ตอนที่ 52 เหตุการณ์ผิดปกติ
รุยเอสออกเดินทางไปได้1อาทิตย์แล้ว
ถ้าให้พูดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ชั้นยังมาปราสาทหลวงฝึกเวทมนตร์ตามเดิม
แล้วก็วันนี้พวกซาเรียต่างไปรับคำร้องขอกันเลยไม่ได้อยู่ที่นี่ ออริก้าจังก็ไปด้วยกันกับพวกซาเรีย
และในที่สุดวันนี้ชั้นก็สำเร็จการฝึกจนได้แล้ว
「ฮึบ!」
「โอ้!」
ชั้นสามารถใช้เวท『Water ball』ที่เป็นเวทน้ำชั้นต้นให้หยุดอยู่ที่ขนาดลูกบาสเกตบอล
โดยที่ไม่ต้องคอยตั้งสมาธิได้สำเร็จ
「เก่งมากเลยเซอิจิคุง!ไม่รู้สึกถึงเวทที่รั่วไหลออกมาด้วย...........
ในที่สุดก็ได้สกิล『ยั้งมือ』มาแล้วนะ?」
คุณโฟริโอ้ที่ทำหน้าที่ฝึกสอนชั้นเป็นคนยืนยันให้
ยิ่งกว่านั้นแม้แต่ตัวชั้นเองก็เชื่อเหมือนกันว่าต้องได้สกิล『ยั้งมือ』มาแน่
เท่านี้พลังทำลายก็ไม่ออกมาเว่อร์เกินสักที.............!
ชั้นน้ำตาไหลด้วยความดีใจ ขอชมตัวเองเลยที่ตั้งใจฝึกมาตลอดในช่วง1เดือนที่ผ่านมานี้
ทำได้ดีมากตัวชั้น!
ทันใดนั้นในหัวก็มีเสียงประกาศขึ้นมาตามคาด
『สกิล【นรกอเวจี】ได้เรียนรู้แล้ว』
มันเกิดอะไรขึ้น
เดี๋ยวก่อน เย็นไว้ ไม่ต้องห่วง อย่างพึ่งหุนหันไป
พอหายใจเข้าลึกๆซ้ำไปซ้ำมาแล้ว ก็นึกถึงสกิลที่ประกาศในหัวเมื่อกี้นี้
『สกิล【นรกอเวจี】----------- 』
「แว้ก!」
「!?」
พอชั้นยืนยันกับตัวเองเสร็จหน้าก็ลงไปทิ่มพื้นทันที
คุณโฟริโอ้เลยตกใจมากกับท่าทางประหลาดของชั้น
「ป เป็นอะไรไปเหรอ? เซอิจิคุง...........」
「เปล่าครับ ไม่มีอะไร? พอดีกำลังนึกสงสัยอยู่ว่าทำไมไม่ได้ยินเสียงว่าได้เรียนรู้สกิล『ยั้งมือ』
เลยลองถามกับร่างกายตัวเองโดยตรง อื้ม ไม่มี อะไร แปลก ทั้งนั้น ครับ」
「อืม ไม่มีอะไรก็ดีแล้วล่ะ」
คุณโฟริโอ้พูดไปพลางยิ้มแห้งๆ
ทนไมไหวแล้วเฟ้ย!อะไรฟะ!『นรกอเวจี』เนี่ย!สกิล『ยั้งมือ』มันหายไปไหน!?
มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกันขึ้นสกิล『ยั้งมือ』ถึงได้แปลงร่างเป็นสกิลอันตรายแบบนี้.........!
ในบรรดาสกิลที่ได้มาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยมีสกิลชื่อสุดโหดแบบนี้เลยนะเฟ้ย!
...........ไม่สิ เดี๋ยวก่อน เย็นไว้
จะทิ้งความหวังยังเร็วไปจริงมั้ย?
ก็นั่นไง สกิลได้มาจากการพยายามออมมือใช่มั้ยล่ะ ถึงชื่อจะอันตรายแค่ไหน
แต่เนื้อหาข้างในอาจจะไม่อันตรายก็ได้!
ใช่แล้ว ต่อให้ชื่ออันตรายแต่เนื้อในก็ไม่เห็นต้องอันตรายตามสักหน่อย!
พอชั้นได้ความหวังมาเล็กน้อยก็ยืนยันสกิลที่ได้มาทันที
『นรกอเวจี』.......เป็นสกิลที่ทำให้เป้าหมายเจ็บปวดอย่างไร้สิ้นสุด ในระหว่างที่ใช้สกิลนี้อยู่
ต่อให้โจมตีใส่เป้าหมายแค่ไหน ก็จะไม่ตายอย่างแน่นอน แต่จะยังได้รับความเจ็บปวดเหมือนเดิม
จะใช้เอาแค่ยั้งมือธรรมดาก็ได้ ทำงานได้ตามต้องการ
มันเป็นตามชื่อเลยเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!
โหดโคตร!? สกิลอะไรกันฟะ! เป็นสกิลที่สเตตัสสัตว์ประหลาดอย่างชั้นไม่ควรได้มาที่สุด!?
แถมมีเขียนทิ้งท้ายด้วยนะว่าจะใช้เอาแค่ยั้งมือธรรมดาก็ได้!หยวนๆยอมลดมาให้หน่อยเหรอไง!
............ทำไงดี ดันเติบโตออกนอกทิศทางที่ชั้นต้องการซะแล้ว วันพรุ่งนี้ของชั้นจะเป็นไงบ้างเนี่ย?
แต่ถึงสกิลจะต่างกับที่ชั้นต้องการแต่ก็ยังใช้สำหรับออมมือได้ชั้นเลยยังพอทำใจได้
หลังจากนั้น ที่ขอบสายตาก็เห็นคนที่ไม่เคยเจอในปราสาท
「อ้าว? กัลซุส?」
「หือ? โอ้ เซอิจิคุงไม่ใช่เหรอ!」
「แหม? จริงด้วย」
ไม่นึกเลยว่าจะมาบังเอิญเจอกับกิลมาสเตอร์กัลซุสกับเอลิสที่เป็นประชาสัมพันธ์
เอลิสแต่งตัวเป็นประชาสัมพันธ์แต่กัลซุสยังคงใส่แค่กางเกงในบูมเมอร์แรงตัวเดียวเหมือนเดิม
กาละเทศะน่ะรู้จักมั้ย!ว่าแต่คนเฝ้าประตูให้ผ่านมาได้ไงฟะ!
「ทำไมเซอิจิคุงถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ?」
「ชั้นได้รับการฝึกจากรุยเอสกับคุณโฟริโอ้ในฐานะรางวัลของงานแข่งถ้วยเมืองหลวงน่ะ」
「..........เธอนี่ก็มีเรื่องให้แปลกใจอยู่เรื่อยเลยนะ」
กัลซุสฝืนยิ้มกับคำพูดของชั้น
「กัลซุสก็เถอะมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?」
「พวกดิฉันพาคนๆหนึ่งมาพบกับฝ่าบาทเลยมาที่นี่กันน่ะค่ะ」
「คนๆหนึ่ง?」
เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครเลยเอียงคอสงสัยแล้วก็มีคนแก่คนหนึ่งปรากฏตัวออกมาจากด้านหลังของกัลซุส
「โฮ่โฮ่โฮ่ สวัสดี? พ่อหนุ่ม」
「เอ อ้ะ สวัสดีครับ.........」
ภาพลักษณ์ของคนแก่ที่ชั้นเห็นครั้งแรกคือเซียน
ขนคิ้วยาวสีขาว ผมหงอกยาว หนวดที่ขาวก็ยาวด้วย แถมใส่เสื้อคลุมสีขาวอีกต่างหาก
สรุปขาวไปทั้งตัว
ส่วนสูงก็ไม่ได้สูงมาก หลังไม่โก่ง แต่ถือไม้เท้าสูงใหญ่เท่ากับส่วนสูงของชั้น
มีดวงตาและบรรยากาศที่อ่อนโยน โดยรวมแล้วเป็นคนแก่ที่มีบรรยากาศทำให้รู้สึกสบายใจ
「ข้า บานาบัส เอบริส จะเรียกว่าบาน่าเฉยๆก็ได้นะ」
「อ้ะ ผมเซอิจิครับ」
คุณบาน่าทักทายด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองมาก
ชั้นแนะนำตัวเองไปแต่คุณโฟริโอ้ยังคงนิ่งเงียบพึมพำอะไรอยู่คนเดียว
「ไม่นึกเลยว่าจะได้พบกันท่าน【เซียนเวท】บานาบัสคนนั้น.........!」
「เอ๋? คุณโฟริโอ้รู้จักคุณบาน่าด้วยเหรอครับ?」
「แน่นอนสิ!ท่านบานาบัสน่ะจะบอกว่าเป็นผู้ที่เชียวชาญศาสตร์เวทที่สุดในโลกก็ว่าได้
เป็นจอมเวทที่เก่งกาจที่สุดในโลกเลยล่ะ!」
「ห เห......」
คุณโฟริโอ้ตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนทำให้ชั้นกดดันจนได้แต่ตอบกลับไปเฉยๆ
ยังไงก็ตามแต่...........ถ้าคุณโฟริโอ้พูดถึงขนาดนั้นล่ะก็คงเก่งอย่างที่พูดนั่นแหละ
「โฮ่โฮ่โฮ่ ไม่ต้องชมกันขนาดนั้นก็ได้? ท่าน【มารหยาดน้ำแข็ง】」
「ร รู้จักผมด้วยเหรอครับ!?」
「อื้ม ได้ยินมาจากรันเซ่บ่อยๆว่าเป็นจอมเวทที่ยอดเยี่ยม」
「!」
คำพูดประโยคเดียวของคุณบาน่าทำให้คุณโฟริโอ้ถึงกับน้ำตาไหลออกมา
..........นี่คล้ายๆกับแฟนผู้คลั่งไคล้ได้พบปะพูดคุยกับไอดอลที่ตัวเองหลงใหลเลยแฮะ
แต่พอได้เห็นด้านที่คาดไม่ถึงของคุณโฟริโอ้ก็ชักจะน่าสนุกเหมือนกัน
「อีกอย่างข้าเองก็ยังไม่ได้เชี่ยวชาญศาสตร์เวทอะไรนักหรอก
แค่เป็นเอลฟ์เลยอายุยืนเท่านั้นเองแต่จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นปลายทางของศาสตร์เวทเลย」
「เอ๋? คุณบาน่าเป็นเอลฟ์เหรอครับ?」
「ใช่แล้ว นี่ไง หูยาวใช่มั้ยล่ะ?」
คุณบาน่าพูดพลางโชว์หูให้ดู
แล้วก็เป็นตามที่คุณบาน่าพูดคือมีหูแหลมยาวต่างกับมนุษย์ทั่วไป
จะว่าไป นี่เป็นเอลฟ์ที่เจอครั้งแรกที่ต่างโลก แถมมีชื่อเสียงสุดๆอีกต่างหาก
ขณะที่แอบประทับใจอยู่คนเดียว ก็เห็นคนเดินมาจากทางด้านในของปราสาทหลวง
「โย่ เซอิจิ การฝึกเป็นไงบ้าง?」
「อ้ะ คุณรันเซ่!」
「โอ้ ว่าแต่ ทำไมพวกกัลซุสถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?」
ที่ออกมาจากด้านในปราสาทคือคุณรันเซ่ที่เป็นพระราชาของประเทศนี้
จากนั้นพอคุณรันเซ่สังเกตุเห็นพวกกัลซุสอยู่กับชั้นและคุณโฟริโอ้เลยแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
แล้วคุณบาน่าก็พูดคุยแบบสบายๆกับคุณรันเซ่
「สบายดีมั้ย? รันเซ่」
「หือ? ..........อ้ะ อาจารย์บานาบัส!?」
คุณรันเซ่พอสังเกตุเห็นคุณบาน่าก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่จากนั้นก็ปรับแก้ท่าทาง
「ข ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อไปนานครับ!อาจารย์เองก็ยังไม่เปลี่ยนเหมือนเคย..............」
「ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นหรอกน่า? เจ้าเป็นราชาของประเทศนะ
ไม่ต้องมาพิธีรีตองกับคนแก่อย่างข้าก็ได้? 」
「ร เรื่องนั้นทำไม่ได้หรอกครับ!」
...........คุณบาน่านี่ตกลงเป็นใครกัน?
อ้าว? อย่างนี้ชั้นเอากับเขาด้วยดีไหมหว่า? แต่ก็พูดคุยธรรมดาไปแล้วอ่ะนะ..........
พอเห็นคุณรันเซ่ที่เป็นพระราชายังตื่นเต้นแถมให้ความเคารพขนาดนี้เลยอดสงสัยไม่ได้
「เอ่อ............คุณรันเซ่ มีความสัมพันธ์ยังไงกับคุณบาน่าเหรอครับ?」
「เอ๋? อ๋อ อาจารย์บาน่าเป็นอาจารย์ที่เคยอบรมเลี้ยงดูกันมาน่ะ」
อย่างนี้นี่เอง คุณรันเซ่ถึงได้เคารพแบบนี้...........
พอเริ่มรู้จักตัวจริงของคุณบาน่า กัลซุสก็ให้ข้อมูลเพิ่มมาอีก
「อีกอย่างท่านบานาบัสยังเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดลด้วยนะ」
「โรงเรียนเวทมนตร์บาบาโดล!?」
ชั้นตกใจกับชื่อนั้น
นั่นก็เพราะโรงเรียนที่ว่า..............เป็นโรงเรียนที่พวกโชตะไปเรียนกัน
ขณะที่ตกใจกับเรื่องนั้น คุณรันเซ่ก็ถามคุณบาน่าด้วยสีหน้าสงสัย
「แล้วทำไมอาจารย์มาอยู่ที่นี่ได้ครับ? ทั้งยังไม่ได้มีนัดว่าจะเข้ามาเยี่ยมด้วย..............」
「อื้ม ที่จริงคือมีเรื่องจะมาแจ้งให้เจ้าทราบน่ะ...........」
「มีเรื่องมาแจ้ง?」
「เรื่องของพวกลูกๆเจ้า」
「!」
คำพูดของคุณบาน่าทำให้สีหน้าของคุณรันเซ่เปลี่ยนไป
...........จะว่าไปตอนที่ออริก้าจังโจมตีคุณรันเซ่ คุณคลาวเดียร์ก็มีพูดถึงเจ้าชายลำดับหนึ่งกับสอง.........
ขณะที่กำลังนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ คุณบาน่าก็พูดต่อ
「ตอนนี้ โรงเรียนของข้ากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษนิดหน่อย ทำไมก็คงรู้ใช่มั้ย?」
「..........ตัวตนของผู้กล้าสินะครับ?」
「ใช่แล้ว เพราะเรื่องนั้นโรงเรียนของข้าเลยเจอกับปัญหายุ่งยาก.............」
「ปัญหาที่ว่าคือ?」
「คือ---------」
ทันทีที่คุณบาน่ากำลังจะแจ้งเนื้อหาให้ทราบ
ก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่ลานฝึกด้วยสีหน้าแตกตื่น
「ฝ ฝ่าบาท!แย่แล้วครับ!」
「มีอะไรกัน? ถึงได้แตกตื่นแบบนี้」
คุณรันเซ่ถามทหารที่มีท่าทางแบบนั้น
「มอนเตอร์..........ฝูงมอนเตอร์กำลังบุกมาที่เทลเวลแห่งนี้ครับ!」
『!?』
ข้อมูลที่ทหารพูดออกมาทำให้ทุกคนสีหน้าเปลี่ยนไป
แต่รุยเอสก็มีบอกไว้นี่ว่ามีความเคลื่อนไหวแปลกๆของมอนเตอร์ตามแนวชายแดน.........
「หมายความว่ายังไงกัน? จริงอยู่ที่มีการเคลื่อนไหวของมอนเตอร์ตามแนวชายแดน.........
อีกอย่างรุยเอสกับ【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์】ก็น่าจะจัดการมอนเตอร์พวกนั้นได้ไม่ใช่เหรอ......」
คุณรันเซ่คิดเหมือนชั้นเลยถามอย่างนั้นกลับไป ทหารเลยพูดต่อ
「เรื่องนั้น ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อไปหาท่านหัวหน้ารุยเอส ซึ่งก็ได้แจ้งมาว่าทางด้านที่พวกท่านไป
ก็มีการบุกโจมตีของพวกมอนเตอร์!ทางท่าน【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์】ก็เช่นเดียวกันครับ!」
「มันเกิดอะไรกันขึ้น? มอนเตอร์ถึงได้บุกพร้อมกันแบบนี้...........?」
คำพูดของทหารทำให้คุณรันเซ่คิดหนัก เลยถูกคุณบาน่าตักเตือน
「นี่ รันเซ่ เรื่องสาเหตุน่ะเอาไว้ก่อน ที่สำคัญคือการจัดการปัญหาตรงหน้าไม่ใช่เหรอ?」
「อาจารย์..........นั่นสินะครับ แล้วจำนวนมอนเตอร์มันเท่าไรกัน?」
「ครับ!ตามที่หน่วยสอดแนมว่ามามีราวๆ5000ตัวครับ 」
「5000!? นี่มันบ้าชัดๆ.......!」
คุณรันเซ่เดาะลิ้นกันข้อมูลของทหารแล้วสั่งการออกไปทันที
「แล้วกองทหารที่เรียกมาได้ทันทีมีเท่าไร?」
「เรื่องนั้น...........กองทหารอื่นๆทุกคนต่างก็ออกเดินทัพไปตามแต่ละท้องที่
ที่พอจะเคลื่อนไหวได้ก็มีแต่กองทหารที่ประจำอยู่เทลเวลแห่งนี้ครับ」
「งั้นเหรอ..........ดีล่ะ งั้นเจ้าจงไปเรียกทหารพวกนั้นมารวมกันที่ปราสาทหลวงนี่ซะ
หน่วยสอดแนมก็เรียกให้กลับมาที่เทลเวลทันทีด้วย ไปได้!」
「ค ครับ!」
「โฟริโอ้」
「ครับ!」
「หลังจากที่หน่วยสอดแนมกลับมา ให้ฟังตำแหน่งที่อยู่ของมอนเตอร์จากหน่วยสอดแนม
แล้วจัดการให้กล้องเวทมนตร์บินไปที่นั่น จำนวนคนเอาแค่ให้ดูแลภาพฉายได้ก็พอ
ที่เหลือให้ไปรวมกับพวกทหารจัดการมอนเตอร์ซะ」
「รับบัญชา」
พอคุณโฟริโอ้รับคำสั่งจากคุณรันเซ่ก็รีบไปดำเนินการทันที
ในขณะที่ด้านในปราสาทกำลังรีบเร่ง พวกกัลซุสก็เริ่มเคลื่อนไหว
「เรื่องนี้คงจำเป็นต้องให้กิลด์ของพวกเราช่วยสินะ?」
「โทษทีก็อย่างที่ว่านั่นแหละ ขอความร่วมมือหน่อยได้มั้ย?」
「ถึงจะไม่ร่วมมือกับการทำสงครามแต่กรณีฉุกเฉินแบบนี้พวกเราต้องให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว」
พูดเสร็จกัลซุสก็ทำท่าเบ่งกล้ามแล้วสั่งงานคุณเอลิส
「เอลิสคุง!เธอรีบไปประกาศการปราบมอนเตอร์ที่กิลด์โดยด่วน!」
「รับทราบค่ะ」
「ขอบใจ ส่วนเรื่องค่าตอบแทนทางประเทศจะรับผิดชอบเอง」
「ฮ่าฮ่าฮ่า!อย่างนั้นคงทำให้พวกนักผจญภัยมีกำลังใจขึ้นเยอะ!
ฉันเองก็ไม่ได้อาละวาดมานานแล้ว!」
「ครั้งนี้ดิฉันขอเข้าร่วมกับแนวหน้าด้วยคน」
「เอ๋!? ทั้งสองคนก็สู้ด้วยเหรอ!?」
ก็แหม ถึงคุณเอลิสจะมีเหวี่ยงแส้แต่นั่นมันใช้สำหรับSM ใช้กับการต่อสู้ได้ซะเมื่อไร
ส่วนกัลซุสตามสถานการณ์ที่ว่ามาถ้าใช้กล้ามไม่เป็นมันจะมีความหมายอะไร
「เสียมารยาท!เวลาอย่างนี้แหละที่พลังกล้ามเนื้อของฉันจะลุกโชน!
อีกอย่างนี่เป็นโอกาสดีที่จะให้ทุกคนได้เห็นกล้ามเนื้อของฉันด้วย!」
「อันหลังนี่ใจจริงสินะ!?」
อะไรฟะ จะให้ดูกัลซุสโชว์กล้ามเนี่ยนะ..........
「ดิฉันเองก่อนหน้าที่จะเป็นประชาสัมพันธ์ก็ลุยแหลกเหมือนกันนะคะ?」
「จินตนาการไม่ออกเลย.........」
ลุยแหลกที่ว่านี่............ในความหมายไหนกัน?
แต่กัลซุสก็ไม่สนใจชั้นที่ทำหน้าบอกไม่ถูกแล้วกลับกิลด์ไปทั้งอย่างนั้น
เหลือเพียงแค่ชั้นกับคุณบาน่าและคุณรันเซ่เท่านั้น
「โฮ่โฮ่โฮ่ งั้นข้าเองก็จะให้ยืมพลังด้วยแล้วกัน」
「เอ๋!? อาจารย์เองก็จะสู้ด้วยเหรอครับ!?」
「ลูกศิษย์เจอปัญหา อาจารย์ก็ต้องช่วยเป็นเรื่องธรรมดาถูกมั้ย?」
「ข ขอบพระคุณมากครับ!」
พูดแล้วคุณรันเซ่ก็โค้งให้
「ได้พลังของอาจารย์ที่เป็น≪ผู้เหนือล้ำ≫มาช่วย............
สถานการณ์แบบนี้ต้องเรียกว่าโชคช่วยจริงๆ」
「ผู้เหนือล้ำ?」
พอเอียงคอกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย คุณรันเซ่ก็อธิบายให้ฟัง
「ไม่รู้จักเหรอ? ผู้เหนือล้ำคือคำที่ใช้เรียกผู้ที่สามารถทะลวงขีดจำกัดได้
ถึงรุยเอสจะอยู่ที่จุดสูงสุดที่มนุษย์จะทำได้คือLv500 แต่ในบรรดาพวกนั้น
ก็มีบ้างที่สามารถทะลวงขีดจำกัดของLv ทำให้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก」
「แม่หนูอัจฉริยะนั่นสินะ? ถ้าเป็นแม่หนูคนนั้นล่ะก็
จะเป็นผู้เหนือล้ำเหมือนอย่างข้ามันก็ขึ้นอยู่กับเวลาล่ะนะ」
คนไปถึงLvสูงสุดก็ว่าหายากแล้ว นี่ยังมีคนที่ก้าวข้ามมาได้อีก..........
.........เอ๊ะ? ทำไมกันน้า ชั้นถึงได้รู้สึกว่าเป็นพวกผู้เหนือล้ำที่ว่านั่นไปแล้ว............
อ เอาน่า!ยังไงLvก็ยัง15อยู่!
............ถึงLv15จะปราบLv500ได้จะแปลกก็อย่าไปใส่ใจ!ไม่ต้องคิดมาก!
「แล้ว? เซอิจิ นายล่ะจะเอาไง?」
「เอ๋?」
「ตามที่กัลซุสพูด ถึงเรื่องคราวนี้จะเป็นเหตุฉุกเฉินแต่สำหรับนักผจญภัย
ก็ยังเป็นการเข้าร่วมในรูปแบบของคำร้องขอ เพราะงั้นไม่ได้มีการบังคับอะไรหรอกนะ.........」
「ผมก็ต้องสู้ด้วยอยู่แล้ว? ก็ผมชอบเมืองนี้นี่นา」
พอบอกไปตามความรู้สึก คุณรันเซ่ก็เปิดตากว้างแป๊ปนึงแล้วยิ้มด้วยความดีใจ
「งั้นเหรอ.........งั้นก็ช่วยหน่อยแล้วกัน!」
「รับทราบ!」
จากนั้นชั้นก็วิ่งออกไปทางเมืองเพื่อต่อสู้กับฝูงมอนเตอร์
◆◇◆
---------ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย
ใจกลางห้องมืดที่มีคริสตัลวางอยู่ ได้มีชายส่งเสียงหัวเราะอันแปลกประหลาดอย่างมีความสุข
「บุฮิบุฮิบุฮิ!สำเร็จสำเร็จ!
เพียงเท่านี้..........การกลับมาของท่านเทพปีศาจก็ใกล้เข้ามาแล้ว..............!」
นอกจากเสียงของชายคนนั้นก็มีเสียงอื่นดังออกมาจากคริสตัล
『เฮอะ คนที่เตรียมการมันทางนี้ต่างหาก? คิดรึเปล่าว่าใครเป็นคนไปวางเวทวาร์ป
ตรงแถบ【ภูเขา】ของเทลเวลน่ะ』
「เรื่องนั้นก็รู้สึกขอบคุณอยู่แล้วล่ะน่า แต่ข้าเป็นคนไปรวบรวมพวกมอนเตอร์ที่ว่ามานะ
ดูจากผลลัพธ์แล้วมันก็เหนื่อยพอกันนั่นแหละ?」
『..........เฮอะ 』
คำพูดของชายคนนั้นทำให้เสียงจากคริสตัลถอนหายใจอย่างไม่สบอารมส์
「ช่างเถอะ 【ภูเขา】แถบเทลเวลถ้าส่งทหารจำนวนมากไปต้องรู้ตัวแน่
แต่กับมอนเตอร์ต่อให้ส่งไปเท่าไรก็ไม่มีทางรู้ตัวหรอก
ต่อให้เอาไปล้อม【ภูเขา】แถบเทลเวลไว้เท่าไรก็ยังดูเป็นแค่มอนเตอร์」
『แต่ก็นะ ดันเอาเวทวาร์ปไปติดตั้งแถว【ทะเล】ไม่ได้นี่สิ........』
「เรื่องนั้นช่วยไม่ได้หรอก ก็เวทวาร์ปแบบติดตั้งต้องเป็นผืนดินตามที่กำหนด
ถึงจะแสดงประสิทธิภาพออกมาได้ แต่ยังไงก็ได้ยินมาว่าที่เทลเวลไม่มีคนที่ใช้เวทมิติได้
เพราะงั้นขอแค่ดึง【อัศวินดาบ】กับ【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์】ไปไว้ที่แถบชายแดน
ระหว่างนั้นก็สามารถบุกเทลเวลได้อย่างเต็มที่
ความตายและความสิ้นหวังของผู้คนเป็นเครื่องสังเวยอย่างดีแก่ท่านเทพปีศาจซะด้วย」
『แต่ว่าที่นั่นยังมี【มารหยาดน้ำแข็ง】กับ【มนุษย์เหล็ก】อยู่นะ?』
「เฮอะ ต่อให้ตัวคนเดียวจะเก่งแค่ไหนพลังก็ยังมีจำกัดอยู่ดี
คุณภาพน่ะไม่มีทางชนะปริมาณไปได้หรอก」
『จะยังไงก็ช่างเถอะ หากแผนการครั้งนี้สำเร็จ
ก็จะยิ่งทำให้การหวนกลับมาของท่านเทพปีศาจใกล้เข้ามาอีก』
「มันไม่มีทางไม่สำเร็จอยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง? จากการตรวจสอบของเจ้า
ก็เล็งหาโอกาสตอนที่ทหารเก่งๆเหลืออยู่น้อย เพราะงั้นมันต้องสำเร็จอยู่แล้วสิ 」
『นั่นสินะ.........สาเหตุที่ทำให้ล้มเหลวก็ไม่น่าจะมี』
เสียงจากคริสตัลเองก็ยอมรับคำพูดของชายคนนั้น
「บุฮิบุฮิบุฮิ!ทุกอย่างเพื่อท่านเทพปีศาจ----------」
ชายคนนั้นกล่าวคำปฏิญานอย่างจงรักภักดีต่อองกรณ์ที่ตัวเองสังกัดเช่นเดียวกับเจ้าของเสียงจากคริสตัล
แต่ยังมีสิ่งที่ชายเหล่านั้นไม่รู้
---------คือที่เทลเวลนั้นมี【มนุษย์(สัตว์ประหลาด)】ที่เหนือกว่าเทพปีศาจอยู่---------