ตอนที่ 23 โรงแรม
----------ชั้นฮิรากิ เซอิจิไม่เป็นที่ชื่นชอบของสิ่งมีชีวิตบนโลกเลย
ถึงมนุษย์จะแน่นอนอยู่แล้ว แต่หมาหรือแมวก็เป็นด้วย
ถ้าเฉียดเข้าไปใกล้พวกหมาแมวล่ะก็ได้โดนทำขนตั้งขู่ หรือไม่ก็เห่าใส่แหลกลาญแน่
บางทีคงเป็นเพราะกลิ่นล่ะมั้ง ..............ก็อยากจะให้เป็นอย่างนั้นอ่ะนะ
แต่ที่มีพฤติกรรมแบบนั้นน่ะยังดี เพราะมีแบบเข้าใกล้แล้วสลบด้วยเล่นเอาเกือบร้องไห้แน่ะ
จนถึงตอนนี้ยังจำได้ไม่ลืมเลย ..............ก็มันกลิ่นระดับฆ่าClever monkeyได้นี่นา
เอาเถอะปัจจุบันยังมีคนอย่างซาเรียที่มาบอกว่าชอบเรื่องกลิ่นของชั้นตรงๆอยู่อ่ะนะ
ยังไงก็ตามแต่เอาเป็นว่าสมัยก่อนจัดอยู่ในประเภทที่สิ่งมีชีวิตเกลียดมาตลอดก็แล้วกัน
แล้วแน่นอนว่าพวกเคนจิที่คิดว่าเป็นเพื่อนก็คงไม่เกลียดด้วยหรอก ............อืม หวังว่านะ
แต่ก็นะถึงจะถูกเกลียดมาตลอดแต่พื้นฐานแล้วชั้นเป็นพวกชอบหมาแมว
แน่นอนว่าอยากลองพาไปเดินเล่นด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ ชั้นจึงไม่อยากพลาดประสบการณ์ที่ไม่เคยนึกฝันมาก่อน
จึงไม่ปฏิเสธบ้านที่เลี้ยงสัตว์ซึ่งมีคำร้องขอให้พาไปเดินเล่นในครั้งนี้
ทว่าแล้วทำไมกันน้า ทั้งๆที่ได้พาหมาเดินเล่นเหมือนในฝันแท้ๆถึงไม่รู้สึกยินดีเลย
「โอ้ววววววววววววววววววววววว!」
「แฮ่!แฮ่!แฮ่!แฮ่!」
-------------ก็เพราะมันต่างกับเดินเล่นที่ชั้นเข้าใจน่ะสิ
ตอนนี้ชั้นถูกหมาสีขาวล้วนขนาดยักษ์กว่า5เมตร.........มิลค์จังไล่กวดอย่างเต็มพิกัด
...........เอ๊ะ?มันแปลกๆเนอะ..............
พาหมาเดินเล่นที่ว่าเนี่ยมันต้องเอาสายจูงกับปลอกคอหมาแล้วเดินกันอย่างอบอุ่นไม่ใช่เหรอ?
แต่นี่ชั้นกลับต้องมาวิ่งแบบเต็มสปีด?
วิธีการพาเดินเล่นนี่มันเปลี่ยนไปโดยที่ชั้นไม่รู้ตัวหรือไงหว่า?
....................
「มันไม่ถูกจริงๆนั่นแหละ!?」
「โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!」
โดนหมาวิ่งไล่เนี่ยมันไม่ใช่เดินแล้ว!? ยิ่งกว่านั้นคนที่โดยไล่คือชั้นด้วยเนี่ย!
ก่อนอื่นเลยนะเสียงร้องของมิลค์จังเนี่ยมันไม่ใช่แบบของหมาด้วย!มันหมาป่าชัดๆ!
「มิลค์จังเนี่ยเป็นหมาจริงๆเหรอ!?」
เผลอพูดอย่างนั้นออกไปโดยที่ขาวิ่งไม่หยุด ก็ถ้าหยุด.........ได้โดนกินน่ะสิ!..........รู้สึกได้เลย
แล้วก็ถึงชั้นจะวิ่งเต็มสปีดแต่ที่เดินเล่นนั้นอยู่ในสวนของคุณอโดเรียน่า
ก็เลยต้องปรับพลังไม่ใช้สวนเสียหายอย่างเต็มที่
เกิดชั้นวิ่งโดยไม่คิดถึงเรื่องนั้นกับสวนของคุณอโดเรียน่าล่ะก็
ป่านนี้สวนได้กลายเป็นหลุมอุกกาบาตไปแล้ว
แล้วถึงชั้นจะวิ่งอยู่ก็ยังไม่ลืมที่จะเอามือจับฮู้ดไว้ไม่ให้หลุดออกมาด้วยเช่นกัน
คุณอัลโทเรียจ้องมองชั้นที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดโดยมีมิลค์จังไล่ตามมาติดๆ
「เซอิจินี่............วิ่งไวดีจังนะ」
「สถานการณ์แบบนี้มีความเห็นแค่นี้เองเหรอครับ!?」
มันน่าจะมีความเห็นอย่างอื่นอยู่นะ!?
「นั่นสิะ.........งั้นก็แรงดีด้วย」
「ชั้นที่หวังไปนี่งี่เง่าชัดๆ!」
บัดซบ!ดูเหมือนว่าไม่มีคำพูดใดที่จะทำให้ผ่านสถานการณ์นี้ไปได้ซะแล้ว
เอาถอะ ก็คุณอัลโทเรียเป็นผู้คุมสอบของชั้นนี่นา ยื่นมือเข้ามาช่วยไม่ได้ก็เข้าใจอยู่หรอก
「กรรรรรรร..............โฮกกกก!」
ขณะที่กำลังวิ่งหนีมิลค์จังสุดชีวิตอยู่ในสวน อยู่ๆมิลค์จังก็กระโจนเข้ามาหา
「อุแว้กกก!?」
ถึงจะบิดตัวหลบไปได้แต่ทำไมมิลค์จังต้องกระโจนเข้าหาชั้นด้วยล่ะ?
............ก็ไม่อยากคิดหรอกนะ ว่ามิลจังค์.............จะเข้ามาเพื่อฆ่าชั้น?
「กรรรรรรร...................」
「หวายยยย...............มีข่มกันด้วยอ่ะ.............」
ตางี้แดงก่ำเลย มีครางขู่ด้วย น่ากลัวชิบ
แต่ว่าเพราะหลบการกระโจนเข้ามาของมิลค์จังเมื่อตะกี้นี้
เลยต้องรักษาระยะห่างโดยทิ้งช่องว่างกับทางนี้ไว้เพื่อหาโอกาส
จะว่าไป มิลค์จังนี่เป็นหมาจริงๆเหรอ? ไม่ใช่แหงๆ?
เพราะในหัวมีข้อสงสัยเช่นนั้น เลยแอบใช้『ตรวงสอบขั้นสูง』กับมิลค์จัง
『Snow Wolf Lv:180』
「เป็นหมาป่าจริงๆด้วยยยยยยยยยยยยย!」
คุณอโดเรียน่าขี้ฮก! หมาป่าตัวเป็นๆเลยไม่ใช่เหรอ!ทำไมต้องบอกว่าเป็นหมาด้วย!
ไหนจะยัง Lvที่สูงพอตัวนั่นอีก!
เพราะการพาหมาป่าเดินเล่นมันนอกประเด็นเกินไป เลยร้องขอความช่วยเหลือจากคุณอัลโทเรีย
「คุณอัลโทเรีย!มิลค์จังนี่มันไม่ใช่หมานะคร้าบ!? เป็นหมาป่าต่างหาก!?」
「แค่เห็นก็รู้แล้วน่า」
「รู้อยู่แล้วเหรอ!?」
「แน่อยู่แล้ว แต่ก่อนอื่นเลยนะมิลค์จังจะเป็นหมาหรือหมาป่านี่มันเป็นปัญหาด้วยเหรอไง?
มันก็หมาเหมือนกันนั่นแหละ」
「ต่างกันเห็นๆเลยครับ!? ก็เล่นเอาแต่เข้ามาโจมตีแบบนี้อ่ะ!?
เดิมทีการพาหมาป่าเดินเล่นมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วด้วย!?」
「ไม่เห็นจะเป็นไปไม่ได้ตรงไหนเลย ยิ่งกว่านั้นก็กำลังทำอยู่ไม่ใช่เหรอ」
「ก็นี่มันต่างกับเดินเล่นที่ชั้นรู้น่ะสิ!」
「เอ้าสู้ๆเข้าล่ะ เรื่องอะไรมันก็เป็นประสบการณ์ได้แหละน่า」
「พูดเอาแต่สะดวกมาเลยนะเนี่ย!」
รู้สึกเลยว่าที่บอกว่าเป็นประสบการณ์เนี่ยเป็นเหตุผลที่ขี้โกงสุดๆ โดยเฉพาะกับมือใหม่
ผลของการขอความช่วยเหลือคือไม่ได้คำตอบจริงจังกลับมา
「โอ๊ะ ลืมบอกไป ถ้าถูกกินไปล่ะก็พยายามปกป้องหัวไว้ล่ะ?」
「ถึงตอนนั้นก็ช่วยหน่อยสิคร้าบ!?」
ชั้นตบมุขกับคุณอัลโทเรียที่ยิ้มมีเสน่ห์แบบปีศาจน้อย
..............น่ารักสุดๆ
ทั้งที่ตอนแรกไม่ยิ้มเลยสักนิด จากนั้นก็มายิ้มแบบใสซื่อให้
ขณะที่มองคุณอัลโทเรียโดยมีความประทับใจอย่างนั้น
มิลค์จังที่มองหาช่องว่างของชั้นจนถึงตอนนี้ก็เริ่มลงมือ
「โกรว!」
「เหวอ!?」
ด้วยการโดดที่ค่อยจะปกตินักเลยตอบโต้ช้าไปชั่วขณะแต่ก็ยังพอหลบได้
เอาเถอะ ถึงจะโดนโจมตีเข้าก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรนักหรอก.............
แต่ถ้าไม่หลบหลีกที่ควรจะหลบให้ดีล่ะก็ ถึงเวลาที่ต้องหลบเกิดร่างกายไม่ขยับเอาล่ะแย่แน่
「ต่อจากไล่กวดก็ท้าสู้งั้นเหรอ............」
สภาพที่จะเดินเล่นไม่เหลือแม้แต่น้อยแล้ว ความอยากเดินเล่นนี่มันหายไปไหน
ท่าทางดุแบบนั้นมันไม่เหลือให้เดินเล่นได้แล้ว
ยิ่งกว่านั้น พอมาถึงจุดที่ต้องต่อสู้กันชั้นจะเอาแต่หลบไปตลอดก็ไม่ได้ด้วย
ถ้าเกิดชั้นโจมตีมิลค์จังเข้าล่ะก็...........ไม่อ่ะเลิกคิดเถอะ
สำหรับเรื่องที่ว่านั่นไม่ว่าใครต่างก็มีเรื่องที่ไม่รู้จะเป็นสุขกว่าทั้งนั้นแหละนะ
ขณะที่กำลังหน้าบิดเบี้ยวแถมเหงื่อไหลด้วยความกลัวอยู่คนเดียวนั้น
คุณอโดเรียน่าที่เป็นคนต้นเรื่องก็เข้ามาที่สวน
「คุณเซอิจิกับมิลค์จังสนุกกันจังเลยนะคะ!」
「ล้อเล่นใช่ป่าวเนี่ย!?」
สภาพนี้เห็นว่ากำลังสนุกกันอยู่เหรอ!? แนะนำให้รีบไปหาหมอตาด่วน!
..............แต่ที่นี่มันต่างโลกนี่หว่า หมอตาอะไรนั่นคงไม่มีหรอก..........
「คุณอัลโทเรีย พอดีทำชาฝรั่งไว้จะรับมั้ยคะ?」
「อ้ะ รับค่ะ」
「เวลาน้ำชาเหรอไงก๊านน!?」
ทางนี้กำลังพยายามสุดชีวิตอยู่นะ!
นี่มันไม่ใช่การเดินเล่นตามอุดมคติของชั้นแล้ว!
ว่าแล้วก็เอามือที่ถือสายจูงซึ่งติดกับปลอกคอโยนทิ้งไป!
「ว้ากกกกกกกกกก!แบบนี้มันสิ้นหวังแล้ว!
จะทุ่มเต็มที่เป็นคู่ต่อสู้ให้ก็ได้...............เข้ามาเลย มิลค์จัง!」
「กรรรรรร.............โฮกกกกกกกกก!」
ชั้นที่ในมือเอาสายจูงที่ถืออยู่ทิ้งไปแล้วก็อ้าแขนรับมิลค์จังไว้
และมิลค์จังก็กระโจนเข้าใส่ชั้นที่อยู่ในสภาพนั้น
◆◇◆
「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!」
「แฮ่! แฮ่ !แฮ่!」
ชั้นกับมิลค์จังนอกเอกขเนกอยู่ในสวนภายในบ้านของคุณอโดเรียน่า
หลังจากที่ชั้นหมดหวังแล้วก็เข้าไปฟัดกับมิลค์จังเต็มที่
เพราะงั้นคำร้องขอที่ให้พาเดินเล่นจึงถูกเมินสนิท
ทั้งโดนมิลค์จังวิ่งไล่ทั้งโดนมิลค์จังโจมตีจนต้องคอยหลบหลีกปัดป้อง
แค่เพียงไม่นานนักท้องฟ้าก็กลายเป็นสีแสด
คิดดูดีๆแล้วเรื่องของชั้นกับมิลค์จังน่ะเรียกว่าเล่นกันไม่ได้แน่ๆ
ที่สรุปจบเป็นคำสั้นๆว่าเล่นกันได้เพราะสเตตัสระดับสัตว์ประหลาดของชั้นต่างหาก
ลองเป็นคนทั่วไปสิได้ตายไปนานแล้ว
แต่ผลจากที่คนอื่นมองการแลกชีวิตกับมิลค์จังเลยกลายเป็นว่า
ในใจลึกๆของชั้นเองก็รู้สึกสนุกอย่างคาดไม่ถึงไปซะงั้น
แน่นอนว่าชั้นน่ะไม่ได้เป็นพวกM
ก็แค่ความรู้สึกสดชื่นหลังจากที่สนุกกับการออกกำลังกายก็เท่านั้นแหละ
แล้วผลลัพธ์จากที่ชั้นกัลมิลค์จังเล่นกันอย่างเต็มที่คือเหนื่อยจนหมดแรงนั่นเอง
「เฮ้เฮ้..............เซอิจิ นายนี่มีแรงขนาดไหนเนี่ย...........」
「จริงด้วยค่ะ ถึงไม่ใช่เรื่องที่คนขออย่างดิชั้นควรพูดแต่ไม่คิดเลยว่าจะสูสีทัดเทียมกับมิลค์จังได้」
อ เอาจริงดิ...........นอกจากนั้นมันก็จริงอ่ะนะที่ไม่ใช่เรื่องที่คุณอโดเรียน่าควรพูด
「เดิมทีเรื่องแรง..........ก็พอจะมั่นใจ............」
พยายามตอบกลับไปทั้งที่ลมหายใจขาดห้วงอยู่
「ไม่ล่ะ ยังไงมันก็แปลกอยู่ดี.............. การโจมตีของมิลค์จังเนี่ยนายปัดป้องได้ด้วยนี่นา?」
「ก็แค่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด...........มันทำงานเต็มที่..............」
「.............เอาเป็นเอาตายขนาดไหนเนี่ย..............」
ก็พวกคุณเป็นคนจัดมาให้เองไม่ใช่เหรอ!............แค่คิดแต่ไม่ได้พูดออกไป
ยังไงก็ตามแต่เรื่องสเตตัสของชั้นมันจะแตกรึเปล่านี่แหละที่ร้อนใจที่สุด
ถึงแค่ถูกใช้ตรวจสอบก็outได้แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะไม่โดนแฮะ
ซึ่งนั่นก็เพราะรู้ว่าชั้นพยายามอย่างเอาเป็นเอาตายตอนทำคำร้องขอ เลยยังพอตบตาคุณอัลโทเรียไปได้
「เอาเถอะค่ะเพราะได้คุณเซอิจิแท้ๆมิลค์จังถึงสนุกได้มากขนาดนี้」
คุณอโดเรียน่าบอกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
ระหว่างที่กำลังตะลึงกับรอยยิ้มเจือยาพิษโดยไม่ได้ตั้งใจนั่นเอง
เพราะว่าแรงกลับมาแล้วรึเปล่าก็ไม่รู้มิลค์จังเลยลุกขึ้นแล้วเข้ามาหาชั้น
จากนั้นก็เข้ามาเลียหน้าชั้นที่ยังนอนแผ่อยู่
「อุหวา!เดี๋ยว!」
ถึงจะตกใจที่อยู่ๆมาเลียหน้ากันแต่ยังพอจะจับฮู้ดที่ทำท่าจะหลุดไว้ได้ทัน
「แหมแหม!มิลค์จังนอกจากชั้นกับสามีแล้วยังไม่เคยยอมเปิดใจให้ใครขนาดนี้เลย......」
พอมองชั้นที่หน้าเต็มไปด้วยน้ำลายเหนียวเหนอหนะ คุณอโดเรียน่าก็หลุดพูดแบบนั้นออกมา
「เดี๋ยวก่อนนะครับ ถ้าอย่างนั้น คนที่คอยดูแลมิลค์จังมาจนถึงตอนนี้ล่ะ......?」
「ไม่เคยเปิดใจให้หรอกค่ะ ขนาดวันเดียวยังใช้คนเดียวกันทำไม่ได้เลย............
เพราะงั้นถึงได้บาดเจ็บไงล่ะคะ?」
คิดแล้วไม่ผิด!
「ยังไม่มีคนตายหรือบาดเจ็บสาหัสด้วย ไม่ต้องห่วงไปหรอกค่ะ!」
「ไม่อ่ะไม่อ่ะไม่อ่ะไม่อ่ะ!ช่วยคิดถึงคนรับใช้อีกสักหน่อยเถอะครับ!」
มันจะเสี่ยงชีวิตเกินไปแล้ว!?
ระหว่างที่รู้สึกเห็นใจพวกคนรับใช้ที่ไม่รู้จักหน้าตา
ชั้นก็แอบรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จของความจริงที่ว่าทำให้ตัวอันตรายอย่างมิลค์จังถูกใจได้
ต่อให้เป็นคำร้องขอเบ็ดเตร็ดก็ตาม แต่การเอาจริงเอาจังกับงานนั้นแค่ไหนนั่นแหละ
คือความแตกต่างกันของความภาคภูมิใจในความสำเร็จ
ชั้นที่ได้รับรู้ข้อเท็จจริงนั้นที่แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆแต่ก็ไม่ค่อยจะรู้สึกตัวแล้ว
ก็ลองถามข้อสงสัยที่นึกไว้ออกมากะทันหัน
「จะว่าไปแล้ว..........มิลค์จังกับพวกคุณอโดเรียน่าไปพบกันที่ไหนยังไงเหรอครับ?」
ก็มิลค์จังน่ะทั้งLvสูงทั้งแข็งแกร่ง เพราะงั้นแหละถึงได้คิดว่าเรื่องที่คนธรรมดาอย่างคุณอโดเรียน่า
เอามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้มันออกจะแปลกๆอยู่
คุณอโดเรียน่าก็ยิ้มให้และตอบคำถามนั้นของชั้น
「ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ เพราะงานของสามีเลยต้องไปประเทศที่มีหิมะตกกัน
แล้วระหว่างที่เดินทางไปประเทศนั้นก็พบกับมิลค์จังที่ยังเด็กและบาดเจ็บอยู่โดยบังเอิญ
............พ่อแม่ก็ดูเหมือนจะไม่มีด้วย พอรักษาให้แล้วเลยพากลับมาเลี้ยงจนเชื่อง」
「เห」
ถึงจะเป็นมอนเตอร์แต่พอสัมผัสความอ่อนโยนของมนุษย์ก็อยู่ด้วยกันได้เหมือนกันแฮะ
ความจริงที่ว่านี่ก็ใกล้เคียงกับคำสอนของลัทธิเบลเฟยที่คุณอัลโทเรียบอกมานี่นา?
เอาเถอะ แต่ก็มีความจริงเรื่องที่ว่ามันไม่ค่อยจะราบรื่นเหมือนกันแหละ
「เอาล่ะ คำร้องขอของดิฉันก็จบแล้ว ..........นี่ค่ะค่าตอบแทนในครั้งนี้」
ณ ตรงที่เป็นบอกจบงาน คุณอโดเรียน่าก็ส่งถุงป่านที่ดูเหมือนจะหนักมาให้
เป็นของที่มีขนาดประมาณ2มือแต่พอเอามือรับไว้แล้วก็รู้สึกได้ถึงความหนักจนร่วงสวบลงมา
「.........เอ๋?」
ชั้นที่ไม่รู้ว่าเสียมารยาทรึเปล่าแต่ก็เผลอเปิดดูแล้วก็ได้แต่พึมพำอยู่คนเดียว
นั่นก็เพราะข้างในถุงนั้นมีพวกเหรียญเงินหรือเหรียญทองแดงใส่อยู่เป็นจำนวนมาก
「น นี่มัน............」
「ก็ค่าตอบแทนไงล่ะคะ ช่วยรับไว้ด้วยนะ」
「เเเเอ๋!?ไม่มากไปหน่อยเหรอครับ!?」
「ไม่เป็นไรหรอกแค่นี้เอง ยิ่งกว่านั้นคุณเซอิจิครั้งนี้ก็พยายาเต็มที่เลยไม่ใช่เหรอ
นอกจากนั้นก็คิดดีแล้วด้วย ช่วยรับไว้เถอะค่ะ」
เพราะทำท่าจะคืนเงินที่เยอะเกินไปคุณอโดเรียน่าจึงปฏิเสธมาแบบนั้น
ก็แหม จริงอยู่ที่พยายามเต็มที่...............แต่ที่รับมามันมากเกินไปนี่นา?
มีทั้งเหรียญเงินเหรียญทองแดงใส่อยู่ตั้ง90เหรียญแน่ะ?
แล้วตอนที่อึดอัดเพราะไม่รู้จะทำยังไงดีกับเงินจำนวนมากนั่นเองคุณอัลโทเรียก็พูดขึ้น
「นี่เป็นรางวัลถูกต้องที่เจ้าของคำร้องให้มา การไม่รับคือการเสียมารยาทนะรู้มั้ย?
เพราะงั้นรับๆไปเหอะน่า」
「ถ ถ้าพูดอย่างนั้นล่ะก็...........」
คุณอัลโทเรียพูดถึงขนาดนั้น ชั้นที่คิดว่าจะปฏิเสธยังไงดีเลยยอมรับค่าตอบแทนไว้แต่โดยดี
「ฟุฟุ ต้องว่าง่ายๆอย่างนี้สิ ถ้ามีคำร้องขอไปอีกล่ะก็ ถึงตอนนั้นก็ช่วยรับไว้ได้มั้ยคะ?」
「ด...........ได้ครับ!」
พอรับคำตอบของชั้นแล้วคุณอโดเรียน่าก็ยิ้มหน้าบานมาให้
◆◇◆
พอออกจากบ้านของคุณอโดเรียน่าพวกเราก็ไปบ้านเด็กกำพร้าเพื่อไปรับซาเรีย
「ดีจังนะ เซอิจิ ได้ลูกค้ามาคนนึงด้วย」
「ลูกค้า?」
「ใช่แล้วล่ะ นักผจญภัยที่ทำงานได้ดีน่ะจะมีผู้ร้องขอเจาะจงชื่อมาโดยตรง
เป็นความเชื่อใจซึ่งกันและกันแล้วยังเกี่ยวเนื่องไปถึงรายได้แบบมั่นคงที่จะได้รับ
ซึ่งการมีลูกค้าก็เหมือนเป็นสเตตัสที่สำคัญของนักผจญภัยของแท้เลยล่ะ
แล้วถึงการทำงานให้เรียบร้อยจะเป็นเรื่องธรรมดา
แต่คำพูดนั้นก็แปลได้ด้วยว่าการทำงานอย่างรอบคอบจนเป็นธรรมดาก็สำคัญเช่นกัน」
「อย่างนี้นี่เอง.............」
สิ่งที่คุณอัลโทเรียสอนมาถือเป็นการเรียนรู้จริงๆ
แล้วที่คุณอัลโทเรียบอกว่าการทำงานอย่างรอบคอบจนเป็นธรรมดาน่ะไม่ใช่แค่นักผจญภัยหรอก
จะอาชีพไหนก็สำคัญทั้งนั้น
「เอาล่ะ มาถึงสักทีนะ...........」
ระหว่างที่คุยเรื่องสัพเพเหระกันแป๊ปเดียวก็มาถึงบ้านเด็กกำพร้า
จากนั้นคุณอัลโทเรียก็ทำเหมือนตอนมาครั้งแรกเลยคือเข้าไปในโบสถ์อย่างไม่ลังเล
พอคุณอัลโทเรียเข้าไปข้างในแล้วตะโกนเรียก
คุณแแคร์ที่เป็นผู้อำนวยการบ้านเด็กกำพร้ากับซาเรียที่ใส่ผ้ากันเปื้อนก็ออกมา
「อ้ะ เซอิจิ!」
「คุณอัลโทเรียนี่นา งานของคุณเซอิจิเสร็จแล้วเหรอ?」
「อา เสร็จเรียบร้อยแล้วล่ะ ก็เลยมารับซาเรีย...............แล้วทางซาเรียเป็นไงบ้าง?」
「ฟู่..........」
พอฟังที่คุณอัลโทเรียถามทำไมคุณแคร์ต้องก้มหน้าลงต่ำด้วยล่ะ
ท่าทางแบบนี้เหมือนกับจะพูดว่า『ถามอะไรโง่ๆ.........』เลย
แล้วจากนั้นก็-----------
「ไร้ที่ติ!ยอดเยี่ยม!วิเศษที่สุดเลยล่ะ!」
「「.................」」
เจออาการตื่นเต้นสุดๆแบบกะทันหันเล่นเอาชั้นกับคุณอัลโทเรียใบ้กินเลย
「ของว่างที่ทำให้เด็กๆก็อร่อย ตรงที่ๆพวกเด็กเล่นกันจนสกปรกก็ทำความสะอาดได้เอี่ยมอ่อง!
ทั้งตอนที่เล่นด้วยกันก็เอาใจใส่ไม่ให้อยู่ระดับบาดเจ็บมาก
แถมทำท่าดุว่ากับเรื่องที่ไม่ได้ก็คือไม่ได้อย่างชัดเจนด้วย!
จากทั้งหมดที่ว่ามาซาเรียเลยเป็นที่ชื่นชอบของพวกเด็กๆกัน!」
ขณะที่คุณแคร์แสดงความคิดเห็นอย่างร้อนแรง เด็กจำนวนมากก็ออกมาจากด้านในโบสถ์
「พี่ซาเรียมาเล่นกันหนูนะ--!」
「อ้ะ ขี้โกงนี่นา!ครั้งนี้ต้องตาฉันต่างหาก--!」
「ดูสิดูสิ!วาดเก่งมั้ย--!」
「พี่ซาเรียห้องน้ำ~」
พวกเด็กที่ออกมาพากันมารุมล้อมซาเรีย
สุดยอด..........เป็นที่ชื่นชอบจริงๆด้วย ขนาดคุณอัลโทเรียที่อยู่ข้างๆเองยังใบ้กินต่อเนื่องเลย
ไหนๆแล้วก็ขอพูดหน่อยเถอะ ซาเรียไม่ใช่ห้องน้ำนะเฟ้ย
แล้วตอนที่พวกเราสองคนต่างตกใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ซาเรียก็พูดกับพวกเด็กๆ
「เดี๋ยวเถอะ!มีแขกมาอยู่นะ? ก่อนอื่นต้องทักทายก่อนสิ?」
พอพูดด้วยท่าทางที่เหมือนกับคุณแม่ของบ้านไหนซักแห่ง
พวกเด็กๆก็ตอบรับกันอย่างแข็งขันแล้วกล่าวทักทายพวกเรา
จะว่าไงดีล่ะ..............ก็ดูเหมือนคุณแม่อยู่หรอก
แต่ก็ดูเหมือนกับอาจารย์ของโรงเรียนอนุบาลหรือสถานรับเลี้ยงเด็กด้วยอ่ะนะ
「แล้วก็ขอโทษทีน้า? วันนี้ต้องบ๊ายบายกับทุกคนแล้ว」
「「「เเเเอ๋~!」」」
พวกเด็กๆส่งเสียงเศร้าๆออกมากับคำพูดของซาเรีย
「ไม่ต้องห่วงหรอก!เดี๋ยวครั้งหน้าจะมาเล่นด้วยอีก..........นะ?」
ด้วยคำพูดนั้นพวกเด็กก็ยังไม่ค่อยพอใจอยู่แต่ก็ยังพอยอมรับกันได้
「ไม่เป็นไรหรอก!ซาเรียจังน่ะครั้งหน้าฉันจะเจาะจงชื่อร้องขอให้เอง!」
จากนั้นคุณแคร์ก็แจ้งมาโดยหันไปทางพวกเด็กๆ ดูท่าซาเรียเองก็ได้ลูกค้าเหมือนกันแฮะ
ระหว่างที่คิดอย่างนั้นคุณแคร์ก็เอาถุงป่านเหมือนกับที่ชั้นได้รับจากคุณอโดเรียน่าออกมา
ทว่าถุงไม่ได้ใหญ่เหมือนของคุณอโดเรียน่า ใหญ่ขนาดถือได้ด้วยมือเดียว
「นี่คือค่าตอบแทนครั้งนี้นะ ความจริงก็อย่างจะเพิ่มให้มากกว่านี้อยู่หรอก............」
「ไม่ต้องใส่ใจหรอกค่ะ!เพราะได้ทั้งเจอกับทุกคนแล้วยังได้เล่นกันด้วย!
ไม่ขอรับไปมากกว่าที่ได้มาหรอกค่ะ」
คุณแคร์รู้สึกตื้นตันกับคำพูดของซาเรีย
แค่ห่างกันแป๊ปเดียวทั้งท่าทางและคำพูดแบบเด็กๆของซาเรียนี่พัฒนาขึ้นมากเลยนะ
อาจเป็นเพราะหัวข้อพูดคุยของชั้นมันเด็กเกินไปก็ได้
「ขอบคุณนะซาเรียจัง!ถ้ามีคำร้องขอส่งไปอีกช่วยรับไว้ได้รึเปล่า?」
「แน่นอนค่ะ!」
พอซาเรียตอบคำพูดของคุณแคร์อย่างแข็งขันเสร็จพวกเราก็ออกจากบ้านเด็กกำพร้า
◆◇◆
「เอานี่ ค่าตอบแทนที่รื้อซากตึก」
พอกลับมายังกิลด์ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย
คุณอัลโทเรียก็ไปรับค่าตอบแทนมาจากคุณเอลิสตรงประชาสัมพันธ์แล้วมายื่นให้ชั้น
จะว่าคิดไว้แล้วหรือไงดีล่ะ ก็งานอันตรายซะขนาดนั้นเลยมีเงินใส่อยู่เยอะ
แต่พอคิดถึงเงินที่ได้รับจากคุณอโดเรียน่าว่าพยายามไปขนาดไหน
กว่าจะได้ค่าตอบแทนของคุณอโดเรียน่าแล้วก็รู้สึกว่าเยอะมากเลยล่ะ
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!คำร้องขอครั้งแรก..........ดูจะสำเร็จได้ด้วยดีเลยนะ!」
「เหนื่อนหน่อยนะคะ」
แล้วกัลซุสกับคุณเอลิสก็เข้ามาหาพวกเราต่อ
............เจ้ากัลซุสนี่ ทำงานบ้างรึเปล่าเนี่ย?
「ถ้าเป็นนักผจญภัยล่ะก็ ส่วนมากทุกคนจะมารับคำร้องขอสายปราบปรามกัน
เรื่องนั้นเพราะค่าตอบแทนมันดีกว่าเห็นๆ
แต่พวกเธอที่รับไปครั้งนี้ถึงเป็นคำร้องขอสายเบ็ดเตร็ดก็เป็นงานที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน
สิ่งนั้นได้รับรู้จากคำร้องขอในครั้งนี้รึเปล่า?」
「อา」
「อื้ม!」
ด้วยคำพูดของกัลซุสที่มีท่าทางจริงจังจนแปลกประหลาด ชั้นกับซาเรียเลยตอบรับไปทันที
ถึงงานแบบเรียบๆจะมีอยู่เยอะแต่ งานเบ็ดเตร็ดก็เป็นงานที่ยอดเยี่ยมงานหนึ่ง
จะเอาแนวคิดแบบสูงต่ำไปใช้กับงานไม่ได้...........
งานที่ได้รับมานั้นจัดการได้เรียบร้อยดีแค่ไหนต่างหากคือสิ่งสำคัญ
พอกัลซุดเบิ่งตากว้างไปชั่วพริบตากับพวกเราที่ตอบกลับในทันที ก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนให้
「งั้นเหรอ !ถ้าเข้าใจแล้วก็ดีแล้วล่ะ!ขนาดกล้ามเนื้อของฉันเองยังยินดีด้วยเลย!」
พูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนเดิมเลยนะ
ทั้งที่อุตส่าห์คิดว่าจริงจังจนแปลกประหลาดแล้วแท้ๆ สุดท้ายก็กลับมาเป็นอย่างเก่า
ขณะที่กำลังหน่ายกับท่าทางอย่างนั้นของกัลซุส
คุณเอลิสก็ยื่นแผ่นสีขาวขนาดฝ่ามือมาให้ชั้นกับซาเรีย
「นี่คือกิลด์การ์ดชั่วคราวที่จะมอบให้กับผู้ยังไม่ได้ลงทะเบียนกับกิลด์ค่ะ
ถึงจะเป็นของชั่วคราวก็สามารถใช้ยืนยันตัวตนได้เพราะงั้นอย่าทำหายล่ะ?」
พอมองดูแผ่นสีขาวที่ส่งมาให้ สิ่งแรกที่เขียนไว้ในกระดาษคือคำว่ากิลด์การ์ดที่เขียนไว้แบบง่ายๆ
「เอาล่ะ การทดสอบงานสายเบ็ดเตร็ดของพวกเธอก็จบแล้ว
แต่พรุ่งนี้ก็มารับคำร้องขอสายเก็บของด้วยล่ะ?」
「อา...............อ้ะ」
「หือ?มีอะไรเหรอ?」
หลังจากที่ตอบรับคำพูดของกัลซุสแล้วชั้นก็นึกเรื่องนึงขึ้นมาได้
「พวกเราตอนนี้ยังไม่ได้ไปจองที่พักค้างคืนกันเลย」
「เรื่องนั้นเองเหรอ..........ถ้างั้นมาพักที่เดียวกับข้ามั้ยล่ะ?」
「เอ๋?」
「อย่างแรกเลยนะราคาที่พักก็พอใช้ได้ ด้านความปลอดภัยก็หายห่วง
นอกจากนั้นอาหารทั้งเช้า กลางวัน เย็นก็อร่อยหมดเลยด้วย」
「งั้นเอาเป็นที่นั่นเลยครับ」
ตอบคำชวนของคุณอัลโทเรียทันที ไม่ใช่เพราะเหตุผลอย่างข้าวมันอร่อยหรืออะไรหรอกนะ!
ม มาจากการคิดเรื่องความปลอดภัยต่างหาก!
ระหว่างที่คิดอย่างนั้น ทำไมกัลซุสกับคุณเอลิสถึงต้องมองไปทางคุณอัลโทเรียแล้วเบิ่งตากว้างด้วยล่ะ
ทำไมอ่ะ?
「ตกลงใจแล้วก็รีบไปกันเถอะ ข้าเองก็เหนื่อยนิดหน่อยด้วย...........」
「เอ๋?อ้ะ...........รอด้วยสิครับ!」
ระหว่างที่คอเอียงนึกสงสัยอยู่ คุณอัลโทเรียก็ออกไปจากกิลด์อย่างรวดเร็ว
ถ้าเกิดพลัดหลงขึ้นมาล่ะก็ไม่รู้ว่าโรงแรมอยู่ที่ไหนกันพอดี
ชั้นกับซาเรียเลยลาพวกคุณเอลิสแบบง่ายๆแล้วรีบตามคุณอัลโทเรียไป
「เอลิสคุง อัลโทเรียคุงชวนไปพักโรงแรมเดียวกันด้วยล่ะ」
「ค ค่ะ............ ถ้าเป็นคุณอัลโทเรียเหมือนทุกทีล่ะก็ น่าจะแนะนำโรงแรมดีๆคนละที่กัน
...............ไปเจออะไรมารึเปล่านะ?」
「อือฮึ............เอาเถอะ ถ้าก้าวหน้าไปในทางที่ดีได้ก็ดีแล้ว กล้ามเนื้อของฉันดีใจสุดๆเลยล่ะ」
「เอาล่ะ งั้นทำงานต่อเลยมั้ยคะ」
「เอ๊ะ? ทำสิ?」
เรื่องที่พูดคุยกันอย่างนั้นหลังจากที่พวกเราออกจากกิลด์ไปน่ะ พวกเราไม่รู้เรื่องด้วยหรอก
◆◇◆
「นี่แหละโรงแรมที่ข้าพัก」
「โอ้................」
ที่ๆพาพวกเรามาคือโรงแรมที่เขียนชื่อว่า『ต้นไม้แห่งความสงบ』
จากที่เห็นภายนอกดูไม่ฉูดฉาดแล้วก็ดูไม่ใช่ที่ๆมีคนมาอยู่กันเยอะด้วย
แถมเรื่องที่ตั้งนี่ก็ห่างจากิลด์กำลังดีเลย
「รีบๆเข้าไปเลือกห้องได้แล้วน่า」
「อะ ครับ」
พอเข้าโรงแรม ด้านในก็ครื้นเครงกันพอใช้ได้เลย
ไม่ได้กว้างอะไรมากแต่พื้นที่ก็กว้างกำลังดีในหลายๆความหมาย
ขณะที่มองรอบๆไปทั่วก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหา
「อ้ะ? กลับมาแล้วเหรอ อัลจัง」
「............โอ้」
อ อัลจัง? ชื่อเล่นงั้นเหรอ?
ขณะที่กำลังเอียงคอกับคำพูดของผู้หญิงคนนั้นอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก็รู้สึกตัวเรื่องของชั้นกับซาเรีย
「หือ? พวกคนทางนี้คือ?」
「พวกหน้าใหม่ที่ตอนนี้ข้าเป็นคนคุมสอบให้อยู่น่ะ
ช่วยเตรียมห้องให้สองคนนี้ด้วยนะ」
「แหม อัลจังคนนั้นเนี่ยนะ~
แต่พอดีตอนนี้มีห้องสำหรับสองคนว่างอยู่ห้องเดียวเอง............เอาแบบนั้นได้รึเปล่า?」
เรื่องที่นอนห้องเดียวกับผู้หญิงแล้วมันไม่ดีในหลายๆอย่างนั้น
ระหว่างที่เดินทางมาที่เทลเวลนี่ก็นอนด้วยกันมาตลอดเลยไม่ค่อยใส่ใจเท่าไร
ดังนั้นชั้นและซาเรียเลยตอบรับไป
「ไม่ใส่ใจอะไรหรอกครับ」
「ฉันเองก็ไม่มีปัญหา!」
「งั้นจะพักกันกี่วันดีล่ะ?」
「นั่นสินะ..........ก่อนอื่นก็ขอก่อนชั่วคราวซักเดือนนึงแล้วกันครับ」
「เข้าใจแล้วล่ะ ถ้างั้นก็50เหรียญเงินว่าแต่จ่ายไหวมั้ย?」
มาถึงขั้นนี้แล้ว ทั่วไปก็ควรจะสัก1เดือนแหละนะ
เรื่องจำนวนวันในหนึ่งเดือนที่ต่างโลกนี่ก็เหมือนๆกัน
ในความรู้ที่ได้จากพระเจ้ามีที่เขียนว่าเหรียญเงิน10เหรียญใช้ได้ประมาณปี
50เหรียญก็น่าจะควรจะใช้ได้ประมาณ5ปีสิ
แต่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรเลยกับโลกนี้ซะด้วย คงคาดไม่ถึงเรื่องค่าเงินที่มันเฟ้อขึ้นมากล่ะมั้ง?
..........งั้นแบบนี้จำเป็นต้องสำรวจเรื่องค่าเงินกันสักรอบแล้วล่ะ
สำหรับตอนนี้เรื่องเงินไม่มีปัญหาอยู่แล้วชั้นก็เลยหยิบเหรียญเงินจากไอเท็มบ็อกออกมา
「อ้ะ ไม่มีปัญหา นี่ครับ」
「จ้า งั้นก็รับไว้เลยนะ อ้ะ ฉันฟีน่าจ้ะ
ที่นี่มีฉันกับสามีแล้วก็ลูกสาวดูแลกัน3คน ฝากตัวด้วยนะ?」
「ผมชื่อเซอิจิครับ เอ่อ.........ขอฝากตัวด้วยนะครับ」
「ฉันซาเรียค่า!ขอฝากตัวด้วย」
「เซอิจิคุงกับซาเรียจังสินะ ถ้างั้นจะอธิบายเกี่ยวกับโรงแรมนี้แบบคร่าวๆแล้วกัน
อาหารทุกวันจะมีให้3ครั้ง เรื่องเวลานี่ไม่มีกำหนด
เพราะงั้นตอนที่อยากกินก็มาที่ห้องอาหารแล้วบอกสามีได้ตลอด
ที่ห้องอาหารไม่มีคนอยู่พอดี...........แต่ให้เจอกันไว้ก่อนดีกว่า
คุณคะ!ช่วยมานี่หน่อยสิ---?」
คุณสามีเป็นคนทำเหรอ...........ถ้าเป็นในนิยาย สามีที่พูดถึงต้องเป็นลุงหน้าดุหนวดเพิ้มแน่เลย
ถึงจะเป็นความคิดที่อคติแบบสุดๆแต่อิมเมจที่พูดมานั่นมันใช่ที่สุดในหัวของชั้น
แล้วถึงควรจะเป็นอย่างนั้นแต่คุณฟีน่าก็เป็นคนสวยมากซะด้วย
อืมม...........ผู้หญิงของโรงแรมต้องสวยนี่มันเป็นสามัญสำนึกหรือไงนะ?
ยังไงก็ตามแต่ตอนนี้ชั้นจินตนาการว่าสามีของคุณฟีน่าเป็นตาลุงล่ำบึกแล้วกัน
ทว่า จินตนาการของชั้นเป็นผุยผงในพริบตาเดียว
「เรียกเหรอ?」
「อ้ะ มาแล้ว สองคนนี้คือแขกที่มาพักในครั้งนี้น่ะ 」
「อย่างนี้นี่เอง.............ผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องอาหารชื่อไลค์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ?」
「เอ๋?อะ............ครับ เอ่อ..........เซอิจิครับ」
「ซาเรียค่า!」
สามีที่คุณฟีน่าแนะนำตัวให้นั้น----------เป็นหนุ่มหล่อใสแบบสุดๆ
ผ้ากันเปื้อนที่ใส่ให้อิมเมจแบบหนุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ของโลกเดิมด้วย
ใครกัน ใครเป็นคนกำหนดว่าสามีของโรงแรมต้องเป็นตาลุงกัน ของคุณไลค์นี่เป็นหนุ่มหล่อชัดๆ
「เซอิจิคุงกับซาเรียจังถ้าหิวก็บอกผมได้นะ?
แล้วถึงอาหารจะฟรี3ครั้งแต่ครั้งที่4ต้องจ่ายเงิน ระวังด้วยล่ะ?」
เข้าใจล่ะ เอาเถอะแค่ไม่ใส่ใจเรื่องเวลากินก็ดีแล้ว
แต่ว่า ทำไมอากัปกริยาของคุณไลค์มันดูสดใสไปหมดเลยน้า
หนุ่มหล่อนี่ขี้โกงชะมัด
「จริงสิ ถึงห้องอาบน้ำจะไม่มีแต่ถ้าอยากได้น้ำร้อนกับผ้าขนหนูมาเช็ดตัวล่ะก็
บอกชั้นมาได้เลยนะจะเตรียมให้ เสื้อฟ้าที่อยากซักเองถ้าบอกก็จะซักให้นะ」
ระหว่างที่กำลังอิจฉาหนุ่มหล่อนิดๆอยู่คนเดียว คุณฟีน่าก็บอกอย่างนั้นมา
บริการกันแบบสุดๆเลยนะเนี่ย
แต่ก็นะ ชั้นมีWashingที่เป็นเวทในชีวิตประจำวันอยู่แล้วคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอก............
「งั้นก็ นี่จ้ะ กุญแจห้อง ตอนออกไปข้างนอกก็มาฝากฉันไว้ได้
ถ้างั้นก็จะให้ลูกสาวพาไปที่ห้องให้นะ」
กุญแจห้องที่คุณฟีน่าให้มามีเลข301เขียนไว้
「ห้องข้างๆข้าเหรอ」
ทันใดนั้นคุณอัลโทเรียก็พึมพำเบาๆ
「เอาเถอะ ถ้ามีอะไรก็มาที่ห้องข้าได้นะ」
「ขอบคุณมากครับ!」
อื้ม คุณอัลโทเรียเป็นคนดีจังเลย
ระหว่างที่แอบซาบซึ้งในความใจดีของคุณอัลโทเรียก็มีเด็กผู้หญิงคนนึงออกมาจากด้านในโรงแรม
「เด็กคนนี้คือลูกสาวของพวกฉัน แมรี่จ้ะ」
「ลูกค้าใหม่นี่เอง!ฝากตัวด้วยนะ!」
「ชั้นเซอิจิ ฝากตัวด้วย」
「ฉันซาเรีย!ฝากตัวด้วยนะ」
แมรี่นั้นมีผมสีเขียวทรงโพนี่เทล ตาสีแดง และเหนือสิ่งอื่นใด
ด้วยความที่เป็นลูกสาวของคุณฟีน่ากับคุณไลค์เลยเป็นสาวสวยสุดๆ
อายุก็ไม่ได้ต่างกับชั้นมากเท่าไร..............
ว่าแต่ชายหล่อหญิงสวยแต่งงานกันนี่ลูกที่เกิดมาก็เป็นหนุ่มหล่อสาวสวยด้วยเป็นเรื่องจริงสินะ
เอาเหอะอาจจะมียกเว้นอยู่ก็ได้
「ถ้างั้นก็ตามมาเลย!จะพาไปให้」
ขณะที่กำลังตามแมรี่ไปอยู่ แมรี่ก็หยุดกะทันหันแล้วชี้นิ้วไปที่ๆหนึ่ง
「ตรงนั้นเป็นห้องอาหาร คุณพ่อทำงานตรงนั้นตลอดเพราะงั้นหิวเมื่อไรก็ไปที่นั่นได้เลยนะ?」
แล้วแมรี่ก็อธิบายเกี่ยวกับโรงแรมแบบง่ายๆด้วยบรรยากาศอย่างนั้น
จริงอยู่ว่าเป็นการอธิบายแบบง่ายๆแต่ชั้นรู้สึกเข้าใจได้มาก
ทั้งที่อายุน่าจะไม่ต่างกันมากแต่แมรี่เดาความคิดของชั้นได้ดีทีเดียว
แล้วตอนที่ยอมรับความจริงนั้นแบบคร่าวๆแป๊ปเดียวก็มาถึงหน้าห้องที่พวกเรามาพักกันแล้ว
「ที่นี่แหละคือห้องพักของพวกคุณเซอิจิ」
「ที่นี่เหรอ..........」
「ก็คิดว่าได้ฟังคำอธิบายส่วนใหญ่จากคุณแม่แล้วแต่ถ้ามีเรื่องไม่เข้าใจก็ถามได้นะไม่ต้องคิดมาก!
งั้นฉันก็ไปทำงานอื่นต่อล่ะ!」
「ขอบใจนะ」
ชั้นพูดกับแมรี่อย่างนั้น แมรี่ก็ยิ้มให้แล้วจากไป
「งั้น ข้าก็ได้เวลากลับห้องซะที ราตรีสวัสดิ์」
「ร ราตรีสวัสดิ์ครับ」
「 ราตรีสวัสดิ์!」
พอคุณอัลโทเรียหาวแล้วทักทายอย่างนั้นมา ก็เข้าไปในห้องข้างๆพวกเราทั้งอย่างนั้น
「เอาล่ะ พวกเราเองก็เข้าห้องกันเถอะ!」
「อื้ม!」
พอใช้กุญแจเข้าไปในห้อง ตรงหน้าก็เป็นที่ว่างนิดหน่อยสำหรับใช้สองคนแผ่ออกไป
เตียงมีสองเตียงครบ โต๊ะกับเก้าอี้เองก็มี เครื่องเรือนดีใช้ได้เลยนี่นา
ขณะที่ทอดสายตาไปรอบๆด้วยความรู้สึกอย่างนั้นซาเรียที่อยู่ข้างๆก็หาวแบบน่ารักๆออกมา
「ฮ้าว~.....」
「เป็นอะไร? เหนื่อยเหรอ?」
「อืม...........นิดหน่อยน่ะ.........」
「แต่ข้าวเย็นยังไม่ได้กินเลยนะ?」
「ถึงอย่างนั้นแต่.............ก็ไม่ค่อยหิวเลย」
「งั้นเหรอ...........งั้นนอนเลยมั้ย?」
「อื้ม...........」
ซาเรียเอามือถูกตาแล้วเดินไปที่เตียงอันหนึ่งจากนั้นก็ล้มลงไปบนเตียงทั้งอย่างนั้นเลย
ซักพักก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่น่าเอ็นดูออกมา
「.........คงเหนื่อยสินะ」
คงจริงแหละนะ ถึงชั้นจะตะลอนไปมาทั้งวันจนเหนื่อย
แต่ซาเรียที่มีอีกฝ่ายเป็นเด็กคงเหนื่อยหลายๆอย่างเหมือนกัน
ชั้นเลยอุ้มซาเรียไปบนเตียงที่ล้มไปแล้วห่มผ้าให้ดีๆ
ก่อนที่จะห่มผ้าให้ก็ใช้Washingก่อนเพื่อความสะอาดของร่างกาย
「อืออ................เซอิจิ............」
สีหน้าของซาเรียที่ละเมอชื่อของชั้นออกมานั้นทั้งสงบและดูสวยงาม
「เซอิจิ............ชอบที่สุด............」
พอชั้นฟังคำพึมพำนั้นก็หน้าแดงขึ้นมาเลย
ข ขนาดในฝันยังคิดถึงเรื่องชั้นเลยเหรอ...........
ด้วยความเป็นจริงที่ชวนเขินจนจะระเบิดออกมาบวกกับความรู้สึกดีใจเช่นนี้
ในอกของชั้นจึงรู้สึกถูกเติมเต็ม
「..................ราตรีสวัสดิ์นะซาเรีย」
สุดท้ายชั้นพึมพำอย่างนั้นแล้วชั้นเองก็ไปนอนโดยที่ไม่ได้กินข้าวเย็นด้วยทั้งอย่างนั้น