ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 19 เมืองหลวงเทลเบล

ตอนที่ 19 เมืองหลวงเทลเบล

ชั้นที่ลืมเรื่องธรรมดาทั่วไปอย่างการLvอัพนั้น ไม่เข้าใจถึงความหมายของเสียงในหัวไปพักนึง
ก็นั่นไง...........จนถึงตอนนี้เอาแต่วิวัฒนาการอย่างเดียว เลยลืมเรื่องLvไปเลย.........
งั้น ตอนนี้ที่เสียงในหัวที่ได้ยินว่าLvอัพก็หมายความว่าLvของชั้นมันเพิ่มขึ้นแล้วงั้นสิ
ว่าแต่ ทำไมคำพูดที่บอกว่าLvอัพนี่ถึงไม่มีบรรยากาศตื่นเต้นคึกคักเลยอ่ะ?
ก่อนอื่น เพื่อยืนยันดูว่าสเตตัสเป็นยังไงบ้าง ชั้นเลยรีบเปิดหน้าจอสเตตัสขึ้นมาดู

≪ฮิรากิ เซอิจิ≫
เผ่าพันธุ์:มนุษย์  (มนุษย์)
เพศ:ชาย (ชาย)
อาชีพ:สัตว์ประหลาดนิรนาม (นักดาบเวท)
อายุ:17 (17)
เลเวล:2 (2)
พลังเวท:216030 (21)
พลังโจมตี:218090 (21)
พลังป้องกัน:213270 (21)
ว่องไว:220270 (22)
โจมตีเวท:215580 (21)
ป้องกันเวท:216680 (21)
โชค:209040 (20)
เสน่ห์:ตึกตักใจสลาย (20)
≪อุปกรณ์สวมใส่≫
เสื้อเชิ้ตคุณภาพดี กางเกงคุณภาพดี เสื้อในคุณภาพดี กางเกงในคุณภาพดี โซ่ลิงเจ้าปัญญา
ดาบสั้นมณีภูติน้ำ กำไลค่ำคืน โชกเกอร์หินราชาดำ สร้อยคอแห่งรักไร้สิ้นสุด
เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ
≪สกิลเฉพาะตัว≫
จดจำทันที จดจำสมบูรณ์แบบ เรียนรู้ทันที ฟื้นตัวทันที แยกส่วนสมบูรณ์แบบ ตาใจ
≪สกิล≫
【โจมตี】เท้าสังหาร เขี้ยวคู่ เล็บแกร่ง
【ทนทาน】ทนทานเหน็บชา ทนทานนอนหลับ ทนทานสับสน ทนทานหลงไหล
ทนทานกลายเป็นหิน ทนทานสกัดกั้น ทนทานพิษ ทนทานอ่อนเพลีย
【เคลื่อนไหว】ก้าวพริบตา
【พิเศษ】ตรวจสอบขั้นสูง ปรุงยาชั้นเยี่ยม สร้างเครื่องมือ:ชั้นหนึ่ง ค้นหาศัตรู
พรางตา แทรกซึม ตาทิพย์ ดูดซึม บีบอัด
≪เวทมนตร์≫
เวทในชีวิตประจำวัน เวทธาตุน้ำขั้นสูงสุด เวทธาตุมืดขั้นสูงสุด
≪ศาสตร์ลับ≫
ลมกรด ประกายแสง เมฆหมอก
≪วิชายุทธ≫
วิชาดาบพิทักษ์สำนักเซโฟสขั้นเจ้าสำนัก
≪ฉายา≫
ผู้ใช้กลิ่น ชายผู้มีภรรยาเป็นกอลิล่า จุดสูงสุดแห่งสรรพสิ่ง ไม่รู้จักยับยั้งตนเอง ราชาแห่งตัวผู้
≪เงินที่มี≫
1,000,500,000G

「สุดบัดซบเลยเฟ้ยตัวชั้น!」

ชั้นทรุดลงไปที่ตรงนั้นเลย
ก็มันไมไหวแล้วนี่นา...............สิ่งที่ต้องแบกรับเนี่ย?
อัพแค่ Lvเดียวทำไมเพิ่มสเตตัสตั้ง1แสนอ่ะ? นี่ ทำไมอ่ะถามหน่อยดิ?
เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลัง ก่อนอื่นเลยทั้งที่ชั้นปราบสไลม์ที่สูงกว่าตั้ง87Lv
ทำไมถึงขึ้นมาแค่Lvเดียวนี่สิ
เอาเหอะ..........ขืนLvขึ้นมาพรวดเดียวล่ะก็ชั้นมีหวังได้รับความเสียหายทางจิตใจมากกว่าตอนนี้แหง
อืม ชั้นที่รู้สึกสบายใจกับการที่ขึ้นมาแค่Lvเดียวนี่ก็แปลกดีเนอะ
เอ๊ะ? อยู่ดีๆมีเหงื่อออกจากตา.............
ชั้น.............เป็นมนุษย์แน่เหรอ? ไม่ใช่ว่าออกจาความเป็นมนุษย์แล้วนะ?

「มันยังไงกันน้าตัวชั้นนี่.......」

ขณะที่บ่นพึมพำเงียบๆ ซาเรียก็ย่อตัวมาที่ข้างๆชั้น

「เข้มแข็งไว้นะ เซอิจิ」
「อื้ม.............」

บางทีซาเรียคงไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมชั้นถึงสลดไปแต่ก็รู้สึกดีใจกับคำพูดอันอ่อนโยนนั้น
รักเธอที่เป็นแบบนี้ที่สุด
ชั้นรวบรวมกำลังใจอีกครั้งแล้วลุกขึ้นมา

「สิ่งที่ผ่านไปแล้วก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ปรับอารมส์ใหม่แล้วออกเดินทางกันต่อดีกว่า!」
「อื้ม!」

พอซาเรียตอบรับแล้วพวกเราก็ก้าวเดินกันต่อไป

◆◇◆

「ย่าห์」

ป๊าง!
ตั้งแต่ปราบสไลม์ตัวแรกก็ผ่านมาได้5วันแล้ว
ช่วง5วันมานี่ก็ไม่ได้มีอีเว้นโจรเข้าโจมตีหรือคืบหน้าไปมุฟุฟุกับซาเรียแต่อย่างใด
ถ้าให้ยกตัวอย่างเรื่องที่ฝืนใจที่ดันเจอก็มีแต่โดนสไลม์เข้าโจมตีนี่แหละ
..............เอาเถอะมันก็ทำให้Lvเพิ่มขึ้นแหละนะ
อ้ะแล้วก็ของที่เขียนอยู่ใน『ช่วงชีวิตของสไลม์』ส่วนใหญ่มีแต่ของไร้สาระอย่าง
สไลม์กินอะไรเข้าไปบ้างไม่รู้จะมีไปทำไม
เหตุการณ์ที่ย่อยๆก็มีอยู่มากแต่ก็ถูกกลบด้วยการโจมตีของสไลม์เลยข้ามๆมันไป
เพราะสุดท้ายมันก็เรื่องเดิมๆนั่นแหละ
ดรอปไอเท็มที่ตกกระจายก็โยนเข้าไอเท็มบ็อกไป
ผ่านไปได้ย่อหน้านึง ชั้นก็เริ่มบ่นพึมพำ

「..........ช่างว่างเปล่าเหลือเกิน」

ทุกครั้งที่สไลม์โผล่มาก็เชือดในพริบตา อย่างกับเป็นบอทแน่ะ
ตอนที่กำลังทอดสายตาออกไปไกลๆก็มีเสียงดังขึ้นในหัวของชั้นอีกครั้ง รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีสุดๆ

『LVได้อัพแล้ว
ค่าสูงสุดของประสิทธิภาพสกิล【พรางตา】ได้เพิ่มขึ้นแล้ว
ทำการปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพไปสู่【พรางพลัง】
ประสิทธิภาพของสกิล【ค้นหาศัตรู】เพิ่มจากรัสมี10เมตรเป็น500เมตรแล้ว』

「จะเอายังไงกับชั้นเนี่ย!?」

LVมันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว!
แต่ช่วง5วันมานี่สไลม์ที่จัดการไปรวมๆก็ได้ตั้ง107ตัว
ทั้งที่เป็นอย่างนั้น LVของชั้นก็เพิ่มขึ้นมาอยู่แค่10เอง
ถึงพอเริ่มเข้าใกล้เมืองLVของสไลม์ก็ค่อยๆต่ำลงเรื่อยๆแต่LVก็ยังขึ้นช้าอยู่ดีแหละ
แต่ยังไงชั้นก็ยินดีที่เป็นแบบนั้นอย่างยิ่งล่ะนะ
ทำไมน่ะเหรอ? ลองดูสเตตัสของชั้นแล้วจะเข้าใจเองแหละ

≪ฮิรากิ เซอิจิ≫
เผ่าพันธุ์:มนุษย์  (มนุษย์)
เพศ:ชาย (ชาย)
อาชีพ:สัตว์ประหลาดนิรนาม (นักดาบเวท)
อายุ:17 (17)
เลเวล:10 (10)
พลังเวท:1016030 (50)
พลังโจมตี:1018090 (50)
พลังป้องกัน:1013270 (50)
ว่องไว:1020270 (50)
โจมตีเวท:1015580 (50)
ป้องกันเวท:1016680 (50)
โชค:1009040 (50)
เสน่ห์:ตึกตักใจสลาย (50)
≪อุปกรณ์สวมใส่≫
เสื้อเชิ้ตคุณภาพดี กางเกงคุณภาพดี เสื้อในคุณภาพดี กางเกงในคุณภาพดี โซ่ลิงเจ้าปัญญา
ดาบสั้นมณีภูติน้ำ กำไลค่ำคืน โชกเกอร์หินราชาดำ สร้อยคอแห่งรักไร้สิ้นสุด
เรเปียร์วังวนแห่งความเกลียดชัง เรเปียร์แห่งความรักอันล้นเหลือ
≪สกิลเฉพาะตัว≫
จดจำทันที จดจำสมบูรณ์แบบ เรียนรู้ทันที ฟื้นตัวทันที แยกส่วนสมบูรณ์แบบ ตาใจ
≪สกิล≫
【โจมตี】เท้าสังหาร เขี้ยวคู่ เล็บแกร่ง
【ทนทาน】ทนทานเหน็บชา ทนทานนอนหลับ ทนทานสับสน ทนทานหลงไหล
ทนทานกลายเป็นหิน ทนทานสกัดกั้น ทนทานพิษ ทนทานอ่อนเพลีย
【เคลื่อนไหว】ก้าวพริบตา
【พิเศษ】ตรวจสอบขั้นสูง ปรุงยาชั้นเยี่ยม สร้างเครื่องมือ:ชั้นหนึ่ง ค้นหาศัตรู
พรางตา แทรกซึม ตาทิพย์ ดูดซึม บีบอัด
≪เวทมนตร์≫
เวทในชีวิตประจำวัน เวทธาตุน้ำขั้นสูงสุด เวทธาตุมืดขั้นสูงสุด
≪ศาสตร์ลับ≫
ลมกรด ประกายแสง เมฆหมอก
≪วิชายุทธ≫
วิชาดาบพิทักษ์สำนักเซโฟสขั้นเจ้าสำนัก
≪ฉายา≫
ผู้ใช้กลิ่น ชายผู้มีภรรยาเป็นกอลิล่า จุดสูงสุดแห่งสรรพสิ่ง ไม่รู้จักยับยั้งตนเอง ราชาแห่งตัวผู้
≪เงินที่มี≫
1,002,378,000G

「ไม่เอาแล้ววววววววววววววววว!」

มันอะไรกันฟะ!? สเตตัสทั้งหมดเกิน1ล้านเนี่ยนะ!?นี่มันใช่สเตตัสของLV10แน่เหรอ!?
จะว่าไปนี่มันไม่ใช่สเตตัสของมนุษย์แล้วเฟ้ย!?
ตกลงชั้นนี่เป็นมนุษย์แน่เหรอชักกังวลซะแล้วนะเนี่ย!ใครก็ได้ช่วยตอบที!

「แล้วนี่มันอะไรกันอ่ะ!? พรางพลังเนี่ย? อธิบายมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!」

พอชั้นตะโกนขึ้นจู่ๆก็มีหน้าจอโปร่งใสแสดงขึ้นมาตรงหน้าเหมือนเตรียมไว้อยู่ก่อนแล้ว

「โว้ว!? ...............แล้วมันอะไรกันหว่า?」

จู่ๆก็โผล่ขึ้นมาเลยตกใจนิดหน่อยแล้วก็พลางอ่านเนื้อหาดู

『พรางพลัง』.......เป็นประสิทธิภาพอย่างหนึ่งของสกิล『พรางตา』
ซึ่งจะแตกต่างจากประสิทธิภาพของการพรางตาที่แสดงมาจนถึงเดี๋ยวนี้
เพราะสามารถพลางบรรยากาศได้ด้วย
พลังที่แท้จริงจะถูกพรางไปเหมือนกับค่าของสเตตัสที่พรางตาแสดงออกมา
สามารถควบคุมพลังที่ใช้ออกมาได้ด้วยเช่นกันทว่าผลของพรางตาที่แสดงออกมาจะถูกยกเลิก

「...........หมายความว่าไงอ่ะ?」

เอ อะไรกันหว่า? สรุปก็คือไม่ใช่แค่สเตตัสที่ให้อีกฝ่ายได้เห็น
แต่พรางบรรยากาศว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งเหมือนอย่างในการ์ตูนได้ด้วย?
นอกจากนั้นก็มี ควบคุมพลังที่ใช้ได้.........ที่เปรี้ยงใส่สไลม์!เอ๊ยไม่ใช่งั้นก็เป็นเรื่องดีน่ะสิ?
จะไม่ปลิวกระจายไปอีกแล้วสินะ?
.......................

「สำเร็จแล้ววววววววววววววววววววว!」

ชั้นตั้งท่าชูกำปั้นสองข้างขึ้นมาโดนไม่ได้ตั้งใจ
เท่านี้.............เท่านี้ก็ทำได้แล้ว!ไม่ต้องถูกคนแปลกหน้ามองเป็นสัตว์ประหลาดแล้ว!
จนป่านนี้แล้วแต่ชั้นก็ดีใจที่ควบคุมพลังให้อยู่ในระดับมนุษย์นะ!
ถึงทั่วไปจะอยากแสดงพลังกันก็เถอะ.................
อื้ม เท่านี้สเตตัสที่เว่อร์อลังการจนถึงตอนนี้ก็จะได้แย่ในอีกความหมายแทนซะที

「จะว่าไปประสิทธิภาพของสกิล『ค้นหาศัตรู』นี่...............เพิ่มแบบสุดๆเลยไม่ใช่เหรอ?」

พรวดเดียวจาก10เมตรเป็น500เมตรเลย นี่มันไม่ไหวนะ
เอาเหอะ สกิลค้นหาศัตรูมันก็ไม่ใช่สกิลสายโจมตีสักหน่อยใช้ๆไปไม่ต้องคิดอะไรมากก็ได้
แถมประสิทธิภาพในการค้นหาศัตรูสูงขึ้น มันก็ต้องเป็นเรื่องดีแน่อยู่แล้ว
ขณะที่สุขๆเศร้าๆอยู่คนเดียว ซาเรียก็วิ่งเข้ามาหาชั้น

「ซาเรีย!สำเร็จแล้วล่ะ ชั้นน่ะ..............ในที่สุดก็ปลอมเป็นมนุษย์ได้แล้ว!」
「? ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่................ยินดีด้วยนะ!」

ซาเรียยิ้มตอบกลับมาทำเอาหัวใจชั้นโล่งไปเลย
แต่ที่ว่า『ปลอม』เป็นมนุษย์ได้เนี่ยจะ『อธิบาย』ให้ก็ไม่ได้ซะด้วย
แต่สำหรับชั้นในตอนนี้ก็พอใจแล้วล่ะ ถ้าชั้นถูกโจมตีทางจิตใจมากกว่านี้ล่ะก็จะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้
ระหว่างที่ชั้นกับซาเรียกำลังสนุกสนานกับเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่
ซาเรียก็มีสีหน้าตกใจขึ้นมากะทันหันเมื่อจ้องหน้าชั้น

「มีอะไรเหรอ?」
「เซอิจิ ของสวมหัวมัน...........」
「ของสวมหัว.............หมวกเกราะน่ะเหรอ?」

ชั้นเอียงคอกับคำพูดของซาเรีย
หมวกเกราะของชั้นมันเป็นอะไรเหรอ?
แล้วซาเรียก็พูดถึงสภาพของหมวกเกราะให้ฟัง

「ส ส่องแสงอยู่ล่ะ...........」
「เห ส่องแ-------------หา?」






032.jpg

ชั้นเผลอตอบแบบนั้นกลับไป
ก็มัน...........หมวกเกราะส่องแสงเนี่ยนะ?ไม่เห็นจะเข้าใจเลย สภาพมันเป็นยังไงอ่ะ
แต่ ในความเป็นจริงซาเรียที่มองหมวกเกราะที่ชั้นสวมอยู่ก็ตกใจซะด้วย
ชั้นที่คิดว่ารอบๆนี้ก็มีแค่ซาเรียอยู่คงถอดได้ล่ะมั้งก็เลยลองถอดหมวกเกราะที่สวมอยู่ดู

「.................」

บอกผลลัพธ์เลยแล้วกัน

「ส่องแสงได้ด้วยอ่ะ..................!」

เอ๋ นี่มันอะไรกัน!? มันเกิดอะไรขึ้น!? ตัวเองพูดไปยังไม่เข้าใจเลยนะเนี่ย!?
นอกจากนั้น แสงที่ส่องออกมาก็เป็นแสงอ่อนๆ เลยไม่ทำลายสาย-------------
ปิ๊งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!

「「ตา..........ตาช๊านนนนนนนนนนนนนนนนนน!?」」

ชั้นกับซาเรียปิดตาด้วยความเจ็บปวด
ระหว่างนั้นมือที่หมวกเกราะอยู่ก็ปล่อยมันลงพื้นทันที
แต่เฮ้ย ทันทีที่สบายใจก็มาส่องแสงอย่างแรงใส่นี่ขอทีเถอะ!
ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วนะทำไมมีพวกที่ทำลายสายตาเยอะแบบนี้!?
ตอนที่วิวัฒนาการนั่นก็ด้วย!แสงมันจะเยอะไปมั้ย!?
ถึงพวกเราจะเปิดตากันไม่ได้ไปสักพักแต่พอเวลาผ่านไปการมองเห็นก็กลับคืนมา

「ระยิบระยับไปหมดเลย..........」
「อู.................」

ขณะที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะความเจ็บปวดยังไม่หายไปก็มีภาพของสิ่งแปลกๆเข้ามาสู่สายตา

「.........นั่นมันอะไรน่ะ」

ของที่อยู่ในสายตานั้นเป็นของที่ดูเป็นเสื้อคลุมแปลกๆ
ยิ่งกว่านั้นพอมานึกดูดีๆตรงที่ของที่ดูเป็นเสื้อคลุมหล่นอยู่นั้นคือที่ๆชั้นทำหมวกเกราะตกไว้เมื่อตะกี้นี้
ก็เลยเข้าไปหยิบของที่ดูเป็นเสื้อคลุมขึ้นมา

「...........ก็เสื้อคลุมนี่หว่า」

เสื้อคลุมที่หยิบขึ้นมานั้นเป็นเสื้อคลุมสีดำล้วนไม่มีการประดับตกแต่งใดๆทั้งสิ้น

「เฮ้ยเฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย แล้วหมวกเกราะมันหายไปไหนอ่ะ」

ระหว่างที่แผ่เสื้อคลุมออกมาแล้วหาหมวกเกราะไปด้วยก็มีกระดาษสีขาวหล่นมาจากเสื้อคลุม

「เซอิจิ มีอะไรหล่นมาด้วยล่ะ?」

ซาเรียเก็บกระดาษที่หล่นลงมาแล้วเอาให้ชั้น

「อะไรหว่า?」

พอกางกระดาษที่ส่งมาให้เนื้อหาก็ดูจะเป็นจดหมาย

『ไงครับ นี่คุณแกะนะ』
「นายเองเหรอ!?」

ชั้นเผลอตบมุขกับจดหมายเลย

「เจ้านี่เป็นจดหมายจากแกะงั้นเหรอ!?」

ก็ไม่เข้าใจหรอกนะแต่ก่อนอื่นก็ลองอ่านดูก่อนแล้วกัน

『ก่อนอื่นก็ยินดีด้วยนะครับที่LVอัพ นี่ก็ค่อยๆห่างจากความเป็นมนุษย์ไปเรื่อยแล้วเนอะ』
「ช่างชั้นเหอะ!」

จะว่าไปทำไมถึงรู้ว่าLVอัพล่ะ!?

『เอาล่ะคิดว่าคงทำอะไรไม่ถูกที่อยู่ๆหมวกเกราะส่องแสงขึ้นมา
แต่ตรงจุดนั้นขอให้ลองนึกทบทวนดูนะครับ
กระผมนั้นก็ได้อธิบายไปแล้วว่าไม่นานหมวกเกราะก็จะหลุดออกมาเอง
ที่หมวกเกราะได้เปลี่ยนเป็นผ้าคลุมนั่นคือเรื่องจริง
สรุปก็คือแสงที่ส่องในครั้งนี้เป็นโชว์แบบใหม่ของการ【วิวัฒนาการ】หมวกเกราะน่ะครับ』
「โชว์แบบใหม่อะไรกันฟะ!?」

ยิ่งกว่านั้นหมวกเกราะวิวัฒนาการได้!? เล่นเอาตบมุขไม่ถูกเลยนะเนี่ย!

『ส่วนเงื่อนไขสำหรับวิวัฒนาการหมวกเกราะนั้นคือการที่ท่านเซอิจิLVสูงขึ้น
จนค่าตัวเลขที่สกิล【พรางตา】แสดงออกมาถึงจุดที่กำหนด
แล้วเรื่องที่เมื่อLVสูงขึ้นประสิทธิภาพของพรางตาจะเปลี่ยนไปนั้นกระผมก็รู้อยู่แล้วด้วยนะ』

อย่างนี้นี่เอง.............เพราะงั้นถึงได้รู้เรื่องที่ชั้นLVอัพสินะ

『การที่ประสิทธิภาพของสกิลพรางจะเปลี่ยนไปนั้น
ทำให้หน้าตาของท่านเซอิจิกลับเป็นหน้าตาแบบเดิม
เพราะงั้นหมวกเกราะที่ใช้ปิดบังหน้าตาก็คงไม่จำเป็นแล้วล่ะครับ』
「ชั้นคิดว่าไม่ได้จำเป็นตั้งแต่แรกแล้วล่ะ」

ครึ่งนึงก็เพราะแกะกะจะใช้ฆ่าเวลาไม่ใช่เหรอไง? ไม่เห็นจะอยากได้เลย

『หน้าตากลับเป็นแบบเดิมนี่ดีรึเปล่าเรื่องนั้นก็เป็นปัญหาอยู่ใช่มั้ยล่ะครับ
ตรงจุดนั้นจึงได้เตรียมเสื้อคลุมที่ไม่เด่นสะดุดตาของโลกนี้ให้
แล้วเพราะเสื้อคลุมเป็นสัญลักษณ์ของจอมเวทต่อให้ใส่ก็ไม่รบกวนคุณทหารเขาด้วยเช่นกันครับ』

ก็จริงนะ สำหรับโลกแฟนตาซีเสื้อคลุมต้องมีอยู่แล้ว
...........แล้วแน่นอนว่าดูน่าเชื่อถือมากกว่าหมวกเกราะเห็นๆ

『แต่แม้ว่าจะใช้ปิดบังหน้าตาได้แต่เสื้อคลุมก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพอะไรเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน
ตรงจุดนั้นช่วยเข้าใจกันด้วยนะครับ』

เฮ้ย ไม่มีประสิทธิภาพอะไรให้เลยนี่มันไม่เรียกว่าวิวัฒนาการแล้วเฟ้ย มันเสื่อมถอยลงมากกว่า
เอาเถอะ สำหรับรูปร่างภายนอกแล้วยังไงเสื้อคลุมก็ดีกว่า............
แต่ว่านะ.............

「สำเนียงเพี้ยนๆอะไรของมันฟะเจ้าแกะนี่」

ว่าไงดีล่ะ............สุภาพซะเหลือเกิน
แล้วยังดูใจดีด้วย อะไรกันล่ะเนี่ย?

『ก็ครึ่งนึงเป็นแกะนี่น่าแค่ใจดีก็ทำได้อยูแล้ว』
「อ้าวเฮ้ย!?นี่มันจดหมายแน่นะ!?」

ที่ชั้นคิดคือทำไมจดหมายมันตบมุขได้ฟะ!? ตกใจสุดเลยนะเนี่ย!

『เอาเถอะ คงมีเรื่องลำบากหลายๆอย่างอยู่มากแต่ก็ขออธิษฐานให้ปลอดภัยไปพร้อมกับ
เสื้อคลุมที่วิวัฒนาการขึ้นมานี้ด้วยเลยแล้วกันนะครับ
ด้วยรักจากคุณแกะ』
「ไม่ไหวแล้ว ไปต่อไม่เป็นเลยนะเนี่ย..........!」

ด้วยรักจากคุณแกะนี่มันอะไรฟะ!? สยองนะเฟ้ย!

「นี่ เนื้อหาว่ายังไงบ้างเหรอ?」

ขณะที่รู้สึกจนลุกกับจดหมายของแกะอยู่คนเดียวซาเรียก็ถามด้วยความสงสัย

「ยังไงน่ะเหรอ.......ก็ประมาณว่า หมวกเกราะมันวิวัฒนาการเป็นเสื้อคลุมนี่
และก็ออกแนวๆให้กำลังใจน่ะ」
「.........แล้วว่ายังไงบ้างล่ะ?」

อืม ถ้าให้ตัวชั้นเองพูดเองนี่จะบอกว่ายังไงดีล่ะ ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจเลยนี่นา
แต่ชั้นก็อธิบายให้แบบย่อสุดๆไปแล้วนะ

「เอาน่าไม่ต้องใส่ใจหรอก!ยังไงก็ตามรีบเดินทางไปที่เมืองกันเถอะ!」

ว่าแล้วชั้นก็รีบสวมเสื้อคลุมแล้วเอาฮู้ดมาคลุมไว้

「เซอิจิ เท่ห์จังเลย!」
「Thank you!」

อะไรกันฟะบทสนทนาเนี่ย
ก่อนหน้านั้นนะ ไม่ว่าชั้นจะทำอะไรซาเรียก็บอกว่าเท่ห์อยู่แล้วนี่นา
แต่ชั้นเองไม่ว่าซาเรียจะทำอะไรก็น่ารักด้วยเหมือนกัน!
...............ถ้าไม่ได้กลายสภาพเป็นกอลิล่าใส่เสื้อผ้าล่ะก็นะ
นั่นๆนี่ๆแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าไปที่เมืองกันต่อ

◆◇◆


「โอ้!」
「เมืองล่ะ!เห็นเมืองด้วยล่ะ!」

พอผ่านไปได้วันนึงหลังจากที่หมวกเกราะเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุม
พวกเราก็มาถึงจุดที่มองเห็นเมืองใหญ่อยู่ลิบตา

「ก็คิดอยู่นะว่าข้อมูลของเซนอสนี่คงไม่ผิดหรอกแต่...........」

เอาจริงๆก็รู้สึกกังวลที่ข้อมูลมีแค่ที่ได้จากเซนอส
ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะมันเป็นข้อมูลของเมื่อ1500ปีก่อนน่ะสิ ทั่วไปก็ต้องหวังพึ่งไม่ได้อยู่แล้ว
แต่สุดท้ายก็แค่กังวลเกินเหตุ ในที่สุดก็มาถึงตรงที่เห็นเมืองได้อย่างปลอดภัย

「แต่ก็..........สุดยอดไปเลยนะ」
「หือ? ทำไมล่ะ? 」
「ก็แหม...........ที่ชั้นมาถึงนี่ได้เพราะยึดจากข้อมูลของเซนอสนี่นา」
「อือ จะว่าไปก็เป็นแบบนั้นนี่นะ」
「แล้วก็นะ..........ทั้งที่ข้อมูลจากเซนอสมันเป็นของเมื่อ1500ปีก่อน
แต่ปัจจุบันเมืองก็ยังอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงนี่แหละที่สุดยอด..............」

ถึงชื่อเมืองหรืออาณาเขตอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น
แต่แค่ปัจจุบันผู้คนยังอาศัยอยู่บนพื้นที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงนี่ก็ทำให้ชั้นประทับใจแล้วล่ะ

「งั้นเหรอ.......ก็เซอิจิเป็นมนุษย์นี่นะ พวกฉันที่เป็นมอนเตอร์ไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องถิ่นที่อยู่หรอก
แค่ตรงนั้นอยู่สบายก็ลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่นแล้วล่ะ」

ซาเรียยิ้มเศร้าๆแล้วบอกกับชั้น

「ความจริงตอนที่ออกค้นหาถิ่นหาอาหาร ก็มีพวกที่ถูกขับไล่จากมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเอง
จนต้องจากที่อาศัยไป แค่เหลือที่ให้ชั้นอยู่ก็คิดว่าน่าดีใจแล้ว」
「เห..............」
「แน่นอนว่าเรื่องอันตรายก็มีอยู่มาก ฉันเองยังต้องต่อสู้กับมอนเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองอยู่บ่อยๆ
ถึงขนาดที่ต้องหนีก็มีนะ? แต่นอกจากเรื่องนั้นก็มีแค่ความรู้สึกดีที่ได้อาศัยอยู่ที่นั่น......」

อย่างที่คิด สำหรับซาเรียป่านั่นเป็นที่ๆมีความทรงจำอยู่มากมาย

「ถ้างั้น ดีแล้วเหรอ? ที่มากับชั้นน่ะ.............」

ถึงขนาดต้องพรากจากสถานที่ๆให้ความรู้สึกดีแบบนั้นแล้วตามชั้นมานี่รู้สึกไม่ได้เลย
แต่แล้วซาเรียก็ลบความคิดอย่างนั้นของชั้นไปในชั่วพริบตา

「อื้ม ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ? ว่าที่อยู่ของฉันคือที่ๆเซอิจิอยู่!
ยิ่งกว่านั้นที่ชั้นคิดว่าดีที่ได้อยู่ที่นั่นก็เพราะทำให้ได้พบกับเซอิจิต่างหาก」
「...............」

เขินสุดๆไปเลย ไม่ไหว ไม่ไหวแล้วจริงๆ
ซาเรียพูดประโยคน่าอายแบบนั้นได้สบายๆเลย แถมยังยิ้มหน้าบานด้วย
อุหวา................อวดแฟนได้สุดๆไปเลยนะชั้นเนี่ย
ถึงหมวกเกราะจะเปลี่ยนเป็นเสื้อคลุมแต่ก็ยังใช้ซ่อนหน้าได้แค่นี้ชั้นก็รู้สึกขอบคุณอีกครั้งแล้วล่ะ
ต้องกำลังหน้าแดงอยู่แหงเลย

「ถ ถถถถ้างั้น ป ไปกันต่อเถอะ!」
「อื้ม!」

ถึงชั้นจะส่งเสียงดังขึ้นแต่ซาเรียก็พยักหน้าให้อย่างร่าเริงโดยไม่ใส่ใจอะไร
เส้นทางต่อจากนั้นก็ไม่ได้ถูกมอนเตอร์โจมตีอะไรเลย โจรขโมยก็ไม่มีออกมาก่อกวน
เดินทางไปถึงประตูเมืองได้ทั้งอย่างนั้นเลย

「ใหญ่ชิบ!」
「อื้ม ใหญ่มากเลยล่ะ!」

ชั้นกับซาเรียที่ไปกันจนถึงหน้าประตูแล้วพูดออกมา
อาจเป็นเพราะกำแพงที่รายล้อมเมือง ประตูเลยต้องเป็นเหล็กหนาที่ใหญ่ประมาณ10เมตรตาม
ประตูขนาดมหึมาแบบนี้เนี่ยติดตั้งกันยังไงหว่า เดิมทีประตูใหญ่ขนาดนี้มันมีด้วยเหรอ?
เอาเหอะ ก็คงมีเหตุผลอะไรซักอย่างนั่นแหละ

「เอาล่ะ............ต่อจากนี้ไปจะเอายังไงดี?」

พูดไปพลางกวาดตามองรอบๆแบบคร่าวๆ
ทันใดนั้น ก็สังเกตุเห็นคนที่อยู่ตรงประตูที่ดูเป็นคนเฝ้าประตู
พูดคุยกับคนที่ผ่านประตูไปทีละคนๆ

「นั่นมัน..........คือด่านตรวจงั้นเหรอ?」
「แล้วไม่ใช่เหรอ?」

ซาเรียก็คิดเหมือนกันแฮะ จะว่าไป ทำไมถึงรู้จักด่านตรวจด้วยล่ะ เป็นมอนเตอร์มาก่อนไม่ใช่เหรอไง?
แล้วตอนนั้นเองวงจรความคิดอย่างนั้นของชั้นก็เริ่มทำงาน
...........แย่แล้ว
ชั้นมีปัญหาหนึ่งที่ลืมสนิทแถมไม่รู้สึกตัวเลยมาจนถึงตอนนี้
นั่นก็คือ--------------

「เผ่าพันธุ์ของซาเรียนี่มันอะไรอ่ะ!?」

เรื่องที่ว่านี่แหละ
ท่าจะไม่ดีแล้วแฮะ!? เรื่องนี้ตรงด่านตรวจต้องมีการตรวจสอบพวกอย่างสเตตัสแหงเลย!?
ชั้นน่ะยังดีที่มี『พรางตา』เลยพอจะใช้ตบตาได้........!
จะว่าไปจนป่านนี้แล้วแต่ ของอย่างหลักฐานแสดงตัวตนนี่จำเป็นด้วยรึเปล่า?
แล้วถ้าไม่มีนี่กิลด์จะออกให้ได้มั้ย?

「เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน.........!ซาเรีย!」
「อะไรเหรอ?」
「เป็นเผ่าพันธุ์อะไร!?」
「เอ๋?............อ้ะ」

ดูท่าซาเรียจะรู้สึกตัวแล้วแฮะ
เผ่าพันธุ์ของซาเรียในกรณีที่ยังเป็นKaiser kongอยู่ล่ะก็ ได้วุ่นกันแน่!
คุณทหารได้บึ่งออกมากันแหงๆ!

「..........จริงสิ!แค่ใช้『ตรวจสอบขั้นสูง』ตรวจดูก็รู้แล้วนี่นา!」

...............ไม่นะ เดี๋ยวสิ?  ถ้าจำไม่ผิดตอนที่ชั้นลองใช้ตรวจดูสเตตัสของอาโอยามะที่ห้องเรียน
เพราะความสามารถต่างกันมากเกินไปเลยตรวจดูอะไรไม่ได้เลยนอกจากชื่อนี่นา?
............ล แล้วจะใช้ได้ไหมหว่า? แถมตอนนี้ชั้นก็เป็นสัตว์ประหลาดไปแล้วด้วย
อ้ะ พูดไปก็ชักเศร้าแต่ก็รู้สึกว่าทำได้ยังไงไม่รู้แฮะ
เมื่อตัดสินใจแล้วก็รีบใช้ไปทันที

「ตรวจสอบขั้นสูง!」

ถึงไม่ได้จำเป็นว่าต้องตะโกน แต่ก็อย่าไปใส่ใจเลยน่า!

≪ซาเรีย≫
เผ่าพันธุ์:กอลิล่า  (มนุษย์สัตว์)
เพศ:เมีย (หญิง)
อาชีพ:นักหมัด (นักหมัด)
อายุ:17 (17)
เลเวล:775 (7)
พลังเวท:10000 (30)
พลังโจมตี:30000 (30)
พลังป้องกัน:20000 (30)
ว่องไว:30000 (30)
โจมตีเวท:5000 (50)
ป้องกันเวท:5000 (50)
โชค:100000 (100)
เสน่ห์:ไม่สามารถวัดได้ (100)

「อุเหวอ!?」

สุดยอดในหลายๆความหมาย!
จะว่าไปสเตตัสสูงจัง!High specsได้ใจเลยนะเนี่ย!? ตรงเสน่ห์นี่วัดไม่ได้เลยเหรอ!?
อิจฉาสุดๆไปเลย!
แต่ตรงเผ่าพันธุ์นี่สิ!กอลิล่างั้นเหรอ!?..........ไม่สิมันก็ถูกอยู่นะ!
แต่ว่ามีตัวเลขเขียนไว้อยู่ในวงเล็บด้วย งั้นบางทีที่แสดงออกมาตอนตรวจสอบคงเป็นมนุษย์แหละน่า
ช่างเถอะ สเตตัสหลายๆอย่างก็ไม่ได้เอนเอียงอะไรสักหน่อย.............
แต่ว่านะ...........ซาเรียเป็นนักหมัดงั้นเหรอ ตอนเป็นกอลิล่าก็สู้ด้วยมือเปล่าซะด้วยงั้นก็เหมาะดีนี่นา
แต่ถึงจะบอกว่าเหมาะก็เถอะ.........
นอกจากนั้นก็ได้รู้ด้วยว่าต่อให้ใช้『ตรวจสอบขั้นสูง』ก็ยังมองไม่เห็นถึงสกิลของอีกฝ่าย
เอาเหอะ จะยังไงก็ได้ทั้งนั้นแหละ

「ค่อยยังชั่วหน่อย.............ซาเรียเธอน่ะคร่าวๆดูเหมือนจะเป็นมนุษย์สัตว์นะ」
「มนุษย์สัตว์? นั่นมันอะไรเหรอ」
「ถ้าจำไม่ผิด ก็เป็นพวกครึ่งมนุษย์ประเภทหนึ่ง」

ความรู้ที่ได้จากพระเจ้าเขียนไว้แบบนั้นนี่นา

「เพราะงั้นผ่านด่านตรวจได้ปกติไม่ต้องเป็นห่วงแล้วล่ะ」
「งั้นเหรอ!งั้นรีบไปกันเถอะ!」
「หวา เดี๋ยวสิ!」















003.jpg

ซาเรียดึงมือชั้นพาไปเข้าคิวที่ด่านตรวจกันทั้งอย่างนั้น
รอไปได้ซักพักในที่สุดก็มาถึงคิวพวกเรา

「เอ้า คนต่อไป~」
「เอ่อคือ..........」
「ขอฝากตัวด้วยค่ะ」

ชั้นที่ยังหวั่นๆอยู่ซาเรียกลับตอบไปให้เป็นอย่างดี
ชั้นนี่มันไม่ไหวเลยแฮะ................

「โอ้ว!?เป็นสาวสวยสุดยอดเลยนะ............」

ที่ส่งเสียงออกมาอย่างนั้นคือทหารที่ประจำด่านตรวจ
ใส่ชุดเกราะสีเงินมีดาบคาดไว้ที่เอวแบบตะวันตก
แม้ผมจะยุ่งแถมหนวกเคราหลอมแหลมสะดุดตาแต่สายตาดูมีพลังไม่เหมือนพวกไม่เอาถ่าน
ถึงจะดูเสียมารยาทกับคนที่เจอกันครั้งแรกแต่สภาพอย่างนั้นมันอะไรกันฟะ!

「อ้ะ จะคุยเล่นกันก็ไม่ได้ซะด้วย...........ก่อนอื่นจะไม่เอาหลักฐานยืนยันตัวตนออกมาเหรอไง?」

ออกมาแล้วววววววววววววววว!ถูกถามหาจริงๆด้วย!แต่ก็ไม่มีซะด้วย!
แต่ถึงจะโวยวายยังไง ของที่มันไม่มีก็คือไม่มี
เพราะงั้นเลยบอกออกไปตรงๆ

「ขอโทษด้วยครับ..........ทั้งผมทั้งเธอคนนี้ไม่มีหลักฐานยืนยันตัวตนเลย.......」
「หา? ไม่มีเหรอ? นั่นมันควรมีกันนะ?ทั่วไปหลักฐานยืนยันตัวตนนี่เขาออกให้กันตั้งแต่เกิดแล้วนา?
ต่อให้เป็นทาสก็ยังมีหลักฐานยืนยันตัวตนเลย..............」
「นั่นสินะครับ.............คือพอดีทำหายไป」
「ทำหายไปงั้นเหรอ.........ช่างเถอะ พวกที่พูดแบบนี้นานๆครั้งก็มีเหมือนกันแหละ」

มีด้วยเหรอ!นึกว่าจะมีแต่พวกเรานะเนี่ย!
ถึงในใจตบมุขแบบสุดๆแต่ ทหารตรงหน้าก็เรียกทหารใกล้ๆแล้วขออะไรบางอย่างไป

「รอเดี๋ยวนะ กำลังไปเอา『อัญมณีแห่งความจริง』มาเดี๋ยวนี้แหละ」
「อัญมณีแห่งความจริง?」

จู่ๆก็พูดคำศัพท์ที่ไม่รู้จักออกมาเลยเอียงคอให้
ทันใดนั้นทหารก็ถอนหายใจออกมาแล้วพูดขึ้นโดยหรี่ตาไปด้วย

「นายนี่.............พูดจริงเหรอเนี่ย?」
「จริงยิ่งกว่าจริงอีกครับ แล้วไอ้นั่นมันเป็นของกินแบบไหนเหรอ?」
「ของกินที่ไหนกันล่ะฟะ!」

อือ เรื่องนั้นรู้อยู่แล้วน่า ล้อเล่นหน่อยเดียวเอง

「ให้อธิบายง่ายๆก็เป็นพวกเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบพวกประวัติอาชญกรรมอะไรแบบนั้น」
「เจ๋งไปเลยนะครับ」
「ก็นะ คนสร้างมันอัจฉริยะนี่นา............」
「สร้างงั้นเหรอ!?」

เอ๋ ของสุดยอดอย่างนั้นนี่ถูกสร้างขึ้นมางั้นเหรอ........

「โอ้ แต่ก็เป็นคนในสมัยก่อนอ่ะนะ.............อ้ะมาพอดีเลย」

พอลุงทหารพูดแบบนั้นก็มีทหารที่ขอไปเมื่อตะกี้ถือคริสตัลขนาดเท่าลูกบาสเกตบอลออกมา

「งั้นทั้งสองคน ก่อนอื่นก็เอามือมาวางบนเจ้านี่นะ?」
「เข้าใจแล้วครับ งั้นชั้นลองก่อนนะ?」
「อื้ม」

พอซาเรียตอบรับแล้วชั้นก็เอามือวางบนคริสตัลตรงหน้า
หลังจากนั้นพอวางมือไปได้สักพักก็มีแสงสีฟ้าอ่อนออกมาจากคริสตัล

「เอาล่ะ นายไม่มีปัญหาอะไรนะ งั้นต่อไปก็คุณคนสวยทางนี้」
「ค่ะ」

ซาเรียก็เอามือวางบนคริสตัลด้วยแล้วก็เหมือนชั้นคือมีแสงสีฟ้าอ่อนออกมาจากคริสตัล

「ใช้ได้ ทั้งสองคนไม่มีปัญหา
แต่สำหรับคนที่ไม่มีหลักฐานยืนยันตัวจนต้องจ่ายค่าผ่านประตู2เหรียญเงินนะ ได้ใช่มั้ย?」
「ก็ได้นะครับ..........แล้วนี่คนละ2เหรียญเงินเหรอ?」
「เปล่า 2คน2เหรียญ สรุปก็คือคนละเหรียญน่ะ」
「เข้าใจแล้ว...........อ่ะนี่ครับ」

ชั้นรีบหยิบเหรียนเงิน2เหรียญออกมาอย่างว่องไวแล้วส่งให้ลุงทหารไปเลย

「โอ้ ครบตามจำนวน แล้วนายนี่สารรูปดูสะดุดตาจังนะ?」
「เอ๋?」

อยู่ๆมาเจาะจงกันแบบนี้ชั้นเลยตอบกลับแบบไม่ทันตั้งตัว

「ถึงคุณคนสวยทางนี้สะดุดตาคนละความหมายแต่สารรูปของนายมันน่าสงสัยเห็นๆ
ถ้าจะพักที่เมืองนี้ล่ะก็ช่วยใส่ใจกับที่บอกไปด้วยล่ะ」
「.............ครับ」

ไอ้เจ้าแกะนั่น..............!ของมันสะดุดตาแบบสุดๆเลยไม่ใช่เหรอไง!
..........เอาเหอะ ก็ยังดีกว่าหมวกเกราะสวมหัวแหละนะ อื้มๆ
แต่ว่าไม่ได้ตรวจสเตตัสแฮะค่อยสบายใจหน่อย
ก็นะการระวังตัวเกินไปหน่อยก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไรนี่นา

「จะว่าไป พวกนายไปให้เขาออกหลักฐานยืนยันตัวตนให้ใหม่ก็ดีนะ」
「เอ่อ ก็กะจะไปลงทะเบียนที่กิลด์นักผจญภัยแล้วเอาหลักฐานยืนยันตัวตนด้วยเลยน่ะครับ...........」

บางที่แค่ลงทะเบียนก็ได้มาอยู่แล้วล่ะมั้ง อยากให้เป็นอย่างนั้นจังเลย ขอร้องล่ะ!
แต่ทันทีที่ชั้นบอกแบบนั้นกับลุงทหารไปลุงทหารก็ทำหน้าเบี้ยวแบบสุดๆไปเลย
อ อ้าว? ชั้นพลาดอะไรไปเหรอ?







048.jpg

「พ พวกนาย...........อย่าบอกนะว่ามาลงทะเบียนที่กิลของเมืองนี้กัน?」
「ค ครับ...........」

บรรยากาศดูท่าจะไม่ดียังไงไม่รู้เลยพยักหน้าไปแบบหวาดๆ
แล้วลุงทหารจู่ๆก็มาจับไหล่สองข้างของชั้นทันที

「มีแค่ที่นั่นเท่านั้นนะที่ไม่ได้เด็ดขาด!พวกนายปกติกันใช่มั้ย!?」
「แบบว่า พูดเรื่องอะไรกันเหรอครับ!?」

ปกตินี่มันอะไรอ่ะ!? ไม่เห็นจะเข้าใจเลย!

「กิลด์ก็มีตั้งมากมายทำไมต้องมาเลือกของเมืองนี้ด้วย!」
「ก ก็มัน..........」
「ก็มันไม่ได้นะเฟ้ย!」
「เอ๋...........」

อะไรของเขาเนี่ยลุงคนนี้..............
มันจริงนี่นาที่ว่าเมืองนี้มันใกล้ที่สุด ช่วยไม่ได้เนอะ?
จะว่าไปทำไมลุงถึงต้องเอาเป็นเอาตายแบบนี้ด้วยอ่ะ?

「ปัดโธ่เอ๊ย!อีกแล้ว...........ต้องมีคนตกเป็นเหยื่อของที่นั่นเพิ่มขึ้นอีกแล้ว!」
「เดี๋ยวนะครับ ตะกี้มีคำที่ชวนกังวลใจออกมาด้วยอ่ะ!?」

ตกเป็นเหยื่อ!? มันเรื่องอะไรอ่ะ!?
ขณะที่กำลังกังวลใจแบบสุดๆกับกิลด์ที่กำลังจะมุ่งหน้าไปต่อจากนี้
ลุงก็ทำสีหน้าจริงจังมองมาทางชั้นกับซาเรีย

「ฟังนะ? ถ้าเจออะไรก็มาหาชั้นได้เลยนะ!ยินดีให้คำปรึกษาเต็มที่!
อย่ารีบร้อนจนพลาดพลั้งไปเด็ดขาดเลยนะ!?」
「เอ่อคือ...........」
「เข้าใจนะ!?」
「「ครับ/ค่ะ!」」

ชั้นกับซาเรียตอบกลับโดยพร้อมเพรียงกัน

「ดี!..........โอ๊ะ ลืมเรื่องสำคัญอย่างการแนะนำตัวเองเลยแฮะ
ชั้นชื่อ โคลส ชูไรเซอร์ เรียกสั้นๆก็โครส ไม่ต้องสุภาพด้วยก็ได้นะ」
「งั้นก็ไม่เกรงใจล่ะนะ ชั้นเซอิจิ ฝากตัวด้วย」
「ฉันซาเรีย!ฝากตัวด้วยนะ!」
「โอ้!งั้นก็ ขอพูดอีกครั้งนะ----------」

หลังจากที่พูดแบบนั้นกัน โคลสก็บอกกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังอีกครั้ง

「ยินดีต้อนรับ!สู่เมืองหลวงเทลเวล!」

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate