ตอนที่ 34 การตัดสินใจของสาว≪ภัยพิบัติ≫และความทุกข์ใจของหนุ่ม≪สัตว์ประหลาด≫
ข้า-------อัลโทเรีย เกรมกำลังรู้สึกอึดอัด
เรื่องคือเมื่อวานนี้-------ตั้งแต่คำสาปของข้าหายไปข้าก็อดสนใจเซอิจิไม่ได้อย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่พอเจอเซอิจิเมื่อเช้านี้ ในอกมันก็..........เต้นตุบและแน่นในอก
มีความเจ็บปวดแบบนั้นถาโถมเข้ามา
ยิ่งกว่านั้นทั้งที่ควรจะทรมานแต่ไม่รู้ทำไมกลับรู้สึกเป็นสุข
เป็นสิ่งที่ข้าพึ่งเคยได้รู้สึกเป็นครั้งแรกเพราะงั้นถึงได้รู้สึกอึดอัด
ความเจ็บปวดนี้แท้จริงมันคืออะไรกัน?
นอกจากนั้นแม้จะอยู่ด้วยกันมาได้ไม่นานแต่พอเห็นเซอิจิกับซาเรียพูดคุยกันเหมือนอย่างเคย
กลับรู้สึก..........ขุ่นมัวในใจรู้สึกไม่พอใจเล็กๆขึ้นมา
แล้วหนำซ้ำไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเศร้ามากด้วย
เพราะงั้นพอเห็นเซอิจิถึงได้หนีทันที
..........อยากรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของความรู้สึกนี้
แต่ไม่รู้ทำไมก็รู้สึกว่าหากได้รับรู้ความจริงนั้นจะถอยกลับไปไม่ได้อีก
อาจจะต้องเสียสิ่งสำคัญอะไรสักอย่างไปจนรู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนั้น
มันช่าง.........น่าหวาดหวั่นเป็นอย่างยิ่ง
「ข้า..............ควรทำยังไงดี...........?」
แล้วตอนที่พึมพำอย่างนั้นกับตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจที่จะไปถามใครนั่นเอง
「งั้นฉันรับเป็นที่ปรึกษาให้เอามั้ยคะ?」
「เอ๋?」
「สวัสดีค่ะ อัลโทเรียจัง」
คนที่เข้ามาพูดกับข้าคือคุณอโดเรียน่าที่เป็นเจ้าของคำร้องขอที่ไปทำด้วยกันกับเซอิจิ
ข้าที่บังเอิญไปเจอกันในเมืองเลยถูกเชิญไปที่บ้านคุณอโดเรียน่าเพื่อรับคำปรึกษาที่นั่น
「.........ข้าแปลกไปยังไงไม่รู้」
「มีอะไรแปลกไปงั้นเหรอ?」
「จำเซอิจิได้รึเปล่า?」
「ค่ะ แน่นอน」
「คือว่า............ตั้งแต่เมื่อวานพอเห็นเซอิจิแล้ว..........ในอกมัน.......
บอกเป็นคำพูดได้ยากแต่มันทั้งที่อึดอัดแต่ก็เป็นสุข อบอุ่น...........รู้สึกแบบนี้」
「ฮื่อฮื่อ」
คุณอโดเรียน่าฟังที่ข้าเล่าไปพลางจิบชาไป
「แล้วไม่ใช่แค่นั้นคือ..........เซอิจิเองก็มีหญิงสาวที่น่ารักมากๆ...............คิดว่าน่าจะเป็นแฟนกัน
............พอเห็นพูดคุยอย่างสนุกสนานกับหญิงสาวคนนั้น ก็แบบ.........อย่างที่บอกไปเมื่อกี้
ในอกก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา」
「อย่างนี้นี่เอง.............」
คุณอโดเรียน่าพอฟังที่ข้าพูดเสร็จก็จิบชาอีกรอบ
อย่างที่คิดเลยข้าคงมีตรงไหนแปลกไปซักแห่ง? หรือจะเป็นผลข้างเคียงจากการแก้คำสาป?
คุณอโดเรียน่าสูดลมหายใจแล้วยืนยันถึงความรู้สึกที่ทำให้ข้าไม่สบายใจ
「นั่นเป็นความรักค่ะ แถมเป็นรักครั้งแรกที่เปรี้ยวอมหวานมากๆด้วย」
「หา!? ค ความรัก!?」
ข้าเผลอทวนคำพูดกลับไป
ข้ายังสับสนอยู่แต่คุณอโดเรียน่าก็พูดต่อ
「ใช่แล้วค่ะ อัลโทเรียจัง...........คุณน่ะตกหลุมรักเข้าให้แล้ว」
「~~~~อือ!!」
ข้าที่ถูกพูดมาตรงๆหน้าแดงจนแทบไฟลุก
ข ข้าเนี่ยนะ..........รัก.........?
「ป เป็นไปไม่ได้!ข้าเนี่ยนะ!? เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!」
ทำไมข้าถึงต้องพยายามปฏิเสธสุดชีวิตด้วยล่ะ
แต่คุณอโดเรียน่าก็ปล่อยผ่านคำปฏิเสธนั้นไปโดยไม่ใส่ใจ
「แต่ก็คิดเป็นอย่างอื่นนอกจากนี้ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะคะ?
อีกอย่างอัลโทเรียจังเองก็เป็นสาวน้อยที่มีเสน่ห์ จะมีรักซักครั้งสองครั้งก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน
ต้องบอกว่าที่ไม่มีความรักเลยจนถึงตอนนี้ต่างหากล่ะที่แปลก」
「ร เรื่องนั้น-----------」
「งั้นแหวนที่สวมไว้ตรงนิ้วนางข้างซ้ายนี่มันอะไรเหรอคะ?」
「อึก!」
ข้าเอามือไปจับแหวนที่เซอิจิสวมให้ด้วยปฏิกิริยาตอบโต้
นิ้วนางมือซ้ายของข้านั้นมีแหวนฝังเพรชสีม่วงสวยงามที่ใส่ได้ขนาดพอดี
และการที่ผู้ชายสวมแหวนที่นิ้วนางมือซ้ายของผู้หญิงก็แปลว่า-----------
「สัญญารักนิรันดร์..........ปกติก็แบบนี้ไม่ใช่เหรอคะ?」
「~~~~~~~~~~อือ!」
คุณอโดเรียน่าใช้คำพูดทิ่มแทงได้ตรงจุดราวกับมองทะลุไปในใจของข้า
หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้วแถมอายจนพูดไม่ออกได้แต่อดทนไว้
และคุณอโดเรียน่าที่ไม่สนใจสภาพของข้าที่เป็นอย่างนั้นก็พูดต่อมาอีก
「แล้วที่คำสาปของอัลโทเรียจังคลายก็เพราะแหวนที่ได้รับจากคุณเซอิจิใช่มั้ยคะ?」
「..........ค่ะ」
「แต่ก็เป็นได้ว่าคุณเซอิจิที่ไม่แน่ว่ามาจากประเทศตะวันออกเลยไม่รู้ถึงสามัญสำนึกของทวีปนี้
หากคิดแบบนี้แล้วแหวนนั้นก็อาจจะไม่มีความหมายอะไรลึกซึ้งก้ได้」
「...........」
ใจของข้ามันรู้สึกแปลกๆ
ทั้งที่เป็นอย่างนั้นจริงก็น่าจะดี
เซอิจิเองก็มีซาเรียอยู่แล้ว
ทั้งอย่างนั้นแล้วหากยังเอาแหวนให้ข้าอีกก็เป็นการไม่ซื่อตรงไม่ใช่เหรอ
เพราะงั้นข้าเองก็ไม่ต้องไปคิดมากอะไรนั่นแหละดีแล้ว
มันก็แค่บังเอิญว่าตรงที่แหวนสวมได้พอดีเป็นนิ้วนางข้างซ้ายเท่านั้นเอง
แบบนี้ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ
.....ทั้งอย่างนั้น.......ทั้งอย่างนั้นแล้ว..........ทำไมถึงเศร้าล่ะ? ทำไมรู้สึกอ้างว้างล่ะ?
หากว่าไม่มีความหมายลึกซึ้งแค่เพื่อคลายคำสาปของข้า..........แค่นี้ก็น่าจะพอใจแล้วนี่นา
ใจของตัวเองแต่ตัวเองกลับไม่เข้าใจมันเลย
ทำไมถึงรู้สึกขมขื่นถึงขนาดนี้...........
ไม่เข้าใจเลยสักนิด..........
ท่ามกลางความไม่เข้าใจนั้นที่ตาของข้าก็มีน้ำตามารวมกัน
ขณะที่ข้านิ่งเงียบก้มหน้าอยู่คุณอโดเรียน่าก็พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
「อัลโทเรียจัง ยอมรับเถอะค่ะ?」
「............」
「ว่าคุณน่ะ---------รักคุณเซอิจิ」
「-----------」
ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาค่อยๆเลื่อนไปหาคุณอโดเรียน่า
ปิดบังต่อไม่ได้อีกแล้ว
.......ข้ารัก........เซอิจิงั้นเหรอ
ทันทีที่ยอมรับเรื่องนั้นข้าก็มีน้ำตาเอ่อล้นออกมา
ข้าตีตัวออกห่างจนไม่มีคนที่เคยคบหาอย่างจริงจัง
ทั้งพวกในกิลด์หรือชาวเมืองเอง............แม้จะเป็นห่วงเป็นใยข้าแต่ที่ถูกดึงไปทำให้ลำบาก
แต่ที่ยังคบหากันเหมือนอย่างเคยไม่เปลี่ยนแปลงก็มีพวกเซอิจินี่แหละเป็นพวกแรก
ตอนที่เซอิจิเป็นพูดว่าเป็นคนสำคัญและตอนที่เซอิจิบอกว่าชอบข้าเช่นเดียวกับทุกคน
รู้สึกดีใจมากๆเลย
ทั้งตอนที่กอดจากด้านหลังนั้นก็อ่อนโยนทำให้รู้สึกสบายใจ..............หัวใจรู้สึกอบอุ่น
งั้นเหรอ..........ข้า---------หลงรักไปแล้ว
คุณอโดเรียน่าก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนแล้วกอดข้าที่ในที่สุดก็รู้สึกตัว
「จะบอกอะไรอัลโทเรียจังที่ความรู้สึกช้าให้อย่างนึงนะคะ
การที่เห็นผู้ชายที่ชอบคุยกับผู้หญิงคนอื่นแล้วรู้สึกหดหู่น่ะไม่มีอะไรแปลกหรอก?」
「......เป็น อย่างนั้นเหรอ...........?」
「ใช่แล้วค่ะ นั่นคือความอิจฉา แม้การอิจฉากเกินไปจะไม่ดีแต่ถ้าแค่นิดหน่อยก็พอได้
ก็เป็นรักครั้งแรกของอัลโทเรียจังนี่เนอะ? จะสับสนก็เข้าใจอยู่แต่นั่นก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป」
「.......อือ」
「อีกอย่างต่อให้คุณเซอิจิมีแฟนแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไร
แม้มันจะเป็นบททดสอบความมั่นคงของผู้ชายแต่การมีผู้หญิงหลายคน
โดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าทวีปไหนก็เป็นเรื่องธรรมดานะคะ?
ถ้าไม่ชอบอย่างนั้นอัลโทเรียจังก็แค่พยายามเป็นที่หนึ่งของคุณเซอิจิก็สิ้นเรื่อง」
「.............เรื่องนั้นทำไม่ได้หรอก เดิมทีข้า...........ก็ไม่ได้น่ารักเลย แถมปากเสียอีกต่างหาก
ผู้หญิงอย่างนี้น่ะเดาได้เลยว่าเซอิจิต้องไม่ชอบ...........」
พอพูดไปอย่างจริงจังคุณอโดเรียน่าก็ยิ้มเศร้าๆให้
「อัลโทเรียจังต้องเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่านี้นะ คราวหน้าจะแนะนำเพื่อนของฉัน
ที่รู้ละเอียดด้านความรักให้ก็ได้แต่ก่อนอื่นถ้าอัลโทเรียจังยังไม่เข้าใจเสน่ห์ของตัวเอง
ก็เริ่มต้นทำอะไรไม่ได้หรอกนะ? อีกอย่างคิดเหรอว่าคุณเซอิจิจะใส่ใจกับกับเรื่องอย่างนั้น?」
「..............」
ข้าส่ายหน้าเงียบๆ
หมอนั่นน่ะไม่ใช่คนที่จะมาใส่ใจกับเรื่องนั้นหรอก
ไม่อย่างนั้นตอนที่วงเวทวาร์ปทำงานคงทิ้งข้าไปไม่ยื่นมือเข้ามาพยายามช่วยหรอก
ข้ารับรู้ได้ถึงความจริงใจนั้น
ขนาดที่ว่าต่อให้ข้าเป็น≪ภัยพิบัติ≫ก็ยังรับได้
「..........ข้ารักไปจะดีเหรอ........?」
「แน่นอนค่ะ」
「........จะไม่ทำให้ลำบากใจเหรอ.........?」
「ไม่เด็ดขาดค่ะ จะมีความสุขซะมากกว่า」
「.........งั้นเหรอ........」
ข้าเองก็ชอบคนอื่นได้สินะ
ยังไงก็ไม่ถูกผูดมัดด้วย≪ภัยพิบัติ≫อีกแล้ว..........
--------ในที่สุดก็ได้เริ่มก้าวเดินซะที
ทันใดนั้นข้าก็มีความรู้สึกที่ต่างกับเมื่อครู่ถาโถมเข้ามา
มันเป็นความรู้สึกที่จะมุ่งมั่นไปข้างหน้าต่างกับความรู้สึกที่เคยมีมาจนถึงเมื่อครู่นี้
「.........คุณอโดเรียน่า ข้าต้องทำยังไงถึงให้เซอิจิหันกลับมามองได้บ้าง.......?」
「เอ๋?」
「ทั้งที่เมื่อกี้ทั้งเจ็บปวด ทรมาน..........ลำบากขนาดนั้นแท้ๆแต่ตอนนี้กลับมีความสุขมากๆ
ความรู้สึกนี้พึ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรก」
「..........」
「เพราะงั้น..........เลยอยากจะส่งความรู้สึกนี้ของข้าไปให้ถึงเซอิจิ
แม้ข้าจะขาดเสน่ห์ในฐานะของผู้หญิงก็ตาม..........แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็อยากให้เซอิจิชอบข้า
เหมือนอย่างที่ข้าชอบเซอิจิแบบนี้」
「อัลโทเรียจัง..........」
「ก็แบบนี้แหละคุณอโดเรียน่า คือว่า.........เรื่องความรักมันเป็นครั้งแรกเลยยังไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ช่วยสอนอะไรต่างๆให้หน่อยได้มั้ย? ว่าต้องทำยังไงบ้าง............」
คุณอโดเรียน่าที่ฟังความคิดอันจริงจังของข้าก็ยิ้มพลางพยักหน้าทีนึงแล้วตอบกลับมา
「วางใจได้เลยค่ะ!จะช่วยสอนวิธีจับคุณเซอิจิให้อยู่หมัดให้เอง!」
หลังจากฟังคำพูดอันน่าพึ่งพาได้นั้นข้าก็รับการสอนสิ่งต่างๆจากคุณอโดเรียน่า
◆◇◆
「---------ก็อย่างที่เล่าไปนั่นแหละครับ」
「เฮ้อ นักผจญภัยเองก็ลำบากเหมือนกันนะครับ」
ชั้น ฮิรากิ เซอิจิกำลังพูดคุยเรื่องราวต่างๆกับคุณโนอาสที่『ร้านกาแฟอัสคอเรี่ยน』
ซึ่งเมื่อกี้ก็เล่าเรื่องที่ชั้นกับคุณอัลโทเรียอยู่ดีๆก็ถูกโยนไปดันเจี้ยนแปลกๆ
「ว่าแต่มีเรื่องสงสัยอย่างนึง คือแม่หนู≪ภัยพิบัติ≫เป็นยังไงบ้างล่ะ?」
เพราะเล่าถึงตรงที่คลายคำสาปได้คุณรันเซ่เลยถามมาแบบนั้น
「นั่นสินะ...........ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับว่าทำไมแต่กำลังถูกหลบหน้าอยู่」
「หา? ทำไมล่ะ? ที่คลายคำสาปได้ก็เพราะเซอิจิไม่ใช่เหรอ?」
「นั่นก็ใช่อยู่แต่........คือว่า.......ขอถามอะไรแปลกๆหน่อยนะครับ
แบบว่ากรณีผู้ชายสวมแหวนที่นิ้วนางมือซ้ายของผู้หญิงนี่........มีความหมายอะไรรึเปล่าครับ?」
「อ้ะ? เรื่องนั้น.......จะว่าไปเซอิจิไม่ใช่คนของทวีปนี้แต่มาจากประเทศตะวันออกนี่นา
ถ้าอย่างนั้นจะไม่รู้ก็ไม่แปลกอะไร.......... หือ? เดี๋ยวนะ งั้นเรื่องที่เล่ามาเมื่อกี้ก็...........」
「......อย่างที่เดานั่นแหละครับ ไอเท็มที่ใช้แก้คำสาปมันบังเอิญเป็นแหวน
แล้วผมกำลังลนจนใจไม่อยู่กับตัวเลยสวมเข้าไปที่นิ้วนางข้างซ้ายเลยนั่นแหละครับ」
「โกหกใช่มั้ย!?」
คำสารภาพของชั้นไม่ใช่แค่คุณรันเซ่ คุณโนอาสเองก็เปิดตากว้างไปด้วย
ทำไงดี ชักสังหรณ์ใจไม่ดีแฮะ
「เอ่อ..........ไม่ดีจริงๆสินะครับ?」
「ไม่ดีแหงอยู่แล้วสิฟะ............」
ระหว่างที่คุณรันเซ่เอือมระอา คุณโนอาสก็บอกมาให้อย่างสุภาพ
「.......คุณเซอิจิครับ สำหรับทวีปนี้ส่วนใหญ่การที่ผู้ชายให้แหวนเป็นของขวัญแก่ผู้หญิง
โดยสวมที่นิ้วนางข้างซ้ายนั้นเป็นการสาบานรักนิรันดร์」
「พรวดด!?」
ถึงจะคาดไว้แล้วแต่ไม่ได้ถึงขนาดนั้นสักหน่อย!
แล้วคุณรันเซ่ก็พูดพลางหรี่ตามองชั้นที่เผลอพ่นออกมาด้วยความสับสน
「.......หลายๆอย่างอาจสายไปแล้วแต่ขนาดข้าอยู่มานานกว่านายหลายปี
ยังไม่เคยพลาดได้อะไรขนาดนี้เลย」
「......ผมก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน」
「ยิ่งกว่านั้นยังไปสาบานเรื่องใหญ่ขนาดนั้นด้วยนะ?
ถ้าหลุดปากไปว่าโกหกจ้า~หรือเข้าใจผิดล่ะก็ได้โดนฆ่าทิ้งแน่」
「โห!」
「สำหรับผู้หญิงการกระทำนั้นมันสำคัญถึงขนาดนั้นเลยล่ะ ประเทศของนายยังไงไม่รู้แต่
สำหรับทวีปนี้จัดว่าเป็นเรื่องอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้」
「..........นั่นสินะครับ เฉพาะตามที่เล่ามา การกระทำของคุณเซอิจิอาจจะวู่วามเกินไป.......นิดหน่อย」
「อั๊ค!?」
คำพูดเมื่อกี้แทงใส่อกชั้นเต็มๆ!ทำไปได้!โธ่เว้ย!ฮึ่ย!
แต่ว่า............นั่นสินะ
แม้ชั้นจะไม่ได้ตั้งใจยังไงก็ตามแต่ชั้นก็ทำสิ่งที่ผู้หญิงเขาใฝ่ฝันกันไปซะแล้วไม่ผิดแน่
บอกว่าเข้าใจผิดครับแล้วจบเรื่องได้ไหมหว่า
อีกอย่างชั้นเองก็ไม่อยากทำตัวไม่จริงใจด้วย
แต่ถ้าทำอย่างนั้นล่ะก็..........
「ทำยังไงดี............」
โพล่งออกมาอย่างนั้นพลางกุมหัว
เดิมทีอย่างชั้นก็ไม่เหมาะกับคุณอัลโทเรียสักหน่อย!
กับซาเรียก็ไม่ได้คิดหรอกนะว่าอย่างชั้นจะเหมาะ!
ทันใดนั้นคุณรันเซ่ก็ยิ้มแล้วพูดขึ้น
「ไม่เห็นต้องทำยังไง แต่งงานกันซะก็จบ」
「หา!? ต แต่งงาน!?」
「หือ? ตกใจอะไร ดูยังไงก็สาบานรักนิรันดร์ไปแล้ว ก็แต่งงานกันซะเลยสิ」
「ก ก็จริงอยู่หรอกครับ..........แต่ผม........」
ใช่ ชั้นมีแฟนคนสำคัญชื่อซาเรียอยู่ก่อนแล้ว.........ถึงจะเป็นกอลิล่าก็เถอะ
พอเห็นปฏิกิริยาของชั้นคุณโนอาสก็ถามมาเงียบๆ
「..........คุณเซอิจิมีผู้หญิงที่ตกลงใจอยู่ก่อนแล้วสินะครับ」
「...........ครับก็ประมาณนั้น」
「เฮ้ยๆ เอาจริงดิ นายแต่งตัวน่าสงสัยแบบนี้ยังเนื้อหอมผิดคาดอีกเหรอ」
「แต่งตัวน่าสงสัย..........」
ก็นะ ผู้ชายสวมฮู้ดจนไม่เห็นหน้ามันก็ต้องน่าสงสัยอยู่แล้ว แต่ก็ชินแล้วล่ะ
「แต่ว่านะ..........มีผู้หญิงที่ชอบอยู่แล้วเหรอ ถ้างั้นก็รวมผู้หญิงคนนั้นแล้วแต่งมันทั้งสองคนเลยสิ」
「หา!? ทั้งสองคน!?」
ความเห็นเกิดคาดของคุณรันเซ่ทำเอาชั้นเผลอส่งเสียงดังออกมาเลย
「ข้าพูดอะไรแปลกเหรอไง?」
「ไม่อ่ะ แปลกเห็นๆเลย!แต่งงานทั่วไปทำได้แค่คนเดียวไม่ใช่เหรอ!?」
พอตอบกลับไปด้วยเสียงที่เกือบเหมือนตะโกน คุณรันเซ่กับคุณโนอาสก็ทำหน้าประหลาดใจไปชั่วครู่
แล้วก็แสดงสีหน้าเข้าใจออกมาทันที
「หรือว่าประเทศตะวันออกจะต่างกัน?」
「เห?」
「เปล่า แต่ทวีปนี้โดยพื้นฐานแล้วยอมให้แต่งงานซ้อนได้
ต้องบอกว่าไม่ใช่แค่ทวีปนี้ ทวีปอื่นก็คิดว่าเป็นเหมือนกัน.............」
อะไรกัน!? ยอมให้แต่งงานซ้อนได้!?
พอเห็นชั้นตกใจทั้งสองคนเลยเข้าใจในที่สุด
「...........จากท่าทางแล้วน่าจะต่างกันนะครับ」
「...........เอาเถอะ จริงอยู่ที่ยอมให้แต่งงานซ้อนได้
แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นนอกจากขุนนางหรือเชื้อพระวงศ์หรอกนะ」
ดูท่าจะกลายเป็นชั้นมาจากประเทศตะวันออกแถมเป็นประเทศที่ไม่ยอมให้แต่งงานซ้อนซะแล้ว
ไหงเป็นงี้ได้เนี่ย
เอาเถอะเวลานี้ไม่ควรจะมาสลดซะด้วยปล่อยผ่านไปก่อนแล้วกัน
แทนที่จะไปใส่ใจเรื่องนั้นก่อนอื่นก็ต้องเรื่องของคุณอัลโทเรียก่อน
จริงๆเลย จะทำยังไงดีน้า.......
ขณะที่กำลังกุมหัวด้วยความกลุ้มใจก็มีชามาเสิร์ฟตรงหน้า
พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นคุณโนอาสยิ้มอย่างอ่อนโยนให้
「..............ชาที่ใช้ใบอัลเทลมีประสิทธิภาพช่วยให้ผ่อนคลายครับ」
「เอ๋? ไม่ได้สั่งไปนะครับ..........」
「.......ผมเลี้ยงเองครับ แล้วก็ในฐานะเป็นผู้ที่อาวุโสกว่าขอแนะนำให้อย่างนึงครับ」
「?」
「.......อย่าให้คำตอบแบบคลุมเครือเด็ดขาด แม้จะคิดว่าไม่เป็นไรแต่สิ่งที่คุณเซอิจิจะไปทำนั้น
เป็นเรื่องที่สำคัญถึงขนาดที่ว่ามาเลยครับ เพราะงั้นจะตอบรับไว้หรือขอโทษไปอย่างจริงใจ
.............ก็ขอให้ตัดสินใจให้ดี」
「...........」
.............นั่นสินะ
ตอบแบบคลุมเครือไม่ได้เด็ดขาด เหนือสิ่งอื่นใดชั้นไม่ยอมทำอย่างนั้นแน่
แม้จะด้วยความไม่รู้แต่การทำอะไรคลุมเครือแบบนั้นน่ะต่ำช้าที่สุด
..........ถึงจะต่ำช้าไปแล้วตั้งแต่ตอนที่จับปลาสองมือโดยที่ไม่รู้เรื่องก็เถอะ
「..........เข้าใจแล้วครับ ผมจะไปบอกจากปากตัวเองให้ชัดเจน」
「........งั้นเหรอครับ」
พอคุณโนอาสฟังคำตอบของชั้นก็ยิ้มอย่างพึงพอใจ
ไหนๆก็อุตส่าห์เสิร์ฟชามาให้เลยลองดื่มดูก็รู้สึกเหมือนพลังที่เกินจำเป็นของร่างกายหลุดหายไป
รู้สึกดีขึ้นมากเลย
รสชาติเองก็หวานอ่อนๆตามแบบที่ชั้นชอบ
พอดื่มหมดเสร็จก็พลันนึกเรื่องเวลาขึ้นมาได้
จะว่าไปก็พูดคุยกันมานานพอสมควรน่าจะได้เวลากลับแล้ว
พอชั้นคิดอย่างนั้นก็ยืนขึ้นแล้วพูดกับคุณโนอาสตามมารยาท
「ขอบคุณสำหรับอาหาร ชาอร่อยมากเลยครับ」
「........ขอบคุณครับจะรอกลับมาที่ร้านนี้อีกครั้งนะครับ」
「นั่นสิ แล้วกลับมาคุยกันอีกนะ」
คุณรันเซ่เองก็พูดพลางยิ้มไปด้วย
「ครับ แน่นอน!」
เป็นร้านที่ดีแฮะ ต้องมาอีกแน่
ชั้นตัดสินอย่างนั้นในใจแล้วก็ออกจากร้านไป
◆◇◆
「เฮ้อ.........วัยรุ่นก็แบบนี้แหละน้า....」
พอเซอิจิออกไปจากร้านรันเซ่ก็พึมพำออกมา
กับรันเซ่ที่เป็นแบบนั้นโนอาสก็พูดอย่างเงียบๆ
「..........รันเซ่ แล้วคุณไม่ต้องกลับด้วยเหรอ?」
「อา...........ไม่นานก็กลับแล้ว รอคนมารับน่ะ」
ประโยคนั้นของรันเซ่ทำให้โนอาสถอนหายใจ
「.......ต่อให้ผมอยู่ก็ตามยังไงการมาคนเดียวแบบนี้ไม่ประมาทไปหน่อยเหรอ?」
「สบายใจได้ ไม่ได้มาคนเดียวหรอกไม่ต้องห่วง พารุยเอสมาด้วยอยู่แล้ว」
「.........เฮ้อ ท่านรุยเอสที่ต้องติดสอยห้อยตามมาด้วยน่าเห็นใจจังนะครับ」
「เรื่องนั้นช่วยไม่ได้ มันเป็นงานของหมอนั่นนี่หว่า」
「........ถ้าคุณที่เป็นต้นเหตุเลิกมาที่นี่ก็น่าจะสบายขึ้นนิดหน่อย」
「อาหารแสนอร่อยของนายแหละที่ผิด!」
「.........โยนความผิดกันซื่อๆเลยนะครับ」
แม้จะถอนหายใจอีกแต่ท่าทางของโนอาสก็ไม่ได้ไม่พอใจอะไร
ร้านกาแฟอัสคอเรี่ยนไม่ว่ายังไงก็ยังคงบรรยากาศอันเงียบสงบอยู่เสมอ
◆◇◆
「เย็นแล้วเหรอเนี่ย.........」
พอชั้นออกจาร้านกาแฟอัสคอเรี่ยนก็มองท้องฟ้าที่เป็นสีส้มไปโดยไม่รู้ตัวแล้วพึมพำออกมา
「ท่าทางวันนี้ไปซื้อม้าไม่ได้แล้วแฮะ..........」
เอาเถอะยังไงก็ไม่ได้รีบ ไว้พรุ่งนี้ก็ได้
「อืมม...........งั้นก็กลับโรงแรมเลยดีมั้ย?」
แต่ซาเรียกลับไปรึยังก็ไม่รู้
อีกอย่าง............ก็มีเรื่องคุณอัลโทเรียด้วย
「........ไม่ไหวจริงๆเลยน้าชั้นเนี่ย」
แม้จะตัดสินใจแล้วแต่พอคิดจะไปบอกความจริงก็เกิดกลัวขึ้นมา
ก็สิ่งที่ชั้นทำไปมันเป็นเรื่องใหญ่ยิ่งกว่าอะไรสำหรับโลกนี้นี่นา
「..........เรื่องที่ว่าถ่วงเวลาต่อไปไม่ได้ก็เข้าใจอยู่หรอก..........」
ระหว่างที่ชั้นพึมพำอย่างนั้นก็ก้าวเดินไปที่นั่นซะแล้ว
ที่นั่นก็คือบ้านเด็กกำพร้าที่ซาเรียไปนั่นเอง
..........ต่ำช้าแล้วยังน่าสมเพชอีกนะชั้นเนี่ย
พอชั้นอยู่คนเดียวแล้วรู้สึกไม่สบายใจก็มองหาซาเรียเองโดยไม่รู้ตัว
รู้สึกอยากฆ่าตัวเองที่ทั้งน่าสมเพชแถมต่ำช้าขึ้นมาเลย
ชั้นมุ่งหน้าไปที่บ้านเด็กกำพร้าด้วยอารมส์ที่หดหู่แบบนั้น
ไม่นานก็เห็นโบสถ์ที่เป็นบ้านเด็กกำพร้า
「............มาถึงจนได้」
ความรู้สึกที่หดหู่อยู่แล้วยิ่งหนักเข้าไปอีก
แล้วตอนที่กำลังเข้าไปในโบสถ์ทั้งที่รู้สึกอย่างนั้นนั่นเอง
「-------------เซอิจิ」
「!!!!」
ชั้นหันหลังไปด้วยความเร็วที่แม้แต่ตัวเองยังตกใจ
「คุณอัลโทเรีย」
ที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือคนที่ชั้นต้องบอกความจริงให้ทราบ..........คุณอัลโทเรียนั่นเอง
「............」
「............」
ทั้งชั้นและคุณอัลโทเรียต่างประจันหน้ากันอยู่เงียบๆ
ข้างหลังคุณอัลโทเรียเป็นอาทิตย์ยามเย็นพอดีเลยมองหน้าไม่เห็น
รอบๆไม่มีแม้แต่เงาคนมีเพียงชั้นกับคุณอัลโทเรียสองคนเท่านั้น
เวลาอันเงียบงันดำเนินไปได้สักพัก
....................คุณอัลโทเรียมาอยู่ตรงหน้าแล้วนะเฟ้ย
ตอนนี้ก็ควรบอกไปว่าเรื่องแหวนนั่นเป็นการเข้าใจผิดไม่ใช่เหรอไง
ถึงอาจจะไม่ยกโทษให้แต่ก็ควรขอโทษไปจริงมั้ย?
แต่พอคิดว่าการทำอย่างนั้นจะเป็นการจบสิ้นความสัมพันธ์กับคุณอัลโทเรียขึ้นมาก็............
กลัว กลัวมากเลย
แต่ แต่ว่านะ...........การที่เงียบแล้วหลอกตามน้ำต่อไปมัน..........ยิ่งแย่กว่าอีก
เพราะงั้นก็พูดเข้าไปสิตัวชั้น เปิดปากพูดซะ
จะมัวกลัวอะไรกัน
พูดสิ พูด พูด พูด............!
「ค......คุณอัลโทเรีย!คือ.........แหวน----------」
「------------」
ทันทีที่คิดว่าในที่สุดก็รวมรวมความกล้าจนเปล่งคำพูดออกมาได้
ปากของชั้นก็ถูกปิดด้วยอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่มทำให้พูดออกมาไม่ได้
「อุ๊บ!?」
「.........」
ที่แนบประชิดกับหน้านั้นคือใบหน้าคุณอัลโทเรียที่หลับตาอันทรงพลังนั้นไว้
โดยที่ริมฝีปากของชั้นกับริมฝีปากของคุณอัลโทเรีย.......ประกบกันอยู่
นี่ชั้น.........กำลังทำอะไร?
ทำไมริมฝีปากของชั้นกับริมฝีปากของคุณอัลโทเรียถึงประกบกันได้?
นี่มัน........จูบ........ใช่มะ?
..............
「~~~~~~~~~~อื้อ!?」
พอชั้นเข้าใจสถานการณ์ได้หน้าก็ร้อนขึ้นมาทันใจ
ชั้น.......ชั้น.........จูบ กับคุณอัลโทเรีย..........งั้นเรอะ......!?
แม้ชั้นวิเคราะห์สถานการณ์เสร็จแล้วก็ยังทำอะไรไม่ได้นอกจากหน้าแดง
แต่ถึงอย่างนั้นคุณอัลโทเรียก็ยังไม่สนใจจูบแบบไม่ชำนาญ..........แต่นุ่มนวลต่อไป
ตอนนี้ชั้นอยู่ในท่ากำลังรับตัวคุณอัลโทเรียจากด้านหน้า
อีกทั้งผลจากท่ารับตัวคุณอัลโทเรียไว้ทำให้ฮู้ดที่ปิดบังหน้าตาหลุดออก
คุณอัลโทเรียจูบอย่างยาวนานเสร็จก็ก้มหน้าลง
「.......เรื่องเมื่อตอนนั้นไม่ต้องพูดก็ได้」
「เอ๋?」
「..........รู้อยู่แล้วน่า เรื่องที่เซอิจิสวมแหวนให้ข้าโดยไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้นน่ะ...........」
เรื่องนั้น.........สรุปคือรู้ว่าชั้นไม่ได้ให้เพื่อเป็นการสาบานรักนิรันดร์กับคุณอัลโทเรียสินะ
「ถ้างั้น----------」
「แต่มันไม่เกี่ยวกัน」
คำพูดของชั้นถูกขัดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังของคุณอัลโทเรีย
จากนั้นคุณอัลโทเรียก็เอาหน้ามาซุกอกของชั้น
「ไม่เกี่ยวสักนิด........!ก็............ก็ข้าชอบไปแล้วนี่นา.............!」
「!」
คุณอัลโทเรียตะโกนอยู่ในอกของชั้น
「เป็นครั้งแรกเลยนะความรู้สึกแบบนี้!เรื่องที่เซอิจิมีซาเรียอยู่แล้วก็รู้ดี
ขนาดข้าที่เป็นผู้หญิงยังเห็นว่าน่ารักมากๆเลย」
「................」
「แต่ว่า.........แต่ว่าข้าชอบไปแล้วนี่นา!แค่มองหน้านายก็ปวดในอกขึ้นมา!」
「คุณอัลโทเรีย」
「ข้า.........ไม่ได้เหรอ? ให้คนอย่างข้าอยู่เคียงข้างเซอิจิไม่ได้เหรอ?」
「เรื่องนั้น..............!」
「ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ชอบไปแล้ว!ถึงข้าจะไม่น่ารักไม่สมหญิงไม่มีเสน่ห์อะไรเลยก็ตาม
ถึงอย่างนั้นข้าก็............เซอิจิ ก็ชอบนายไปแล้วนี่นา...........」
พอคุณอัลโทเรียพูดออกมาชัดเจนถึงขนาดนั้นแล้วก็เริ่มร้องไห้เงียบๆอยู่ในอกของชั้น
.........แล้วชั้นจะทำยังไงดี?
ชั้นเองก็มีซาเรียอยู่แล้ว
ถึงจะยอมให้แต่งงานซ้อนได้แต่ยังไงชั้นก็เป็นคนของโลกเดิม
ของโลกเดิม...........ก็นั่นแหละที่ทำให้ชั้นซึ่งมีสำนึกตามศีลธรรมของญี่ปุ่นกลุ้มใจ
น่าสมเพชจนอยากจะตายจริงๆไปเลย
คุณอัลโทเรียเป็นคนสำคัญ
แต่เรื่องที่เป็นคนสำคัญในฐานะชายหญิงหรือไม่นั้น...........ชั้นเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
โธ่เว้ย!ถึงจะแกร่งยังไงแต่พอเวลาแบบนี้สเตตัสของชั้นดันทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
「..........ผม-------------!」
「ก็รับไว้สิ? เซอิจิ」
「!?」
ชั้นกับคุณอัลโทเรียต่างตกใจกับเสียงที่จู่ๆเอ่ยออกมา
พอหันสายตาไปตามเสียง...........ก็เจอซาเรียอยู่ตรงนั้น
「ซ ซาเรีย เอ่อ คือนี่............!」
「ไม่เป็นไร เข้าใจอยู่แล้วล่ะ」
เข้าใจความรู้สึกของพ่อตอนโดนจับได้ว่ามีกิ๊กเลยชั้น
「เซอิจิ เรื่องของคุณอัลโทเรียก็รับไว้สิ?」
「ต แต่.........สำหรับเธอมันจะดีเหรอ?」
อาจะเป็นคำพูดที่แย่มากแต่ชั้นเองก็ต้องการให้คุณอัลโทเรียเป็นคนสำคัญในฐานะชายหญิง
แต่ชั้นมีซาเรียอยู่แล้ว
และเพราะมีซาเรียอยู่ทำให้ชั้นมองเรื่องของคุณอัลโทเรียในแบบที่ว่ามาไม่ได้
แต่เจ้าตัวซาเรียกลับยิ้มแบบเหงาๆนิดหน่อยแล้วพยักหน้าให้
「อื้ม แน่นอน ก็เหงาอยู่หรอกที่ไม่ได้ครองเซอิจิอยู่คนเดียว?
แต่ฉันก็ไม่คิดจะยึดครองเสน่ห์ของเซอิจิไว้อยู่คนเดียวหรอกนะ」
「ซาเรีย..........」
「อีกอย่างนะ? เซอิจิ ตัวผู้ที่แข็งแกร่งจะมีตัวเมียเข้ามาหามันเป็นเรื่องปกติ
เพราะมันเป็นกฏแห่งธรรมชาติไงล่ะ」
ต ตัวผู้.........
ชั้นรู้อยู่แล้วว่าซาเรียแต่เดิมเป็นกอลิล่าเลยไม่รู้สึกแปลกใจอะไรมาก
แต่คุณอัลโทเรียที่ไม่รู้อะไรเลยได้แต่เอียงคอ
「เพราะงั้นเซอิจิ เรื่องของคุณอัลโทเรียก็รับไว้ให้เรียบร้อยเถอะนะ?
เพราะฉันเองก็ชอบคุณอัลโทเรียเหมือนกัน!」
「ซาเรีย........」
คุณอัลโทเรียที่ตื้นตันใจก็จ้องมองซาเรีย
「ซาเรีย.........ได้แน่นะ?」
「อื้ม!」
ซาเรียที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแตกต่างกับเมื่อกี้ก็บอกอนุญาติมาอย่างชัดเจน
อ๊า โธ่เว้ย
ไม่ได้เรื่องเลยชั้นนี่
ต้องมาให้ซาเรีย.........ให้ผู้หญิงดันหลังให้ตัดสินใจอะไรเองไม่ได้สักอย่าง
แม้จะเริ่มก่นด่าตัวเองแต่ก็สะบัดหัวเปลี่ยนความคิดใหม่ทันที
สายตากลับมาสู่คุณอัลโทเรียที่อยู่ในอ้อมอกของชั้นโดยไม่รู้ตัว
และคุณอัลโทเรียที่รู้สึกถึงสายตาของชั้นก็มองกลับมาทางชั้น
ในทันทีที่เปิดตาขึ้นมามองก็ได้เห็นหน้าจริงของชั้นเป็นครั้งแรก
ดวงตาสีทองเรียวยาวที่ในตอนนี้ชุ่มไปด้วยน้ำตาได้เงยหน้ามองชั้นอย่างกังวลใจ
「คุณอัลโทเรีย...........」
「...........อัล」
「เอ๋?」
「.......เรียกข้าว่าอัล นั่นเป็นชื่อเล่นของข้าที่เรียกกันในหมู่คนที่สนิทจริงๆ..........
แล้วก็ไม่ต้องใช้คำสุภาพด้วย!」
คุณอัลโทเรีย..........ไม่สิ อัลชี้แจงมาอย่างอายๆชั้นก็ยิ้มแห้งๆกลับไป
「เข้าใจแล้วล่ะอัล」
「.........อืม」
อัลแก้มแดงช้อนตาจ้องมองชั้น
แล้วมือก็พลันยื่นไปที่แก้มนั้นของอัลเอง
เป็นชั้นตามปกติล่ะก็ไม่ทำอะไรน่าอายแบบนี้แน่
แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงกลับทำได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ใส่ใจถึงเรื่องนั้นเลย
...........ไว้ค่อยคิดทีหลังแล้วกัน
ก็เรื่องที่สำคัญที่สุดคืออัลนี่นา..........
「ชั้นเองก็---------ชอบอัลเหมือนกันนะ」
「!」
พอบอกไปอย่างนั้นแล้วคราวนี้ถึงตาชั้นที่จูบอัลอย่างนุ่มนวลบ้าง
ความรู้สึกสับสนที่เคยมีตะกี้อย่างกับมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย..........
รสชาติของจูบกับอัลนั้นมีรสชาที่คุณโนอาสชงให้ชั้น...........รสอัลเทลอยู่
รสหวานจางๆเป็นจูบที่นุ่มละมุนเป็นอย่างยิ่ง
ริมฝีปากที่ประกบกันค่อยๆแยกออกช้าๆ
「อัล ชั้นน่ะทั้งใจอ่อนแถมพึ่งพาไม่ได้..........แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมาชอบชั้น
เพราะงั้นจะพยายามเต็มที่ไม่ให้ผิดหวังแน่นอน」
「.............อืม」
「จะให้ความสำคัญเป็นอย่างดีเลย」
「...........อื้ม!」
พอประกาศอย่างชัดแจ้งอย่างนั้นแล้วชั้นก็กอดอัลเบาๆ
「เท่านี้อัลก็เป็นเหมือนฉันแล้ว!」
ซาเรียเข้ามากอดชั้นกับอัลจากด้านหลัง
จริงๆนะ............สู้ซาเรียไม่ได้เลย
แล้วตรงหน้าโบสถ์ที่ถูกย้อมด้วยอาทิตย์ยามเย็น ระฆังโบสถ์ก็ได้ดังก้องไปทั่วทั้งเมือง
ราวกับกล่าวอวยพรให้กับพวกเราสามคน