ตอนที่ 29 การต่อสู้อันดุเดือดและการเติบโต
「ย้ากกกกกกกกกกกก!」
『โอ้วววววววววววว!』
ชั้นพุ่งเข้าหามังกรตรงหน้าพร้อมฟาดฟัน『เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง(Black) 』กับ
『เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ(White)』เต็มกำลัง
แต่มังกรตรงหน้ากลับใช้กงเล็บของตัวเองปัดเปี่ยงการโจมตีนั้นไปได้ เล็บแข็งชะมัด!
『มนุษย์.............!เจ้าจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่น่ารำคาญไปถึงไหนกัน..........!』
มังกรพูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชังพลางสะบัดหางอันใหญ่โตเพื่อกวาดชั้นให้ร่วง
ว่าแต่เจ้ามังกรนี่..............เก่งสุดๆไปเลยแฮะ?
ถึงพูดไปแล้วอยากร้องไห้แต่นี่ขนาดพลังโจมตีของชั้นมันเกินล้านแล้วนะ?
ยังป้องกันได้สบายๆอีก..............
ถึงจะป่านนี้แล้วแต่ชั้นยังไม่รู้ชื่อกับLvของมังกรตัวนี้เลยนี่นา
เพราะงั้นพอถอยห่างจากหางของมังกรที่ตีกวาดชั้นได้พอประมาณ
ก็เริ่มใช้สกิล『ตรวจสอบขั้นสูง』
『เทพมังกรดำLv:5000』
「Lvสูงชิบ!」
สูงกว่าเซนอสอีก!
ว่าแต่ Lvสูงสุดมันเท่าไรกันแน่ฟะ!มันชักจะเฟ้อขึ้นเรื่อยๆแล้วนะเนี่ย!?
ไม่สิ เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนแต่............เทพ? เอ่อ เป็นเทพเจ้าจริงดิ?
ขณะที่กำลังตกใจกับLvและชื่อของมังกรตรงหน้า-----------เทพมังกรดำ
เทพมังกรดำก็ใช้เล็มอันแหลมคมตะบบใส่ชั้น
『มาให้กินซะ!』
「โว้ว!? เกือบไป!」
『ชิ..........อย่าหลบซิฟะ!』
「ทำไมอ่ะ!?」
『ก็จะได้โจมตีโดนไง!』
「ก็ถึงได้ต้องหลบไงเล่า!?」
ทำไมต้องไปแอ่นอกรับการโจมตีของศัตรูด้วยล่ะฟะ
ชั้นเอาแต่หลบหลีกการโจมตีของเทพมังกรดำไปเรื่อยๆ
จนคลื่นกระแทกที่ถูกส่งออกมาจากการโจมตีของเทพมังกรดำคว้านห้องจนมีหลุมเต็มไปหมด
『หนอย!งั้น..........เจอนี่หน่อย!?』
เทพมังกรดำตะโกนแบบนั้นแล้วก็มีประกายตาอันแหลมคมสีแดงเข้มพุ่งมาที่ชั้น
แม้ชั้นไม่เข้าว่าคิดจะทำอะไรแต่พริบตาต่อมาก็เข้าใจได้ทันที
「อึก!ร ร่างกายมัน............!?」
ชั้นที่ถูกเทพมังกรดำจ้องเกิดความกดดันมหาศาลจนร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหวได้
แม้จะมีพลังทนทานสกัดกั้นอยู่ร่างกายก็ยังเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะอะไรกัน?
ระหว่างที่ขยับตัวไม่ได้ก็พลางคิดหาเหตุผลไปด้วยแต่เทพมังกรไม่ปล่อยช่องว่างนั้นโดยโจมตีเข้ามา
『ฮึ่ม!』
ชั้นที่เห็นหางกำลังแหวกอากาศเข้ามาใกล้ก็เกิดความประมาทไปนิดหน่อย
ก็สเตตัสของชั้นบอกลาความเป็นมนุษย์ไปแล้วรับการโจมตีของเทพมังกรดำไปก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง?
แถมชั้นยังมีสกิล『ดูดซับ』อยู่ด้วย เพราะงั้นความเสียหายที่เกิดจากหางนี่ก็สูบเข้าไปได้ด้วย
แต่ความประมาทนั้นทำให้ชั้นตกอยู่ในภาวะวิกฤต
「อั๊ค!?」
กร็อบกร็อบกร็อบ!
ร่างกายที่ขยับไม่ได้ของชั้นโดนหางชนเข้าไปเต็มๆ
ชั้นที่รับการโจมตีจากด้านข้างนั้นกระเด็นติดผนังไปทั้งอย่างนั้นเลย
「แค่ก!อุ๊บ!」
ปากกระอัดเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก
ม มันเกิดอะไรขึ้น?
แม้จะเหมือนการพูดอวดแต่พลังป้องกันของชั้นมันก็เกินล้านเหมือนพลังโจมตีนะ
ถึงLvจะสูงกว่าเซนอสแบบคนละระดับแต่คิดยังไงพลังโจมตีของเทพมังกรดำก็ไม่น่าจะเกินล้านไปได้
ยิ่งกว่านั้นตอนรับความเสียหายก็ใช้สกิล『ดูดซับ』ไปแล้วด้วย
ทั้งอย่างนั้นชั้นยังได้รับความเสียหายแบบมหาศาลอยู่อีก
แบบนี้สรุปคือดูดซับการโจมตีของเทพมังกรดำไม่ได้สินะ
ถูกซัดจนปลิวนี่ไม่ได้เจอนับจากที่โดนซาเรียซัดปลิวในป่าเลยนะเนี่ย.............
「เซอิจิ!?」
เจ้าตัวซาเรียที่เคยซัดชั้นจนปลิวนั้นมองมาแล้วร้องตะโกน
「แฮ่ก..........แฮ่ก...........」
พอเอามือเช็ดเลือดที่ปากแล้วหยิบยารักษาชั้นเยี่ยมจากไอเท็มบ็อกมาซัดโฮกไปทันที
ทันใดนั้นบาดแผลบนตัวของชั้นก็ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
『เหอะ ทำหน้าอย่างกับคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะถูกซัดปลิวเลยนะ』
「.............」
ทายถูกเผง
เทพมังกรดำที่เห็นสภาพนั้นของชั้นก็พูดต่อ
『แม้จะดูมีพลังที่ทัดเทียมกับข้าแต่สุดท้ายก็เป็นแค่เด็กน้อย...............
ผลลัพธ์จากการเชื่อมั่นในพลังของตัวเองมากเกินไป เมื่อกี้เจ้าคงได้ประจักษ์แล้วสินะ』
「.............」
ถึงเจ็บใจแต่เถียงอะไรกลับไปไม่ได้เลย
สุดท้ายชั้นก็เอาแต่เชื่อมั่นในพลังของตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว
แม้ชั้นจะคร่ำครวญกับการได้สเตตัสบอกลาความเป็นมนุษย์แต่ในขณะเดียวกันก็เกิดความมั่นใจ
อย่างแรกเลยคือไม่มีทางแพ้แน่นอน..........
ก็เพราะเป็นแบบนี้แหละตะกี้ชั้นเลยถูกเทพมังกรดำซัดจนปลิว
ทำไมความเสียหายถึงฝ่าสกิล『ดูดซับ』ไปได้...........
ข้อสงสัยนั้นมีมากมาย
แต่ก็เข้าใจได้อยู่อย่างคือแม้จะมีสเตตัสสัตว์ประหลาดแค่ไหนก็มียังวิธีสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นได้
แม้เรื่องนั้นตอนนี้จะไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุไหนก็ตาม
ถึงจะไม่รู้ก็ตาม.......แต่ก็ได้แค่สู้ต่อไปเท่านั้น เพื่อพาทุกคนกลับ
ไม่มีประมาทอีกแล้ว หากรับความเสียหายตรงๆไม่ได้ แค่ให้หลบเต็มที่ก็พอ
พอเห็นสีหน้าชั้นเปลี่ยนไปเทพมังกรดำก็หรี่ตาลง
『...........จากนี้ไปคงเอาจริงแล้วสินะ』
พอพึมพำออกมาเบาๆแล้วเทพมังกรดำก็อ้าปากกว้างหันมาจากด้านบน
『งั้นก็ดี ด้วยเวทที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าจะเป่าเจ้าให้หายไปซะ.......!』
พูดอย่างนั้นแล้วก็เกิดเปลวเพลิงล้อมรอบตัวเทพมังกรดำจากนั้นเทพมังกรดำก็อ้าปากกว้าง
ปากที่อ้ากว้างนั้นค่อยๆรวมเปลวเพลิงขึ้นมาทีละน้อย
ในขณะที่อยู่ในสภาพนั้นก็หันเฉพาะสายตามาที่ชั้นแล้วพูดโดยเปิดปากค้างไว้
『เวทที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า............【Hell Inferno】!
เวทมนตร์นี้กลืนกินได้แม้กระทั่งเวทมนตร์ต่อต้าน........!
ด้วยอัคคีแห่งนรกจะแผดเผาเจ้าจนสิ้นสูญไป!』
「!」
สรุปก็คือทันทีที่เวทมนตร์เสร็จสมบูรณ์พวกเราก็จะถูกเผาวอด
พอคิดถึงเรื่องเสื้อคลุมที่ติดไฟแต่ใช้สกิล『ดูดซับ』ดับไม่ได้แล้ว
เวทมนตร์นี้ก็น่าจะดูดซับไม่ได้เช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีใช้เวทต่อต้านไม่ได้งั้นก็คงมีคุณสมบัติเวทธาตุมืดแบบ『Magic Hole』ด้วย
แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย................!
ตรงหน้าชั้นที่กำลังลนลานเปลวเพลิงก็ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ
ต่อให้เข้าไปหยุดการโจมตีตรงๆก็โดนเพลิงที่อยู่รอบๆขวางอยู่จนเข้าไปไม่ได้
เวทน้ำเองก็ไม่รู้ว่าจะดับไฟลูกใหญ่ขนาดนั้นได้รึเปล่า
แถมพลังหรือประสิทธิภาพของเวทมนตร์ทั้งหมดชั้นก็ไม่รู้ด้วย
จะลองยิงสกิล『เท้าสังหาร』ไปปลายทางก็โดนกำแพงเพลิงขวางไว้อยู่ดี
เป็นอย่างนี้ต่อไปล่ะก็.............
ต้องเสี่ยงดูล่ะ แต่ทว่าตอนที่คิดจะยิงเวทน้ำที่กินพลังเยอะพอไปนั่นเอง
「เซอิจิ!」
「!」
ที่ด้านหลังมีซาเรียที่ดูแลคุณอัลโทเรียอยู่ตะโกนมาหาชั้น
「ใช้เวทที่ใช้ตอนสู้กับฉันสิ!」
เวทที่ใช้.........ตอนสู้กับซาเรีย?
ทันใดนั้นชั้นนึกถึงเรื่องตอนที่เจอซาเรียเป็นครั้งแรกและได้สู้กันขึ้นมา
...............
「!」
และแล้วชั้นก็นึกถึงเวทเมื่อตอนนั้นออก
ที่จริงก็ไม่ใช่นึกออกหรอกแต่มันจำได้แม่นเลยต่างหาก
เพราะนั่นเป็นการใช้เวทครั้งแรก
ถ้าให้พูดเพิ่มก็ใช้เวทพลาดด้วย
..............ไม่อยากพลาดแบบนั้นอีกแล้ว
แม้จะเป็นความขมขื่นเล็กๆแต่ชั้นก็จะใช้เวทนั่นออกไปอยู่ดี
เพราะว่าใช้เป็นไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
『หือ?』
ปิดตาแล้วค่อยๆยกแขนขวาขึ้นไปบนฟ้า
ด้วยท่าทางนั้นทำให้เทพมังกรดำมีเครื่องหมายคำถามลอยขึ้นมา
「ฟู่-...................」
พ่นลมหายใจยาวๆ
แค่คิดถึงความผิดพลาดของเวทมนตร์ก็เครียดแล้ว
『ถึงขั้นนี้แล้วดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์ ไม่มีทางหยุดเวทของข้าได้อีกแล้ว............!』
เทพมังกรดำพูดแบบนั้นเพราะก้อนเพลิงนั้นใหญ่จนใกล้เคียงกับขนาดตัวของเทพมังกรดำแล้ว
แต่ก็ไม่เกี่ยวกัน ในเมื่อตัดสินใจแล้วก็มีแต่ต้องทำเท่านั้น
และแล้วตาก็เปิดขึ้นพร้อมเปล่งเสียงชื่อเวทนั้นออกมา
「『Fall Disaster』!」
นี่คือเวทที่ใช้เป็นครั้งแรกตอนสู้กับซาเรีย
ซึ่งในเวลาเดียวกันก็เป็นเวทอันขมขื่นเพราะดันใช้ใส่ตัวเอง
แต่ครั้งนี้จะไม่ปล่อยลงมาตรงหัวชั้นอีกแล้ว
สถานที่ๆจะปล่อยก็คือ-----------
『ฟุฟุฟุฟุ................ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!คิดว่าจะทำอะไรซะอีก...........
ไม่เห็นจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยไม่ใช่เหรอ!เสียใจด้วยนะเจ้ามนุษย์!
จงเจ็บใจกับความไร้พลังของตัวเองแล้วมอดไหม้ไป-----------』
...........ครืนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!
เสียงแห่งภัยพิบัติค่อยๆเข้ามาใกล้
『หือ?..........อ้ะ!?ม มันอะไรกัน!? มีอะไรกำลังมา!?..........น้ำ? น้ำกำลังตกลงมา!?』
เทพมังกรดำที่ได้ยินเสียงแห่งภัยพิบัติจากเหนือหัวก็รู้ตัวพลันมองขึ้นไปด้านบนพร้อมเปิดตากว้าง
『เฮ้ย!ตกลงมาตรงนี้เลยเหรอ!?ด โดนแน่!มันมาโดนเวทมนตร์ของข้าแล้ววววววววว!』
เทพมังกรดำร้องเสียงหลงเมื่ออุทกภัยร่วงลงมาเหนือหัวอย่างไร้ปราณี
『อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!เวทมนตร์ของข้า...........เวทมนตร์ของข้าาาาาาาาาาา!
บุ๋มมมมมมมมมม!』
「.................」
ชั้นเอง............ก็โดนไปแบบนั้นเหมือนกันแหละ
ชั้นเมื่อเห็นสภาพนั้นของเทพมังกรก็ได้แต่ทอดสายตาออกไปไกลๆ
บอลเพลิงที่ใหญ่เท่าร่างกายขนาดยักษ์ของเทพมังกรดำโดนแรงดันน้ำมหาศาลจนดับไปอย่างง่ายดาย
คลื่นน้ำอันรุนแรงนั้นกระเด็นมาจนถึงชั้นเลยด้วย
............เอ่อแบบว่าถ้าปล่อยน้ำไปอย่างนี้เรื่อยๆคงไม่ใช่ว่าจะท่วมจนพวกเราจมน้ำไปด้วยหรอกนะ.........
ชั้นรู้สึกไม่ดีเอามากๆเลยใช้『Magic Hole』ที่แถวๆขาของเทพมังกรดำ
เวทมนตร์ที่ชั้นยิงไปเลยถูกดูดไปทั้งหมด เท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำท่วมห้องแล้ว
จะว่าไปความรุนแรงมันเพิ่มขึ้นเยอะกว่าตอนที่สู้กับซาเรียอีก
คงเป็นเพราะLvที่อับกับสเตตัสที่ดูดๆไปเลยทำให้พลังโจมตีเวทมันสูงล่ะมั้ง
『ห หายใจ...........!ไม่ออ........บุ๋มมมมมมมมมม!』
「..........」
ความรู้สึกนั้นเข้าใจดีเลยล่ะ
ก็เลยทอดสายตาเห็นใจให้กับเทพมังกรดำ
ยิ่งกว่านั้นปริมาณน้ำที่เทพมังกรดำโดนไปมันคนละเรื่องกับตอนที่ชั้นโดนด้วย
『ห หยุดที!หยุดน้ำนี่ทีเถอะะะะะะะะะะะะ!บุ๋มมมมมมมมมมมมมมม!』
「............」
เทพมังกรดำกลืนน้ำลงไปเรื่อยๆ
แต่เทพมังกรดำดูจะเข้าใจผิดไปหน่อยเลยขอพูดซักประโยคแล้วกัน
-----------ชั้นเองก็ไม่รู้วิธีหยุดเวทนี้หรอกเฟ้ย
ตอบไปอย่างนั้นในใจแล้วชั้นก็ยิ้มอย่างสดชื่นหันไปทางเทพมังกรดำ
『เฮ้ย ยิ้มอะไรฟะ!? ขอร้องล่ะ!ขอร้องล่ะช่วยหยุดทีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!』
เทพมังกรดำที่ร้องเสียงหลงอย่างนั้นกว่าจะถูกปล่อยจากสายน้ำอันบ้าคลั่งที่ชั้นยิงไปก็ผ่านไป5นาทีได้
◆◇◆
『แฮ่ก............แฮ่ก..........』
「...........」
พอเทพมังกรดำหลุดออกมาจากน้ำได้ก็ถึงกับหอบหายใจ
แถมนรกน้ำนั่นยังนานกว่าตอนชั้นโดนอีก..........
เป็นอีกครั้งเลยที่ทำให้คิดว่าน้ำนั้นน่ากลัว แต่ยังไงก็ช่างเถอะ
『แกนะแก.........เจ้ามนุษย์..........!ต่อให้อ้อนวอนยังไงก็ไม่ยกโทษให้อีกแล้ว!』
โหโกรธกันแบบสุดๆเลยแฮะ ..............ถึงเหตุผลจะเห็นๆกันอยู่ก็เถอะ
『แยกเป็นแปดเสี่ยงซะเถอะ!』
เทพมังกรดำพูดพลันจู่โจมออกมาอย่างดุดัน
『【เล็บราชันย์】』
มีคลื่นพลังจากกรงเล็บฟันออกมาเป็นสามเส้นใหญ่พุ่งมาทางชั้น
..........ดูคล้ายกับสกิล『เล็บแกร่ง』ของชั้นเลยแฮะ
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่ก็ใช้พลังของสกิล『ตาใจ』จ้องมองเป็นอย่างดีเพื่อรับมือ
ทว่าพลังที่เทพมังกระดำฟาดฟันออกมานั้นไล่ตามชั้นแม้ว่าจะหลบแล้วก็ตาม
『สกิล【เล็บราชันย์】ของข้าจะไล่ตามไปจนกว่าจะแยกร่างเจ้าได้ยังไงล่ะ!』
「ชิ!」
เจ๋งกว่า『เล็บแกร่ง』อีก............แถมยังแรงกว่าด้วย
แม้จะพยายามสลัดพลังที่ฟาดฟันนั้นให้หลุดแต่ก็รู้สึกได้ว่าพลังยังคงอยู่เหมือนเดิมแทนที่จะตกลง
ถ้าเกิดมีประสิทธิภาพตามที่รู้สึกล่ะก็ต้องเป็นสกิลที่ยุ่งยากไม่ผิดแน่
ช่วยไม่ได้ชั้นเลยหยุดการเอาแต่หลบแล้วเข้าปะทะพลังโจมตีนั้น
ในจังหวะนั้นชั้นก็ใช้เทคนิคของ『วิชาดาบพิทักษ์สำนักเซโฟส』ที่ได้จากเซนอสไปด้วย
「【Skill Break】!」
ก็ตามชื่อเลยคือเป็นเทคนิคที่ใช้ทำลายสกิลแต่ว่าสกิลนี้ไม่แสดงผลกับอะไรเลยนอกจากสกิล
ต่อให้ปล่อยใส่คนก็ไม่สร้างความเสียหายใดๆทั้งสิ้น
หลักการก็ประมาณนี้แหละ
แม้จะมีข้อสงสัยอยู่ก็ตามแต่ชั้นก็ยังใช้black กับwhiteฟันหั่นพลังฟาดฟันที่เข้ามาใกล้
จากนั้นก็ใช้สกิล『ก้าวพริบตา』เคลื่อนตัวเข้าไปประชิดรวดเดียว
แต่เพราะยังควมคุมพลังได้ไม่ดีนักเลยใส่พลังไปกับ『ก้าวพริบตา』เพียงนิดเดียว
ถึงแม้กระนั้นสปีดก็ยังเหนือการรับรู้ของเป้าหมาย
ทำให้เทพมังกรดำพอเห็นชั้นอยู่ดีๆมาโผล่ตรงหน้าก็เปิดตากว้างด้วยความตกใจ
『หา!?』
「【Strom Slash】!」
ขณะที่เทพมังกรดำกำลังมองตามการเคลื่อนไหวนั้น
ชั้นก็แทงBlackกับWhiteพร้อมบิดร่างกายตัวเองเพื่อเพิ่มพลังสังหารไปด้วย
『ข้า...........ข้าสาบานแล้วว่าจะไม่แพ้มนุษย์อีก...........!จะไม่แพ้อีกเด็ดขาด!』
แต่ถึงแม้จะเห็นการโจมตีของชั้นเทพมังกรดำก็ยังตั้งรับไว้โดยไม่หวาดหวั่น
ส่วนคำพูดของเทพมังกรดำนั้นชั้นรู้สึกได้ถึงอาการผูกใจเจ็บอะไรสักอย่าง
หลังจากนั้นเทพมังกรดำก็ทั้งปล่อยเปลวเพลิงที่ดูดซับไม่ได้
ทั้งโจมตีด้วยหางกับกรงเล็บอันน่าสะพรึงกลัวมาอย่างต่อเนื่อง
ชั้นเองก็หลบการโจมตีนั้นไปเรื่อยๆและสวนกลับไปได้อยู่หลายครั้ง
จนร่างกายของเทพมังกรดำเต็มไปด้วยเลือด
『แฮ่ก............แฮ่ก............』
「............」
แม้เทพมังกรจะเต็มไปด้วยบาดแผลจนเหมือนจะล้มซะให้ได้แต่ตายังไม่ตาย
เปลวเพลิงที่ปล่อยออกมาพร้อมลมหายใจหอบนั้นได้เปลี่ยนเป็นแค่ควันดำเมื่อไรก็ไม่รู้
เทพมังกรดำส่งสายตาอันแหลมคมพร้อมพลังอันรุนแรงกระจายไปทั่ว
ด้วยสภาพเช่นนั้นทำให้รู้สึกได้เลยว่านี่แหละคือมังกรในจินตนาการของชั้น
『ข้า..........ข้าต้องไม่แพ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!』
เทพมังกรดำเดือดดาลพร้อมปล่อยลูกไฟขนาดมหึมาออกมาจากปาก
สปีดนั้นเร็วคนละเรื่องกับการโจมตีที่ผ่านมา
แม้สกิลตาใจจะทำงานอยู่แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของสปีดนั้น
พอหลบลูกไฟที่เข้ามาด้วยสกิล『ก้าวพริบตา』แล้วก็ใช้ความพลังที่เหลืออยู่
เพื่อใช้ศาสตร์ลับ『ลดกรด』ที่เป็นท่าแทงปลิดชีพเซอนส
BlackกับWhiteของชั้นพุ่งเข้าหาเทพมังกรดำด้วยความเร็วเหนือระดับ
『ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!』
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงคำรามขึ้นโดยชั้นที่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วเหนือการรับรู้
พลันถูกเทพมังกรดำจ้องด้วยสายตาแหลมคม
หลังจากนั้นก็โดนการโจมตีของเทพมังกรดำไปเต็มๆเป็นครั้งแรก
โดยที่ศาสตร์ลับ『ลดกรด』ถูกยกเลิกเพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
「อุ๊ค!ยัง..........!」
『อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!』
เทพมังกรดำส่งเสียงคำรามจนเกิดรอยร้าวที่กำแพงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงไปทั่วห้อง
พลันใช้กรงเล็บพุ่งตรงมาฉีกร่างชั้น
หากโดนการโจมตีนั้นล่ะก็ชั้นที่อยู่ในสภาวะไม่รู้ว่าทำไมพลังป้องการไม่ทำงาน
ได้ตายเอาง่ายๆแน่
แบบนั้นไม่เอาด้วยเด็ดขาด
「------------------โอ้ววววววววววววววววววววว!」
เพื่อฝืนร่างกายที่ขยับไม่ได้ให้เคลื่อนไหวชั้นจึงเร่งพลังเต็มพิกัด
เพราะหากขยับจากตรงนี้ไม่ได้ชั้นตายแน่
และการคาดเดานั้นก็จบง่ายอย่างเหลือเชื่อ
สัญชาตญานการเอาชีวิตรอดของชั้นตื่นขึ้นมารวดเดียวจนร่างกายเริ่มขยับได้
ความหวาดกลัวต่อความตายที่เข้ามาทำให้ร่างกายของชั้นวิวัฒนาการขึ้นอีกครั้ง
ไม่สิ ไม่ใช่แค่ร่างกายเท่านั้น ด้านจิตใจเองก็ได้โอกาสเติบโตขึ้นจากการต่อสู้กับเทพมังกรดำ
หากมีสิ่งจำเป็นพอชั้นก็ยังเติบโตได้อีก
หากเงื่อนไขครบล่ะก็ชั้นจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดเมื่อไรก็ได้
พลังที่มากจนเกินไปนี้ซักวันก็อยากจะควบคุมมันอย่างเชื่ยวชาญให้ได้
ทันทีที่ความคิดอันรุนแรงในใจชั้นระเบิดออกมาร่างกายของชั้นก็ถูกปลดปล่อยจากการรัดตรึงปริศนา
และพร้อมกันนั้นก็มีเสียงเรียบๆดังขึ้นในหัวของชั้น
≪ได้เรียนรู้ต่อต้านข่มขู่แล้ว≫
ชั้นจดจ่อกับการเคลื่อนไหวทำให้ไม่มีเวลาพอจะตีความคำพูดนั้น
『ห้ะ!? อึก..............!』
แม้จะเห็นชั้นหลุดมาได้เทพมังกรดำก็ยังไม่หยุดการโจมตี
ชั้นจึงเตรียมตั้งรับไว้
『โอ้วววววววววววววววว!【เล็บเทพมังกร】!』
กรงเล็บขนาดใหญ่ส่องแสงตรงเข้ามาหาชั้น
แบบนี้ต่อให้เป็นเทคนิค【Skill Break】ของสำนักเซนอสก็ทำลายไม่ได้แน่
ที่คิดแบบนั้นเพราะพลังสังหารที่เข้ามายิ่งใหญ่ซะจน............งดงามเหลือจะกล่าว
แต่ในทางกลับกันชั้นก็ยังฟันดาบออกไปอย่างไม่กริ่งเกรง
เพื่อฟาดฟันพลังสังหารที่เข้ามา
ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้น
ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น
ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
จดจ่อกับการฟันดาบออกไปอย่างเดียว
แม้จะเป็นศาสตร์ลับหรือสกิลที่เรียนจากสำนักที่ได้มาจากเซนอสก็ไม่ได้คิดจะใช้ออกไป
ทันใดนั้นเสียงอันคุ้นเคยก็ดันขึ้นในหัวของชั้น
『ได้เรียนรู้ศาสตร์ลับ≪ดาบบุปฝาบานสะพรั่ง≫แล้ว
ได้เรียนรู้ศาสตร์ลับ≪กายดาบหนึ่งเดียว≫แล้ว』
พร้อมกับที่ได้ยินเสียงนั้นการฟาดฟันของชั้นก็เข้าปะทะกับพลังสังหารของเทพมังกรดำ-----
「---------------!」
-------------ชั้นผ่าพลังสังหารนั้นในชั่วพริบตาพร้อมทั้งตามเข้าไปประชิดเทพมังกรดำ
『อึก...................』
ชั้นก็ใช้BlackกับWhiteฟันอย่างต่อเนื่องโดยไม่ปล่อยช่องว่างให้เทพมังกรดำสวนกลับ
『ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!』
ร่างกายเทพมังกรดำเกิดปฏิกิริยาเหมือนตอนที่จัดการมอนเตอร์ได้พลางล้มลงไปกับพื้น
『ข้า..........แพ้อีกแล้วงั้นเหรอ...........!
ข้าปกป้องท่านผู้นั้นจากมนุษย์ไม่ได้อีกแล้วงั้นเหรอ..........!』
ตาของเทพมังกรที่ล้มลงไปนั้นมีน้ำตาไหลออกมา
『ทั้งที่ข้าแค่อยากหัวเราะไปกับท่านผู้นั้นเพียงแค่นี้เอง-----------』
เทพมังกรดำน้ำตาไหลพลางแสดงความเศร้าเสียใจออกมา
『โอ้วววววววววววววววววววววววววววววว!』
สุดท้ายพอคำรามอย่างโหยหวนออกมาเทพมังกรดำก็สลายหายไป
ที่เหลืออยู่มีเพียงแค่ดรอปไอเท็มเท่านั้น
นอกนั้นมีเพียงคำพูดอันหนักหน่วงของเทพมังกรที่เหลือค้างไว้ในใจของชั้น
「...........สรุปแล้วทำไมเทพมังกรถึงได้เกลียดชังมนุษย์ถึงขนาดนั้นนะ.............」
บรรยากาศพลันเงียบสงบลงอย่างน่าประหลาด
≪Lvได้อัพแล้ว Lvได้อัพแล้ว Lvได้อัพแล้ว Lvได้อัพแล้ว≫
เสียงรายงานLvอัพดังอยู่หลายครั้ง ทั้งที่ตลอดมาอัพทีละLvแท้ๆจู่ๆก็เพิ่มขึ้นมารวดเดียวเลย
ตกลงเทพมังกรดำนี่เก่งถึงขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่คราวนี้ไม่ได้รู้สึกสับสนอะไรมากนัก
แล้วซาเรียก็วิ่งเข้ามาหาชั้นที่อยู่ในสภาพนั้น
「เซอิจิ!เป็นอะไรมั้ย?」
「เอ๋? อ อืม ไม่บาดเจ็บอะไรหรอก」
แม้ชั้นตอบไปอย่างนั้นแต่ซาเรียก็ยังสีหน้ากังวลไม่เปลี่ยน
「แต่ว่า.............เซอิจิดูเศร้าๆยังไงไม่รู้นี่นา?」
「เอ๋?」
ชั้นแสดงสีหน้าขมขื่นถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?
ก็ไม่ค่อยรู้หรอกนะแต่เพื่อปรับความรู้สึกใหม่อีกครั้งเลยสะบัดหัว
จากนั้นก็เข้าไปหาคุณอัลโทเรียที่นอนอยู่
「............ยังสลบอยู่เลยนะ」
「อื้ม บางทีคิดว่าอีกไม่นานคงตื่นแล้วล่ะ」
พอได้ฟังคำพูดของซาเรียชั้นก็โล่งใจ
ยังไงก็ตามแต่พวกเราก็ได้กลับอย่างปลอดภัยซะทีนะ
ใช่ กลับไปยังกิลด์ที่เต็มไปด้วยพวกโรคจิต.........
....................
.............เอ๊ะ?
ถึงกิลด์ที่เป็นรังของพวกโรคจิตจะเป็นปัญหาใหญ่
แต่ด้วยบรรยากาศทำให้รู้สึกมองข้ามมันไปได้อย่างเหลือเชื่อเลยแฮะ..............
.....................
พอคิดถึงตรงนั้นชั้นก็รู้สึกตัว
ที่พึ่งคิดออกนั้นเพราะพยายามหนีความจริงเต็มที่อยู่นั่นเอง
「---------แล้วจะกลับยังไงล่ะ?」
「............เอ๋?」
คำพูดสั้นๆของชั้นทำให้ซาเรียแสดงสีหน้างุนงงออกมา
หลังจากที่มองหน้ากันเองก็-----------
「「อ๋าาาาาาาาาาาาาาาาา!?」」
ไม่รู้วิธีกลับเฟ้ยยยยยยยยยยยย!เดิมทีที่นี่มันที่ไหนฟะ!? ถึงจะป่านนี้แล้วก็เถอะ!
「เวรล่ะ!ไม่รู้วิธีกลับซะด้วยสิ!ก็แหงล่ะอยู่ๆโดนส่งมาจะให้รู้วิธีกลับอะไรนั่นได้ไงเล่า!?」
「ท ทำไงดีล่ะ เซอิจิ!」
「อย่าใจร้อน!ในสถานการณ์แบบนี้ก็ต้อง..............สถานการณ์แบบนี้!?」
จะไปมีสถานการณ์ที่อยู่ๆก็ถูกส่งมาแล้วกลับไม่ได้อยู่ได้ไงล่ะฟะ!
ชั้นกับซาเรียตื่นตระหนกกับสถานการณ์กัน จนบรรยากาศซีเรียสที่ชั้นปั้นมาเสียหมด!
คุณอัลโทเรียก็ยังหมดสติอยู่ด้วยเลยปรึกษาว่าจะทำยังไงดีไม่ได้
ชั้นพอรู้สึกตัวว่าตื่นตระหนกไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยถอนหายใจยาวๆไปรอบแล้วตั้งสติอีกครั้ง
「ฟู่...........ใจเย็นไว้ ก่อนอื่นก็มาดูสิ่งที่มีที่ทำให้ออกจากดันเจี้ยนนี้ได้กันเถอะ」
「ค่า!ฉันไม่มีอะไรเลยสักอย่างค่า!」
「ก็จริงแหละเนอะ!ถ้างั้นก็ช่วยไปดูแลคุณอัลโทเรียต่อทีนะ!」
「รับทราบ!」
เพราะซาเรียยังไม่มีแม้แต่ไอเท็มบ็อกเลยช่วยไม่ได้ที่จะไม่พกอะไรมา
เลยให้ซาเรียกลับไปหาคุณอัลโทเรียทั้งอย่างนั้น
แล้วก็แม้ชั้นจะมองผ่านๆไปในไอเท็มบ็อกก็ไม่มีเครื่องมืออะไรที่จะทำให้ออกไปจากดันเจี้ยนนี้ได้เลย
「จริงสิ!ในบรรดาดรอบไอเท็มจากเทพมังกรอาจจะมีอะไรอยู่ก็ได้」
ในกรณีเลวร้ายที่สุดชั้นคิดว่าจะพังดันเจี้ยนนี้ซะเลย
แต่เพราะเป็นพื้นที่ปิดขืนรอบๆเกิดพังขึ้นมาพวกเราได้โดนไปด้วยแน่
..............ส่วนที่พังกำแพงจนมาถึงคุณอัลโทเรียนี่แค่บังเอิญมันฉุกเฉินเท่านั้นแหละ!
............เอ่อโกหกครับ ตอนนั้นมันกะทันหันเลยไม่ทันคิด
ชั้นที่กล่าวแก้ตัวในใจไปพลางๆก็เข้าไปหาดรอบไอเท็มของเทพมังกรดำ
ก่อนอื่นก็เก็บพวกรวบรวมพวกเกล็ดหรือเขี้ยวที่ตกอยู่ซะก่อน
『เกล็ดเทพมังกรดำ』.......เกล็ดอันแข็งแกร่งที่ห่อหุ้มร่างใหญ่โตของเทพมังกรดำ
อาวุธทั่วไปไม่สามารถทำอะไรได้ ทนทานความร้อนเป็นเลิศการแปรรูปจึงต้องใช้ไฟแรงมาก
อ่อนแอกับพวกความเย็น
『เกล็ดชั้นในของเทพมังกรดำ』.......แม้จะเป็นหนึ่งในเกล็ดจำนวนนับไม่ถ้วนของเทพมังกรดำ
แต่ก็เป็นชิ้นส่วนที่หายาก เป็นเกล็ดที่มีทั้งความแข็งและความยืดหยุ่น
ทั้งยังต่อต้านเวทมนตร์และลดทอนอานุภาพของเวทที่โดนด้วย
ประสิทธิภาพนอกจากนั้นเหมือนเกล็ดอื่นๆ
『เล็บเทพมังกรดำ』.......เล็บอันแข็งแกร่งของเทพมังกรดำ
แหลมคมอย่างยิ่งสามารถฉีกกระชากเหล็กแผ่นหนาได้สบายๆ
แข็งสุดยอด หากแปรรูปสามารถเทียบเท่ากับแร่ชนิดพิเศษอย่างโอริฮารูก้อนได้
『เขี้ยวเทพมังกรดำ』.......เป็นเขี้ยวที่แสดงถึงความดุร้ายของเทพมังกรดำ
หากถูกมันเจาะเข้าสักครั้งจะไม่สามารถหลุดออกมาได้
『กระดูกเทพมังกรดำ』.......เป็นกระดูกใหญ่ที่แข็งสุดยอด
หากแปรรูปความแข็งเทียบได้กับโอริฮารูก้อน
และสามารถแสดงประสิทธิภาพได้เหนือกว่าอาวุธระดับตำนาน
『มณีเทพมังกรดำ』.......เป็นมณีที่อยู่ในร่างกายของเทพมังกรดำ มีพลังเวทเก็บไว้มหาศาล
หากนำไปใส่กับอาวุธจะสามารถจัดการมอนเตอร์ที่เป็นร่างจิตได้สบายๆด้วยการโจมตีธรรมดา
อีกทั้งหากกินเข้าไปพลังเวทจะเข้าไปวิ่งในร่างกายทำให้ความสามารถทางกายเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นยังทำให้พลังเวททั้งหมดสูงขึ้นด้วย
「เทพสมชื่อ!」
ประสิทธิภาพก็ไม่ใช่เล่นๆด้วยนะ!ขนาดเป็นแค่วัตถุดิบยังไม่ใช่อาวุธก็ยังสุดยอด!
ว่าแต่ มณีเทพมังกรดำนี่!กินได้ด้วยเหรอ!? มณีเนี่ยนะ!?
พอชั้นเก็บเกล็ดกับเขี้ยวที่หล่นเกลื่อนกลาดเข้าไอเท็มบ็อก
ก็มาเก็บมณีเทพมังกรดำซึ่งเป็นมณีที่มีสีดำสวยขึ้นมา
「เจ้านี่...........กินได้? จริงดิ?」
เอ............ถึงทั่วไปควรเอาไปแปลงเป็นอาวุธกันแต่แบบนี้ก็น่าสนใจไม่เลวแฮะ............
................
「ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องลองดูก่อนล่ะน่า」
สรุปแล้วชั้นก็แพ้ให้กับความอยากรู้อยากเห็นเลยโยนมณีเข้าปาก
พออมไว้อยู่ในปาก............ก็อดตกใจไม่ได้ มีรสโคล่าซะด้วย
..................
ไร้สาระเป็นบ้า!
ขณะที่คิดอย่างนั้นอยู่เพียงชั่วครู่มณีก็ละลายหายไปในปากแล้ว
「แหม แต่ก็อร่อยไม่เลวนะ..........」
แต่ว่าถึงจะบอกว่าทำให้ความสามารถทางกายเพิ่มขึ้นความรู้สึกยังเหมือนขาดๆอะไรไปสักอย่าง
เอาเถอะ อีกไม่นานก็รู้เองแหละ
พอโยนความคิดนั้นไปด้วยการมองโลกในแง่ดีก็ไปที่ไอเท็มถัดไป
「อันต่อไปก็.............ลูกแก้วสเตตัสล่ะนะ」
สร้างความเสียหายให้ชั้นได้แรงซะด้วย คงมีสเตตัสที่โหดได้ใจแหง
คาดการณ์เอาเองไปพลางยืนยันทั้งหมด
『พลังเวท:100000』
『พลังโจมตี:200000』
『พลังป้องกัน:200000』
『ว่องไว:10000』
『โจมตีเวท:200000』
『ป้องกันเวท:200000』
『โชค:3』
『เสน่ห์:100000』
「อีกแล้วเรอะ!」
เสน่ห์แพ้อีกแล้วเฟ้ย!
ช ช่างเถอะ? อีกฝ่ายเป็นถึงมังกรมันก็ต้องเท่ห์กว่าอยู่แล้ว..........!
ยิ่งกว่านั้นโชคนี่ก็ต่ำด้วยอีก!เป็นเซนอสหรือไง!? ทั้งที่สเตตัสอื่นเกินแสนแท้ๆ!
พอตบมุขไปซะขนาดนั้นก็พลันรู้สึกตัว
「............แต่ว่านะ พลังโจมตี2แสนทำไมสร้างความเสียหายเกินพลังป้องกันชั้นได้หว่า?」
คิดดูแล้วมันเป็นไปไม่ได้เลย
แบบนี้ล่ะก็ที่สร้างความเสียหายให้ชั้นคงไม่ใช่สเตตัสแต่เป็นสกิล
พอสูบลูกแก้วสเตตัสเข้าไปในร่างกายแล้วก็ไปยืนยันสกิลต่อทั้งอย่างนั้น
『สกิลการ์ด≪ทะลวง≫』.......สามารถเรียนรู้สกิล≪ทะลวง≫ได้
『สกิลการ์ด≪ข่มขู่≫』.......สามารถเรียนรู้สกิล≪ข่มขู่≫ได้
『สกิลการ์ด≪เล็บราชันย์≫』.......สามารถเรียนรู้สกิล≪เล็บราชันย์≫ได้
『สกิลการ์ด≪เล็บเทพมังกร≫』.......สามารถเรียนรู้สกิล≪เล็บเทพมังกร≫ได้
『เมจิคการ์ด:เวทไฟขั้นสูงสุด』.......สามารถใช้เวทธาตุไฟได้
『เมจิคการ์ด:ธาตุเฉพาะตัว≪ชำระล้าง≫』
.......สามารถใช้เวทธาตุเฉพาะตัว≪ชำระล้าง≫ได้
「เฮ้ยเดี๋ยวนะ!แบบว่ารู้สึกหลายๆมันโคตรอันตรายเลยฟ่ะ!?」
อันไหนก็ให้ความรู้สึกเจ๋งๆทั้งนั้นจนชั้นตัวสั่นเลย
ว่าแล้วก็เอาพวกบรรดาสกิลการ์ดทั้งหมดสูบเข้าไปในร่างกาย
พอเรียนรู้สกิลทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก็มายืนยันสเตตัสของที่สูบๆเข้าไปจนถึงตอนนี้สักรอบ
≪ฮิรากิ เซอิจิ≫
เผ่าพันธุ์:มนุษย์ (มนุษย์)
เพศ:ชาย (ชาย)
อาชีพ:ปริศนา (นักดาบเวท)
อายุ:17 (17)
เลเวล:15 (15)
พลังเวท:1698300 (100【คงค่า】)
พลังโจมตี:1644000 (100【คงค่า】)
พลังป้องกัน:1667000 (100【คงค่า】)
ว่องไว:1690000 (100【คงค่า】)
โจมตีเวท:1674000 (100【คงค่า】)
ป้องกันเวท:1632000 (100【คงค่า】)
โชค:1610000 (100【คงค่า】)
เสน่ห์:แสดงให้ดูได้ก็บ้าแล้ว (100【คงค่า】)
≪อุปกรณ์สวมใส่≫
เสื้อเชิ้ตคุณภาพดี กางเกงคุณภาพดี เสื้อในคุณภาพดี กางเกงในคุณภาพดี โซ่ลิงเจ้าปัญญา
ดาบสั้นมณีภูติน้ำ กำไลค่ำคืน โชกเกอร์หินราชาดำ สร้อยคอแห่งรักไร้สิ้นสุด
เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ
≪สกิลเฉพาะตัว≫
จดจำทันที จดจำสมบูรณ์แบบ เรียนรู้ทันที ฟื้นตัวทันที แยกส่วนสมบูรณ์แบบ
ตาใจ วิวัฒนาการ ขโมยวิชา จัดระเบียบ
≪สกิล≫
【โจมตี】เท้าสังหาร เขี้ยวคู่ เล็บแกร่ง เล็บราชันย์ เล็บเทพมังกร
【ทนทาน】ทนทานเหน็บชา ทนทานนอนหลับ ทนทานสับสน ทนทานหลงไหล
ทนทานกลายเป็นหิน ทนทานสกัดกั้น ทนทานพิษ ทนทานอ่อนเพลีย ทนทานข่มขู่
【เคลื่อนไหว】ก้าวพริบตา
【พิเศษ】ตรวจสอบขั้นสูง ปรุงยาชั้นเยี่ยม สร้างเครื่องมือ:ชั้นหนึ่ง ค้นหาศัตรู
พรางตา แทรกซึม ตาทิพย์ ดูดซับ บีบอัด เข้าใจทุกภาษา ทะลวง ข่มขู่
≪เวทมนตร์≫
เวทในชีวิตประจำวัน เวทธาตุน้ำขั้นสูงสุด เวทธาตุมืดขั้นสูงสุด เวทธาตุดินขั้นสูงสุด
เวทมิติขั้นสูงสุด เวทธาตุไฟขั้นสูงสุด เวทเฉพาะตัวชำระล้าง
≪ศาสตร์ลับ≫
ลมกรด ประกายแสง เมฆหมอก ดาบบุปผาบานสะพรั่ง กายดาบหนึ่งเดียว
≪วิชายุทธ≫
วิชาดาบพิทักษ์สำนักเซโฟสขั้นเจ้าสำนัก
≪ฉายา≫
ผู้ใช้กลิ่น ชายผู้มีภรรยาเป็นกอลิล่า จุดสูงสุดแห่งสรรพสิ่ง ไม่รู้จักยับยั้งตนเอง ราชาแห่งตัวผู้
นักรบพิฆาตมังกร สังหารเทพ
≪เงินที่มี≫
2,500,304,060G
「รับไม่ไหวแล้ว!」
สเตตัสเปลี่ยนแบบคนละเรื่องเลย!จะสะพรึงเกินไปแล้ว!
อาชีพก็เปลี่ยนจากสัตว์ประหลาดเป็นปริศนาด้วย!
ว่าแต่ปริศนานี่มันอะไรกัน!? ตรงไหนของชั้นมันปริศนาฟะ!?
หนำซ้ำเสน่ห์นี่โหดร้ายชะมัด!? เทียบกับอันอื่นมันจะหยาบไปมั้ย!
ทำอะไรกับมันสักหน่อยไม่ได้เลยเหรอไง!?
ยิ่งกว่านั้นตรงช่องสกิลเฉพาะตัวมีสกิลอะไรไม่รู้เพิ่มขึ้นมาด้วย
ช่วยไม่ได้ คงต้องตรวจสอบสกิลเฉพาะตัวดูหน่อยล่ะ
『วิวัฒนาการ』.......เมื่อLvของเผ่าพันธุ์≪มนุษย์≫ไปถึงจุดที่กำหนด สกิลจะถูกปลดปล่อยออกมา
ทุกครั้งที่ทำการต่อสู้ร่างกายจะปรับสภาพให้เหมาะกับการต่อสู้ ทำงานอัตโนมัติ
『ขโมยวิชา』.......เมื่อLvของเผ่าพันธุ์≪มนุษย์≫ไปถึงจุดที่กำหนด สกิลจะถูกปลดปล่อยออกมา
สามารถเรียนรู้สกิลที่อีกฝ่ายใช้มาเป็นของตัวเองได้ ทว่าในกรณีที่อีกฝ่ายเป็นมอนเตอร์
สกิลที่เรียนรู้ได้จะจำกัดแค่ที่มนุษย์สามารถใช้ได้เท่านั้น ทำงานอัตโนมัติ
『จัดระเบียบ』.......เมื่อLvของเผ่าพันธุ์≪มนุษย์≫ไปถึงจุดที่กำหนด สกิลจะถูกปลดปล่อยออกมา
สกิลที่เรียนจากการขโมยวิชาจะถูกปรับให้เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ทำงานอัตโนมัติ
「มนุษย์เจ๋งโคตร!」
สกิลเฉพาะตัวโกงกันชัดๆ!
ว่าแต่ วิวัฒนาการ!? ถึงกินผลวิวัฒนาการไม่ได้แล้วชั้นก็วิวัฒนาการได้อยู่ดีเรอะ!?
จะว่าไปสกิลก็มีเงื่อนไขในการปลดปล่อยด้วยแฮะ
ถ้างั้นต่อไปก็เป็นไปได้ที่จะมีสกิลที่ถูกปล่อยมาอีกอย่างนั้นสินะ?
............ตกลงมนุษนี่มันตัวอะไรกันแน่? ถึงได้มีตัวตนที่โกงแบบนี้?
แม้ชั้นจะเกิดสงสัยเรื่องเผ่าพันธุ์ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ยังไปยืนยันสกิลทั่วไปต่อ
『เข้าใจทุกภาษา』.......เป็นสกิลที่ทำให้เข้าใจภาษาทั้งมวลที่มนุษย์ใช้
แม้จะสามารถเข้าใจภาษามอนเตอร์ได้ด้วยแต่ก็ไม่ชัดเจนนัก ทำงานอัตโนมัติ
『ทะลวง』.......เป็นสกิลที่สามารถโจมตีอีกฝ่ายได้โดยตรงโดยไม่สนใจพลังป้องกัน
เพราะสกิลเป็นเช่นนี้จึงไม่มีทางป้องกันสกิลนี้ได้ ทว่าไม่มีผลกับร่างวิญญาณ
『ข่มขู่』.......เป็นสกิลที่เมื่อใช้กับสิ่งที่Lvต่ำกว่าตนเองจะสามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้ชั่วคราว
เพราะเป็นการหยุดด้วยการกดดันทางจิตใจกับอีกฝ่าย ทนทานสกัดกั้นจึงไม่มีผล
ทว่าหากอีกฝ่ายมีLvสูงกว่าตนเองจะไม่แสดงผลออกมา
『ทนทานข่มขู่』.......การข่มขู่จะไม่เป็นผล
『เล็บราชันย์』.......เป็นสกิลที่ปล่อยพลังโจมตีออกมาเป็น3สาย สามารถปล่อยจากอาวุธได้
และจะไล่ตามไปเรื่อยจนกว่าจะโดนอีกฝ่าย ยิ่งอีกฝ่ายหลบ พลังก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
『เล็บเทพมังกร』.......เป็นสกิลที่ปล่อยพลังโจมตีอันรุนแรงออกมา
มีธาตุแสงปนอยู่ด้วยทำให้ได้ผลเป็นอย่างดีกับมอนเตอร์สายอันเดด ทว่าพุ่งเป็นเส้นตรงได้อย่างเดียว
「อ็อก!?」
ตกใจจนชั้นกระอักเลือด
ส สกิลทั้งหลายแหล่โกงแบบบอกไม่ถูกเลย............!ที่ว่าเป็นเทพนี่ไม่ผิดชัวร์!
ไม่สิ มีสกิล『เข้าใจทุกภาษา』ของกล่องสมบัติปนอยู่ ถึงสกิลจะประยุกต์ใช้ได้หลากหลายดี
แต่พอเอามาเรียงกับสกิลหลุดโลกแบบนี้ทำเอาจืดจางไปเลย
ก็นะ ในบรรดาสกิลพวกนี้นี้ อันแรกนี่คงได้ใช้เยอะสุดแหละ
ว่าแต่ที่สร้างความเสียหายให้ชั้นได้เป็นเพราะสกิล『ทะลวง』นี่เอง...............
แล้วที่ขยับร่างกายไม่ได้ทั้งที่มีทนทานสกัดกั้นนี่ก็เป็นเพราะข่มขู่
ถึงจะได้มาแต่Lvต่ำอย่างชั้นคงไม่ค่อยได้ใช้แหง ถึงทนทานข่มขู่จะได้ใช้แน่ก็เถอะ
จะอันไหนก็เจ๋งเว่อร์ทั้งนั้นจนถึงขั้นที่เอามาใช้ยากแต่ก็ต้องพยายามใช้ดูหน่อยล่ะ
「ต่อไปก็เวทมนตร์สินะ」
ว่าแล้วก็ตรวจสอบช่องเวทมนตร์
『เวทธาตุดิน:สูงสุด』.......เชี่ยวชาญถี่ถ้วนในเวทธาตุดิน สามารถใช้เวทธาตุน้ำได้ทั้งหมด
『เวทมิติ:สูงสุด』.......เชี่ยวชาญถี่ถ้วนในเวทมิติ สามารถใช้เวทธาตุน้ำได้ทั้งหมด
『เวทธาตุไฟ:สูงสุด』.......เชี่ยวชาญถี่ถ้วนในเวทธาตุน้ำ สามารถใช้เวทธาตุน้ำได้ทั้งหมด
『เวทเฉพาะตัว:ชำระล้าง』.......เป็นเวทที่บังคับใช้กับเวทธาตุไฟ
ในกรณีที่ปะทะกับเวทธาตุไฟเหมือนกันหากเวทไฟของผู้ใช้มีคุณสมบัติชำระล้างผสมอยู่
จะกลืนกินเวทธาตุไฟของอีกฝ่าย เป็นไปไม่ได้ที่จะดับด้วยสกิล
แต่สามารถดับได้ด้วยน้ำจำนวนมหาศาลหรือด้วยความตั้งใจของผู้ใช้เอง
「ฮ่าฮ่าฮ่า สูตรโกงเต็มไปหมดเลย」
ไม่ไหวแล้ว ไม่มั่นใจว่าจะใช้ได้เต็มประสิทธิภาพเลยสักนิด เพิ่มรวดเดียวเยอะไปแล้ว............
แต่ว่า...........ที่ดูดซับไฟของเทพมังกรดำไม่ได้เพราะมีประสิทธิภาพของชำระล้างอยู่นี่เอง
เป็นคุณสมบัติที่ยุ่งยากพอตัวเลยแฮะ
นอกจากนั้น เวทของSand manตัวร้ายนั่นก็ดี...............Ash wolfก็ด้วย
ที่Lvเกิน300นี่ต้องเชี่ยวชาญเวทอะไรสักอย่างหรือไงนะ
ขนาดกล่องสมบัติยังเรียนรู้เวทมิติได้ด้วยตัวเองซะด้วย..........
.................
「เวทมิติ...........? อ้ะ!?」
ร่างกายชั้นกระตุกขึ้นมา
ใช่แล้ว........ใช่แล้ว!
「มีเวทมิติอยู่ไม่ใช่เหรอไง!」
ชั้นรีบนึกถึงชื่อเวทมิติที่ถูกใส่เข้าไปในหัวทันที
「เจอแล้ว!」
และแล้วในบรรดาชื่อนั้นก็มีพวกชื่อเวทอย่าง『เวทวาร์ป』หรือ『Teleport』อย่างที่คิด
「ซาเรีย !พวกเรากลับได้แล้ว!」
「จริงเหรอ!? เย้!」
ขณะที่มองซาเรียดีใจใกล้ๆคุณอัลโทเรีย ในใจก็พลางนึกขอบคุณกล่องสมบัติ
กล่องสมบัติเอ๋ย...........ความพยายามของนายไม่สูญเปล่าแล้วนะ!
พวกเรารอดพ้นวิกฤตมาได้เพราะความสุดยอดของนายแท้ๆ..................!
ชั้นวันทยาหัตถ์ให้กับกล่องสมบัติที่จากไปอย่างเงียบๆ ..........ถึงชั้นจะเป็นคนฆ่าเองก็เถอะ
「เท่านี้ก็ตรวจสอบสเตตัสได้อย่างสบายใจซะที」
พึมพำอย่างนั้นแล้วคราวนี้ก็มาตรวจสอบช่องศาสตร์ลับ
『ดาบบุปผาบานสะพรั่ง』.......เป็นศาสตร์ลับที่ฟาดฟันอีกฝ่ายด้วยการโจมตีนับไม่ถ้วน
สามารถฟันสกิลหรือเวทมนตร์ได้เช่นเดียวกัน
『กายดาบหนึ่งเดียว』.......เป็นศาสตร์ลับที่รวบพลังสมาธิให้เข้ากับดาบจนถึงขีดสุด
หลังจากใช้ศาสตร์ลับนี้จะเพิ่มพลังเป็นสองเท่าให้กับสกิลหรือศาสตร์ลับที่ใช้ดาบ
「โอ้ สมกับเป็นศาสตร์ลับ」
ประทับใจส่วนนี้ที่สุดในบรรดาที่ผ่านมาเลย เพราะศาสตร์ลับนี้เป็นสิ่งที่ชั้นได้มาด้วยตัวเอง
ไม่มีอะไรให้ตบมุขเป็นพิเศษเลยไปที่ฉายาซึ่งเป็นช่องสุดท้าย
『นักรบพิฆาตมังกร』.......เป็นฉายาที่มอบให้กับผู้ที่ปราบสายพันธุ์มังกรระดับสูงสุดด้วยตัวคนเดียว
เมื่อต่อสู้กับมังกร สเตตัสจะถูกปรับขึ้นอย่างมหาศาล
『สังหารเทพ』.......เป็นฉายาที่มอบให้กับผู้ที่สังหารเทพ
เมื่อต่อสู้กับเทพ สเตตัสจะถูกปรับขึ้นอย่างมหาศาล
「ในที่สุดก็ทำไปจนได้...........」
ชั้นทอดสายตาเศร้าๆออกไปไกลๆ
ไม่สิ........จนป่านนี้แล้วแต่เทพที่ส่งชั้นมาโลกนี้ก็เป็นคนบอกเองว่าไม่มีเทพไม่ใช่เหรอไง
ก็นะถึงเทพนั่นจะพูดอย่างนั้นมาแต่เทพมังกรดำอาจจะไม่ใช่แค่เทพคนเดียวก็ได้
แต่ยังไงซะชั้นก็สังหารเทพไปแล้วนะเฟ้ย ยะฮ้า---!จะอะไรก็เข้ามาเลย!
ว่าแต่ที่สังหารเทพไปนี่คงไม่โดนลงโทษอะไรหรอกนะ?
คิดอะไรแนวๆนั้นได้ชั้นนี่ก็เพี้ยนพอดูเลยแฮะ แหม แต่มันสุดยอดจริงๆเลยให้ตายเถอะ!
「เอาล่ะ..........ตรวจสอบสกิลก็เรียบร้อย วิธีกลับก็เจอแล้ว งั้นก็.........」
พอพูดถึงตรงนั้นชั้นก็หยุดคำพูดไว้แล้วหันไปมองสมุดโน๊ตกับกล่องสมบัติกล่องใหญ่ที่อยู่บนพื้น
「ข้างในกล่องสมบัตินั่นยังไงก็คงเป็นอุปกรณ์โกงๆแหง
แต่อดีตของเทพมังกรดำนี่สิน่าสนใจกว่า..............」
เหตุผลที่ยึดมั่นกับมนุษย์ขนาดนั้น ต้องเป็นเพราะอะไรบางอย่างจากอดีตแน่
ชั้นที่ต่อสู้อย่างแสนสาหัสกว่าจะปราบเทพมังกรดำได้เลยอยากรู้ถึงเรื่องนั้น
พอรู้สึกตัวชั้นก็ก้าวไปหาสมุดโน๊ตนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ
และหลังจากเหตุการณ์นี้เองทำให้ชั้นมีเรื่องอะไรหลายๆอย่างให้ต้องคิด