ตอนที่ 48 งานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้
หลังจากช่วยคุณรันเซ่ พวกคุณรุยเอสก็ช่วยฝึกอบรมการใช้สกิลและเวทมนตร์ให้
ซึ่งก็ผ่านมาได้1เดือนแล้ว
ในช่วง1เดือนนี้ก็มีไปซื้อของกับซาเรียและอัล หรือไม่ก็ไปทำคำร้องของ่ายๆ
อย่างปราบสไลด์หรือเก็บของ
แล้วก็ไม่ได้บอกเรื่องในปราสาทหลวงกับซาเรียและอัลด้วย ก็สัญญาไว้นี่นา
แต่ก็บอกไปว่าในฐานะรางวัลงานแข่งถ้วยเมืองหลวงเลยช่วยฝึกเวทกับสกิลให้กับชั้น
ในตอนนั้นไม่รู้ทำไมอัลถึงมีสีหน้าเครียดขึ้นมาส่วนซาเรียก็ทำหน้าไม่เข้าใจ
ทำไมกันหว่า?
ส่วนรูรูเนะหลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับเป็นลาอีกเลยแถมยังไปเดินกินตามร้านแผงลอยกับชั้นบ่อยๆด้วย
............ถึงจะไม่กังวลเรื่องกระเป๋าตังแต่ความอยากอาหารของรูรูเนะนี่น่ากลัวมาก
กินได้เยอะกว่าชั้นตั้ง2เท่าแน่ะ...........
ยังไงก็ตามชั้นใช้ชีวิตอย่างเต็มอิ่มอยู่ทุกวันนั่นแหละแต่วันนี้มีธุระเลยออกมาข้างนอกกัน
ซึ่งธุระที่ว่าก็คืองานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้นั่นเอง
เพราะงานแข่งนี้มีเคย์กับเมย์เข้าร่วมด้วยเลยไม่มาดูไม่ได้
พอบอกกับซาเรีย อัลและรูรูเนะไปทั้งสามคนก็บอกว่าจะมาด้วยเลยออกไปสถานที่จัดงานด้วยกัน
「ภาพวาดงั้นเหรอ............เป็นโลกที่ไม่ค่อยเข้าใจสำหรับข้าเลยนะ...........」
อัลเอาสองมือกุมไว้ที่หลังหัวแล้วพูดออกมา
「อืมมม............ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เซอิจิล่ะเข้าใจรึเปล่า?」
ซาเรียตอบสนองกับคำพูดของอัลแล้วถามชั้นเลยตอบไปตามตรง
「ไม่หรอก เอาจริงๆชั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน รูรูเนะเองก็คงไม่เข้าใจสินะ?」
「เอ๋? ฉันเข้าใจนะคะ?」
「หา!?」
คาดไม่ถึงจนชั้นเผลอเหวอออกมา ทั้งที่เป็นลา...........แต่ดันเข้าใจศิลปะเนี่ยนะ...........!?
ทันใดนั้นรูรูเนะก็ยืดอกแล้วตอบกลับมา
「ศิลปะ..........ว่าง่ายๆก็คือของกินใช่มั้ยล่ะ」
「ก็ไม่เข้าใจนั่นแหละ」
ค่อยยังชั่วหน่อยที่รูรูเนะไม่ได้เปลี่ยนไป
จากนั้นก็พูดคุยกันต่ออย่างสดใสจนในที่สุดก็มาถึงสถานที่แข่ง
「จัดกันที่นี่เหรอ...........」
สถานที่จัดงานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้นั้นคือลานกว้างที่ชั้นเจอกับเมย์ครั้งแรก
ทุกทีจะมีร้านแผงลอยเปิดอยู่มากมายแต่วันนี้ไม่มีเลยสักร้านเดียว
โดยถูกแทนที่ด้วยเวทีขนาดใหญ่ซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คน
「สุดยอด..............ถึงทั้งหมดนี่จะไม่ใช่ผู้เข้าร่วมแต่ในนี้คงมีจิตรกรกันอยู่เยอะน่าดู」
「นี่ เซอิจิ ไม่ไปเจอยัยเมย์นั่นจะดีเหรอ?」
ขณะที่กำลังตกใจกับคนจำนวนมากที่มารวมตัวกัน อัลก็ถามแบบนั้นออกมา
「ไม่เป็นไรหรอก อีกอย่างคนเยอะขนาดนี้จะหามันก็ยากใช่มั้ยล่ะ?」
「ก็จริงนะ............」
อัลก็ยิ้มแห้งๆให้กับจำนวนคนที่มากมาย
แต่ว่านะ.........คนมันก็เยอะจริงๆนั่นแหละ แต่เพราะแบบนี้รึเปล่าถึงได้มีพวกแปลกๆอยู่เต็มไปหมด
อย่างเช่น คนที่แต่งตัวเหมือนตัวตลก แต่คนแน่นขนาดนี้คงแสดงโชว์อะไรไม่ได้หรอกมั้ง
อย่างอื่นก็มี คนที่แต่ตัวสไตล์แบบไม่รู้จะบรรยายยังไงดี คนที่ถือรูปปั้นประหลาดๆเดินไปเดินมา
เมืองนี้นี่มีพวกแปลกประหลาดที่ไม่ค่อยได้เห็นมารวมกันเยอะจังแฮะ
「สมกับเป็นพวกศิลปิน..............แสดงความเป็นตัวของตัวเองกันสุดกู่เลย............」
ขณะที่กำลังหวาดผวากับผู้คนรอบข้างอยู่เงียบๆ
ทันใดนั้นก็ได้ยินประกาศเหมือนตอนงานแข่งถ้วยเมืองหลวง
『-----------ขอโทษที่ให้คอยกันนะครับ จากนี้จะขอเปิดงานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้ล่ะนะครับ』
「「「โอ้ววววววววววววววววววววว」」」
พอมีเสียงชายหนุ่มประกาศออกมาพวกผู้คนในสถานที่จัดงานก็เฮกันลั่น
「หวา!ตื่นเต้นกันจัง!」
「นั่นสินะ............ไม่คิดเลยว่าจะตื่นเต้นกับงานแข่งกันได้ขนาดนี้.............」
ชั้นตอบเห็นด้วยกับเสียงชื่นชมของซาเรีย
อัลกับรูรูเนะเองก็ทำตัวไม่ถูกกับเสียงอันครื้นเครงของผู้คนรอบข้าง
『ถ้างั้นขอแนะนำตัวกรรมการตัดสินงานแข่งในครั้งนี้
กรรมการตัดสินในงานแข่งครั้งนี้ก็คืออัจฉริยะซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในด้านเทคนิคของการวาดภาพ
---------ท่านเลออน เบลก้าครับ』
หลังจากได้ยินเสียงประกาศ ก็ได้ยินเสียงประหลาดใจของผู้คนรอบข้าง
「ก โกหกน่า!? 【เซียนภาพวาด】เลออนคนนั้นเนี่ยนะ!?」
「ไม่ใช่แค่ภาพวาดแอฟแตรกที่มีชื่อเสียงอยู่ในตอนนี้เท่านั้น รู้สึกว่าจะเป็นคนบุกเบิกภาพวาด
ทิวทัศน์กับภาพแรเงาด้วย...........」
「ว่ากันว่าตัวตนของคนๆนั้นทำให้ภาพวาดในสมัยนี้ก้าวหน้าไปอีกถึง100ปีเลยล่ะ.............」
ชั้นตกใจกับเนื้อหาของเสียงที่ซุบซิบกัน
ถึงเป็นเทคนิควาดภาพที่ธรรมดาสำหรับโลกเก่าแต่โลกนี้นั้นไม่เหมือนกัน
ซึ่งต่อให้ชั้นรู้เทคนิคพวกนั้นแต่การสร้างมันขึ้นมาที่โลกนี้ทำให้รู้เลยว่าเป็นคนที่สุดยอดแค่ไหน
แต่จะว่าไปนามสกุล เบลก้าเนี่ยมันคุ้นๆหูอยู่นะ..........
ขณะที่ยังนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินจากที่ไหน ก็มีภาพคนแก่คนหนึ่งปรากฏออกมาบนท้องฟ้า
ด้วยเครื่องฉายภาพเวทมนตร์เหมือนตอนงานแข่งถ้วยเมืองหลวง
คนแก่ที่มีรอยยิ้มอ่อนโยนนี่คงเป็นคุณเลออนที่ว่านั่นแหละ
รู้สึกเลยว่าถึงจะแก่แต่เมื่อก่อนต้องเป็นพวกหนุ่มหล่อแน่
จากนั้นคุณเลออนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
「จะตั้งตาคอยผลงานชั้นเลิศที่ใส่ความเร่าร้อนของพวกเธอเข้าไปนะ」
「「「โอ้ววววววววววววววววววววววววววววววววว!!」」」
บรรยากาศในที่จัดงานถูกห้อมล้อมด้วยความตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อกี้อีก
สุดยอด คนแก่คนนี้เนี่ยเป็นที่ชื่นชมของบรรดาจิตรกรขนาดนั้นเลยสินะ
『ขอบคุณท่านเลออนมากครับ ถ้างั้นจะขอเปลี่ยนไปเริ่มการตัดสินกันเดี๋ยวนี้เลยนะครับ
เบอร์1 เชิญครับ 』
และแล้วงานแข่งวาดภาพคาร์ไลเต้ก็เริ่มต้นขึ้นด้วยดี
แต่ก็มีเรื่องน่าเสียดายอย่างนึงคือคนมันเยอะเกินไปจนเข้าใกล้เวทีไม่ได้
เลยไม่ได้เห็นผลงานศิลปะกับตาได้แต่มองจากภาพที่ฉายอยู่บนฟ้า
เรื่องนี้ก็คงได้แต่ทำใจแหละนะ
แล้วพวกเรามองดูภาพที่ฉายอยู่บนฟ้า ซึ่งก็ปรากฏเป็นภาพวาดมากมาย
ในนั้นมีทั้งภาพวาดทิวทัศน์ที่ดูสมจริงจนเหมือนของจริงไปจนถึงภาพวาดที่ดูยังไงก็ไม่เข้าใจ
เหมือนของเคย์ ที่มีมากมายหลายรูปแบบ
โดยที่คุณเลออนนั้นก็ค่อยๆประเมิณผลงานอย่างละเอียดไปทีละภาพๆว่ามีดีตรงไหนมีแย่ตรงไหน
เพราะไม่ใช่ชี้แค่จุดที่แย่แต่ชี้จุดที่ดีด้วยผู้เข้าแข่งที่ได้รับการประเมิณเลยมีท่าทางที่ประทับใจกันมาก
『----------เอาล่ะ สุดท้ายนี้ก็เหลืออีก2คนแล้วนะครับ ถ้าอย่างนั้นท่านต่อไปเชิญครับ』
หลังจากที่ประกาศออกไปผู้ที่เดินขึ้นเวทีมาอย่างมั่นใจคือเคย์นั่นเอง
.........อ้ะ ใช่แล้ว!ก็ว่าเหมือนเคยได้ยินที่ไหน มันนามสลุลเดียวกับเคย์ไม่ใช่เหรอไง!
ขณะที่ตกใจที่ป่านนี้พึ่งมารู้ตัว ก็ได้ยินเสียงจากผู้คนรอบข้าง
「เขาน่ะเหรอ หลานของ【เซียนภาพวาด】............」
「ท่าทางมั่นใจแบบนั้นก็สมแล้วล่ะนะ」
「อื้ม..........แล้วจะเอาผลงานแบบไหนออกมากันนะ.....?」
ทุกคนจับจ้องดูผลงานของเคย์
ถึงชั้นจะไม่เข้าใจภาพวาดของเคย์แต่ศิลปินที่อยู่รอบๆนี่คงไม่เหมือนกันล่ะมั้ง
คิดอย่างนั้นไปพลางมองเคย์ที่ฉายอยู่บนท้องฟ้า
ทันใดนั้นก็ฉายภาพผลงานของเคย์ที่ใหญ่กว่าส่วนสูงของเคย์ถึง2เท่าซึ่งปิดผ้าคลุมไว้อยู่
「ย ใหญ่ฟ่ะ? ภาพอื่นยังเล็กกว่านี้เลยเนอะ?」
ใหญ่ไปหน่อยจนอัลที่อยู่ข้างถามแบบนั้นออกมา
......ถึงเป็นช่วงสั้นๆแต่ก็พอจะรู้ถึงระดับความมั่นที่เคย์มีอยู่ของตัวเอง ชั้นเลยไม่ค่อยจะตกใจเท่าไร
『คุณเคย์ เบลก้า ขอชื่อผลงานด้วยครับ 』
พอผู้ประกาศถามออกมา เคย์ก็พูดอย่างมั่นใจพลางถอดผ้าที่คลุมผลงานออกมา
『ชื่อผลงานของผม............ก็คือ【ศิลปะ】ไงล่ะ!』
ใต้ผ้าที่คลุมนั้นคือพระอาทิตย์สีแดงเข้มที่วาดอยู่บนกระดานวาดภาพสีขาวบริสุทธิ์
ใช่ แค่『พระอาทิตย์』เท่านั้น
「ภ ภาพวาดของเคย์นี่..........ง่ายจังเนอะ..........!?」
『..........ไม่รู้ทำไม คราวนี้รู้สึกเหมือนกำลังถูกล้อเล่นมากเลยครับ...........』
พอภาพของเคย์ออกมาก็มีเสียงซุบซิบกันด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก ขนาดชั้นยังตกใจเลย
ทำไมน่ะเหรอ ก็เป็นภาพของเจ้าคนที่บอกว่าสามเหลี่ยมธรรมดาๆเป็นภาพ
【สาวที่คิดถึงชายหนุ่มพลางมองทะเลยามเย็นท่ามกลางอาทิตย์ตกดิน】เลยนะเฟ้ย?
แต่ภาพที่ปรากฏออกมาในตอนนี้ก็ดันเป็นภาพพระอาทิตย์ใหญ่ยักษ์ธรรมาดาๆที่ทอแสงสีแดงเจิดจ้า
「เซอิจิ เพื่อนของนายนี่วาดภาพได้สุดยอดเลย」
「อื้มอื้ม!ภาพพระอาทิตย์สวยมากเลยล่ะ!」
อัลกับซาเรียเองยังตะลึงกับผลงานของเคย์เลย
「อืม........สำหรับฉันเห็นเป็นภาพแอปเปิ้ลนะคะ...........」
คุณรูรูเนะ นั่นมีแต่คุณแหละที่เห็น
ยังไงก็ตามแต่ก็เป็นภาพพระอาทิตย์บนพื้นขาวนั่นแหละ........อย่างกับเป็นธงชาติญี่ปุ่นเลยแฮะ
แม้จะบังเอิญคิดไปอย่างนั้นแต่ที่นี่คงไม่มีคนรู้เรื่องนั้นกันหรอกมั้ง
『คุณเคย์ ถ้าอย่างนั้นขอเชิญแนะนำผลงานได้เลยครับ』
『ก็ได้! ก่อนอื่นที่รวมอยู่ในผลงานชิ้นนี้คือความคิดทางศิลปะของผม!
ความรู้สึกอันเร่าร้อนที่แผดเผาออกมา............เหมือนไฟของไม้ขีดไฟใช่มั้ยล่ะ?』
ทำไมความคิดมันเล็กแบบนั้นฟะ.............!
ว่าแต่พระอาทิตย์ไม่ใช่เหรอไง!? ที่ใหญ่เป้งขนาดนั้นเนี่ยไฟของไม้ขีดไฟเรอะ!?
จะมองมุมไหนมันก็พระอาทิตย์นะเฮ้ย!? ทั้งที่วาดแสงวูบวาบของพระอาทิตย์เป็นอย่างดีด้วยแท้ๆ!
『ด้วยเหตุนี้ ภาพของผมจึงไม่เหมือนกับคนอื่น เพราะไม่วาดของเกินจำเป็นเลยสักอย่างเดียว
ผืนผ้าใบนี้คิอตัวผม ไฟของไม้ขีดไฟที่อยู่ตรงกลางก็คือความเร่าร้อนต่อศิลปะของผม』
『ย อย่างนี้นี่เอง.............แต่ในสายตาของผมมันดูเป็นพระอาทิตย์นะครับ.............?』
『ไฟของไม้ขีดไฟต่างหาก!อย่าเข้าใจผิดไปสิ』
『ค ครับ............』
เคย์เอ๋ย นายก็ยังเป็นนายอยู่วันยังค่ำล่ะนะ..............
ทั้งที่คิดว่าเป็นภาพที่ตรงไปตรงมาสุดท้ายเคย์ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดเดียว ชั้นเลยโล่งใจไปอีกแบบ
และแล้วก็เข้าสู่ช่วงการประเมินของคุณเลออน
คุณเลออนเงียบไปสักพักแล้วไม่นานก็เปิดปากพูดออกมา
『----------ผมเองก็เห็นเป็นไฟของไม้ขีดไฟนะ』
คุณก็เป็นกับเขาด้วยเรอะ!
ชั้นตบมุขกับคำพูดของคุณเลออนอยู่ในใจ
ทั้นที่จนถึงตอนนี้ก็ประเมินอย่างตรงไปตรงมา
ไม่ต้องมาแสดงความเป็นสายเลือดเดียวกับเคย์ตรงนี้ก็ได้!?
ขณะที่กำลังแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา ก็ได้ยินเสียงจากผู้คนรอบข้างอีกครั้ง
「...........ล้ำลึก」
「อืม.............ล้ำลึก」
「สมกับเป็นหลานของ【เซียนภาพวาด】.............」
「ถึงกับชี้ชัดได้ว่าเป็นไฟของไม้ขีดไฟ.............」
ทำไมไปเอากับเขาด้วยฟะ!?
ตกลงเป็นคนปกติอย่างชั้นเหรอที่แปลก? พวกศิลปินที่น่ากลัวเป็นบ้า
ขณะที่กำลังกลัวศิลปินอยู่คนเดียว คุณเลออนก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
『เคย์...........หลานน่ะตั้งแต่เมื่อก่อนก็เป็นเด็กที่วาดอะไรตรงไปตรงมา
จริงอยู่ที่คนรอบข้างอาจจะเข้าใจได้ยากแต่เพราะภาพที่หลานวาดน่ะใส่มาเพียงแค่ความคิดเดียวเท่านั้น
ผลงานครั้งนี้ที่มองเป็นพระอาทิตย์เพราะอยากจะบอกว่าหลานไม่ใช่พระอาทิตย์แต่เป็นไม้ขีดไฟ
ซึ่งสามารถลุกโชติช่วงและมอดไหม้ไปได้ในพริบตาอย่างนั้นใช่มั้ยล่ะ?』
『ใช่แล้วครับท่านปู่..........ช่วงชีวิตของผมนั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนดั่งเช่นพระอาทิตย์
แต่ว่าช่วงชีวิตที่เล็กๆนี้ก็มีความคิดอันร้อนแรงไม่แพ้พระอาทิตย์............นั่นคือศิลปะของผมครับ』
ลึกซึ้ง..............!
ลึกโคตรๆเลยครับคุณเลออน!
แหม ภาพที่เคย์วาดสุดยอดขนาดนั้นเลยสินะ
พอรับฟังคำอธิบายของคุณเลออนแล้วชั้นก็รู้สึกว่าพอจะเข้าใจสิ่งที่เคย์จะสื่อออมาได้
............อย่างที่คิด เป็นโลกที่คนธรรมดาทั่วไปอย่างชั้นไม่เข้าใจจริงๆนั่นแหละ
งั้นก็แปลว่าภาพสามเหลี่ยมที่ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีนั่นเป็นภาพ
【สาวที่คิดถึงชายหนุ่มพลางมองทะเลยามเย็นท่ามกลางอาทิตย์ตกดิน】จริงๆงั้นสิ?
...........ไม่ไหว ไม่เข้าใจเลยสักนิด
『ฮุฮุ เคย์...........ความเร่าร้อนของหลานน่ะได้ถูกถ่ายทอดออกมาแล้วล่ะ
แต่ความคิดของหลานน่ะไม่ใช่แค่ปู่เท่านั้นต้องพยายามสื่อให้ถึงผู้คนจำนวนมากด้วย
........นั่นคือการบ้านของหลานนะ』
『! ครับ!』
และแล้วการประเมินผลงานของเคย์ก็จบลง
งั้นก็หมายความว่าลำดับต่อไปที่เป็นคนสุดท้ายก็คือ-----------
『..........เอาล่ะครับในที่สุดก็มาถึงคนสุดท้ายแล้ว คุณเมย์ เชอร์รี่ เชิญครับ』
-------------ลำดับของเมย์นั่นเอง
พอประกาศไปเมย์ก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวทีโดยดูก็รู้เลยว่าประหม่าอยู่
..........ก็เมย์เล่นเดิมแบบมือเท้าไปพร้อมกันเลยนี่นา...........
ต่อจากตัวของเมย์ก็เป็นผลงานที่ใหญ่ระดับเดียวกับเคย์ซึ่งมีผ้าคลุมปิดไว้เช่นกัน
พอเห็นเมย์ที่ตัวสั่นกึกกึกด้วยความตึงเครียดแล้วอัลที่อยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงเป็นห่วงออกมา
「น นี่.........จะไหวมั้ยเนี่ย? เด็กคนนั้นน่ะ ขนาดทางนี้เป็นคนดูยังตึงเครียดด้วยความเป็นห่วงเลย?」
「อา.................อื้ม นั่นสินะแต่พวกเราเองก็ทำอะไรไม่ได้หรอก...............」
ใช่ พวกเราน่ะทำอะไรไม่ได้หรอก...........
เพราะงั้นเมย์ต้องพยายามด้วยตัวเองเท่านั้น
ชั้นจ้องมองเมย์โดยในใจก็ให้กำลังใจไปด้วย
『ถ้างั้นคุณเมย์ เชิญแนะนำชื่อผลงานได้เลยครับ』
『อ้ะ อื้อ!?』
เครียดสุดๆไปเลยแฮะ
เสียงของผู้ประกาศทำเอาเมย์หูหางตั้งขึ้นมาเลยแถมเกร็งไปทั้งตัวอีกต่างหาก
แต่พอเมย์แก้อาการเกร็งของตัวเองได้แล้วก็ค่อยๆหายใจเข้าลึกๆแล้วปรับความรู้สึก
จากนั้น-----------
『น นี่คือ........ผลงานของฉันค่ะ!』
ทันทีที่เมย์ถอดผ้าทีคลุมออกมาก็เป็น------------
「หา!?」
ภาพวาดของชั้นที่ขี่รูรูเนะที่ยังเป็นลาอยู่โดยโพสท่าแบบเดียวกับภาพ
【นโปเลียน ข้ามเทือกเขาแอนโปเลียน】ซึ่งเป็นภาพเหมือนของวีรบุรุษนโปเลียน
ที่โด่งดังของJacques-Louis David...........!