ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 55 คำขอที่กะทันหัน

ตอนที่ 55 คำขอที่กะทันหัน

ตอนที่กวาดล้างมอนเตอร์เรียบร้อยและดื่มด่ำกับบรรยากาศของชัยชนะอยู่นั่นเอง
---------ในหัวของชั้นก็มีประกาศแจ้งข่าวร้ายออกมา

『Lvได้อัพแล้ว』
「อ้ะ」

แค่เพียงประโยคเดียวชั้นก็หน้าซีดไปเลย
ร รอเดี๋ยว ช้าก่อน อย่าพึ่งรีบ นี่ไง ถึงชั้นเป็นคนยิงเวทมนตร์จนใกล้ตาย
แต่ไม่ได้เป็นคนฆ่าให้ตายนะ? ให้Lvอัพแบบนี้ไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ
อีกอย่างดรอปไอเท็มกับลูกแก้วสเตตัสก็ยัง------------

「เฮ้ย ดูพวกมอนเตอร์ดิ!มีอะไรไม่รู้ส่องแสงออกมาด้วย!?」

นักผจญภัยคนหนึ่งชี้ไปที่ศพของมอนเตอร์แล้วตะโกนออกมา
พอเรียกร้องความสนใจกันแบบนั้นชั้นเลยหันสายตาตามไปก็เจอพวกมอนเตอร์ส่องแสงเจิดจ้า
จากนั้นพอแสงแผ่วลงไปก็เกิดเป็นดรอปไอเท็มจำนวนมหาศาล
ถ้ามีแค่นั้นก็ดีหรอก ไม่สิ ต่อให้ไม่มีเลย..........ก็ไม่ว่าอะไรด้วยซ้ำ
ทว่า ท่ามกลางพวกดรอปไอเท็มนั้นก็มีลูกแก้วที่ส่องแสงจำนวนนับไม่ถ้วนลอยขึ้นมา
โดยพร้อมใจกันพุ่งมาหาชั้นด้วยสปีดอันรวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด ชั้นเลยตัดใจกับอะไรหลายๆอย่าง
เฮ้อ สายไปซะแล้ว
ลูกแก้วแสงพุ่งเข้าใส่ชั้นที่ตาเหลือกอย่างไร้ปราณีแล้วถูกซึมซับเข้าไปในร่างกาย
พอร่างกายของชั้นซึมซับแสงนั้นได้ทั้งหมด ข้อมูลจำนวนมหาศาลของมอนเตอร์ก็ไหลเข้ามาในหัว
...........ก็ไม่อยากจะคิดหรอกแต่เป็นข้อมูลของมอนเตอร์ที่เจอเวทของชั้นกวาดไปสินะ?
นี่เพราะมีสกิลเฉพาะตัวอย่างจดจำทันทีกับจดจำสมบูรณ์แบบ
สมองเลยสามารถรับข้อมูลปริมาณมโหฬารแบบนี้ได้ ไม่งั้นสมองได้ระเบิดไปแล้วนะนั่น
ทั้งที่เป็นอย่างนั้นชั้นก็ยังโดนรุกไล่ต่อมาอีก

『Lvได้อัพแล้ว Lvได้อัพแล้ว Lvได้อัพแล้ว』

พอได้แล้ว!อย่าให้ชั้นห่างไกลความเป็นมนุษย์ไปมากกว่านี้เลย!
แต่การประกาศในหัวประกาศสิ่งผิดปกติออกมาโดยไม่ได้สนใจชั้นที่กรีดร้องอยู่ในใจ

『Lvได้............』

.........หือ? ทำไมไม่ประกาศต่อล่ะ?
พอเอียงคออยู่ในใจ...........

『Lvได้..........ปรับสูงขึ้นแล้ว』

ปรับสูงขึ้นแล้ว!?
อยู่ๆเป็นอะไรไปฟะ!? มันเกิดอะไรขึ้น!?
แม้ชั้นจะสับสนแต่ดูเหมือนว่าการLvอัพจะจบลงแค่นี้ จากนั้นก็ต่อด้วยการประกาศเรียนรู้สกิล

『เนื่องจากได้รับสกิลเป็นจำนวนมาก จึงทำการรวมสกิลจากแต่ละสายสร้างเป็นสกิลใหม่』

เป็นเซอร์วิสที่น่ายินดีแต่กลับไม่ยินดีเลยสักนิด...........!

『≪สกิลเล็บ≫ได้เรียนรู้แล้ว ≪สกิลหมัด≫ได้เรียนรู้แล้ว ≪สกิลเท้า≫ได้เรียนรู้แล้ว
≪สกิลดาบ≫ได้เรียนรู้แล้ว ≪ต่อต้านทุกสิ่ง≫ได้เรียนรู้แล้ว
≪สกิลเคลื่อนไหว≫ได้เรียนรู้แล้ว เนื่องจากได้เรียนรู้สกิลที่สามารถรวมกันได้หลายอย่าง
จึงทำการรวมสกิลเป็นหนึ่งเดียว ≪สกิลต่อสู้≫ได้เรียนรู้แล้ว』

เฮ้ย เดี๋ยวนะ
อะไรเนี่ย? สกิลที่มีกลิ่นความโกงสุดโต่งจนรู้สึกได้แบบนี้อ่ะ
ชั้นหวั่นๆอยู่ในใจพลางตรวจสอบ≪สกิลต่อสู้≫ที่ได้มา

『สกิลต่อสู้』.......การกระทำทุกอย่างที่ผู้มีสกิลนี้จินตนาการสามารถเปลี่ยนเป็นสกิลสายต่อสู้ได้
ทว่า การคิดให้ตายทันทีหรือทำให้การโจมตีไร้ผลไม่สามารถทำให้ออกมาได้ ทำงานอัตโนมัติ

โกงได้เหลือรับเลยเฟ้ย..........!
สรุปคือต่อจากนี้ไปเวลาชั้นสู้ ถ้าใช้สกิลนี้เวลาโจมตีไปทีเดียวแต่คิดไปให้ออกเป็นสิบทีก็ทำได้สินะ?
ตายทันที? การโจมตีไร้ผล?
แค่พลังโจมตีเพียวๆของชั้นก็ตายคาที่แล้ว ส่วนพลังป้องกันนี่ถ้ามีใครตีเข้าให้มันรู้ไป
................
พอได้แล้ววววววววววววววววววว............ไม่อยากโกงอีกแล้ววววววววววววววววววว
อุตส่าห์ฝึกกับรุยเอสเพื่อจะได้ใช้สกิลที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่ชั้นดันมีสกิลที่ทำให้ออกมาเต็มประสิทธิภาพได้ซะงั้น ที่ฝึกไปเปล่าประโยชน์หมดเลย
ไม่ตลกนะเฟ้ยแบบนี้น่ะ
แม้ชั้นจะท้อแท้สุดๆแต่ก็นึกเป็นห่วงสเตตัสของตัวเองว่าเป็นยังไงบ้างเลยรีบตรวจสอบสเตตัสดู

≪ฮิรากิ เซอิจิ≫
เผ่าพันธุ์:มนุษย์  (มนุษย์)
เพศ:ชาย (ชาย)
อาชีพ:ปริศนา (นักดาบเวท)
อายุ:17 (17)
เลเวล:20 (20)
พลังเวท:น่ากลัวเกินจะแสดงได้ (200【คงค่า】)
พลังโจมตี:น่ากลัวเกินจะแสดงได้ (200【คงค่า】)
พลังป้องกัน:น่ากลัวเกินจะแสดงได้  (200【คงค่า】)
ว่องไว:น่ากลัวเกินจะแสดงได้  (200【คงค่า】)
โจมตีเวท:น่ากลัวเกินจะแสดงได้ (200【คงค่า】)
ป้องกันเวท:น่ากลัวเกินจะแสดงได้  (200【คงค่า】)
โชค:น่ากลัวเกินจะแสดงได้ (200【คงค่า】)
เสน่ห์:เชิญไปคิดเอาเอง (200【คงค่า】)
≪อุปกรณ์สวมใส่≫
เสื้อเชิ้ตคุณภาพดี กางเกงคุณภาพดี เสื้อในคุณภาพดี กางเกงในคุณภาพดี โซ่ลิงเจ้าปัญญา
ดาบสั้นมณีภูติน้ำ กำไลค่ำคืน โชกเกอร์หินราชาดำ สร้อยคอแห่งรักไร้สิ้นสุด
เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ
≪สกิลเฉพาะตัว≫
จดจำทันที จดจำสมบูรณ์แบบ เรียนรู้ทันที ฟื้นตัวทันที แยกส่วนสมบูรณ์แบบ
ตาใจ วิวัฒนาการ ขโมยวิชา จัดระเบียบ ตาพิภพ อดทน อารมณ์
≪สกิล≫
【สายโจมตี】สกิลต่อสู้
【สายทนทาน】ทนทานทุกสิ่ง
【สายพิเศษ】ตรวจสอบขั้นสูง ปรุงยาชั้นเยี่ยม สร้างเครื่องมือ:ชั้นหนึ่ง ค้นหาศัตรู
พรางตา แทรกซึม ตาทิพย์ ดูดซับ บีบอัด เข้าใจทุกภาษา ทะลวง ข่มขู่ ป้องกันอัตโนมัติ สอน นรกอเวจี
【สายเวท】ไม่ร่าย พัฒนายิ่งยวด ผสานเวท
≪เวทมนตร์≫
【เวทธาตุ】เวทในชีวิตประจำวัน เวทธาตุน้ำขั้นสูงสุด เวทธาตุมืดขั้นสูงสุด เวทธาตุดินขั้นสูงสุด
เวทมิติขั้นสูงสุด เวทธาตุไฟขั้นสูงสุด เวทไร้ธาตุขั้นสูงสุด เวทธาตุลมขั้นสูงสุด
เวทธาตุสายฟ้าขั้นสูงสุด เวทธาตุน้ำแข็งขั้นสูงสุด เวทธาตุแสงขั้นสูงสุด
【เวทเฉพาะตัว】ชำระล้าง เวทพลิกกลับ เวทปลดปล่อย เวทเซอิจิ
【เวทพิเศษ】ประดิษฐ์เวท ประสิทธิเวทขั้นสูงสุด วงเวทขั้นสูงสุด
≪ศาสตร์ลับ≫
ลมกรด ประกายแสง เมฆหมอก ดาบบุปผาบานสะพรั่ง กายดาบหนึ่งเดียว
≪วิชายุทธ≫
วิชาดาบพิทักษ์สำนักเซโฟสขั้นเจ้าสำนัก
≪ฉายา≫
ผู้ใช้กลิ่น ชายผู้มีภรรยาเป็นกอลิล่า จุดสูงสุดแห่งสรรพสิ่ง ไม่รู้จักยับยั้งตนเอง ราชาแห่งตัวผู้
นักรบพิฆาตมังกร สังหารเทพ สุดยอดผู้ใช้เวท สังหารพริบตา ฝันร้ายแห่งหมู่มอนเตอร์
ชายผู้สยบโลก
≪เงินที่มี≫
583,300,061,470,560G

ขนาดสเตตัสยังกลัวเลยเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
มันอะไรกันฟะ!? โลกนี้ต้องการอะไรจากชั้นกันแน่!?
แล้วทำไมจนถึงตอนนี้ตรงเสน่ห์ก็ยังไม่ใส่อะไรที่ควรจะใส่มาให้อีกฟะ..............!
ว่าแต่ สเตตัสถึงขั้นนี้แล้วตรงเผ่าพันธุ์ยังเป็น『มนุษย์』อยู่อีก ไม่คิดว่าแปลกไปหน่อยเรอะ!?
ไม่ต้องฝืนก็ได้!ไงๆก็ทำใจได้แล้ว!? กล้าๆใส่เป็น『สัตว์ประหลาด』มาเลยดีกว่ามา!
พอคิดไปแบบนั้น จู่ๆตรงส่วนเผ่าพันธุ์ก็แสดงคำอธิบายตรงส่วนของมนุษย์เหมือนก่อนหน้านี้

『มนุษย์』.......เป็นตัวแทนแห่งความสมบูรณ์แบบและไม่สมบูรณ์แบบ
ทุกการกระทำสามารถเปลี่ยนตัวตนให้เป็นได้ทั้งพระเจ้าและจอมมาร
และเนื่องจากเป็นตัวตนที่ยังไม่สมบูรณ์แบบจึงสามารถวิวัฒนาการได้อย่างไร้ที่สิ้นสุด

『สัตว์ประหลาด』ยังอายเลยเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
จะโหดไปไหนฟะ!? ตกลงมนุษย์นี่มันตัวอะไรกัน!? จะปรัชญาก็ให้มันน้อยๆหน่อยได้มั้ย!?
พยายามสงบจิตใจที่สับสนวุ่นวายพลางตรวจสอบสกิลเฉพาะตัวที่ไม่เคยเห็น
O Ok.................ฉันสงบลงแล้ว..........?
..........ว่าแต่สกิล『ตาพิภพ』นี่จัดอยู่ในสกิลเฉพาะตัวแฮะ
ยังไงก็ตามแต่『อดทน』กับ『อารมณ์』นี่..........เป็นสกิลที่ดูเป็นผู้เป็นคนดีจัง
ก็นะ ชื่อไม่เหมือนสกิลโกงซะด้วย สกิลเฉพาะตัวอันนี้คงไม่ต้องห่วงมั้ง

『อดทน』.......เมื่อLvของเผ่าพันธุ์≪มนุษย์≫ไปถึงจุดที่กำหนด สกิลจะถูกปลดปล่อยออกมา
พลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นตามวินาทีที่อดทนต่อความเสียหายทางกายภาพและจิตใจทั้งหมด
พลังโจมตีที่เพิ่มขึ้นจากการอดทนแม้จะไม่ได้ใช้ในเวลานั้นก็สามารถเก็บสะสมไปใช้ครั้งต่อๆไปได้
ทำงานอัตโนมัติ
『อารมณ์』.......เมื่อLvของเผ่าพันธุ์≪มนุษย์≫ไปถึงจุดที่กำหนด สกิลจะถูกปลดปล่อยออกมา
สเตตัสทั้งหมดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามสิ่งต่างๆที่ทำให้จิตใจสั่นไหว ทำงานอัตโนมัติ

สกิลโกงได้ถึงใจไปเลยเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
ทำไมชั้นถึงคิดว่า『ดูเป็นผู้เป็นคน』แล้วมันเชื่อใจได้ฟะ!?
นี่ ล้อเล่นรึเปล่า!? 『อดทน』ที่ว่ามาเนี่ยทำให้พลังโจมตีของชั้นเพิ่มขึ้นตามวินาทีเลยนะ!?
แล้ว『อารมณ์』นี่ก็................แค่อารมณ์สั่นไหวก็เพิ่มสเตตัสทั้งหมดได้เรื่อยๆจริงดิ!?
ปัจจุบันได้สกิลโกงพวกนี้มาเอาจริงๆก็ควรดีใจไม่ไช่เหรอ? ไม่รู้สึกอย่างนั้นเหรอ?
ก็แหม ถึงเพื่อการปกป้องใครสักคนจำเป็นต้องแข็งแกร่งแต่นี่มันเกินไปหน่อยมั้ย?
แถมเกินไปทุกครั้งด้วย? มันจะแปลกไปหน่อยมั้ย!?
ต่อให้โจมตีเพื่อปกป้องจากศัตรูแต่มันจะไม่ใช่แค่ศัตรูที่หายไป โลกมันจะหายไปด้วยน่ะสิ!
ถึงพลังจะเป็นเรื่องสำคัญแต่คิดว่าแบบนี้มันก็เกินไปนะ!
อย่างอื่นก็ ทำไม『ป้องกันอัตโนมัติ 』กับ『นรกอเวจี』ถึงไม่อยู่ในสายโจมตี
ดันไปอยู่สายพิเศษซะงั้นแต่มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อยล่ะนะ
เมื่อเทียบกับ『ทนทานทุกสิ่ง』ที่ทำให้สภาวะผิดปกติทุกอย่างไร้ผล..........อื้ม เล็กน้อยมาก.............
แม้เกือบจะทรุดลงไปยังไงก็ยังคงตรวจสอบต่อไปจนสุดท้ายก็มาถึงตรงช่องฉายา

『สังหารพริบตา』.......เป็นฉายาที่มอบให้กับผู้ที่สังหารมอนเตอร์จำนวนมากได้ในพริบตา
เมื่อต่อสู้ พลังโจมตีและความว่องไวจะถูกปรับขึ้นอย่างมหาศาล
『ฝันร้ายแห่งหมู่มอนเตอร์』.......เป็นฉายาที่มอบให้กับผู้ที่มอบฝันร้ายให้กับมอนเตอร์ทั้งหลาย
เมื่อต่อสู้กับมอนเตอร์ สเตตัสทุกอย่างจะถูกปรับขึ้นอย่างมหาศาล
ทั้งยังลดสเตตัสของมอนเตอร์ที่เผชิญหน้าลงครึ่งหนึ่ง
『ชายผู้สยบโลก』.......เป็นฉายาที่มอบให้กับผู้ที่มอบความหวาดกลัวให้โลกนี้

และในที่สุดชั้นก็ทรุดไปกับพื้นจนได้

「เซอิจิ!? เป็นอะไรมั้ย!?」

ทันใดนั้นพอซาเรียเห็นสภาพของชั้นก็รีบวิ่งเข้ามาหา

「ฮะฮะ......ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...........ไม่เป็นไร๊ ไม่เป็นไร
แค่สงสัยในความเป็นมนุษย์ของตัวเองนิดหน่อยเท่านั้นแหละ.............」
「? เซอิจิก็เป็นมนุษย์ไม่ใช่เหรอ?」

ชั้นที่ได้รับการเยียวยาหัวใจจากซาเรียที่กำลังเอียงคออยู่ก็เข้าไปกอดซาเรียเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
ดีจัง.............ที่ยังมีคนบอกว่าเป็นมนุษย์อยู่...........
พอชั้นเริ่มสบายใจเพราะได้ซาเรียช่วยปลอบก็มาเริ่มการตบมุขฉายาที่ได้มาทีละอัน
อะไรฟะ?  『สังหารพริบตา』? มันจะอันตรายไปมั้ย!?
ยิ่ง『ฝันร้ายแห่งหมู่มอนเตอร์』นี่ชัดเจนเลยว่าไม่ธรรมดา!
แล้วยัง『ชายผู้สยบโลก』นี่อีก!ไม่ได้เพิ่มสเตตัสให้เลยจะเอาฉายาสุดโหดแบบนี้มาทำไมฟะ?
เอาเถอะสุดท้ายต่อให้ชั้นไกลจากความเป็นมนุษย์เท่าไรก็ยังเป็นมนุษย์อยู่ดี
จากการLvอัพครั้งนี้ก็ได้ยืนยันถึงเรื่องนั้นแล้ว
.........เดี๋ยวนะ? ถ้าเกิดการบุกของมอนเตอร์ครั้งนี้เป็นฝีมือคนทำล่ะก็.........
ที่ชั้นLvอัพก็เป็นความผิดของหมอนั่นน่ะสิ? ก็นี่ไง ถ้าไม่ต้องปราบมอนเตอร์Lvก็คงไม่ขึ้น
ถ้ามีเจ้าคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้อยู่จริงล่ะก็...........หนอยแน่ะ จะซัดให้เต็มเหนี่ยวไปเลย
ก็เจ้านั่นเป็นคนสร้างความบอบช้ำทางจิตใจให้ชั้นนี่นา!
ดีไม่ดี ตอนนี้สกิล『อดทน』กับ『อารมส์』ทำงานอยู่ด้วยซ้ำ!
ขณะที่กำลังยิ้มเหี้ยมเกรียมให้กับคนที่ไม่รู้ว่ามีตัวตนอยู่รึเปล่า
ก็ได้ยินเสียงของทหารคนนึงดังออกมาจากด้านหน้าของทุกคน

「ทุกท่าน โปรดฟังทางนี้!เมื่อสักครู่ฝ่าบาทได้แจ้งมาว่าการคุกคามของมอนเตอร์
ได้ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!ด้วยเหตุนี้ขอเชิญทุกท่านไปรับค่าตอบแทนที่ปราสาทได้!
และผู้ที่เป็นคนสังหารมอนเตอร์ทั้งหมด............เซอิจิคุง!」
「ค ครับ!?」

ชั้นที่อยู่ดีๆถูกเรียกชื่อก็ส่งเสียงเหรอหราออกมาด้วยความตกใจ
ว่าแต่ เรื่องที่ชั้นเป็นคนล้างบางมอนเตอร์ทั้งหมดความแตกจริงๆด้วยแฮะ............
ก็นะ เวทออกจะอลังการขนาดนั้นความไม่แตกสิแปลก...........
ช่างเถอะ ทั้งเอาชนะรุยเอสทั้งไปฝึกเวทกับคุณโฟริโอ้ พึ่งมาเปิดเผยเอาตอนนี้ก็ดีเท่าไรแล้ว

「มีเรื่องอยากจะพูดมากมายแต่.............ดรอปไอเท็มที่ได้จากการปราบมอนเตอร์ในครั้งนี้
อยากขอให้เป็นค่าตอบแทนสำหรับนักผจญภัยและเหล่าทหารของประเทศนี้ได้มั้ย
แน่นอนว่าไม่ได้ขอไปเฉยๆ ทางเราจะมอบดรอปไอเท็มที่ดีๆให้กับนายก่อน
และจะเตรียมค่าตอบแทนให้ตามคำเรียกร้องเท่าที่จะทำได้..........ว่าไงล่ะ?」
「ม ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ」
「นั่นสินะ.............คงมอบให้ง่ายๆไม่----------ได้เหรอ!?」
「ครับ แถมที่มีตอนนี้ก็พอเหลือเฟือแล้วด้วย............」

ได้ของโกงมามากกว่านี้มีหวังรับไม่ไหวกันพอดี!

「ก ก็ไม่เข้าใจหรอกนะแต่..............ขอบคุณมาก!」

คุณทหารยิ้มด้วยความดีใจกับคำพูดของชั้นแล้วหันไปแจ้งกับทหารและนักผจญภัยคนอื่นๆ
ยังไงก็ตามแต่...............ค่อยยังชั่วหน่อยที่จบอย่างปลอดภัยโดยไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
..............แต่ที่คาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือเพราะได้ความเก่งของพวกโรคจิตนี่แหละ

「เซอิจิ!」
「นายท่าน!」
「..........เจอแล้ว」

ขณะที่มองพวกนักผจญภัยโห่ร้องด้วยความความดีใจเพราะคำพูดของคุณทหาร
พวกอัลก็กลับมาหาพวกชั้น
พอชั้นจะส่งเสียงเรียกพวกอัลตอบ อัลก็ยื่นมือมาจับคอของชั้นแล้วถามก่อนที่จะได้เรียก

「นั่นมันเวทอะไรกันหา!? ว่าแต่นายเก่งอย่างที่คิดจริงๆด้วย!
สเตตัสที่นายแสดงออกมาโกหกใช่มั้ย!?」
「บ แบบว่า..............นั่นไง เป็นความลับของผู้..............」
「อย่ามาตอแหลทำเป็นพูดแนวเดียวกับว่าเป็นความลับของผู้หญิงนะ!?」
「ร รู้ได้ไง!?」
「ทางนี้ต่างหากล่ะที่ต้องถามว่าจะโกหกแบบนั้นคิดได้ไงน่ะ!?」

ก็นะ อัลก็มีพูดว่าไม่ได้ใส่ใจกับความลับของชั้น เรื่องนั้นซาเรียเองก็เหมือนกัน
ถ้าเป็นสองคนนี้ล่ะก็ต่อให้เอาสเตตัสของชั้นให้ดูก็เชื่อได้แน่ๆว่าจะไม่กลัวกันถึงขนาดไม่กล้าแตะต้อง
เพราะงั้น ความจริงไม่ใช่ว่ากลัวจนไม่กล้าให้ดูหรอก
แต่จะอธิบายเรื่องมันก็ยาวเลยกะว่าไว้เวลาเหมาะๆค่อยอธิบาย
รวมถึงเรื่องที่ว่าชั้นเป็นคนเดียวที่หลุดกลุ่มออกมาจากการอัญเชิญผู้กล้าด้วย
ขณะที่กำลังหลบหลีกพายุคำถามอย่างต่อเนื่อง รูรูเนะก็พูดกับชั้นด้วยสีหน้าเจ็บปวด

「นายท่าน..........」
「หือ เป็นอะไรไป? หรือว่าถูกมอนเตอร์ทำร้ายตรงไหน!?」

ตอนที่หันไปมองช่วงที่้สู้อยู่ก็ดูไม่น่าจะเป็นแบบนั้นเลยนี่นาแต่ก็ลำบากพอดูเหมือนกันสินะ?
ชั้นที่เป็นห่วงก็วิ่งเข้าไปหารูรูเนะแต่ตรวจดูแล้วก็ไม่มีบาดแผลตรงไหน
จากนั้นรูรูเนะก็หน้าแดงพลางพูดอย่างอายๆออกมา

「ค คือ.............ไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนหรอกค่ะแต่...............จ้องกันใกล้ๆแบบนี้รู้สึกเขินจัง..........」
「อุหวา!? ท โทษที!」

เพราะไม่คิดว่ารูรูเนะที่ร่าเริงอยู่เสมอจะมีสีหน้าทรมาณได้เลยรีบไปหน่อย
พอใจเย็นลงชั้นเลยถามรูรูเนะอีกครั้ง

「แล้ว? ตกลงเป็นอะไรล่ะ?」
「คือว่า--------」

โครกกก
ทันใดนั้นพวกเราก็ได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นมา
เสียงนั้นทำให้รูรูเนะหน้าแดงพลางก้มหน้า ส่วนพวกเราจ้องเขม็งไปที่รูรูเนะ
พอเงียบไปได้สักพักรูรูเนะที่หน้าแดงก็ช้อนตาขึ้นมามองชั้น

「.............ท้องมัน หิวแล้วค่ะ.............」

คำพูดของรูรูเนะทำเอาพวกเราหมดแรงเลย อะไรกัน...........แค่หิวเนี่ยนะ......ก็ปกติดีไม่ใช่เหรอ?
ทว่าก็น่ายินดีที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิมชั้นก็เลยหลุดหัวเราะออกมา

「น นายท่าน!อย่าหัวเราะสิคะ!สำนึกอยู่หรอกค่ะว่าเอาแต่กินมันไม่ดี
แต่เรื่องอายก็ยังอายอยู่นะคะ!」
「สำนึกกับเขาด้วยเหรอ!?」

เจอพูดแบบนี้ถึงกับอึ้งเลยนะเนี่ย!? ทั้งที่ตั้งมั่นเอาแต่กินขนาดนั้น............
รูรูเนะช็อกที่ชั้นหัวเราะออกมาเลยงอนนิดหน่อย
พอเห็นสภาพแบบนั้นเลยอดยิ้มแห้งๆไมได้

「โทษที ไม่ใช่แค่เฉพาะวันนี้ วันอื่นๆเองก็ไปกินของอร่อยด้วยกันเถอะ」
「.........จริงเหรอคะ? ด้วยกันสองคน?」
「? ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงต้องไปกันสองคนแต่รูรูเนะต้องการแบบนั้นก็ไม่มีปัญหา」
「อ้ะ!? ง งั้นข้าก็ด้วยสิ! ไปกินด้วยกันกับข้าสองคนนะ!」
「เอ๋!?」
「ฉันด้วยฉันด้วย~!」

ไม่รู้ทำไม ไม่ใช่แค่รูรูเนะ อัลกับซาเรียเองก็เอาด้วย
แต่ว่าถ้าไปกินอาหารกับรูรูเนะด้วยกันสองคนได้
ไปกินกับอัลหรือซาเรียด้วยกันแค่สองคนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนี่นา
..........หรือว่า นี่จะเป็นการเดทหว่า?
มือใหม่ด้านความรักอย่างชั้นไปกินข้าวกับสาวสวยด้วยกันสองต่อสอง ช่างเป็นบททดสอบที่สูงยิ่งนัก
ไม่สิ จนถึงตอนนี้ก็ไปเดินกินตามแผงลอยหรือไม่ก็ซื้อของด้วยกันอยู่แล้วนี่นา
พอนึกขึ้นได้ว่าที่ทำอยู่นั่นมันเดทดีๆนี่เอง ก็รู้สึกเขินปนสับสนจนแทบจะระเบิดออกมา
ขณะที่ชั้นกำลังหน้าแดงจนมองหน้าใครไม่ติด เสื้อคลุมของชั้นก็ถูกดึงโดยไม่รู้ตัว

「...........เซอิจิโอนี่จัง」
「หือ? มีอะไรเหรอ? ออริก้าจัง อ้ะ แน่นอนออริก้าจังก็ต้องไปกินด้วยกันอยู่แล้ว?
แต่เอ่อ...........ไปกับออริก้าจังแค่สองคนจะดีเหรอ?」
「.......อื้อ」
「ต ตกลงสินะ.......」

อ เอาเถอะ ถ้าเป็นออริก้าจังก็เหมือนไปกินข้าวด้วยกันกับน้องสาวนั่นแหละ
คงไม่เครียดเเหมือนไปด้วยกันกับพวกอัลหรอก แต่ยังไงก็อยากให้สนุกให้เต็มที่เหมือนกัน

「.........แล้วก็ มีอีกอย่างนึง」
「เอ๋?」

ชั้นคิดว่าจะพูดแค่เรื่องไปกินข้าวด้วยกันซะอีกเลยเอียงคอ

「..........ตามสัญญา ลูบลูบหัว...........นะ?」
「!」

สีหน้าของออริก้าจังที่ช้อนตามองพลางพูดแบบนั้นช่างมีพลังทำลายสูงอย่างเหลือเชื่อ
พอเห็นออริก้าจังแบบนี้ก็เข้าใจความลำบากของลุงโลลิค่อน.........คุณวอเตอร์เลยแฮะ
แม้จะคิดเรื่องอย่างนั้นแต่ชั้นก็ทำตามสัญญาเลยลูบหัวของออริก้าจังให้เป็นอย่างดี

001.jpg

「พยายามได้ดีมากเลย แต่อย่าฝืนไปล่ะ? ถ้าออริก้าจังบาดเจ็บขึ้นมาชั้นจะเสียใจมากเลยนะรู้มั้ย」
「.......อื้อ ขอบคุณ」

ออริก้าจังที่ถูกชั้นลูบหัวก็เขินอายและหน้าแดงนิดหน่อย
หลังจากนั้นนักผจญภัยแต่ละคนก็เริ่มทยอยกันไปที่ปราสาทหลวงเพื่อรับค่าตอบแทน
ขณะที่พวกเราคุยกันเรื่อยเปื่อยพลางเดินไปยังปราสาทหลวง คุณบาน่าก็เข้ามาหาชั้น
โดยที่สีหน้านั้นไม่สงบเงียบเหมือนอย่างเคยเป็นสีหน้าที่จริงจังมาก
พอรู้สึกถึงความกดดันจากสีหน้านั้นเลยพยายามถามออกไป

「อ เอ่อคือ...........มีปัญหาอะไรเหรอครับ?」
「..............」

คุณบาน่าไม่ตอบอะไรพร้อมเดินเข้ามาใกล้ชั้นอย่างนิ่งเงียบ
หวา เดี๋ยวสิ มันน่ากลัวสุดๆนะแบบนี้อ่ะ?
พอมาอยู่ตรงหน้าชั้น----------
หมับ!
จู่ๆก็มาจับไหล่สองข้างของชั้นไว้แน่น
ขณะที่ร่างกายกำลังเกร็งจากการกระทำที่ไม่คาดคิด
คุณบาน่าที่ตาเป็นประกายก็พูดออกมาอย่างเสียงดังฟังชัด

「เซอิจิคุง!ที่โรงเรียนของข้า----------ช่วยมาเป็นครูให้ได้มั้ย!?」
「......................หา?」

กับคำขอแบบนั้นชั้นได้แต่ส่งเสียงเอ๋อๆออกมา

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate