!งั้นก็แปลว่า..........ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆครับ!?
ผู้ชนะเลิศคือ...........ผู้หญิงเพียงคนเดียวในงานแข่งนี้ ผู้เข้าแข่งรูรูเนะครับ!』
「「「โว้วววววววววว!」」」
พอได้ยินเสียงโห่ร้องชั้นเลยหันไปรอบๆด้วยความตกใจ
เพราะเผลอแป๊ปเดียวก็มีคนมามุงกันตั้งเยอะแน่ะ...........จดจ่อเกินไปจนไม่รู้ตัวเลยแฮะ..........
ส่วนเจ้าตัวรูรูเนะที่เป็นคนชนะเลิศ........
「หือ? ชนะเลิศ? เรื่องนั้นช่างเถอะว่าแต่มีจานอื่นอีกมั้ย?」
ท่าทางยังกินไม่พอแฮะ ในท้องของเธอนี่มันเป็นยังไงกัน?
ขณะที่ยังงงๆอยู่ก็มีเสียงปรบมือแสดงความยินดีกับการชนะเลิศ
จากนั้นผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุก็ลุกขึ้นมาด้วยสีหน้าอึดอัดทรมาณ
「ฟุ...ฟุฟุฟุ.........ไม่น่าเชื่อเลยว่าฉันจะแพ้ได้..........ยิ่งกว่านั้นยังกับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธออีก........」
「ฉันน่ะชอบการกินอยู่แล้ว อีกอย่างต่อหน้าอาหารไม่มีคำว่าชายหรือหญิงหรอก」
「.........ชายหญิงเสมอภาคสินะ.........อยากฟังอยู่อย่างนึง สำหรับเธอแล้วอาหารคืออะไร?」
กับคำถามที่เป็นปรัญญาขนาดนั้นรูรูเนะกลับตอบทันทีโดยไม่คิดเลยแม้แต่นิดเดียว
「คือการสอดประสานกันของชีวิตและความตาย แล้วก็ประวัติศาสตร์」
「........หมายความว่ายังไง?」
「การกินอาหารคือการพรากชีวิตอื่นเพื่อการมีชีวิต หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป
『อาหาร』ก็จะไม่เกิด อีกทั้งที่พวกเรามีอาหารให้เพลิดเพลินได้มากมายแบบนี้
นั่นก็เพราะบรรพบุรุษได้ศึกษา『อาหาร』และถ่ายทอดไว้ให้
การกินนั้นไม่ว่าตัวผู้ ตัวเมีย เผ่าพันธุ์ ศาสนาหรือแม้กระทั่งคนหรือเทพก็ไม่มีแบ่งแยกทั้งนั้น
『อาหาร』คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่งที่ต่อให้เป็นพระเจ้าก็ไม่อาจห้ามได้ ฉันคิดแบบนี้」
ลึกซึ้ง ลึกโคตรๆ
ชั้นไม่คิดเลยว่ารูรูเนะจะมีความคิดจริงจังกับ『อาหาร』ได้ถึงขนาดนี้
ผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุที่ได้รับคำตอบจากรูรูเนะพอจะเข้าใจได้เหมือนกันละมั้ง
เลยทำสีหน้าสดชื่นออกมาได้ถึงขนาดนั้น
「อย่างนั้นเหรอ...........ดูเหมือนว่าจะเป็นฉันเองที่ยังใช้ไม่ได้สินะ
ดีจริงๆที่ออกจากบ้านเกิดมาแข่งแล้วได้พบกับแนวความคิดของเธอที่นี่...........」
ผู้คนที่ได้ชมการพูดคุยกันของผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุกับรูรูเนะ
ก็ปรบมืออย่างอบอุ่นด้วยความซาบซึ้งในอะไรสักอย่าง
ทันใดนั้นก็มีพนักงานเข้าไปหาผู้เข้าแข่งโยกุทาเบรุโดยไม่ทันตั้งตัวแล้วยื่นบิลให้
「!!!???」
แล้วก็เกิดThe Screamคนที่สาม
ก็ตกลงมันเท่าไรกันแน่
มีแค่อันนี้แหละที่ชั้นที่ทำให้ชั้นรู้สึกสงสัยมาก