ตอนที่ 21 ตามบท?
ชั้นถูกเรียกจากด้านหลังกะทันหันเลยหันหลังไปดูเจ้าของเสียง
แล้วก็เป็นกลุ่มชายหน้าวายร้าย3คนยิ้มๆมองมาที่ชั้น
「..........มีธุระอะไรเหรอครับ?」
เพื่อไม่ให้เป็นการยั่วโมโหอีกฝ่ายเลยถามแบบนอบน้อมไว้ก่อน
ก็พอเห็นปฏิกิริยาแบบนั้นแล้ว ทำไมคุณเอลิสทถึงถอนหายใจก็ไม่รู้
แถมกัลซุสก็ทำหน้าหนักใจด้วย
3คนนี้..........มีอะไรเหรอ? จากปฏิกิริยาของพวกคุณเอลิสไม่เห็นจะเข้าใจเลย............
พอชั้นเอียงคอไปกับเรื่องนั้นชายที่ท่าทางเป็นหัวหน้าของทั้ง3คนก็พูดกับชั้น
「แกน่ะ ดูเหมือนกำลังจะไปทดสอบสินะ」
「เอ่อ ก็.............」
「สรุปคือเป็นน้องใหม่สินะ?」
「ก็คงเป็นตามที่พูดแหละครับ」
..........แย่แฮะ ไม่รู้เลยว่าควรพูดอะไรดี
ตอนรู้สึกอึดอัดเพราะไม่เข้าใจถึงเป้าหมายของอีกฝ่ายเลย ชายที่เป็นหัวหน้าก็ยิ้มให้อีก
นี่..........หรือจะเป็นที่เรียกกันว่า『การรับน้อง』
ตามที่เป็นบ่อยๆในโนเวลแนวแฟนตาซี ที่ตัวเอกจะถูกเยาะเย้ยแล้วเอาคืนทีหลังด้วยผลลัพธ์..........
แต่จากที่ดูแล้วชั้นก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบตัวเอกหรอก............
ในกรณีนี้เพราะเป็นน้องใหม่แต่ดันพาสาวสวยอย่างซาเรียมาด้วยเลยหมั่นไส้มากกว่า
ชั้นซึ่งกำลังเดาไปเรื่อย ชายที่เป็นหัวหน้าก็พูดขึ้นมากะทันหัน
「แก..........มาด้วยกันหน่อยซิ」
นี่ไง มาแล้ว-----------!ตามบทเป๊ะเลย!เข้าใจล่ะ
แต่ก็ยังไม่เข้าใจเหตุผลอยู่ดีแหละ อย่างน้อยช่วยบอกเหตุผลมาหน่อยได้มั้ย
「เอ่อ.........ทำไมล่ะครับ?」
เพราะไม่มีทางเลือกเลยลองถามไป ให้ตามไปโดยไม่มีเหตุผลอะไรเลยนี่ไม่เอาด้วยหรอก
แต่ทว่าคำตอบของชายเหล่านั้นต่อคำถามของชั้นนี่เกินคาดเลย
「เรื่องนั้น............พอดีมันพูดที่นี่ไม่ได้น่ะ」
「เอ๋」
เดี๋ยวสิ ชั้นไปทำอะไรไว้เหรอ? แล้วเนื้อหาที่พูดให้คนอื่นเขารู้ไม่ได้นี่มันอะไรล่ะ?
แล้วจะให้ชั้นดำน้ำตามไปเหรอไง? หวั่นสุดๆเลยนะเนี่ย
ถึงชั้นจะตบมุขในใจแค่ไหนพวกผู้ชายเหล่านั้นก็ไม่มีทีท่าจะถอยหนี
เอาเหอะ ก็ไม่ได้ตบมุขออกมาจากปากนี่นาไม่ถอยหนีมันก็แน่อยู่แล้ว..........
แต่ เรื่องที่มันยุ่งยากแบบนี้ชั้นต้องปฏิเสธอยู่แล้ว
「เอ่อ..........ต้องขอโทษด้วยแต่ขอปฏิเสธครับ」
「แกไม่มีสิทธิปฏิเสธหรอกเฟ้ย」
อ้าว?แปลกจังแฮะ..........ไม่นึกว่าจะถูกปฏิเสธสิทธิเสรีภาพกันไวแบบนี้?
สิทธิเสรีภาพของชั้นมันไปอยู่ที่ไหนกันน้า
ยิ่งกว่านั้นด้วยตัวชั้นเองก็ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไงดี
ก็เลยขอความช่วยเหลือจากหัวหน้ากิลด์กัลซุสที่น่าจะพอพึ่งได้
「เอ่อ..........กัลซุส ช่วยทำอะไรกับสถานการณ์นี้ทีสิ」
「ยอมแพ้ซะเถอะ」
「ไวชิบ!?」
ไหงขอให้ช่วยแล้วถึงต้องบอกให้ยอมแพ้ทันทีด้วยล่ะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย
「นายน่ะเป็นหัวหน้ากิลด์ไม่ใช่เหรอ? ช่วยทำอะไรสักอย่างสิ!」
「ชั้นมีอำนาจอย่างนั้นซะที่ไหนล่ะ!」
「ไม่ไหวแล้วฟ่ะหมอนี่!」
ไม่ได้เรื่องเลยยย!เป็นหัวหน้ากิลด์แต่ดันไม่มีอำนาจ...........ลาออกจากการเป็นหัวหน้าไปเหอะ!
「คุณเอลิส!ช่วยทำอะไรให้หน่อยสิครับ!น้องใหม่กำลังโดนแกล้งอยู่นะ!?」
ช่วยไม่ได้เลยหันไปขอคุณเอลิสที่สถานภาพเหนือกว่ากัลซุสแทน
แต่คุณอลิสกลับตอบมาอย่างไร้เยื่อใย
「ขอโทษด้วยนะแต่............ยอมแพ้ไปเถอะค่ะ」
「ทำไมอ่ะ!?」
หมายความว่าไงเนี่ย!?ทำไมทุกคนต้องบอกให้ยอมแพ้ด้วย!?
พอไม่มีคนขอให้ช่วยได้แล้วเลยหันไปในกิลด์ บางคนก็ยังหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัวเหมือนเดิม
ส่วนคนที่มองมาทางชั้นก็ส่งสายตาประมาณว่า『พูดยังไงก็เปล่าประโยชน์.......ยอมแพ้ซะเถอะ』
โอ๊ย...........ไม่เห็นจะเข้าใจเลยเฟ้ยยยยยยยยยย!3คนนี้มันมีอะไรกัน!?
หรือเก่งขนาดใครก็ห้ามไม่อยู่!?
ชั้นไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงดี คุณอลิสเลยให้คำแนะนำมา
「ครั้งแรกอาจจะเจ็บบ้าง.........แต่ไม่นานก็รู้สึกดีไปเองแหละ」
「พูดอย่างกับให้เปิดประตูบานใหม่แน่ะ!?」
นั่นมันกลายเป็นMแล้ว!ถ้าความเจ็บปวดเปลี่ยนเป็นความเพลิดเพลินได้มันก็สายไปแล้ว!
ให้ตามชายพวกนี้ไปอย่างว่าง่ายชั้นไม่เอาด้วยหรอก
แต่ทว่า ก็ใจเย็นแล้วคิดขึ้นมาได้อย่างกะทันหัน
ต่อให้สมมติว่าต้องถูกอัดจนงอมแต่ก่อนอื่นเลยนะด้วยสเตตัสที่ชั้นมีจะทำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?
บางทีชายพวกนี้ต่อให้โจมตีมาเต็มที่ยังไงก็มั่นใจว่าไม่บาดเจ็บแน่นอน
ที่เป็นประมาณนั้นเพราะสเตตัสปัจจุบันของชั้นมันห่างชั้นกันมาก
เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนซาเรีย...........ตามไปดีๆก็ได้
อีกฝ่ายบอกด้วยว่าไม่อยากจะพูดที่นี่ ชั้นก็จะได้หลีกเลี่ยงการทำอะไรที่มันสะดุดตาด้วย
...............ถึงเสื้อคลุมมันจะสะดุดตาอยู่ก่อนแล้วก็เถอะ
「..............เข้าใจแล้ว ตามไปก็ได้ครับ」
「ต้องอย่างนั้นสิ」
「ฉ ฉันด้วย---------」
ซาเรียทำท่าจะตามไปด้วยแต่ชั้นยกมือห้ามไว้
「ซาเรียอยู่รอกับพวกกัลซุสที่นี่แหละ เดี๋ยวก็จบแล้วล่ะ」
พูดด้วยเสียงอ่อนโยนเพื่อจะได้สบายใจเท่าที่ทำได้
แต่ซาเรียกลับยิ่งมีสีหน้ากังวลใจเข้าไปอีก
「ต แต่ว่า...........」
ซาเรียเป็นห่วงชั้นถึงขนาดนี้ก็รู้สึกขอบคุณอยู่หรอก แต่คงต้องอธิบายให้ซาเรียฟังอีกครั้ง
ก็เพราะไม่อยากให้ซาเรียเข้ามาเกี่ยวด้วยน่ะสิ
มั่นใจว่าป้องกันตัวเองได้อยู่แล้วแถมซาเรียถ้าแปลงร่างขึ้นมาก็มั่นใจได้ในพลังอันล้นหลาม
แต่มันน่าเป็นห่วงน่ะสิ.................
คิดแบบนั้นไปพลางทำท่าจะพูดแต่ชายที่เป็นหัวหน้ากลับชิงพูดซะก่อน
「ผู้หญิง เธอน่ะไม่ต้องตามมา เกะกะเปล่าๆ」
พอฟังที่ชายพวกนั้นพูดชั้นก็รู้สึกประหลาดใจอย่างปิดไม่มิด
อ อ้าว?ทั่วไปให้ผู้หญิงอย่างซาเรียตามมาด้วยก็เข้าทางเลยไม่ใช่เหรอ?
เพื่อจะได้โชว์ภาพชั้นตอนถูกกระทืบอะไรแบบนี้หรือแนวๆนี้ ทั่วไปมันต้องแบบนี้นี่นา?
ชั้นไม่เข้าใจจริงๆถึงจุดประสงค์ของชายพวกนี้เลยอดสับสนไม่ได้
แต่ชายเหล่านั้นก็ไม่สนเรื่องแบบนั้นของชั้นแล้วเดินไปที่ประตู
「เฮ้ย ตามมาดิ」
「ค ครับ」
ขณะที่ลนลามตามชายพวกนั้นไป กัลซุสที่แสนจะไร้ประโยชน์ก็พูดขึ้น
「เข้มแข็งไว้นะ นายยังมีซาเรียจังอยู่ อย่าให้จิตใจแตกสลายไปล่ะ............!」
「ก็บอกแล้วไงว่าพูดเรื่องอะไรกัน!?」
พอตบมุขทิ้งท้ายไว้ชั้นก็ออกไปจากกิลด์
「ไปซะแล้ว............」
「คุณกัลซุส ไม่ห้ามไว้จะดีเหรอ?」
「ก็ช่วยไม่ได้นี่นา............เพื่อปกป้องความบริสุทธิของตัวเองไว้............!」
「.............ต่ำช้าจริงๆเลยนะคะ」
「ฮ่าฮ่าฮ่า!นั่นก็เพื่อกล้ามเนื้อของฉัน!」
「ไม่เห็นจะเข้าใจเลยค่ะ................ แต่ก็ช่วยไม่ได้แล้ว
งั้นทางนี้ก็ไปหานักผจญภัยระดับBขึ้นไปมาเตรียมไว้แล้วกัน」
หลังจากที่ชั้นออกจากกิลด์ไปก็มีบทสนทนาอย่างนั้นโดยที่ชั้นไม่รู้
◆◇◆
「แถวนี้น่าจะใช้ได้」
สถานที่ๆหัวหน้ากลุ่มชายพามาคือตรอกด้านหลังที่ห่างจากกิลด์มากๆ
นี่ธงโดนอัดน่วมของชั้นกำลังถูกชูอยู่แน่ ไม่ต้องบอกก็ได้ว่าไม่มีวี่แววผู้คนอยู่เลย
ขนาดลองใช้สกิล『ค้นหาศัตรู』ตรวจดูเผื่อไว้ก็ไม่มีใครอยู่จริงๆ
ชั้นเลยยิ่งระวังตัวขึ้นไปอีกแต่ชายพวกนี้เผลอแป๊ปเดียวก็มาล้อมชั้นไว้ซะแล้ว
「อาวล่ะ..........รู้มั้ยว่าทำไมเพวกเราถึงพานายมาที่นี่?」
「...........ก็นะ」
ถึงเหตุผลจะไม่รู้แต่ที่แน่ๆคือต้องโดดอัดใช่มั้ยล่ะ
แต่ถ้าให้บอกเรื่องที่ชายพวกนี้คาดผิดไปอย่างคือพลังระดับสัตว์ประหลาดของชั้นนี่แหละ
ต่อให้คิดเรื่องนั้นไปก็ไม่ได้ช่วยให้ความระวังตัวของชั้นลดลงมา
แต่แล้วไม่รู้ทำไมชายพวกนี้ถึงฟังคำตอบของชั้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
「งั้นเหรอ...........ถ้างั้นจะได้คุยกันไวหน่อย
แล้วอีกอย่างพวกเราทุกคนที่จริงเป็นประเภทร้องแรงตอนอยู่ในห้องมากกว่าข้างนอกนะ」
「............หา?」
พูดเรื่องอะไรหว่า? ซัดอีกฝ่ายในห้องถนัดกว่าข้างนอก?
แต่ทำไมในห้องถึงดีกว่าข้างนอกล่ะ?........มันไม่เห็นเข้ากับเหตุผลที่ว่ามีคนมองเยอะนี่นา
แล้วด้วยสาเหตุนั้นก็เลยเลือกสถานที่ๆไม่มีวี่แววผู้คนด้วย
ขณะที่กำลังวิเคราะห์คำพูดของชายพวกนี้ จู่ๆชายที่เป็นหัวหน้าก็ถอดเสื้อเกราะออก
เสื้อที่ใส่ทับไว้ก็ปลดกระดุมออกหมด
จังหวะนั้น2คนที่เหลือก็เปลือยท่อนบนไปด้วย
นี่มัน............คือที่เขาเรียกกันว่าสภาพเอาจริงใช่ป่าวหว่า
ไม่สิ ถ้าถอดเสื้อเกราะออกก็จะต่อสู้แบบใช้อาวุธไม่ได้นี่นา........
สมมติว่าชายพวกนี้จะเอาจริงโดยไม่ใช้อาวุธ แล้วทำไมต้องลงทุนเอาจริงกับน้องใหม่ด้วยล่ะ?
ขณะที่มีเครื่องหมายคำถามปลิวว่อนอยู่ในหัว ชายที่เป็นหัวหน้าจับความรู้สึกของชั้นได้
เลยทำหน้าเอือมๆ
「อะไรกัน.........ไม่เข้าใจหรอกเหรอ?」
「เอ๋? ค ครับ」
「เฮ้อ..........ช่วยไม่ได้นะ........」
ชายที่เป็นหัวหน้าพูดแล้วก็ทำสีหน้าจริงจังทันทีจากนั้นก็พูดขึ้น
「ยาราไนก๊ะ?」
「....................」
.................................
.........................
...............เห?
แปลกจังน้า............ชั้นฟังผิดไปเหรอ?ตะกี้ ฟังชายตรงหน้าพูดได้ยินว่า『ยาราไนก๊ะ?』ด้วยล่ะ.....
ฮะฮ่าฮ่า!ชั้นต้องเข้าใจผิดไปแหงเลย!ใช่แล้ว ต้องเป็นแบบนั้นแหละ!
ชายคนนั้นทำท่าไม่ไหวเลยกับชั้นที่เหงื่อไหลไม่หยุดด้วยความสยอง
..........จากนั้นก็พูดโดยทำท่าเปิดเสื้อเชิ๊ตเต็มเหนี่ยวด้วยมือข้างเดียว
「ยาราไนก๊ะ?」
「เหยอ---------------------!」
เข้าใจผิดไปได้ก็ดีแล้วววววววววววววววววววววววววววววว!
ไม่ไหว...........ไม่ไหวแล้วฟ่ะเจ้าพวกนี้!สมกับเป็นหนึ่งในบรรดาพวกโรคจิต!
ถึงจะมั่นใจในสเตตัสที่สุดยอดแต่สีหน้าชั้นกลับได้แค่ย้อมไปด้วยความกลัว
แล้วชายคนนั้นก็พูดเสริมให้หนักข้อขึ้นไปอีก
「ข้าเป็นคนที่กินได้ไม่ใส่ใจต่อให้เป็นชายแท้ก็เถอะ?」
「กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!」
ใครก็ได้.........ใครก็ด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!ช่วยทีเท้อออออออออออออออออ!
ชั้นพยายามตะโกนสุดเสียงมองหาคนช่วย
แต่ที่แย่ก็คือแถวนี้ไม่มีใครอยู่เลยสักคน
「ไม่ต้องห่วงหรอก เจ็บเดี๋ยวเดียวเอง หลังจากนั้นก็............นะ?」
「หยุดทีเท้อออออออออออออออออ!ชั้นรสนิยมปกติของแท้นะเฟ้ย!!」
「ทีแรกทุกคนก็พูดแบบนี้แหละ...............แต่พวกแบบนั้นน่ะ
แค่ซ่อนรสนิยมที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้!เหมือนเจ้าพวกนี้ไง!」
「「เหอเหอ!ก้นสวยไปเลย!」」
「พวกนายก็เป็นเหยื่อด้วยเหรอ!?」
ไม่ไหวแล้วเจ้าพวกนี้ มันเกินเยียวยาไปแล้ว............!
กิลด์ศูนย์ใหญ่คือทำสิ่งที่อยากทำเท่าที่ต้องการงั้นเหรอ!?
แบบนี้ต้องเผ่นออกจากแถวนี้โดยด่วนแล้ว!?ไอ้ที่แบบนี้ชั้นไม่เอาด้วยแล้ว!
บางทีกิลด์สาขาที่อยู่ประเทศอื่นคงไม่มีพวกโรคจิตเหมือนอย่างที่นี่
โคลสก็มีบอกไว้แล้วด้วยว่าอย่ามาลงทะเบียนที่ประเทศนี้
..........เรื่องอย่างนั้นจะยังไงก็เอาไว้ก่อนเถอะ!ตอนนี้ต้องคิดก่อนว่าจะหนีจากสถานการณ์นี้ยังไงดี!?
แม้ชั้นลนลานพยายามหาทางหนีแต่ชายพวกนั้นก็ทำมือหยึกหยึยค่อยๆเข้ามาใกล้
เข้ามาพลางน้ำลายไหลไปด้วย เข้ามาโดยเอวสั่นๆไปด้วย.................สยองเฟ้ย!
ขณะที่เคลื่อนไหวโดยถอยหลังไปด้วยไม่นานก็โดนต้อนไปติดกำแพง
「นายที่ตามมาต้อยๆน่ะแหละผิดเอง ..................ทำใจซะเถอะ!」
「ไม่อ๊าวววววววววววววววว!」
ทำไงดี...............ทำไงดีฟะชั้น!?
นี่ก็คิดแล้วนะเนี่ย.................. ตอนนี้.............ก็มีแต่ต้องฝ่าออกไปเท่านั้น!
พอชั้นตัดสินใจได้แล้วก็ปล่อยพลังฝ่าออกไปรวดเดียว
ด้วยลักษณะภายนอกกับบรรยากาศที่ไม่ได้เปลี่ยนไป
เพราะงั้นอีกฝ่ายเลยยังมองเห็นชั้นมีสเตตัสต่ำเตี้ยอยู่เหมือนเดิม
แต่ด้วยความสามารถของ『พรางพลัง』ที่มีคือการควมคุมพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อสักครู่นี้
ทำให้พลังของชั้นที่มีอาชีพสัตว์ประหลาดถูกปลดปล่อยออกมา
「ขอหนีอย่างเต็มที่ล่ะ!」
「ว่าไงนะ!?」
ชั้นวิ่งไต่กำแพงที่อยู่ด้านหลังไปตามที่คิดไว้
ให้สู้เหรอ? รู้สึกว่ายังไงก็ไม่ชนะยังไงไม่รู้ ไม่รู้ด้วยว่าเพราะอะไรเหมือนกัน
เพราะงั้น ชั้นจึงเลือกการหนีเต็มที่
นอกจากนั้นต่อให้ชั้นซัดจนหมอบไปได้เดี๋ยวข่าวลือแพร่ออกไปจะลำบากกันพอดี
คิดแบบนั้นไปพลางวิ่งไปตามกำแพงแต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมากะทันหัน
..............อุหวา.............วิ่งบนกำแพงได้ด้วยแฮะชั้นนี่..............
ช็อกนิดหน่อยเลยนะเนี่ยกับสเปกของตัวเอง
ขณะที่ชั้นเอือมระอากับอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้เหนื่อยใจก็ได้ยินเสียงของชายพวกนั้น
「พลังขานั่น................อะไรหลายๆอย่างต้องสุดยอดแน่เลย!」
「อา.............ร่างกายนั่นต้องเป็นของพวกเราาาาาาาาาาาาา!」
「ไม่ให้หนีแน่!ตามไป...........ไล่ตามปายยยยยยยยยยยยยยยยยย!」
อื้ม ทำเป็นไม่ได้ยินดีกว่า แล้วก็รีบลืมเหตุการณ์เมื่อตะกี้ไปให้หมด เอาแบบนี้แหละ
ชั้นเคลื่อนที่ไปตามหลังคาโดยระวังสายตาของผู้คนไม่นานนักก็กลับมาที่กิลด์
「แค่เดี๋ยวเดียวก็กลับมาที่กิลด์อีกแล้ว....................」
แต่ว่านะถ้าอยู่ที่ประเทศนี้ต่อไปล่ะก็ยังไงก็ต้องได้เจอกันอีกแน่..................
นี่ชั้นจะหาความสงบไม่ได้ตราบใดที่ยังอยู่ในประเทศนี้เหรอเนี่ย
「เฮ้อ................ไม่อยากเลย.............」
ถึงจะเผลอพูดออกมาแต่มันก็ช่วยไม่ได้ ก็ชั้นเป็นชายแท้นี่นา
ไม่ว่าใครจะพูดยังไงชั้นก็เป็นพวกปกติ ช่วยเชื่อกันหน่อยเหอะ
ดังนั้นพอเข้าใกล้กิลด์แล้วจะเกิดอาการท้อแท้ใจก็ช่วยไม่ได้
ชั้นเลยปรับอารมส์ใหม่แล้วก้าวเข้าไปในกิลด์อีกครั้ง
และภายในกิลด์ก็ยังสับสนวุ่นวายกันอยู่เหมือนเดิม คือหาพวกปกติไม่เจอเลย
เก็บอาการเหลือรับไว้ในใจแล้วไปตรงประชาสัมพันธ์ที่พวกกัลซุสยังอยู่กันไม่ไปไหน
「หือ? โอ้!ปลอดภัยสินะ!」
「ค่อยยังชั่วนะคะ..............」
พอเห็นชั้นทั้งกัลซุสและคุณเอลิสต่างมีสีหน้าสบายใจกันอย่างสุดซึ้ง
「เอ่อ ก็พอถูไถน่ะ........... แล้วก็กัลซุสที่นายบอกว่าให้ยอมแพ้นี่เข้าใจแล้วล่ะ」
「งั้นเหรอ แล้วก็นะเจ้าพวกนั้นชอบทำแบบนี้ทุกทีเวลาที่มีนักผจญภัยหนุ่มหน้าใหม่มา
ต่อจากนี้ไปก็ระวังด้วยล่ะ」
「ไม่อ่ะ แบบนั้นต้องห้ามไว้สิ」
「ห้ามไว้หลายครั้งแล้ว............. แต่ว่านะ?เจ้าพวกนั้นใช้สามัญสำนึกทั่วไปพูดด้วยไม่ได้หรอก
ถึงเธอจะรอดปลอดภัยกลับมาแต่ก็รู้สึกใช่มั้ยล่ะ? แบบที่ว่า『ชนะเจ้าพวกนี้ไม่ได้หรอก』น่ะ」
รู้สึกสิ รู้สึกว่าเอาชนะไม่ได้แน่ ต้องบอกว่าไม่อยากไปสู้ด้วยมากกว่า
............ก็ระหว่างที่สู้อยู่อาจถูกควักโน่นล้วงนี่ก็ได้...............
ทั้งๆที่สเตตัสชนะได้แบบเหลือเฟือแต่ความเสียหายทางจิตใจมันใหญ่หลวงนะ
บางทีถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายปกติล่ะก็ชั้นได้โชว์พลังต่อสู้อันสุดยอดไปแล้ว
「ฉันเองก็เป็นผู้ฝึกตน...............อย่างเจ้าพวกนั้นน่ะจะให้มาสยบต่อกล้ามเนื้อของชั้นให้ดู!」
「อา.............พยายามเข้าแล้วกัน」
ขณะที่ตอบไปแบบนั้นโดยยิ้มแห้งๆใต้เสื้อคลุมไปด้วยก็มีใครบางคนมาดึงเสื้อคลุมของชั้น
พอหันหน้าไปดูก็เป็นซาเรียที่มองชั้นด้วยสีหน้ากังวล
「เซอิจิ เป็นอะไรมั้ย?」
「โอ้ คงเป็นห่วงสินะ」
ตอบแบบนั้นไปก็พลางลูบหัวซาเรีย ผมของซาเรียเนี่ยลื่นสลวยให้รู้สึกสัมผัสดีจัง
ซาเรียที่ถูกลูบหัวก็ตัวสั่นแบบจั๊กจี้อยู่หน่อยๆแล้วก็หรี่ตาลงยิ้มกลับมาให้
..........อุหวา รู้สึกเลยว่าซาเรียในตอนนี้น่ารักแบบสุดๆ
อยู่กับซาเรียต่อไปต้องเป็นพวกเอาแต่อวดแฟนอย่างไม่ต้องสงสัยแน่
เอาเหอะ เรื่องแย่ๆหยุดคิดแค่นี้ดีกว่า
สำหรับตอนนี้ซาเรียเป็นเพียงสิ่งเดียวที่คอยเยียวยาจิตใจของชั้นเรื่องนี้ไม่ผิดแน่นอน
ขณะที่กำลังสร้างสวนดอกไม้รอบๆตัวชั้นกับซาเรีย คุณเอลิสก็ส่งเสียงเรียกชั้น
「คุณเซอิจิ เกี่ยวกับเรื่องการทดสอบที่คุยไปเมื่อสักครู่นี้..............」
「อะ ครับ」
「ตอนนี้ได้ทำการตรวจสอบนักผจญภัยสูงกว่าระดับBที่ยังอยู่ที่กิลนี้เรียบร้อยแล้ว
ด้วยเหตุนี้.............」
「...........?」
ชั้นเอียงคอให้กับคุณเอลิสที่ขบฟันแบบเคืองๆพิกล มีเรื่องอะไรเหรอ?
ตอนที่ชั้นกับซาเรียกำลังอึดอัดกับปฏิกิริยาของคุณเอลิสนั่นเอง กัลซุสก็พูดกับพวกเรา
「อื้ม.......... เซอิจิคุงกับซาเรียคุงพวกเธอพึ่งมาประเทศนี้กันสินะ?」
「เอ๋? อา」
「ในเวลานี้ ที่นี่มีนักผจญภัยสูงกว่าระดับBอยู่แค่คนเดียวเองน่ะ」
「ถ้างั้นเอาเป็นคนนั้นก็ได้นี่นา มีปัญหาอะไรเหรอ?」
「ปัญหาเหรอ...........ก็ไม่ถึงระดับนั้นหรอกแต่ว่า............เอลิสคุง」
「นั่นสินะคะ..............มีแค่เรื่องนี้แหละที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไงดี」
「?」
ไม่เข้าใจที่กัลซุสกับคุณเอลิสคุยกันเลย ชั้นกับซาเรียจึงพากันเอียงคออีกครั้ง
พูดเรื่องของใครหว่า?
ห้ะ!?หรือว่าจะเป็น คงไม่ได้พูดถึงพลพรรคโฮโมเมื่อตะกี้นี้นะ!?
ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็...........ชั้นจะเผ่นจากที่นี่แบบเต็มสปีดเลยแน่
ขณะที่ในหัวคาดคะเนเรื่องน่ากลัวจนตัวสั่นสะท้านไปด้วย กัลซุสก็เรียกชื่อของคนๆนั้น
「อัลโทเรียคุง!อัลโทเรียคูงงงง!」
กัลซุสตะโกนเรียเข้าไปภายในกิลด์ทันที
แล้วตอนนั้นเอง เหล่านักผจญภัยที่ขนาดตอนชั้นโดนพวกโฮโมมายุ่งด้วย
ยังเอาแต่หมกมุ่นในโลกส่วนตัวกลับหยุดการเคลื่อนไหวโดยพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นทุกคนก็หันสายตาไปรวมอยู่ที่เดียวกัน
ชั้นเองก็ตามสายตาของทุกคนไปเพื่อดูบุคคลนั้น
ที่อยู่ตรงนั้นเป็นผู้หญิงผมสีเงินตัดปลายให้เท่ากันแบบเซอร์ๆ
ใส่เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้นที่ไม่รู้ว่าใช้วัตถุดิบอะไรทำ แล้วยังมีใส่เกราะอกและเกราะมือ
โดยกำลังยืนอยู่หน้าบอร์ดติดประกาศ
ผู้หญิงคนนั้นที่ถูกกัลซุสเรียกก็ส่งสายตามาทางพวกเรา
「อ้ะ!」
「หวา...........」
ทันทีที่ผู้หญิงชื่ออัลโทเรียหันหน้ามา ชั้นกับซาเรียต่างพากันตกตะลึงโดยไม่ทันตั้งตัว
ดวงตาอันแหลมคมเข้ากับหางตาเรียวยาวสวยได้รูปทั้งยังนัยน์ตาสีทองชวนให้นึกถึงสัตว์ร้าย
ไม่ได้มีผิวสีขาวบริสุทธิเหมือนซาเรียหรือคุณเอลิสแต่เป็นผิวสีแทนดูเข้มแข็ง
ถึงมองจากไกลๆจะวัดส่วนสูงที่แน่นอนไม่ได้แต่สำหรับผู้หญิงแล้วดูจะสูงมากทีเดียว
และเหนือสิ่งอื่นใดชั้นรู้สึกเลยว่ามีหน้าอกที่ถูกอัดจนแน่นอยู่ในเกราะอกกับสัดส่วนโดยรวมอันสุดยอด
ให้พูดโดยสรุปคือผู้หญิงที่กัลซุสเรียกเป็นสาวสวยสุดยอดผิวสีน้ำตาลนั่นเอง
แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาหาพวกเรา
「.............ไร」
คำที่พูดออกมานั้นรู้สึกได้ถึงความรำคาญใจนิดๆ
แต่กัลซุสก็ยังพูดต่อโดยไม่ใส่ใจเรื่องของผู้หญิงคนนั้น
「แหม ก็ตอนนี้มีคนลงทะเบียนใหม่มาปรากฏตัวแล้วน่ะสิ!
เลยว่าจะขอให้ช่วยเป็นผู้คุมสอบหน่อย............」
「ไอ้ของแบบนั้นน่ะ ให้คนอื่นเขาไปอย่าเอามาที่ข้าดิ นายกับอลิสก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอไง?」
「เอ่อแบบว่า............มันก็ใช่อยู่หรอก........」
สุดยอด พึ่งเคยเห็นผู้หญิงพูด『ข้า』กับตาก็คราวนี้แหละ
เอาเถอะก็เข้ากับบรรยากาศดีนะ............. จะว่าไปที่รู้อยู่แล้วนี่มันเรื่องอะไรหว่า?
「ก็อยากบอกอย่างนั้นหรอก? แต่ตอนนี้ที่นี่นักผจญภัยสูงกว่าระดับBมีแต่เธอเท่านั้น
ถ้าปล่อยอย่างนี้ต่อไปก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรกว่าจะได้ออกกิลด์การ์ดให้กับน้องใหม่กันพอดี」
「งั้นก็ให้รอจนกว่าพวกนักผจญภัยสูงกว่าระดับBกลับมาก็ได้นี่
ไม่เห็นจำเป็นต้องมาลำบากข้าเลยนี่หว่า」
「แต่มันก็นะ............」
เห็นกัลซุสพูดออกแนวไม่ได้เรื่องคุณเอลิสเลยเสริมให้
「น่าเสียดายนะแต่ สูงกว่าระดับBนอกเหนือจากคุณอัลโทเรียแล้วทุกคนไปประเทศอื่นกันหมด
ต่อให้มาจากประเทศที่ใกล้ที่สุด กว่าจะกลับมาอย่างต่ำก็1เดือน.............
อีกทั้งยังไม่มีมีคนที่กำลังจะเลื่อนเป็นBด้วย」
「............」
ผู้หญิงคนนั้นเงียบไปเลยด้วยคำพูดของคุณเอลิส
จากนั้นพอเว้นช่วงไปหน่อยก็หันสายตามาทางชั้น
「เฮ้ย แกน่ะ แกคือไอ้เบื๊อกที่จะมาให้ข้าเป็นผู้คุมสอบสินะ?」
「เอ๋? มีอะไรเหรอครับ?」
แย่ล่ะ............พูดด้วยแบบกะทันหันไปหน่อยจนไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไงดี
ทำไมกันน้าไม่นึกเลยว่าชั้นจะไม่ได้เรื่องเวลาอยู่ตรงหน้าผู้หญิงแบบนี้
แต่ทว่าคำตอบของชั้นมันเกินคาดล่ะมั้งผู้หญิงคนนั้นถึงได้ทำหน้าประหลาดใจ
「แกน่ะ.........สติยังดีรึเปล่า?」
「แหม..........สติดีอะไรนี่มันก็............เนอะ?」
「จริงด้วย!」
ถึงซาเรียจะมีท่าทางแบบนั้นแต่บอกได้เลยว่าซาเรียเองก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับคำพูดของผู้หญิงคนนั้นเลย
พอเห็นชั้นสับสนได้ที่ กัลซุสก็พูดกับผู้หญิงคนนั้น
「พอดีพวกเขาพึ่งจะมาที่นี่กันน่ะ จะไม่รู้เรื่องของอัลโทเรียคุงก็ไม่แปลกหรอกใช่มั้ยล่ะ?」
「ยังไงก็เถอะ.........ข้ามันระดับAเลยนะ ต้องรู้จักอยู่บ้างล่ะน่า............」
「รายละเอียดจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ!รับๆงานไปซะนะ อัลโทเรียคุง!」
「บอกแล้วไงว่า-------------」
「นอกจากนั้น ถ้าเป็นพวกเขาล่ะก็ต่อให้เป็นสภาพที่มีปัญหาของเธออาจจะรับไหวกันก็ได้?」
「อึก...............」
หือ? สภาพที่มีปัญหา? ไม่เห็นจะรู้เลยว่าเป็นอะไร
ยิ่งกว่านั้นยังไม่สนใจชั้นกับซาเรียแล้วพูดเอาเองอีก...........
「...........มีหลักฐานอะไรล่ะถึงได้พูดอย่างนั้นมา」
ผู้หญิงคนนั้นพูดเสียงต่ำแบบน่ากลัวแต่กัลซุสก็ไม่ได้ใส่ใจท่าทางแบบนั้นเลย
แถมยังยิ้มสดใสกลับมาอีก
「ของอย่างนั้นน่ะ............นอกจากกล้ามเนื้อของฉันแล้วจะมีอะไรอีกล่ะ!
กล้ามเนื้อของฉันนี่แหละคือที่สุดแห่งเหตุผล!จะมีเหตุผลอื่นใดที่เหนือกว่านี้อีกเหรอ!」
มีแน่นอนอยู่แล้วเฟ้ย ต้องบอกว่าไม่มีสิจะแย่เอา? นี่เอากล้ามเนื้อมาเป็นเหตุผลเนี่ยนะ
เผลอหรี่ตาแล้วตบตบมุขในใจเลย
ทว่าผู้หญิงคนนั้นหลังจากมองกัลซุสด้วยสีหน้าจริงจังแล้วก็หันมาทางพวกเรา
「..............เข้าใจแล้ว เรื่องผู้คุมสอบจะรับไว้ก็ได้」
ดูท่าผู้หญิงคนนั้นจะรับเป็นผู้คุมสอบให้แล้วแฮะ
เอาเป็นว่าเท่านี้ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องการทดสอบแล้ว จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็เริ่มแนะนำตัวเอง
「ข้าชื่อ อัลโทเรีย เกรม」
ต่อจากนั้นก็ทำหน้าเศร้าแล้วบอกต่อว่า---------
「อัลโทเรียแห่ง≪ภัยพิบัติ≫น่ะ」
-------------ออกมา