ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 50 คัตสึด้ง

ตอนที่ 50 คัตสึด้ง

----------ภายในห้องมืด มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังสนทนากับคริสตัล

「บุฮิบุฮิบุฮิ............แผนการไปได้สวยมั้ย?」

ชายที่หัวเราะเสียงประหลาดถามคริสตัลซึ่งก็มีเสียงตอบกลับมา

『ทางนี้เป็นไปตามแผน ว่าแต่ทางโน้นเถอะเป็นยังไงบ้าง?』

เสียงที่ออกมาจากคริสตัลเป็นเสียงชายแก่
คำถามของชายแก่ทำให้ชายคนนั้นเลือดขึ้นหน้าพลางตะโกนกลับไป

「ก็ไม่อะไรทั้งนั้นแหละ!เพราะยัยเด็กนั่นทำอะไรเกินความจำเป็น
ทางนี้เลยต้องมาแก้แผนการครั้งใหญ่น่ะสิ! 」
『............อ๋อ เรื่องที่ว่าจะเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรวินบุคสินะ.........』
「ก็นั่นแหละ!ถ้าเป็นแบบนี้สิ่งที่ข้าหวังไว้............ 」
『อย่าเข้าใจผิดไป ไม่ใช่แค่สิ่งที่เจ้าหวังคนเดียว เป็นเป็นสิ่งที่พวกเราหวังต่างหาก 』
「 ฟู่---...........โทษที」

ชายคนนั้นยอมขอโทษแต่โดยดีกับเสียงชายแก่
จากนั้นชายแก่ก็ถามต่อด้วยท่าทีเหมือนกับไม่ได้ใส่ใจ

『ช่างเถอะ แล้วแผนการทางนั้นว่ายังไงบ้าง? ทางข้าพร้อมเสมอ』
「บุฮิบุฮิบุฮิ!ทางนี้เองก็เช่นกัน ถึงแผนการจะเจอปัญหาใหญ่แต่เป้าหมายไม่มีปัญหา
...........ถึงขั้นตอนที่จะทำให้เป้าหมายสำเร็จต้องเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นก็ตาม!」
『นั่นสิ แต่สมมติถ้าเกิดขึ้นก็ให้รวมปีศาจของทุกเขตมาไว้ด้วยกันน่าจะดีกว่านะ...........』
「 ก็จริง............จะว่าไป ทางนั้นยาตัวอย่างเสร็จรึยังล่ะ?」

ชายแก่หัวเราะในลำคอกับคำถามของชายคนนั้นแล้วตอบด้วยความมั่นใจ

『คุคุคุ........เรียบร้อย เสร็จสมบูรณ์แบบ 』
「ในที่สุด.............!【ยาเติบโต】ที่ใช้ฝืนเลื่อนLvก็! 」
『อา รับประกันประสิทธิภาพ  แล้วจะเอายังไงล่ะ?
แผนการครั้งนี้...........จะลองใช้กับมอนเตอร์ดูก่อนมั้ย?』

ชายคนนั้นลองคิดเล็กน้อยกับคำพูดของชายแก่ ไม่นานก็ยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียมออกมา

「 ..........ไม่ล่ะ ยังก่อน แผนการครั้งนี้ยังไม่ต้องใช้ ถ้าจะใช้.........ก็เอาไว้ตอนจัดการยัยเด็กนั่น」
『งั้นเหรอ..........ยังไงก็เป็นลูกสาวของจอมมารนะ? จะดีเหรอ?』
「ข้ากับเจ้าเป็นข้ารับใช้ของตันตนอันสูงส่งจะใส่ใจกับจอมมารทำไม  พวกกระจอกต้องหายไป
มันก็เป็นเรื่องธรรมดา............ก็นะถ้ามีคุณค่าให้ใช้ก็จะใช้ให้แล้วกัน」

พูดแล้วชายคนนั้นก็ยิ้มอย่างน่ารังเกียจ

『ช่างเถอะ ไม่มีอะไรจะพูดกับเจ้าแล้ว .........ถ้างั้นก็รีบดำเนินแผนการของทางนั้นเข้าล่ะ』
「 อา ได้เลย-----------」

--------ทุกอย่างเพื่อท่านเทพปีศาจ--------------

◆◇◆

「ใช่............อย่างนั้นแหละ...........คงไว้แบบนั้น............ 」
「 กรอดดดดดดด....................」

ถัดจากวันจัดงานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้ชั้นก็กลับมาฝึกที่ปราสาทหลวงเหมือนเดิม
......หมู่นี้ก็มีคิดอยู่บ้างว่าให้คนสวมฮู้ดน่าสงสัยแบบนี้เดินไปเดินมาในปราสาทนี่ไม่ไหวนะ.........
ไม่สิ ก่อนอื่นเลย ให้เข้าปราสาทง่ายๆแบบนี้จะดีเหรอ?
พอเอียงคอกับคำถามนั้นที่อยู่ๆโผล่ขึ้นมาในหัวเลยถูกคุณโฟริโอ้เตือน

「นี่เซอิจิคุง คิดฟุ้งซ่านอีกแล้วนะ เดี๋ยวเวทก็สลายหรอก 」
「ข ขอโทษครับ 」

ตอนนี้ชั้นกำลังฝึกควบคุมเวทมนตร์กับคุณโฟริโอ้อยู่
เนื้อหาของการฝึกก็เป็นการใช้เวทน้ำชั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยที่สุด
เลยต้องทำ『Water ball』ให้คงที่ระดับลูกบาสเกตบอล
เริ่มแรกตอนที่ยังควบคุมไม่ได้ดันสร้างWater ballออกมาขนาดที่ว่าจมเมืองเทลเวลได้ทั้งเมือง
ตอนนี้ขอแค่มีสมาธิก็สามารถทำให้อยู่ในระดับลูกบาสเกตบอลได้ไม่มีปัญหา
...........เอาจริงๆ ตอนแรกนี่ลนสุดๆ ก็เวทชั้นต้นถึงกับสร้างภัยพิบัติให้เมืองหลวงได้เลยนะ?
ทำเอาสงสัยกับคำว่าชั้นต้นไปเลย ยังดีที่ใช้เวท『Magic hole』สลายได้ทันเลยไม่เกิดความเสียหาย......
..........ไม่สิ ตอนนั้นหวังให้มีการวิวัฒนาการออกมาด้วยซ้ำ
แต่ดัน..........ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย ตกใจแทบแย่ นี่สินะที่เขาเรียกว่าhybrid..........ไม่ใช่แฮะ
แต่ทั้งที่ในหัวชอบประกาศสกิลโกงออกมามากขนาดนั้น ทีตอนนี้กลับไม่มีปฏิกิริยาเลยสักนิด
วิธีแกล้งกันแบบใหม่เหรอไง?
เอาเถอะ ยังไงก็ตามแต่เพราะตอนนั้นเลยทำให้เริ่มคาดการณ์ได้
ถึงจะไม่อยู่ในหลักเหตุผลแต่สกิล『วิวัฒนาการ』มีแต่จะวิวัฒนาการให้แกร่งขึ้นเท่านั้น
ไม่มีการวิวัฒนาการที่ทำให้อ่อนแอลง
ทว่าการที่ชั้นฝึกซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในตอนนี้ เพื่อจะได้สกิล『ยั้งมือ』ตามที่คุณโฟริโอ้สอน
เลยยอมฝึกอย่างตั้งใจโดยไม่มองโลกในแง่ร้าย

「 พอแค่นั้นแหละ คลายเวทมนตร์ได้แล้วล่ะ」
「 เฮ้ออออออ!เหนื่อยจังงงงงง!」

พอได้รับคำอนุญาตจากคุณโฟริโอ้ชั้นก็คลายเวทมนตร์แล้วลงไปนอนแผ่ตรงนั้นทันที
เทคนิคการคลายเวทมนตร์เองก็เป็นสิ่งได้รับจากการฝึกมาเป็นอย่างแรก
ถึงร่างกายจะไม่ได้เหนื่อยแต่การใช้สมาธิต่อเนื่องนานๆมันก็ทำให้เหนื่อยใจได้เหมือนกัน
ถ้าเป็นปกติล่ะก็จะจบการฝึกแค่นี้แต่วันนี้มีสิ่งที่ผิดกับการฝึกปกติอยู่อย่างนั่นก็คือ-----------

「เซอิจิ!ดูสิดูสิ~! 」

ซาเรียบังคับบอลเพลิงเหมือนเล่นหมากเก็บ
ฝั่งตรงข้ามก็เป็นอัลที่สร้างและควบคุมนกน้ำแข็งขนาด5เมตร
รูรูเนะที่อยู่ใกล้กับซาเรียและอัลก็จ้องดูทั้งสองคนอย่างสนุกสนาน
ใช่แล้ว การฝึกวันนี้มีพวกซาเรียมาด้วย

068.jpg

「 โอ้ เก่งกันจัง............」
「 เรื่องแค่นี้เองทำได้อยู่แล้วー!」

ซาเรียยิ้มแย้มยิ่งขึ้นเมื่อได้รับคำชมจากชั้นโดยสองมือก็พลางจับบอลเพลิงไว้

「จ๊ะจ๊าง!เท่มั้ย! 」
「ชั้นตกใจกับความไฮสเปคของพวกซาเรียมากกว่าอีก............. 」

ซาเรียกับอัลจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยใช้เวทกันเลยแต่พอชั้นใช้สกิล『สอน』ให้เท่านั้นแหละ..........
ทั้งสองคนก็เวทมนตร์กันได้เลย แถมแค่วันเดียวด้วย
.........สกิล『สอน』นี่มันจะเกินไปแล้ว
ตอนที่ใช้ครั้งแรกก็รับรู้เลยว่าสกิลนี้หากใช้จะทำการดึงพรสวรรค์ของคนๆนั้นออกมาในชั่วพริบตา
แต่หากไม่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่ต้นก็ไม่สามารถดึงออกมาได้
เลยออกมาเป็น ซาเรียที่มีพรสวรรค์ด้านธาตุไฟกับอัลที่มีพรสวรรค์ด้านธาตุน้ำแข็ง
แต่ธาตุอื่นกลับใช้ไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
แล้วก็ถึงจะดึงพรสวรรค์ออกมาไม่ได้แต่ตอนที่พยายามจะสอนให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ง่าย
ในหัวก็จะรู้ทันทีว่าทำยังไงถึงจะอธิบายให้ออกมาง่าย

「 อื้ม.........สกิลของเซอิจิคุงนี่สุดยอดจริงๆนั่นแหละ ผมที่แม้จะใช้ธาตุน้ำแข็งไม่ได้
แต่ถูกเรียกว่าเป็น【มารหยาดน้ำแข็ง】.............ไม่นึกเลยว่าจะมามีความเข้ากับธาตุดินแบบนี้」

คุณโฟริโอ้ที่ดูชั้นคุยกับซาเรียยิ้มพลางสร้างก้อนดินแล้วเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ
ความจริงไม่ใช่แค่รับการสอนจากคุณโฟริโอ้และรุยเอสเท่านั้น
ชั้นเองก็สอนทั้งสองคนอย่างเต็มที่เหมือนกัน
เพื่อการนั้นเลยไปเพิ่มความรู้โดยการอ่านหนังสือต่างๆจากห้องสมุดในปราสาทหลวง
จนอยู่ในระดับที่สามารถอธิบายถึงสกิลและเวทมนตร์ได้อย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
จากนั้นก็ลองใช้สกิล『สอน』กับพวกคุณโฟริโอ้จนพรสวรรค์ด้านธาตุดินเบ่งบานออกมา
เหมือนอย่างพวกซาเรียในตอนนี้

「เท่านี้ผมเองก็ได้เห็นเส้นทางที่จะฝึกฝนต่อไปแล้วล่ะ อีกอย่างพอเห็นเซอิจิคุงแบบนี้แล้ว
ก็ยิ่งรู้สึกว่าพอจะมีช่องว่างให้เติบโตและพลิกแพลงกับธาตุน้ำแข็งได้ด้วย 」
「ฮ่าฮ่าฮ่า............. 」

คำพูดของคุณโฟริโอ้ทำให้ยิ้มแห้งๆออกมา
จากที่ฟังคุณโฟริโอ้สอนบวกกับความรู้ที่ได้มาจากหนังสือในห้องสมุด
อานุภาพของเวทมนตร์นั้นมาจากพลังโจมตีเวทของสเตตัสและพลังเวท
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตอนที่ชั้นได้เวทมาจากAsh wolf หรือSandmanที่มีข้อมูลชื่อเวทกับพลังเวทที่ใช้
และตอนที่ได้เวทอื่นๆมาจากห้องสมุดในเมืองหลวงก็มีพลังเวทที่ใช้บอกเช่นกัน
ความจริงนั่นเป็นค่าใช้พลังเวทขั้นต่ำสุดที่จำเป็นสำหรับให้เวทมนตร์ทำงาน
โดยค่าสูงสุดนั้นไม่มีการจำกัดไว้
ถ้าหากใส่พลังเวทไปแค่ขั้นต่ำสุดแล้วบวกพลังโจมตีเวทเข้าไปด้วย อานุภาพก็จะเพิ่มแค่เท่าตัวเท่านั้น
แต่เวทที่ชั้นยิงดันใส่พลังเวทไปเกินจำเป็นเลยออกมาเว่อร์เกินลิมิตขนาดนั้น
เพราะงั้นการฝึกของชั้นในตอนนี้ถ้าพูดให้ถูกต้องเรียกว่าเป็นการฝึกใส่พลังเวทมากกว่าควบคุมเวท
ทว่าด้วยความที่พลังโจมตีเวทของชั้นสูงผิดปกติ ต่อให้ควบคุมให้ใส่พลังเวทต่ำยังไง
ยิงออกมาเฉยๆก็ยังเกิดความเสียหายร้ายแรงอยู่ดี
แต่ว่าขั้นต่ำของการใช้พลังเวทนั้นยังพอจะสามารถปรับเปลี่ยนได้
ในทางกลับกันหากใส่พลังเวทเข้าไปมากเกินไปก็จะไม่สามารถควบคุมอานุภาพได้..........
ขณะที่ในหัวกำลังเรียบเรียงความรู้ที่ทำความเข้าใจมาได้เมื่อเร็วๆนี้
อัลที่ฝึกเวทธาตุน้ำแข็งอยู่ก็เดินเข้ามาหาด้วยกันกับรูรูเนะ

「ฟู่..........เวทมนตร์นี่ก็ยากเหมือนกันนะ 」
「อัลเหนื่อยหน่อยนะ 」
「โอ้」

อัลตอบกลับสั้นๆแล้วสร้างก้อนน้ำแข็งขนาดฝ่ามือเอามาแนบที่คอเพื่อลดความร้อนของร่างกาย

「พอสร้างเวทให้นกเคลื่อนไหวแล้วฝึกซ้อมต่อสู้ดู............
เวทมนตร์ที่ข้าสร้างนี่ก็สร้างความลำบากให้กับคู่ต่อสู้ได้เหลือเชื่อไปเลย」
「...........อัลที่พูดเรื่องยากขนาดนั้นอย่างกับง่ายสุดๆทำเอาชั้นตกใจเลยนะเนี่ย...........」
「ม ไม่ต้องยอกันก็ได้น่า..........」
「โธ่!ประชดยังไม่รู้อีก.........!」

อิจฉาพวกมีพรสวรรค์จังเฟ้ย!
อย่างชั้นถ้าไม่ได้พลังวิวัฒนาการก็แค่คนธรรมดาคนนึง.............ไม่สิ ต่ำกว่ามนุษย์ทั่วไปด้วยซ้ำ
ทำไมกันนะ? ยิ่งพูดถึงยิ่งเศร้าแบบนี้!?
ขณะที่ห่อเหี่ยวอยู่คนเดียว  รูรูเนะที่เงียบมาจนถึงตอนนี้ก็พูดบ้าง

「..........นกน้ำแข็ง...........น่าอร่อยจัง..........」
「เธอเองก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ!」

พอพูดถึงนกน้ำแข็งถ้ากินน้ำแข็งขนาดที่เวทของอัลสร้างขึ้นมาเดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก
............เอ๊ะ? ทำไมนึกภาพรูรูเนะท้องเสียไม่ออกกันหว่า!?
ก็ทันทีที่เป็นเรื่องของกินรูรูเนะจะไร้เทียมทานขึ้นมาทันทีเลยนี่นา
หลังจากงานแข่งถ้วยเมืองหลวงก็มีไปตรวจสอบรายละเอียดของหมาป่าสีดำที่เตะจนกระจุย
ก็พบว่าเป็นมอนเตอร์ระดับA
ว่าแล้วก็พูดเรื่องที่เกี่ยวกับRankมอนเตอร์และRankนักผจญภัยด้วยเลยแล้วกัน
Rankมอนเตอร์กับRankนักผจญภัยไม่ได้เท่าเทียมกัน อย่างเช่นถ้าจะปราบมอนเตอร์Rank C
จำเป็นต้องใช้นักผจญภัยRank C 5คนหรือไม่Rank B 1คนในการปราบ
หรือก็คือเวลาจะล่ามอนเตอร์ที่Rankเดียวกับนักผจญภัยจำเป็นต้องใช้อย่างน้อย5คนนั่นเอง
และที่ว่าใช้นักผจญภัยRank B 1ล่ามอนเตอร์Rank Cนั่นเพราะความสามารถระหว่าง 1 Rankต่างกันมาก
ทว่าถ้าเป็นมอนเตอร์ระดับAกับBนั้นพลังจะก้าวกระโดดไปคนละเรื่องเลย
การจะล่ามอนเตอร์Rank Bถ้าใช้นักผจญภัยRank B5คนแบบเดิมได้พินาศย่อยยับหมดแน่
พอมาคิดตรงจุดนี้ มอนเตอร์ที่รูรูเนะเตะกระจุยไปนั้นเป็นสัตว์ประหลาดที่ล้มอัล5คนได้สบายๆ
ยิ่งรุยเอสที่จับบาฮามุสที่อันตรายกว่ามอนเตอร์Rank A ที่รูรูเนะปราบได้สบายๆยิ่งน่ากลัวเข้าไปอีก
สมกับเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศเลย
ความสามารถคงเทียบชั้นนักผจญภัยระดับท๊อปของRank Sได้มั้ง
ส่วนชั้นที่สู้ชนะมาได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนก็เป็นสัตว์ประหลาดพอตัวเลยนะเนี่ย
มีอะไรจะบ่นเหรอไง!
ระหว่างที่เก็บความรู้สึกนั้นไว้พลางรู้สึกสลดที่ตรงไหนสักแห่งก็เห็นคนเดินมาหาชั้นจากในปราสาท
คนๆนั้นก็คือรุยเอสที่ชั้นคิดอยู่พอดีนั่นเอง

「สวัสดีค่ะอาจารย์ การฝึกวันนี้จบแล้วเหรอคะ?」
「อา ตะกี้นี้เอง」
「งั้นเหรอคะ ...........หืม? ทุกท่านทางนี้คือ?」

รุยเอสสังเกตุเห็นพวกซาเรีย ก็ถามด้วยความประหลาดใจทั้งสีหน้านิ่งๆ
สำหรับคุณโฟริโอ้ที่ฝึกด้วยกันวันนี้เลยแนะนำตัวไปแล้วแต่กับรุยเอสยังไม่ได้แนะนำตัวให้เลย
ขณะที่คิดอย่างนั้นแล้วกำลังจะแนะนำตัวพวกซาเรีย
พวกซาเรียก็แสดงสีหน้าตกใจออกมา

「อุหวา..........สวยจังเลย~!」
「อ อา.........เธอคือหัวหน้าหน่วย【นักรบสาวแห่งดาบสวรรค์】รุยเอส
ที่รู้จักกันในนาม【อัศวินดาบ】สินะ...........」
「นายท่าน ผู้หญิงคนนี้ดูคล้ายกับคุณโฟริโอ้จังเลยนะคะ」

ดูท่าจะตกใจกับความงามของรุยเอสกันแฮะ
ไม่สิ แบบว่าก็จริงอยู่ที่เรียกได้ว่าสวยงามสมบูรณ์แบบแต่ทั้งซาเรีย อัล รูรูเนะก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน
ชั้นที่มีภูมิคุ้มกันสาวงามเรียบร้อยแล้วเลยไม่ค่อยตกใจเหมือนทั้ง3คน
............แต่ก็มีตกใจสุดๆที่จู่ๆก็มาซ้อมต่อสู้กันอ่ะนะ!
อีกอย่าง จริงอยู่ที่ควรจะหน้าตาดีไว้ก่อนแต่จิตใจที่งดงามต้องมาเป็นอับดับ1อยู่ดีนั่นแหละ
แถมเดิมทีถึงตอนนี้จะผอมแต่ชั้นที่เคยทั้งอ้วนและน่าเกลียดไม่มีสิทธิไปว่าใครเขาหรอก
เอาจริงๆพวกซาเรียดีเกินไปสำหรับชั้นด้วยซ้ำ.............
ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับความโชคดีของตัวเอง ทั้ง3คนก็แนะนำตัวเอง

「ฉันซาเรียค่ะ!แล้วก็เป็นภรรยาของเซอิจิ~!」
「ข ข้า อัลโทเรีย เกรม เอ่อ..........เป็น........แฟนของเซอิจิ..........」
「ฉันรูรูเนะ เป็นทาสรับใช้แล้วก็อัศวินที่ปกป้องนายท่าน」
「ทำไมแนะนำตัวกันแบบนั้นฟะ!?」

003.jpg

แนะนำตัวแบบโยนลูกระเบิดแบบนั้นนี่คิดได้ไงเนี่ย!
ถึงที่บอกว่าซาเรียเป็นภรรยากับอัลเป็นแฟนจะไม่ได้ผิด
แต่รูรูเนะที่บอกว่าเป็นทาสรับใช้นี่สิจะแย่เอา!
เอ้าดูสิ คุณโฟริโอ้กับรุยเอสอ้าปากเหวอกันแล้วนั่น!
ขณะที่หน้าซีดพลางคิดหาข้อแก้ตัว ทั้งสองคนก็แสดงสีหน้าเหมือนเข้าใจอะไรสักอย่าง

「สมกับเป็นเซอิจิคุง.............เหนือชั้นมาก...........」
「อาจารย์..........ฉันรู้สึกภูมิใจที่มีคุณเป็นอาจารย์จริงๆค่ะ..........」
「พวกเธอจะประทับใจชั้นเว่อร์ไปหน่อยมั้ย!」

ชักอยากถ้าถามคนรู้จักทุกคนเกี่ยวกับภาพพจน์ของชั้นจังแฮะ อย่างชั้นเนี่ยเป็นไงบ้างหว่า
ขณะที่เหนื่อยใจกับปฏิกิริยาของทั้งสองคน รุยเอสก็ทำสีหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้แล้วพูดกับชั้น

「อ้ะ จริงสิ ที่จริงมีเรื่องอยากจะขอร้องน่ะค่ะ..........」
「เอ๋?」

พอถามด้วยสีหน้างงๆ รุยเอสก็พูดเสียงค่อย

「...........เกี่ยวกับนักฆ่าที่โจมตีฝ่าบาทค่ะ ที่คอของหล่อนมีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ชื่อ
【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ติดอยู่ทั้งยังไม่สามารถถอดออกได้
เลยอยากจะขอยืมพลังของอาจาย์หน่อยน่ะค่ะ..............」
「ปลอกคอสวามิภักดิ์..........」

ชั้นขมวดคิ้วกับคำพูดของรุยเอส
จากที่ไล่อ่านอะไรหลายๆอย่าง ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับ【ปลอกคอสวามิภักดิ์】อยู่ด้วย
ก่อนอื่น【ปลอกคอสวามิภักดิ์】นั้นก็ตามชื่อเลยคือเป็นเครื่องมือที่ทำให้ผู้ถูกสวมยอมสยบ
ยิ่งกว่านั้นไม่ได้เป็นอุปกรณ์ต้องสาปแต่จัดอยู่ในหมวดอุปกรณ์เวทมนตร์
อุปกรณ์ต้องสาปนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใครจะควบคุมได้แต่【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ที่เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์
จะทำให้ผู้ที่เป็นคนสวมให้สามารถออกคำสั่งผู้ถูกสวมได้ตามใจชอบ
ยิ่งกว่านั้นจำนวนคำสั่งก็ไม่มีขีดจำกัดแถมผู้ถูกสวมไม่สามารถทำอันตราบผู้สวมให้ได้ด้วย
อีกทั้งตัวผู้ถูกสวมเองก็ไม่สามารถเอา【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ออกเองได้
หากมีคนอื่นไปฝืนถอดล่ะก็ผู้ถูกสวมจะได้รับความเสียหายร้ายแรง
แล้วก็มีของที่ระดับต่ำลงมาจาก【ปลอกคอสวามิภักดิ์】อยู่ด้วยนั่นก็คือ【กำไลสวามิภักดิ์】
ซึ่งออกคำสั่งได้จำกัดแต่นอกนั้นประสิทธิภาพเหมือน【ปลอกคอสวามิภักดิ์】ทุกอย่าง

「แม้ตอนนี้จะมีการกางเขตแดนปิดผนึกพลังของปลอกคอสวามิภักดิ์แล้วให้โรน่าสอบสวนแต่ว่า......」
「เขตแดนก็มีขีดจำกัดสินะ...........」
「ค่ะ เพราะปลอกคอสวามิภักดิ์เป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ทรงพลัง
จึงจำเป็นต้องกางเขตแดนที่มีพลังเทียบเท่า」
「เข้าใจเรื่องราวแล้วล่ะ ชั้นเองก็จะลองทำเท่าที่ทำได้ดู」

ถ้าพลังสัตว์ประหลาดนี่มีประโยชน์ก็ใช้ไปเถอะไม่ต้องเกรงใจหรอก
แล้วเพราะได้คุณโฟริโอ้กับรุยเอสช่วยฝึกให้เลยพอจะควบคุมพลังที่มีอยู่นี่ได้แล้วระดับนึง
ถ้าพลังบ้าของชั้นมันช่วยเด็กสาวคนนั้นได้ล่ะก็จะให้ชั้นช่วยเท่าไรก็ได้

「ขอบคุณมากค่ะ อาจารย์ แล้วก็มีอีกเรื่องที่จะอยากแจ้งให้ทราบด้วยค่ะ」
「เรื่องที่ว่าคือ?」
「ค่ะ แต่เอาไว้หลังจากจบเรื่องของเด็กสาวก่อน เพราะงั้นไปที่ห้องสอบสวนกันเถอะค่ะ」

ด้วยเหตุนี้ ชั้นเลยต้องตามรุยเอสไปหาคุณโรน่าที่ห้องสอบสวน
แต่พวกซาเรียก็มีปฏิกิริยากันขึ้นมา

「เอ๋? เซอิจิ จะไปไหนเหรอ?」
「อ้ะ? คือ มีธุระนิดหน่อยน่ะ........」
「...........มีธุระอะไรที่ต้องไปทำกับคุณรุยเอสกันสองคน หา?」
「ไม่ใช่สองคนสักหน่อย................」
「นายท่าน..........ให้ฉันไปด้วยไม่ได้เหรอคะ? เบื่อฉันแล้วเหรอคะ!?」
「รูรูเนะ เธอน่ะหยุดพูดประโยคชวนเข้าใจผิดแบบนั้นเลย!」

พอทั้งสามคนถามว่าจะไปไหนทำเอาชั้นไม่รู้เลยว่าจะตอบยังไงดี
เกิดบอกว่าไปห้องสอบสวนตามตรง ก็จะยิ่งงงเข้าไปอีกว่าทำไมชั้นต้องไปที่อย่างนั้นด้วย
อีกอย่างบอกเรื่องที่คุณรันเซ่ถูกโจมตีก็ไม่ได้
ขณะที่กำลังกลุ้มใจหาเหตุผลที่ทำให้ยอมรับไม่ได้ คุณโฟริโอ้กับรุยเอสก็ซุบซิบปรึกษากัน
พอได้เรื่องแล้ว รุยเอสก็เป็นตัวแทนพูดออกมา

「อาจารย์ ถ้าเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับคุณไม่จำเป็นต้องปิดบังก็ได้ค่ะ」
「เอ๋? แต่.........จะดีเหรอ? บอกไปง่ายๆแบบนี้น่ะ」
「ค่ะ แต่ก็อยากให้ทั้งสามคนสาบานว่าจะเก็บเรื่องที่เล่าให้ฟังในตอนนี้เป็นความลับ............」

พอรุยเอสพูดจบเพียงแค่นั้น พวกซาเรียก็มองหน้ากันครั้งนึงแล้วตอบกลับมาทันที

「อื้ม เข้าใจล่ะ!จะปิดเป็นความลับให้!」
「ข ข้าเองก็ไม่มีปัญหา........」
「ฉันเองตั้งแต่ทีแรกก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว สัญญาเลยค่ะ」
「...........ขอบคุณค่ะ ถ้างั้นจะเดินไปพลางอธิบายไปด้วย เชิญทางนี้ค่ะ」

จากนั้นรุยเอสก็พาไปยังห้องที่คุณโรน่าทำการสอบสวน

◆◇◆

「ว่าไงนะ.......พระราชาถูกลอบโจมตี............」

ระหว่างทางไปห้องสอบสวน รุยเอสก็อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ1เดือนก่อนให้ทราบ
อัลเลยแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา

「แต่ก็ได้เซอิจิช่วยไว้ใช่มั้ยล่ะ? สมกับเป็นเซอิจิ!เท่ห์ที่สุดเลย!」
「อ โอ้? ขอบใจ」

แต่ตรงกันข้ามซาเรียไม่ได้มีสีหน้าเป็นห่วงเลยสักนิดเดียวแล้วพูดออกมา
ส่วนรูรูเนะไม่ได้สนใจเลยตั้งแต่แรก ...........ยัยลานี่ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากเรื่องของกินสินะ
แต่ที่ไม่ว่าเจออะไรก็ไม่ตกใจเลยนี่ก็น่านับถืออยู่เหมือนกัน........
ขณะที่กำลังรู้สึกขัดแย้งกันอยู่ รุยเอสก็หยุดเดิน

「ที่นี่คือห้องสอบสวนค่ะ แต่ที่พวกเราจะเข้าไปกันคือที่ห้องที่ไว้ดูการสอบสวนค่ะ」

จากที่ฟังอธิบายมา ห้องสอบสวนนี่ดูเหมือนว่าจะคล้ายกับห้องที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนคนอื่น
ไว้ดูการสอบสวนเหมือนที่เห็นในหนังบ่อยๆ โดยจะมีอีกประตูหนึ่งที่เชื่อมไปยังห้องสอบสวน
แล้วตามที่ดูในหนัง ห้องที่ใช้ดูการสอบสวนจะมองเห็นได้ด้านเดียว
ที่ต่างกันคือ ไม่ได้มองเห็นการสอบสวนจากกระจกกลหรือกระจกแก้วเหมือนอย่างในหนัง
แต่ใช้การฉายภาพด้วยกล้องเวทมนตร์เหมือนที่ใช้ในงานแข่งถ้วยเมืองหลวงฉายภาพออกมาให้เห็น

「เดี๋ยวจะเริ่มการสอบสวนอีกครั้งแล้วค่ะ」

รุยเอสพูดพลางหันสายตาไปยังภาพฉาย ซึ่งก็เป็นคุณโรน่ากับเด็กสาวมนุษสัตว์เผ่าแมวดำ
ที่ชั้นเป็นคนจับกุมกำลังนั่งเก้าอี้อยู่ตรงข้ามกัน
คุณโรน่าใส่ชุดเกราะเหมือนที่พบกันในครั้งแรกแต่เด็กสาวเปลี่ยนจากเสื้อผ้าที่ใช้ลักลอบ
มาเป็นชุดแบบง่ายๆ

『............คุณหนู ยอมพูดออกมาอย่าขัดขืนจะดีกว่า?』
『..........』

คุณโรน่าครับ วิธีการถามแบบนั้นไปเลียนแบบจากไหนเหรอ
คุณโรน่าอุตส่าห์พยายามพูดเสียงต่ำพร้อมสร้างบรรยากาศซีเรียสแต่เจอชั้นตบมุขเข้าให้

『จะไม่พูดสินะ...........แต่ว่า? คุณหนู เห็นทีต้องใช้ไม้นี้ซะแล้ว!』

ป๊าง!ทำท่าเหมือนทุบโต๊ะอย่างแรงแล้วพูดมาประโยคหนึ่ง

『..........คัตสึด้ง กินมั้ย?』

พูดอะไรออกมาฟะ!?
อยากจะแหกปากตะโกนออกมาแต่ใช้สติอดกลั้นไว้สุดชีวิต
ว่าแต่ทำไมคุณโรน่าถึงได้รู้แพทเทินที่ตำรวจสืบสวนของโลกชั้นใช้ด้วย..........
ไม่สิ ที่ทำไปคงไม่รู้หรอกมั้ง
ขณะที่ดูการพูดคุยของทั้งสองคนด้วยสายตาจืดชืด คุณโรน่าก็หยิบคัตสึด้งออกมาชามนึง
จากนั้นก็วางไว้ตรงหน้าตัวเองแล้ว----------

『จะทานละนะค้า!』
『!?』
「ตกลงกินเองเรอะ!」

สุดท้ายก็ทนไม่ไหวจนต้องตบมุขออกมา ว่าแต่โหดร้ายจังฟ่ะ!
เด็กสาวได้แต่กลืนน้ำลายมองดูคุณโรน่ากินคัตสึด้งอย่างเอร็ดอร่อยอยู่ตรงหน้า
ทางคุณโรน่าก็กินคัตสึด้งอย่างเอร็ดอร่อยจนออกนอกหน้าโดยไม่สนใจสายตาของเด็กสาว

『อือ~ อร่อยจังเลย!แหม น่าเสียดาย~!ถ้ายอมพูดมาแต่โดยดี
ป่านนี้คงได้กินของอร่อยแบบนี้ไปแล้ว~!』
『...........』
『ไง เห็นมั้ยล่ะ!ได้แต่มองไม่ได้กิน..........ยิ่งกลิ่นหอมอร่อยแบบนี้..........ซู้ดฮ่าร์!』
『........』
『โอะโฮะ!? ไข่เยิ้มๆคลุกเคล้ากับเนื้อหมูอันกรุบกรอบใครจะอดใจไหว! 』
「เธอนี่ยักษ์มารชัดๆ!」

ชั้นทนไม่ไหวจนเปิดประตูห้องสอบสวนแล้วพูดออกไป ใครมันจะไปทนไหวฟะ!
อย่างนี้มันน่าสงสารเกินไปแล้ว!
พอชั้นเปิดประตูเข้าไปคุณโรน่าก็แสดงท่าทางตกใจที่มีคนเข้ามาในห้องสอบสวนเยอะขนาดนี้
รุยเอสเองก็ไม่ได้ว่ากล่าวอะไรชั้นโดยเข้าไปในห้องเงียบๆแล้วพูดกับคุณโรน่า

「โรน่า」
「หือ? มีอะไรเหรอคะ ท่านรุยเอส ว่าแต่ทำไมคุณเซอิจิถึง........... 」
「วันนี้เธองดข้าวเย็น」
「ทำไมล่ะคะ!?」

ดูท่ารุยเอสก็เห็นการกระทำของคุณโรน่าโหดร้ายเกินไปเลยจ้องแล้วพูดออกมา

「คือว่านะ...........ถึงจะเป็นการสอบสวนแต่ก็ควรมีวิธีการที่ค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกัน
แล้วทำไมถึงใช้วิธีการแบบนี้?」
「เอ่อแบบ............คิดว่าถ้าท้องหิวพอเอาของกินน่าอร่อยมาให้เห็น
แล้วบอกว่า ถ้ายอมบอกข้อมูลจะให้กินก็ได้!จะยอมพูดมาง่ายๆน่ะค่ะ............」
「แต่อีกฝ่ายยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ? ควรคิดพิจารณาสักนิด---------」

ระหว่างที่มองดูรุยเอสสั่นสอนคุณโรน่า รูรเนะก็พูดอย่างหวาดกลัว

「ป เป็นการทรมาณที่น่ากลัวอะไรแบบนี้...........」
「เธอเองก็เว่อร์เกินเหมือนกัน」

จะหมกมุ่นกันเรื่องของกินมากเกินไปแล้วนะ ยัยลานี่!
คุณโฟริโอ้ ก็ยิ้มแห้งๆกับภาพที่เห็น ส่วนซาเรียกับอัลยังสับสนจนตะลึงกันอยู่เลย

「เฮ้อ.........คุณโฟริโอ้ช่วยเตรียมคัตสึด้งมาให้อีกชามได้มั้ยครับ?」
「หือ? ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก.........」

พอชั้นบอกไป คุณโฟริโอ้ก็เรียกลูกน้องบอกให้เอาคัตสึด้งมา
จากนั้นก็เอาคัตสึด้งที่ใช้เวลาทำสักพักมาให้กับเด็กสาว

「ขอโทษที่พี่สาวคนนั้นแกล้งนะ? นี่ไง เตรียมของเหมือนกันมาให้แล้ว กินได้ตามสบายเลย」
「...........」
「อ้าว!? ทำไมฉันกลายเป็นคนไม่ดีไปได้ล่ะคะ!?」
「โรน่า นี่ยังพูดไม่จบนะ」
「ช่วยยกโทษให้ทีเถอะ!ฉันผิดไปแล้วค่าาาาาาาาาาาา!」

พอเมินเสียงโอดครวญของคุณโรน่าแล้วพูดกับเด็กสาวอย่างอ่อนโยน
เด็กสาวที่มีน้ำตานองออกจากตาที่เปิดออกมาครึ่งเดียวก็เงยหน้ามองชั้น
พอเห็นท่าทางอย่างนั้นเลยยิ้มเศร้าๆแล้วลูบหัวให้

「ไม่ต้องห่วง กินไปเถอะ กินได้ตามใจชอบเลย 」
「!」

เด็กสาวได้ยินคำพูดชั้นยังลังเลเล็กน้อยแต่ไม่นานก็เริ่มกินคัตสึด้งทีละนิดๆ
ถ้าเป็นของกินอื่นยังพอไหว แต่พอกินคัตสึด้งที่น่าอร่อยกันตรงหน้าแบบนี้
ชักอยากจะกินคัตสึด้งบ้างแล้วแฮะ ทำไมเวลาดูคนอื่นกินแล้วมันรู้สึกน่าอร่อยแบบนี้นะ
ขณะที่คิดอะไรไร้สาระแบบนั้นอยู่ เด็กสาวก็กินคัตสึด้งอย่างมีความสุข

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate