ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 51 พี่น้อง

ตอนที่ 51 พี่น้อง

หลังจากเด็กสาวกินคัตสึด้งเสร็จชั้นก็กะว่าจะทำเป้าหมายหลักที่รุยเอสขอมาให้เสร็จ
【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ถ้าคนอื่นไปพยายามฝืนถอดออก ผู้สวมจะได้รับความเจ็บปวดทรมาน
เลยร้ายที่สุดอาจถึงขั้นตายได้
เพราะฉะนั้นแต่ละประเทศในโลกนี้จึงมีการห้ามใช้กันอย่างแพร่หลาย
แต่ดูเหมือนว่าอาณาจักรไคเซอร์จะไม่ได้เข้าร่วมข้อตกลงนั้น
เรื่องนั้นจะยังไงก็ช่างเถอะ ยังไงก็ต้องถอดปลอกคอของเด็กสาวตรงหน้านี้ให้ได้
ชั้นที่เป็นห่วงเด็กสาวอยู่ในใจนิดหน่อยก็ย่อตัวลงจนอยู่ระดับสายตาเดียวกัน
แล้วพยายามอธิบายให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

「คือว่าจากนี้จะเอาปลอกคอที่ติดอยู่กับคอของเธอออกล่ะนะ」
「!? ..........เรื่องนั้นทำไม่ได้หรอก」
「อื้ม ปฏิกิริยาของเธอถูกต้องแล้วล่ะ ก็【ปลอกคอสวามิภักดิ์】พูดกันว่านอกจากคนที่สวมให้
ไม่ว่าใครก็ถอดไม่ได้นี่นา」
「งั้น--------」
「ไม่เป็นไร!เชื่อใจพี่ชายคนนี้ได้เลย!」

กับเด็กสาวที่มีท่าทางหมดหวัง ต้องตอบไปอย่างมั่นใจเพื่อจะได้มีความหวังขึ้นมาแม้เพียงนิด
พลังที่ยิ่งใหญ่จะเป็นสิ่งทำลายตัวเอง เพราะงั้นชั้นถึงได้กลัวตัวเองที่มีสเตตัสสัตว์ประหลาด
แต่ถ้าพลังของชั้นช่วยคนอื่นได้ล่ะก็จะให้ชั้นกลัวตัวเองสักเท่าไรก็ได้
ถ้าชั้นใช้พลังช่วยคนอื่นได้เวลานั้นแหละถึงจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองได้
ว่าแล้วชั้นก็ยื่นมือไปยังปลอกคอที่เด็กสาวสวมอยู่
บางทีเพราะปลอกคอที่สวมอยู่นี่ เวท【จงหายดี】ที่เป็นเวทออริจินัลของชั้นคงใช้ไม่ได้
เพราะประสิทธิภาพของเวท【จงหายดี】ก็คือทำให้『คำสาป』เปลี่ยนเป็น『ปลุกเสก』
อีกอย่าง【ปลอกคอสวามิภักดิ์】จะถอดออกได้ต้องเป็นคนที่สวมให้เท่านั้น
จึงไม่มีเวทที่จะสามารถทำให้ถอดออกได้
เพราะงั้นชั้นจึงต้องประดิษฐ์เวทขึ้นมาใหม่อีกครั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
.........บอกไว้ก่อนคราวนี้จะไม่พลาดเหมือนเวท【จงหายดี】อีกแล้ว!? ไม่ได้โง่นะเฟ้ย!?
แต่ถึงอย่างนั้นภาพที่ถอด【ปลอกคอสวามิภักดิ์】นี่จะเอาเป็นอะไรดีล่ะ?
พอคิดถึงตรงนั้นชั้นก็ชะงักขึ้นมา
..........อาเร๊ะ? คิดภาพไม่ออกเหมือนตอน【จงหายดี】เลยอ่ะ?
ย ยังหรอก! จะตัดใจยังเร็วไป!ใช่แล้ว ทาส ควบคุม ปลดปล่อย คำพวกนี้ไงล่ะ
แค่นึกภาพของคำพวกนี้ก็ใช้ได้แล้ว!
อืมมม..............ท ทาส? ควบคุม? ...........จินตนาการไม่ออกเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยย!
ไม่สิ ไม่ต้องนึกทั้งหมดก็ได้ แค่อย่างเดียวก็พอเนอะ?
แต่ว่านะ ? การปลดปล่อยทาสจากความรู้ของชั้นก็ต้อง----------

「ประธานาธิปดีลินคอน...........!」
『............』

ทำไปด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย!
ทำไปอีกแล้ว!นี่ไง ดูหน้าทุกคนสิ!『เอ.........ประธานาธิปดีลินคอน? ใครหว่า?』
หน้าตาประมาณนี้เลย
ชักอยากจะเผ่นเดี๋ยวนี้แล้วสิ
ทว่าหลังจากนั้น มือของชั้นที่ยกขึ้นมาก็เปล่งประกายแล้วประกายแสงนั่นก็พุ่งไปที่ปลอกคอของเด็กสาว
ทันที่ที่ประกายแสงสัมผัสปลอกคอ ปลอกคอก็แตกกระเด็นออกมา

「อุหวา!? เกือบไป!」

ชั้นหลบเศษปลอกคอที่ปลิวมาทางชั้นอย่างแรง
นี่ก็เพราะชั้นได้ฝึกกับรุยเอสเลยสามารถเคลื่อนไหวตามที่ต้องการได้ในระดับหนึ่ง
ถึงจะยังไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ทำให้ลดการใช้สกิลไปได้บ้าง
ทางเด็กสาวโชคดีที่ไม่เป็นอะไรเลย ดูเหมือนเศษจะกระเด็นมาทางชั้นคนเดียวแฮะ
............ทำไมกันหว่า
เรื่องนั้นยังไงก็ช่างเถอะ เด็กสาวที่ปลอกคอถูกถอดออกยังไม่รู้ตัวอยู่สักพัก
แต่ไม่นานก็ไปจับคอของตัวเองแล้วรู้ตัวว่าไม่มีปลอกคอแล้ว

「!?」
「นี่ไง สำเร็จแล้ว!?」

.........ถึงแม้จะทำไปได้ครั้งมโหฬารแต่ก็ถอดออกเรียบร้อยแก้ปัญหาได้แล้วกันน่า!
ขณะที่ยืดอกภูมิใจกับเรื่องที่ไม่น่าภูมิใจ ในหัวก็ได้ยินเสียง

『เริ่มใช้สกิล【ประดิษฐ์เวท】 เวทปลดปล่อย【ประธานาธิปดีลินคอน】ได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว』

ขอโทษด้วยครับ ที่แก้ปัญหาส่งๆไป
อุตส่าห์ระวังขนาดนั้นแล้วแท้ๆยังสร้างเวทชื่อพิลึกออกมาอีก!
ก่อนอื่นเลย ชื่อเวทเนี่ยเป็นชื่อคนได้ด้วยเรอะ!? ไม่สิ ก็ชั้นเป็นคนตะโกนออกไปเองนี่หว่า!
ขณะที่ยืดอกแต่ใจปวดร้าว ในหัวก็มีคำอธิบายของเวทใหม่แสดงออกมา

『เวทปลดปล่อย:ประธานาธิปดีลินคอน』.......เป็นเวทที่ปลดปล่อยจากพันธนาการทั้งปวง

ยังคงประสิทธิภาพเว่อร์เหมือนเดิมเลยนะ!
นี่ไม่ใช่แค่ควบคุมแต่เป็นเวทที่ปลดปล่อยจากการถูกจำกัดทั้งหมดไปแล้ว!?
เจ๋งสุดๆ.............สมกับเป็นประธานาธิปดีของประเทศแห่งเสรีภาพ
แล้วใครเป็นคนทำให้ออกมาเป็นแบบนี้เหรอ? ก็ชั้นไง
ขณะที่ตบมุขเศร้าๆอยู่คนเดียว รุยเอสก็ส่งเสียงเรียกจากด้านหลัง

「อาจารย์ นี่...........คงพูดได้ว่าสำเร็จสินะคะ?」
「อา บางทีนะ」

ปลอกคอก็ถอดออกแล้วแถมชั้นยังใช้สกิล『ตาพิภพ』ตรวจสอบอีกครั้ง
ก็เห็นว่าตรงหัวข้อ【สถานะ:ข้ารับใช้】ได้หายไปแล้วด้วย

「........อะไรกัน...........จริงเหรอ..........」
「หืม? มีอะไรเหรอ?」

ชั้นที่รู้สึกตัวกับท่าทางแปลกๆของเด็กสาวก็เลยถามออกมา
แต่แค่แป๊ปเดียวเท่านั้น เด็กสาวก็เริ่มร้องไห้ออกมา

「ฮ.........ฮึก...........ฮึก..........」
「หา!? เดี๋ยว............ทำไมร้องไห้อ่ะ!?」
「ว้ายว้าย!คุณเซอิจิทำเด็กร้องไห้!」
「คุณโรน่า อย่างคุณน่ะไม่ต้องมาพูดเลย!」

ชั้นตบมุขคุณโรน่าที่มาล้อกันไปพลางคิดว่าจะทำยังไงดี
แต่ก็มึนงงสับสนจนคิดอะไรไม่ออก
จากนั้นซาเรียที่ดูอยู่เงียบๆจนถึงเมื่อกี้ก็เข้ามาใกล้แล้วกอดเด็กสาว

「โอ๋โอ๋ ไม่เป็นไรแล้วนะ ที่ร้องให้ออกมาเพราะดีใจใช่มั้ยล่ะ?」
「.........ฮึก...........อื้ม」
「นั่นสินะ...........ก็ไม่รู้หรอกว่าเจออะไรมาบ้างแต่เด็กคนนี้คงเป็นผู้รับเคราะห์จากเครื่องมือนอกรีต
อย่าง【ปลอกคอสวามิภักดิ์】 พอถูดปลดปล่อยเลยดีใจจนร้องไห้ออกมา」

รู้ตัวอีกทีอัลก็เข้ามาใกล้แล้วลูบหัวเด็กสาว

「งั่มงั่ม ก็ไม่รู้นะว่าพูดอะไรกันแต่ก็ยินดีด้วย งั่มงั่ม」
「เธอเอาคัตสึด้งมากินตั้งแต่เมื่อไร!?」

รูรูเนะก็ยังคงเหมือนเดิม
เด็กสาวพอถูกซาเรียกับอัลปลอบไปได้สักพักไม่นานก็หยุดร้องไห้แล้วพูดออกมา

「...........ขอบคุณ」
「ไม่เป็นไรจ้า!」

พอเห็นเด็กสาวเช็ดน้ำตาแล้วบอกขอบคุณออกมาตามครง ซาเรียก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้

「.........ฉันชื่อ ออริก้า คัลเมเรีย」
「ออริก้าจังสินะ? ฉันซาเรีย!ยินดีที่ได้รู้จักนะ!」

จะว่ายังไงดีล่ะ
ซาเรียนี่เข้ากับเด็กได้ง่ายจัง!

「..........อื้ม ซาเรียโอเน่จัง」
「โอเน่จัง? ฉันเหรอ?  เอะเฮะเฮะ รู้สึกจักจี้ยังไงไม่รู้สิ」

เรียกโอเน่จังเลยเรอะ!?
ชั้นถึงกับสะท้านกับความเป็นแม่โดยธรรมชาติของซาเรีย
จากนั้นเด็กสาว.............ออริก้าจังก็หันสายตาไปทางอัล

「........พี่สาวชื่ออะไรเหรอ?」
「หา? ข้าเหรอ? ข้าอัลโทเรีย」
「.........อัลโทเรียโอเน่จัง?」
「---------」

อัลที่ถูกเรียกว่าโอเน่จังตะลึงไปเลย จากนั้นก็มีท่าทางตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

「ท ททททททำไงดีล่ะ เซอิจิ แบบว่า ถูกออริก้าเรียกว่าโอเน่จังด้วยล่ะ............
ในอกมัน...........รู้สึกอบอุ่นยังไงไม่รู้!?」
「นั่นก็รู้สึกดีใจไม่ใช่เหรอ?」

ทำไมต้องแสดงออกถึงขนาดนั้นด้วย
ชั้นตบมุขอย่างเยือกเย็น แต่ทำไมคราวนี้รูรูเนะที่แนะนำตัวเองต้องยืดอกภูมิใจด้วยล่ะ

「ออริก้าสินะ ฉันเป็นทาสรับใช้และอัศวินของนายท่าน รูรูเนะไงล่ะ!」
「.............คนตะกละ?」
「ทำไมกัน!? ทำไมเรียกสองคนนี้เป็นโอเน่จังแต่ไม่เรียกฉันล่ะ!?」
「การกระทำมันเห็นๆอยู่ไม่ใช่เรอะ ว่าแต่ อยากถูกเรียกเป็นโอเน่จังกับเขาด้วยเรอะ...........」

ขณะที่พูดคุยกันอย่างนั้นอยู่ ออริก้าจังก็แยกออกจากซาเรียแล้วไปหารุยเอส

「...........พี่สาว」
「หืม? มีอะไรเหรอ?」
「............ชื่อ」
「อ๋อ จะว่าไปยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันรุยเอสค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ออริก้า」
「..............อื้ม รุยเอสโอเน่จัง」
「!?」

คำพูดของออริก้าทำเอารุยเอสเปิดตากว้างออกมาเลย ดูเหมือนว่าจะตะลึงพอสมควรแฮะ

「............โอเน่จัง ..........ตัวฉันที่มีแต่พี่ชาย คำๆนี้...........ฟังแล้วรู้สึกดีจัง」
「ฮ่าฮ่าฮ่า ก็จริงนะ รุยเอสมีผมเป็นพี่น้องคนเดียวเดียวนี่นา」

รุยเอสเองก็เป็นน้องสาว พอถูกเรียกว่าโอเน่จังเลยแสดงปฏิกิริยาแบบนั้นออกมา
ขณะที่ยิ้มแห้งๆกับเรื่องนั้นออริก้าจังก็มาดึงเสื้อคลุมของชั้น
094.jpg

「..........ชื่อ」
「ชั้นเหรอ?  ชั้นเซอิจิ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ออริก้าจัง」
「.........อื้ม เซอิจิโอนี่จัง」

ออริก้าพูดพลางยิ้มเล็กน้อย
...........ว่ายังไงดีล่ะ ความรู้สึกนี้
ก็เคยถูกเรียกว่าเซอิจิโอนี่จังจากมิอุที่เป็นน้องสาวโชตะหรอกนะแต่พอถูกออริก้าจังเรียก
ทำไมรู้สึกเหมือนร่างกายมันถูกกระตุ้นอย่างบอกไม่ถูก
อย่างนี้ชั้นก็ไปว่าอัลไม่ได้แล้วสิ.........
ขณะที่ในหัวคิดอะไรแบบนั้นอยู่ คุณโรน่าก็เข้ามาหาอย่างตื่นเต้น

「อ ออริก้าจัง!ส่วนฉันโรน่านะ!」
「.........」

แล้วออริก้าจังก็เข้ามาหลบหลังชั้นพลางพูดพึมพำ

「..........ไม่ชอบคนนี้」
「ทำไมอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?」
「...............ก็ไปแกล้งเขานี่นา」

ความประทับใจแรกของออริก้าจังกับคุณโรน่านี่ดูท่าจะแย่สุดๆ

◆◇◆

หลังจากต่างคนต่างแนะนำตัวเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มสอบถามออริก้าจังอีกครั้ง
แต่พอคุณโรน่าเป็นคนสอบถามก็ไม่ยอมพูดอะไรเลยจนต้องให้รุยเอสเป็นคนถามแทน
แล้วก็พวกชั้นเข้าร่วมรับฟังการสอมถามออริก้าจังด้วยเช่นกัน
...........คุณโรน่าที่ว่าจบหลักสูตรการสอบสวนขั้นสูงมาแล้วนี่ชักสงสัยแล้วสิว่าโม้รึเปล่า

「เอาล่ะ.........ออริก้า ทำไมเธอถึงเข้าโจมตีฝ่าบาท? 」
「...........ฉัน ความจริงก็ไม่ได้อยากโจมตี แต่ร่างกายไม่ฟังคำสั่ง...............」
「อย่างที่คิดจริงๆ..........」

คำตอบของออริก้าจังทำให้รุยเอสขมวดคิ้ว
จากที่เดาๆดู ออริก้าจังเองก็ไม่ได้อยากจะโจมตีคุณรันเซ่
แต่ทั้งหมดนั้นมาจากคำสั่งของ【ปลอกคอสวามิภักดิ์】
คำสั่งนั้นโดยปกติฝ่าฝืนไม่ได้อยู่แล้ว นั่นเพราะร่างกายจะเคลื่อนไหวไปเองตามคำสั่ง
แต่ถึงอย่างนั้นหากฝืนคำสั่งล่ะก็ความเจ็บปวดแสนสาหัสจะเข้าจู่โจมร่างกายออริก้าจัง
ขณะที่ชั้นคิดอย่างนั้นพลางทำสีหน้าตึงเครียดโดยไม่รู้ตัว
ออริก้าจังก็หันมาทางชั้นด้วยสายตาที่รู้สึกผิด

「..........ขอโทษนะเซอิจิโอนี่จัง เพราะได้รับคำสั่งว่าให้【กำจัดผู้พบเห็น】
เลยต้องเข้าโจมตีใส่เซอิจิโอนี่จัง.............」
「ทางชั้นต่างหากล่ะที่ต้องขอโทษ」
「เอ๋?」

ออริก้าจังไม่คิดว่าชั้นจะเป็นฝ่ายขอโทษแทนเลยเปิดตากว้าง

「ถึงชั้นจะแค่ดีดหน้าผากออริก้าจังเบาๆแต่มันก็แรงมากใช่มั้ยล่ะ? คงเจ็บสินะ?」
「......อื้ม ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเจ็บปวด ชินแล้ว............」

สีหน้าและการพูดของออริก้าจังดูเศร้ามากกว่าเจ็บปวด
สีหน้าอย่างนั้นทำให้พวกเรากลืนลมหายใจ แล้วออริก้าก็พูดต่อด้วยเสียงค่อย

「..........ถึงฉันจะเป็นมนุษย์สัตว์เผ่าแมวตามที่เห็น แต่ก็..........เป็นเด็กต้องสาป」
「...........」
「........สำหรับมนุษย์สัตว์เผ่าแมว สีดำเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคร้ายและภัยพิบัติ
เลยถูกคุณแม่ทุบตีอยู่เรื่อย  ถูกพูดว่าเป็น『เด็กที่ไม่ต้องการ』ก็บ่อยครั้ง」
「.........」
「..........แต่ฉันก็อยากถูกเอาใจใส่บ้าง อยากถูกลูบหัว อยากได้รอยยิ้ม
อยากได้ความรักความเอ็นดู..........!........แต่สิ่งนั้นกลับเป็นได้แค่ความฝัน
เพราะฉันถูกขายให้กับอาณาจักรไคเซอร์ในฐานะทาส」
「............」

สิ่งที่ออริก้าจังเล่าออกมาแต่ละคำล้วนหนักหน่วงจนชั้นพูดไม่ออกได้แต่ฟังเงียบๆ
แค่เกิดมาเป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่ต้องการแค่นี้ก็ขมขื่นมากพอแล้ว
ครอบครัวของชั้นเข้ากันได้ดี
จนทำให้คิดว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วแต่มันไม่ใช่เลย
พ่อแม่ของชั้นที่มอบความรักให้โดยไม่คิดหวังอะไรนั่นแหละที่ยอดเยี่ยมที่สุด
เหนือสิ่งอื่นใดก็ชั้นนี่แหละที่โชคดีที่ได้รับสิ่งนั้น

「.........หลังจากนั้นฉันก็ถูกซื้อไปทันที พอซื้อไปก็ถูกจับเข้าไปอยู่หน่วยลอบสังหาร
ที่ขึ้นตรงต่อเชื้อพระวงศ์ จากนั้นฉัน----------ก็ได้ซึบซับเทคนิคการฆ่าคน」
「............」

เด็กตัวแค่นี้ต้องมาฝึกเทคนิคการฆ่าคน..........

「........เพราะฉันตัวเล็ก เลยเอาไปใช้ปรนนิบัติพวกผู้ชายไม่ได้ แต่ในทางกลับกัน
สามารถฆ่าผู้คนได้มากมาย มีเพียงสิ่งนี้ที่ทำให้ตัวฉันมีคุณค่า เพราะงั้นฉัน.........ได้แปดเปื้อนไปแล้ว
ต่อให้มีคำสั่งให้ฆ่าพระราชา มือของฉัน.......ก็แค่สกปรกเหมือนเดิมเท่านั้นเอง」

พูดแล้วออริก้าจังก็ก้มหน้า
............สำหรับเด็กคนนี้การฆ่าคนเป็นสิ่งที่ทำให้ตนเองมีคุณค่าขึ้นมา
เรื่องนี้คงมาจากการที่ถูกพ่อแม่ใช้กำลังมาตั้งแต่เด็กจนไม่สามารถหาความรักอย่างถูกต้องได้
พอชั้นคิดไปอย่างนั้นร่างกายก็ขยับไปเองโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น
เข้าไปกอดออริก้าจังที่เปราะบางจนเหมือนจะแตกหักพังลงมา

「ไม่ต้องห่วง ออริก้าจังน่ะไม่ได้สกปรกหรอก ก็ถ้าเป็นคนที่สกปรกจริงๆ...........
คงไม่ร้องไห้ออกมาหรอก 」

ออริก้าจังนั้นร้องไห้ออกมา
เป็นน้ำตาแห่งความเศร้าไม่เหมือนก่อนหน้านี้
น้ำตาแห่งความยินดีจะไหลมากเท่าไรก็ไม่เป็นไร
แต่น้ำตาแห่งความเศร้า...........ไม่มีใครอยากเห็นหรอก
ชั้นค่อยๆลูบหลังหัวพลางปลอบโยน

「นี่ไง ลูบหัวอย่างที่ต้องการแล้วนะ ชั้นน่ะไม่ว่าเท่าไรก็จะลูบให้เอง
ถ้าต้องการรอยยิ้มก็พร้อมที่จะมอบให้ออริก้าจังได้เสมอ แล้วก็...........ดูสิ」
「?」

ชั้นถอดฮู้ดออกมาให้ดูสีผมของตัวเอง

「...........อ้ะ..........」
「เนอะ? ชั้นเองก็ผมสีดำเหมือนกับออริก้าจังเนอะ? หนำซ้ำตายังดำด้วย
พอเห็นอย่างนี้แล้วเหมือนพี่น้องกันเลยใช่มั้ยล่ะ? ถึงหน้าจะไม่คล้ายก็เถอะ............」
「พี่...........น้อง...........?」
「ใช่แล้ว อีกอย่าง ออริก้าจังต่อจากนี้ไปจะทำอะไรล่ะ?」
「..........ไม่มีอะไรทั้งนั้นแล้ว บ้านให้กลับเองก็ไม่มีแล้ว...........」
「ถ้างั้นก็มาอยู่ด้วยกันกับพวกเราสิ」
「เอ๋?」

ข้อเสนอของชั้นทำให้ออริก้าจังเงยหน้ามองชั้นด้วยความประหลาดใจ
แต่ก็ก้มหน้าลงแล้วส่ายหน้าทันที

「.........ไม่ได้ ถ้าเกิดฉันอยู่กับเซอิจิโอนี่จังล่ะก็ เซอิจิโอนี่จังจะตกเป็นเป้าหมาย
ของอาณาจักรไคเซอร์ คนทรยศไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ไม่มีทางยกโทษให้」
「งั้นเหรอ ถ้างั้นชั้นจะปกป้องให้เอง」
「!」

ออริก้าจังเงยหน้าขึ้นมามองหน้าชั้นอีกครั้ง
..........บอกตามตรง ก็ไม่มั่นใจอยู่เหมือนกัน
ยิ่งกว่านั้นอาณาจักรไคเซอร์ที่พูดถึงก็เป็นประเทศที่อัญเชิญเพื่อนของชั้น.......พวกโชตะไปซะด้วย
ประเทศที่ถึงกับใช้ของอย่าง【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ทำให้ชั้นยิ่งร้อนรนเข้าไปอีก
พวกโชตะจะปลอดภัยกันมั้ยนะ? จริงอยู่ที่ตั้งแต่เข้าเรียนจะไม่ได้ติดต่อกันเลย.......
แต่ถึงอย่างนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของชั้นล่ะก็ ชั้น---------ไม่มีทางยกโทษให้เด็ดขาด
ต่อให้ถูกเรียกว่าเป็นสัตว์ประหลาด ชั้นก็จะทิ้งความเกรงใจทั้งหมดแล้วอาละวาดให้ดู
........แต่ตอนนี้สิ่งที่ชั้นต้องทำคือปกป้องออริก้าจังที่อยู่ตรงหน้าจากอาณาจักรไคเซอร์

「...........จะดีเหรอ...........?」
「โอ้」
「........จะลูบหัวให้เหมือนเมื่อกี้อีกมั้ย............?」
「จะให้ลูบเท่าไรก็ได้ ถ้าไม่ใส่ใจที่จะทำให้ผมยุ่งล่ะก็นะ!」
「.......แล้วจะยิ้มให้กับฉันมั้ย?」
「เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้วนี่นา?  แต่บอกไว้ก่อนปกติชั้นเป็นคนชอบเอะอะนะ เตรียมใจไว้ได้เลย?
แล้วไม่ใช่แค่ชั้นที่ยิ้ม ออริก้าจังเองก็ต้องยิ้มด้วยล่ะ?」
「........อื้ม.........อื้ม!」

ออริก้าจังร้องไห้กับคำพูดของชั้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้ไม่ใช่น้ำตาแห่งความเศร้าแต่เป็นน้ำตาแห่งความยินดี เพราะงั้นจะร้องไห้เท่าไรก็ได้
ชั้นเข้าไปกอดออริก้าจังอีกครั้งพลางตบแผ่นหลังเล็กๆนั้นเบาๆจากนั้นก็หันสายตาไปทางรุยเอส

「.........ก็อย่างที่คุยกันไป...........รุยเอส เรื่องออริก้าจังฝากให้ชั้นดูแลได้มั้ย?」

ตัดสินใจไปเองแบบนี้จะได้เหรอ ทั้งที่ออริก้าจังเป็นคนโจมตีคุณรันเซ่
แถมยังเป็นคนสำคัญที่รู้ข้อมูลของอาณาจักรไคเซอร์ด้วย
เพราะงั้นคงไม่ฝากให้ชั้นดูแลง่ายๆ-----------

「ได้สิคะ ถ้าเป็นอาจารย์ล่ะก็」
「เหยอ!? หลังๆมานี่รุยเอสแค่เป็นคำพูดอาจารย์ก็ยอมรับเหรอไง!」

อนุญาตง่ายเกิดคาด เอ๊ะ? ชักแปลกๆแฮะ

「เดิมทีฉันก็อยากฝากให้อาจารย์ดูแลอยู่แล้วค่ะ」
「อย่างนั้นเหรอ?」
「ทั้งตัวฉัน ทั้งฝ่าบาทต่างก็อยากคุ้มครองออริก้า จะให้ลงโทษเด็กอายุแค่นี้ก็ทำไม่ลง
ตรงจุดนั้นฉันเลยเสนอให้คุ้มครองออริก้าแทนแต่ฉันเป็นอัศวินที่มีหน้าที่ปกป้องฝ่าบาท
เลยไม่สามารถดูแลปัญหาของออริก้าไปด้วยได้ จะฝากให้พี่รับผิดชอบ พี่เองก็ยุ่งกับหลายๆอย่าง.......」
「อื้ม ก็งานยุ่งจริงๆนั่นแหละ........」
「เพราะงั้นเลยคิดว่าถ้าเป็นไปได้ก็อยากฝากให้อาจารย์ดูแล
ถ้าเป็นอาจาย์ล่ะก็ต่อให้อาณาจักรไคเซอร์ส่งนักฆ่าตามมาก็ปลอดภัยไม่มีปัญหาแน่นอน」
「ไม่มีปัญหาแน่นอนนี่...........เธอมองเห็นชั้นเป็นอะไรเนี่ย?」
「? ก็เป็นอาจารย์ไงคะ?」
「ชั้นที่ถามไปนี่งี่เง่าชิบ!」

คำว่า『อาจารย์』ชักจะใช้ได้กับทุกอย่างแล้วแฮะ

「เฮ้อ..........ช่างเถอะ ยังไงก็ตามแต่จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ ออริก้าจัง」
「............อื้ม ฝากตัวด้วย เซอิจิโอนี่จัง」
「ว้าย!ออริก้าจังจะมาอยู่กับพวกเราแล้วสินะ!」

ทันใดนั้นซาเรียก็โดดเข้ามากอดออริก้าจัง

「........? กับซาเรียโอเน่จัง?」
「ไม่ใช่แค่ซาเรีย ข้าเองก็อยู่ด้วย」
「ฮึ เดิมทีฉันก็เป็นอัศวินของนายท่าน ยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันแน่นอน」
「..........อัลโทเรียโอเน่จังกับคนตะกละด้วย............」
「นี่!เลิกซี้ซั้วเรียกว่าคนตะกละสักทีได้มั้ย!」
「ไม่อ่ะ ก็เรื่องจริงไม่ใช่เหรอ」
「นายท่านก็ด้วย!?」

รูรูเนะพอรู้ว่าชั้นเห็นเป็นคนตะกละด้วยก็สลดอย่างเห็นได้ชัด

「..........งั้นเหรอคะ ฉันเป็นแค่คนตะกละสินะ นั่นสินะ นั่นสินะ..........」
「ไม่ต้องสลดขนาดนั้นก็ได้..........จะพูดว่าไงดีล่ะ
ชั้นเองก็ชอบเห็นรูรูเนะกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเหมือนกัน」
「จ จริงเหรอคะ? นายท่าน.......... 」
「อื้มอื้ม เพราะงั้นร่าเริงหน่อยเถอะ」
「.........ค่ะ!ต่อจากนี้ไปฉันจะตั้งใจกินให้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิมค่ะ!」
「ตั้งใจผิดทางมั้ยเนี่ย」

อะไรฟะ  จนขนาดนี้รูรูเนะก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนอีก ไม่สิ แบบนี้ก็ไม่เป็นไรหรอกมั้ง
บรรยากาศระหว่างพวกเราสนิทสนมกันจนอย่างกับว่าบรรยากาศเมื่อครู่นี้เป็นเรื่องโกหก
แต่ว่า------------ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง

「ฉ ฉันขอเข้าพวกด้วยคนสิค้า!」
「......ไม่เอา   เกลียดคนนี้」
「ทำไมอ่าาาาาาาาาาาาาาาา!?」

คุณโรน่าดูท่าจะถูกออริก้าจังเกลียดจริงๆซะแล้ว
.............ก็คิดแบบนั้นะแต่ก็เห็นยิ้มเล็กๆกับสภาพที่ห่อเหี่ยวของคุณโรน่า
คงจะไม่ได้เกลียดจริงๆนั่นแหละ

「.......ความแค้นเรื่องของกิน มันฝังลึกนะ」
「........」

ขอพูดใหม่ ท่าทางจะเกลียดจริงๆแฮะ คุณโรน่าแย่หน่อยนะ

◆◇◆

「จะว่าไป รุยเอสมีเรื่องอะไรจะพูดกับชั้นเหรอ?」

พอจบเรื่องของออริก้าจังชั้นก็ถามรุยเอส

「ค่ะ มีเรื่องจะขอร้องคือช่วงที่ฉันไม่อยู่อยากให้อาจารย์เป็นคนคุ้มครองฝ่าบาท」
「หืม? ให้ชั้นคุ้มครองคุณรันเซ่? ว่าแต่เธอจะไปไหนเหรอ?」
「ค่ะ เรื่องของเรื่องคือคนที่ถูกเรียกว่า【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์(Black Paladin)】ที่มีฝีมือพอกับฉัน
แต่มีหน้าที่ต่างกับฉันโดยเป็นคนคอยออกตรวจตราภายในอาณาจักรวินบุคและจัดการปัญหาต่างๆ
เมื่อเร็วๆนี้มีการติดต่อจาก【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์】รายงานมาว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติของ
กลุ่มมอนเตอร์ตามแถบแนวชายแดนค่ะ」
「อย่างนี้นี่เอง..........รุยเอสก็เลยถูกเรียกไปช่วย?」
「ถูกต้องตามที่พูดมาเลยค่ะ..........ถึง【อัศวินดำศักดิ์สิทธิ์】ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะในการป้องกัน
แต่ยังไงก็เป็นคนๆเดียว หากไปจัดการปัญหาอยู่ที่หนึ่ง ที่อื่นก็ไม่สามารถไปจัดการได้
ตรงจุดนั้นฉันที่เป็นหัวหน้าของ【นักรบสาวแห่งดาบสวรรค์(valkyrie)】เลยต้องไปช่วย」
「เข้าใจแล้วล่ะ...........แต่ปัญหาใหญ่แบบนี้แทนที่จะให้ชั้นทำ
ไปขอให้ทหารเก่งๆในปราสาทคนอื่นช่วยจะไม่ดีกว่าเหรอ?」
「ไม่ค่ะ ยังไงก็วางใจได้ไม่เท่ากับอาจารย์............อีกทั้งถึงจะเรียกว่าคุ้มครอง
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องคอยติดตามฝ่าบาทหรอกนะคะ」
「อย่างนั้นเหรอ?」

คำพูดที่คาดไม่ถึงของรุยเอสทำให้ชั้นแปลกใจนิดหน่อย
คิดว่าต้องอยู่ด้วยกัน24ชั่วโมงอะไรแบบนี้ซะอีก

「คำขอร้องของฉันถ้าพูดให้ถูกคือช่วงที่ฉันไม่อยู่อยากให้อาจารย์ไม่ไปจากเทลเวลแห่งนี้
แค่อาจารย์อยู่ที่เมืองนี้ฉันก็สบายใจขึ้นมากแล้วค่ะ」
「ถึงประเมินชั้นซะสูงลิบแต่ยังไงชั้นก็เป็นแค่นักผจญภัยธรรมดาๆนะ...........」
「อาจารย์คะ นักผจญภัยธรรมดาน่ะ.........
ไม่มีทางล้มฉันที่เป็น【อัศวินดาบ(Knight of Sword)】ได้หรอกค่ะ」
「ครับ ขอประทานโทษด้วย」

ไม่ไหว สามัญสำนึกของชั้นกับสามัญสำนึกของคนรอบข้างชักจะห่างใหญ่แล้วแฮะ

「ช่างเถอะ ถ้าแค่นั้นล่ะก็วางใจได้เลย
ถึงจะบอกแบบนี้แต่แค่ไม่ไปจากเทลเวลเท่านั้นก็พอจริงๆเหรอ...........」
「แค่นั้นก็พอแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะอาจารย์」
「ไม่ต้องคิดมากหรอก แล้ว? จะกลับมาเมื่อไรล่ะ? 」
「เรื่องนั้นยังบอกเวลาที่แน่นอนไม่ได้
แต่ถ้านับแค่เวลาที่ใช้เดินทางอย่างต่ำก็1อาทิตย์ค่ะ」
「อย่างนั้นเหรอ...........งั้นให้คิดเลยว่านานสักเดือนคงได้สินะ」
「ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะอาจารย์」
「เรื่องของชั้นช่างมันเถอะ รุยเอสเองก็ระวังตัวด้วยล่ะ」
「ค่ะ!」

พอชั้นตอบกลับไปรุยเอสก็แสดงรอยยิ้มออกมาให้เห็นนิดหน่อย
หลังจากนั้นไม่นาน รุยเอสก็ออกเดินทางไปกับvalkyrieทุกคน
มีความรู้สึกตะหงิดๆอยู่ในใจว่าโลกนี้คงไม่ง่ายขนาดขนาดจบเรื่องได้โดยไม่มีปัญหาอะไรหรอก
และสิ่งที่ว่านั้นก็เกิดขึ้นหลังจากรุยเอสเดินทางไปได้1อาทิตย์

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate