ถ้าอ่านแล้วชอบใจ

อย่าลืมไปกดไลค์ กดติดตาม แฟนเพจกันน้า

Shinka no mi ตอนที่ 17 คุณแกะ

ตอนที่ 17 คุณแกะ

「คุณ...........」
「แกะ?」

ชั้นกับซาเรียสับสนทำอะไรไม่ถูกเลยกับการที่อยู่ๆมีแกะมาแนะนำตัวเอง
แล้วก็ซาเรียตอนนี้กลับร่างเดิมแล้วเรียบร้อย
ว่าแต่ โผล่มาจากไหนกันเนี่ย?

「ใช่แล้ว คุณแกะครับ แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่มีการพิชิตดันเจี้ยนนี้ได้ก็เลยมาหาน่ะครับ」

ไม่ไหวแฮะ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย

「เอ่อ.........ถ้างั้นคุณแกะมาทำไมเหรอ?」

เพราะแกะตรงหน้านั้นยากเกินความเข้าใจชั้นเลยถามคำถามออกไป
ทันใดนั้น คุณแกะก็กางแขนสองข้างแล้วเริ่มอธิบาย
ว่าแต่ทำไมต้องกางแขนด้วย มีความหมายอะไรงั้นเหรอ?

「นั่นสินะครับ...........แต่ก่อนจะเริ่มอธิบาย มาทำความรู้จักกับตัวตนของกระผมก่อนดีกว่านะ」
「แล้วคุณแกะคือ?」
「ครับ กระผมคือผู้ทำหน้าที่ดูแลสถานที่ๆเรียกว่าดันเจี้ยนซึ่งมีอยู่มากมายบนโลกนี้」
「อันนี้ตอนแรกก็พูดมาแล้ว...........งั้นก็หมายความว่าคุณแกะเป็นคนสร้างดันเจี้ยนสินะ?」
「ไม่ใช่ครับ」
「อ้าวไม่ใช่เหรอ!」

โทษทีนะที่ชั้นเผลอตบมุขออกไปน่ะ

「ดันเจี้ยนนั้นมีเงื่อนไขในการปรากฏมากมายหลายอย่างเช่น
มีผู้แข็งแกร่งปกครองในพื้นที่นั้นๆมานานหลายปี
ไม่ก็เพราะจิตตกค้างหรือพลังเวทอันมหาศาลที่ดินแดนแห่งนั้นมีอยู่
ส่วนกระผมนั้นได้รับมอบคำสั่งจากโลกให้มาคอยดูแลดันเจี้ยนเหล่านั้นน่ะครับ」

มันจะอัศจรรย์เกินไปแล้ว! ตามเรื่องที่พูดไม่ทันเลยเลยสักนิด!?

「แหม อยู่ๆก็มาพูดเรื่องแบบนั้นเลยคงจะสับสนกันสินะครับ」
「............ก็นะ งงแบบสุดๆเลยล่ะ ซาเรียเองก็ไม่เข้าใจสินะ?」
「เอ๋? แต่ฉันเข้าใจนะ?」
「ได้ไงอ่ะ!?」

ทำไมซาเรียถึงเข้าใจคำอธิบายครุมเครือแบบนี้ด้วยอ่ะ!?
มีแค่ชั้นงั้นเหรอ!? ชั้นแปลกอยู่คนเดียวงั้นเหรอ!?
คุณแกะปล่อยชั้นที่ประหลาดใจไว้แล้วพูดต่อ

「อธิบายง่ายๆคือคนที่ควบคุมมอนเตอร์ในดันเจี้ยนไม่ให้ออกมาด้านนอกคือกระผมเองครับ
แม้แต่ตอนนี้ที่กำลังพูดคุยกับท่านทั้งสองอยู่ก็มีตัวกระผมคนอื่นดูแลดันเจี้ยนกันอย่างแข็งขันครับ」
「มีคุณแกะอยู่เยอะแยะเลยเหรอ!?」
「ครับ แน่นอน อย่างอื่นนอกจากการดูแลดันเจี้ยนก็มีแอบมองโลกอยู่บ่อยๆ」
「ท ทำไปทำไมเหรอ?」
「ก็มันว่างนี่นา」
「ทำงานสิฟะเฮ้ย!」
「ไม่เอาน่า ทำอยู่แล้วล่ะครับ ก็นี่ไง ขนาดตอนนี้ยังมาที่นี่เลยไม่ใช่เหรอ?」

เจ้าแกะนี่อะไรมันเนี่ย!? .........เอาเถอะก็จริงนะอุตส่าห์โผล่มาหาพวกเรานี่ก็คงทำงานกันล่ะมั้ง..........

「...........อ้าว? แต่ทำไมถึงมาหาพวกเราช้านักล่ะ?
ก็ถ้าพิชิตดันเจี้ยนสำเร็จจะออกมาไม่ใช่เหรอ?  ถ้างั้นก็น่าจะมาได้เร็วกว่านี้สิ?」
「พอดีเห็นการวิวัฒนาการของคุณเลยหัวเราะจนหงายท้องอยู่น่ะ」
「บัดซบเอ๊ย!」
「แหมเขินจังเลย」

แกะพูดไปพลางเอามือเกาหลังหัว เดี๋ยวปั๊ดต่อยเลย...........!

「ขอคัดค้านการใช้กำลังนะครับ? เพราะกระผมต้องดูแลดันเจี้ยนเลยพอจะมีพลังพิเศษอยู่บ้าง
แต่พลังต่อสู้ทั่วไปนี่กากซะยิ่งกว่ากากอีกนะครับ」
「อย่ามาอ่านใจสิฟะ!」

เจ้าแกะนี่ขัดจังหวะได้เก่งจริงนะ!?.............ช่างเถอะคงเพราะชั้นคิดอะไรง่ายๆเท่านั้นล่ะมั้ง

「แต่มันก็จริงที่ว่าพวกเราว่างซะจนไม่รู้จะทำอะไรดี
เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะไม่มีคนมาพิชิตดันเจี้ยนแล้วน่ะครับ
งานนอกจากควบคุมไม่ให้มอนเตอร์ออกมาจากดันเจี้ยนก็เลยไม่มี」
「เอ๋? คนที่พิชิตดันเจี้ยนไม่มีแล้ว? นั่นมันหมายความว่าไงน่ะ?」

ทั่วไปดันเจี้ยนต้องมีพวกอย่างนักผจญภัยมาลุยกันอย่างแข็งขันทุกวันไม่ใช่เหรอ?

「ก็จริงอยู่ครับที่ว่ามีนักผจญภัยจากทั่วทุกสารทิศมาลุยดันเจี้ยน」
「ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามาอ่านใจ!」
「อ้ะ อีกอย่างงานอดิเรกของกระผมคือแอบมองการใช้ชีวิตของมนุษย์ครับ
คอยมองสภาพเปลือยเปล่าของคนๆนั้นไปพลางยิ้มไปพลางเป็นกิจวัตรเลยล่ะ」
「อย่ามาเห็นเป็นเรื่องธรรมดาสิเฟ้ยไอ้เวรนี่!」
「เปล่านะๆ กระผมเป็นสุภาพบุรุษต่างหาก」

เจ้าแกะนี่อะไรหลายๆอย่างไม่ไหวแล้ว!? สุภาพบุรุษพรรณนี้มีที่ไหนฟะ!

「คุณแกะ ตลกดีจัง!」
「แหมแหม ไม่ต้องชมขนาดนั้นก็ได้นะครับ」
「มีถ่อมตัวอีกแน่ะ!」

ซาเรียหัวเราะอย่างสนุกสนาน เพราะรอยยิ้มของซาเรียนะเนี่ยเรื่องคราวนี้เลยยกโทษให้
ยังไงก็ช่างเถอะ รอยยิ้มของซาเรียนี่ดีจังนะ อบอุ่นหัวใจดีจัง รอยยิ้มของซาเรียช่วยเยียวยาให้แล้ว

「เอาล่ะ เพราะคุณเลยนอกเรื่องไปไกลเลย มากลับเข้าเรื่องดีกว่า........」
「นายนั่นแหละที่นอกเรื่องเอง!? ไม่ใช่เพราะชั้นสักหน่อย!?」

แกะที่อยู่ดีๆมาบอกงานอดิเรกของตัวเองนั่นแหละผิด!? ช ชั้นไม่ผิดนะ!

「เมื่อสักครู่นี้ว่ากันถึงมีนักผจญภัยจากทั่วทุกสารทิศมาลุยดันเจี้ยนสินะครับ?」
「อ อืม」
「เรื่องนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ ในบรรดาพวกนั้นก็มีมนุษย์อยู่หลายคนที่พอจะพิชิตดันเจี้ยนได้」
「เอ๋? แล้วถ้างั้น.............」
「ฟังที่พูดให้จบก่อนสิครับ เรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจเหรอ? สัตว์ประหลาดก็แบบนี้แหละน้า...........」
「นายเป็นปีศาจที่หุ้มหนังแกะสินะ!? อย่ามาพึมพำเรื่งที่คนเขากังวลแบบไม่ใส่ใจสิเฮ้ย!」
「โอ๊ะ ขออภัย เผลอพูดความในใจไป.........」
「ชั้นเกลียดเจ้านี่ที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดด!」

เจ้านี่มาซ้ำเติมความกังวลใจของชั้นที่ถูกเขียนว่าเป็นสัตว์ประหลาดในช่องอาชีพอ่ะ!
เกือบร้องไห้เลยนะเนี่ย!?

「ไม่สนน้ำตาของผู้ชายหรอกนะ」
「ไอ้สัตว์!ไอ้ปีศาจ!แกมันไม่ใช่คน!เกลียดแกที่สุดดดดดดดดดดดดดดดดดด!」
「ฮ่าฮ่าฮ่า!ก็ผมเป็นแกะนี่นา ที่ว่ามาก็ไม่ได้ผิดสักหน่อย」

อย่ามาจับผิดคนเขาสิฟะ...........!นอกจากนั้นถึงจะไม่ได้คิดมากแต่
ตั้งแต่เมื่อตะกี้นี้แล้วนะจะอ่านใจคนมากไปแล้วนะเฟ้ย!?
ยิ่งกว่านั้นทำไมถึงรู้ว่าตรงช่องอาชีพของชั้นมันเขียนว่าสัตว์ประหลาดอ่ะ............

「เพราะคุณเลยทำให้นอกเรื่องไปอีกแล้วนะ............」
「...............」

ไม่ตบมุขอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว

「........ชิ」
「อย่ามาทำเดาะลิ้นไม่สบอารมส์นะเฟ้ย!อ้ะ เอ้ย!?」

เผลอตบมุขไปซะแล้ว!? เมื่อตะกี้ตัดสินใจว่าจะไม่ตบมุขแล้วแท้ๆ!
ฮึ่ย............สีหน้าไม่ไหวเลยของเจ้าแกะตรงหน้านี่มันน่าโมโหนักกกกกกกกกกก!

「ล้อเล่นพอแค่นี้ดีกว่า............. ถึงจะบอกว่ามีมนุษย์ที่สามารถพิชิตดันเจี้ยนได้อยู่มาก
แต่จนแล้วจนรอดที่ทำกันก็คือ
『ไปจนถึงพื้นที่สุดท้ายของดันเจี้ยนแล้วปราบบอสดันเจี้ยน』พิชิตกันด้วยเงื่อนไขนี้ครับ」
「มันก็ปกติอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?」
「ไม่ใช่หรอกครับ? อันนั้นมันสำหรับการพิชิตดันเจี้ยนแบบทั่วไป」

...............ตกลงจะพูดอะไรกันน่ะเจ้าแกะนี่............

「ยามที่กระผมจะมาปรากฏตัวตรงหน้าผู้คน..........ก็คือยามที่ไปถึงความหมายที่แท้จริง
ของการพิชิตดันเจี้ยนต่างหากครับ」
「ความหมาย...........ที่แท้จริง?」

ซาเรียกับชั้นเอียงคอ แกะก็เว้นช่วงซักพักแล้วเริ่มอธิบาย

「เมื่อสักครู่นี้ก็มีอธิบายถึงเงื่อนไขการปรากฏตัวของดันเจี้ยนไปคร่าวๆ
ซึ่งนั่นก็มีที่กรณีที่เกิดจากจิตตกค้างด้วยใช่มั้ยล่ะครับ?」
「อืม」
「จิตตกค้างที่ว่านี่ก็อย่างเจ้าของที่นั้นๆตายแล้วหลงเหลือความปรารถนาอันแรงกล้าต่างๆ
ดันเจี้ยนที่ปรากฏออกมาจากสาเหตุนั้น การพิชิตดันเจี้ยนแบบทั่วไป
กับที่พวกคุณพิชิตได้สำเร็จในตอนนี้มันคนละอย่างกันเลยครับ
ที่พวกคุณพิชิตสำเร็จมานั้นคือการไปถึงบทสรุปที่เป็นความหมายที่แท้จริงสำหรับดันเจี้ยนน่ะ」
「หือ? หืม?」

ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไรแฮะ ไม่สิ แทนที่จะบอกว่าไม่เข้าใจจะว่าไงดีล่ะ...........
รู้สึกเหมือนจะรู้แต่ก็ไม่รู้จะถูกกว่า

「เอาเถอะ ไม่จำเป็นต้องไปคิดให้มันลึกหรอกครับ
อย่างการพิชิตความหมายที่แท้จริงของดันเจี้ยนน่ะ ต่อให้เล็งไว้ก็ใช่ว่าจะทำได้
ทว่าหากเล็งจะพิชิตความหมายที่แท้จริงของดันเจี้ยนล่ะก็ จะให้คำแนะนำอย่างนึงไว้นะครับ」
「คำแนะนำ?」
「ครับ จิตตกค้างของผู้คนที่ทำให้ดันเจี้ยนปรากฏออกมานั้น จะมีกรณีที่บอสในพื้นที่สุดท้าย
เป็นเจ้าของพื้นที่ๆถูกจิตตกค้างเปลี่ยนให้กลายเป็นมอนเตอร์อยู่มาก」
「เข้าใจล่ะ...........เหมือนอย่างเซนอสของดันเจี้ยนนี้สินะ?」
「เข้าใจอย่างนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ
เพราะฉะนั้นถ้าอยากพิชิตความหมายที่แท้จริงของดันเจี้ยนต่อจากนี้ไปล่ะก็
ควรให้ความสำคัญกับการชำระล้างความคิดคำนึงของบอสดันเจี้ยน
แต่ขอพูดอีกครั้งนะครับ ต่อให้เล็งไว้ก็ใช่ว่าจะทำได้? เรื่องนี้อย่าลืมล่ะ」

หืม.............เรื่องนี้ไม่เห็นจะมีเขียนไว้ในความรู้ต่างโลกที่ได้จากพระเจ้าเลยนี่นา
............เอาเถอะยังไงก็คงไม่มีมากไปกว่าความรู้ขั้นต่ำที่จำเป็นเขียนไว้อยู่แล้วล่ะ

「เอาล่ะ ทีนี้ก็กลับมาพูดคุยเรื่องที่ว่าทำไมผมถึงมาปรากฏตัวที่นี่กัน」

เออใช่ ลืมที่ถามไว้ตอนแรกเลย ก็มีถามไว้นี่นาว่าทำไมเจ้าแกะนี่ถึงโผล่มา

「ที่กระผมปรากฏตัวออกมาในครั้งนี้เพราะพวกคุณได้มาถึงบทสรุปความหมายที่แท้จริง
ของดันเเจี้ยน【ป่าปลายทางแห่งรักอันแสนเศร้า】แห่งนี้
จึงขอมอบรางวัลสำหรับการพิชิตได้ให้กับท่านทั้งสองครับ」
「รางวัลสำหรับการพิชิตได้?」
「ครับ ถ้าแค่พิชิตแบบทั่วไปกระผมจะไม่ปรากฏตัวออกมา
เพราะงั้นปกติแล้วการเก็บดันเจี้ยนบอสดรอบไอเท็มกับของที่อยู่ในกล่องสมบัติก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ทว่าหากพิชิตไปถึงความหมายที่แท้จริงล่ะก็จะมอบรางวัลสำหรับการพิชิตให้ไม่มีตกหล่นเลยครับ」
「เห..............แล้วรางวัลสำหรับการพิชิตได้ที่ว่านี่จะเอาหลายๆครั้งในดันเจี้ยนเดียวกันได้มั้ย?」
「คงไม่ได้หรอกครับ นั่นก็เพราะเมื่อพิชิตความหมายที่แท้จริงได้ดันเจี้ยนจะหายไป」
「หายไป!?」

อยู่ดีๆมาบอกกันแบบนี้เลยเผลอส่งเสียงในใจออกมาเลย

「ครับหายไป ก็อย่างที่บอกไปเมื่อสักครู่ การชำระล้างความคิดคำนึงของบอสดันเจี้ยน
เกี่ยวเนื่องกันกับการพิชิตดันเจี้ยนด้วยความหมายที่แท้จริงตามที่ได้บอกไป
แน่นอนว่า บอสดันเจี้ยนไหนใช้วิธีไหนผ่านคงบอกให้ไม่ได้
ดังนั้น เมื่อปราบดันเจี้ยนบอสด้วยความหมายที่แท้จริงแล้ว
บอสดันเจี้ยนที่ว่าจะสูญเสียเหตุผลในการคงอยู่ในพื้นที่นั้น ด้วยเหตุนี้ ดันเจี้ยนจึงหายตามไปครับ」
「ข เข้าใจล่ะ...........」
「เพราะฉะนั้น การรับรางวัลพิชิตดันเจี้ยน จึงทำได้เพียงครั้งเดียวสำหรับดันเจี้ยนนั้นๆ
ดังนั้นการที่ทั้งสองท่านได้รับนี่จะคุยโวมาก็ได้นะครับ? กระผมอนุญาตเลย」
「แล้วทำไมต้องขออนุญาตนายด้วยฟะ!?」
「มันแน่นอนอยู่แล้ว? ก็กระผมเป็นแกะนี่นา」
「เวรเอ้ย!พูดจาจิกกัดซะจริงนะ............!」

แพระไม่สนใจชั้นที่โมโหอยู่คนเดียวแล้วใช้ความคิด

「อืออ............ของที่กำหนดว่าจะให้เริ่มแรกก็มีแล้ว............
แต่ไม่รู้ยังไงเพราะคิดว่าดันเจี้ยนนี้จะไม่มีทางพิชิตได้ เลยไม่ได้กำหนดรางวัลให้เรียบร้อยน่ะครับ」
「อย่างนั้นเหรอ?」
「ครับ ถึงจะมีกำหนดไว้บ้างแต่อย่างสุดท้ายจะให้อะไรนี่ก็..........」
「งั้นขอถามหน่อยแล้วกัน ของที่กำหนดไว้แล้วนี่คือ?」
「นั่นคือ【เซ็ตปลูกผลวิวัฒนาการ】กับ【เซ็ตเดินทางสำหรับ10วัน】น่ะครับ」
「หา!?」

ชั้นเผลอส่งเสียงประหลาดใจออกมากับคำพูดของแกะ
เอ ผลวิวัฒนาการนี่มันปลูกได้ด้วยเหรอ!?

「ครับ แน่นอน」
「อย่าอ่านใจสิฟะ!」
「มีสมุดโน๊ตเขียนวิธีปลูกแบบครบถ้วนแถมเมล็ดผลวิวัฒนาการจำนวนมากให้
ส่วนอาหารสำหรับ10วันนี่คิดเตรียมไว้สำหรับเดินทางตอนที่ดันเจี้ยนหายไปน่ะครับ」
「ง งั้นเหรอ」

หลังจากชั้นตอบไปก็นึกเรื่องที่สงสัยอย่างนึงขึ้นมาได้

「เอ๊ะ? จะว่าไปที่ว่าดันเจี้ยนหายไปนี่ แล้วป่านี่กับเป็นพวกClever monkeyจะเป็นยังไงกันล่ะ?
ถ้าคุณแกะไม่ได้ดูแลแล้วมันจะไม่เข้าไปโจมตีหมู่บ้านของผู้คนเหรอ?」
「เกี่ยวกับประเด็นนี้ไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษอยู่แล้วล่ะครับ
ทันทีที่ดันเจี้ยนหายไป ไม่ใช่ว่าพื้นที่จะหายไปแต่จะเป็นฟังชั่นในฐานะดันเจี้ยนต่างหากที่หายไป
ดังนั้น  ป่าอันกว้างใหญ่แห่งนี้จะคงอยู่ดังเดิม
แถมแต่เดิมรอบๆดันเจี้ยนนี้ก็ไม่มีหมู่บ้านหรือเมืองอยู่แล้วด้วยครับ」
「เอ งั้น...............ถ้างั้นหลังจากนี้พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ!?」

เมืองใกล้ๆก็ไม่มีเลยเหรอ!?จริงดิ!?
ชั้นเลยลองยืนยันข้อมูลที่ได้จากเซนอสดูคร่าวๆ
............อื้ม ไม่มีเลยแฮะ ต่อให้เดินทางแบบปกติ อย่างต่ำก็กินเวลากว่า1อาทิตย์............
ยิ่งกว่านั้น ข้อมูลจากเซนอสก็เป็นของเมื่อ1500ปีก่อน พื้นที่จะเชื่อถือได้ขนาดไหนก็ไม่รู้

「ก็บอกแล้วนี่ครับ? ว่าอาหารน่ะคิดไว้สำหรับเรื่องเดินทาง แน่นอนว่าน้ำก็มีด้วย
เต้นท์ก็มีให้ แค่นี้ก็เดินทางได้สบายไม่มากก็น้อยแหละครับ」
「............ขอบใจ」
「ไม่เป็นไรหรอกครับ หลักจากที่กระผมส่งมอบรางวัลแล้ว
ก็ตั้งใจจะบังคับวาร์ปท่านทั้งสองออกจากป่าไปยังจุดที่สะดวกให้อยู่แล้ว」
「โกหกชัดๆ!」

ที่คิดแบบนั้นก็เพราะไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นี่นา ก็ดูเอาสิเจ้านี่มันโหดร้ายจะตายไป!?

「เอาเถอะครับ ที่จะมอบให้ก็สองเซ็ทที่บอกไปแล้วก็อีกอย่าง......รวมเป็น3อย่างที่ต้องมอบให้
ด้วยเหตุนี้ จะเอาอะไรให้ดีน้า..........」

พูดไปแล้ว แกะก็ตรวจดูสภาพของชั้นกับซาเรียคร่าวๆ

「นั่นสินะ ก่อนอื่นก็พวกอย่างเสื้อผ้ากับชุดชั้นในให้เป็นของขวัญกับคุณหนูซาเรียแล้วกัน」

พูดเสร็จแกะก็ตบมือ
ทันใดนั้นจากความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไร อยู่ๆก็มีเสื้อผ้ากับชุดชั้นในจำนวนมากโผล่มา

「เพราะเป็นเสื้อผ้าของคุณหนูซาเรียเลยขอมอบเสื้อผ้าที่เปลี่ยนขนาดความใหญ่ได้ตามใจชอบ
สำหรับความสามารถที่มอบให้เสื้อผ้านี้กระผมได้ตัดสินจากสิ่งที่จำเป็นที่สุดน่ะครับ」
「คุณแกะ Good job !」

ขอโทษนะคุณแกะ ที่เข้าใจคุณผิดไป
ใช่แล้ว กำลังลำบากเพราะไม่มีเสื้อผ้าของซาเรียอยู่พอดีเลย...........!
เท่านี้ต่อให้ไปถึงเมืองก็จบเรื่องได้โดยไม่ต้องไปรบกวนพวกคุณทหารแล้ว!
ยิ่งกว่านั้นยังคิดไปถึงเรื่องขนาดของเสื้อผ้าอีก...........ทำได้เยี่ยมเลยแกะเอ๋ย!

「ถ้าเช่นนั้นเชิญคุณหนูซาเรียเปลี่ยนชุดได้เลยครับ ม่านกั้นเตรียมไว้ให้ทางนี้เรียบร้อยแล้ว」

พอแกะตบมืออีกครั้งก็พลันปรากฏผ้าม่านกั้นระหว่างชั้นกับซาเรีย

「เอาล่ะ ถ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ช่วยบอกด้วยนะครับ」
「ขอบคุณนะ คุณแกะ!」

ได้ยินเสียงดีใจของซาเรียจากหลังผ้าม่าน

「เสื้อผ้าและชุดชั้นในที่มอบให้คุณหนูซาเรียนั้นเป็นเพียงชุดเดียว
เพราะฉะนั้นเสื้อผ้าที่เหลือคุณก็ช่วยเป็นคนดูแลเก็บรักษาแล้วกันนะครับ」

พูดไปพลางคุณแกะก็ส่งเสื้อผ้าของซาเรียมาให้
.......แน่นอนล่ะก็ชั้นมีไอเท็มบ็อกอยู่นี่นา?
แต่ว่านะ ขืนชั้นมีเสื้อผ้าของผู้หญิงอยู่ล่ะมีหวังโดนหาว่าโรคจิตแบบปฏิเสธไม่ได้แหง?
ช่างเถอะ ไม่มีใครรู้ก็ไม่ผิดซักหน่อย? ตกลงใจอย่างนี้แล้วให้มันผ่านไปดีกว่า?

「ถึงไม่รู้ก็ถือเป็นอาชญากรรมได้นะครับ ท่านเซอิจิ」
「..........ล้อเล่นน่ะ」

หนูๆเด็กดีอย่าเลียนแบบล่ะ! รวมถึงการใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของชั้นด้วยนะ!

「นอกจากอันนั้นแล้ว..............รางวัลสำหรับคุณจะเป็นอะไรดีล่ะ」
「มันคิดยากขนาดนั้นเลยเหรอ?」
「ครับ ยากมากเลย สำหรับคุณที่พึ่งจะมาที่ดันเจี้ยนนี้ เลยคิดไม่ถึงว่าจะสามารถพิชิตได้
ก็มีคิดเผื่อไว้อยู่เหมือนกันว่าจะเอาพวกยาเนื้อหอมหรือยาเสน่ห์ให้」
「ต่ำช้าจนหยดสุดท้ายเลยนะ!?แต่ก็อยากได้เหมือนกันแหละ!」
「คุณในตอนนี้คงไม่จำเป็นแล้วล่ะครับ ให้ไปก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี」
「................」

ทำไมถึงกล้าฟันธงได้ขนาดนี้ล่ะ เพราะหน้าตาดีขึ้นระดับที่ไม่ต้องใช้ยาเนื้อหอมแล้วเหรอ
หรือกลับกันเพราะหน้าตาบัดซับเกินกว่าจะใช้แก้ปัญหากันหว่า..............
แต่ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน ก็มันอยากได้นี่นา ยาเนื้อหอมอ่ะ
ซักครั้งในชีวิตอยากมีประสบการณ์เนื้อหอมกับเขาดูบ้างเหมือนกันนะ!
ร่างกายก็ผอมแล้วด้วย ไหนจะส่วนสูงที่น่าจะสูงขึ้นอีก ถึงจะยังยืนยันเรื่องหน้าตาไม่ได้ก็เถอะ..........
รู้สึกติดใจสงสัยสุดๆไปเลยนะเนี่ย

「จะเป็นอุปกรณ์สวมใส่นี่ก็มีอาวุธระดับสูตรโกงอยู่เป็นลังแล้ว...........」

คำพูดที่ตอบกลับมาไม่รู้ว่าจะบอกอะไรกลับไปดี แต่รู้จักคำว่าสูตรโกงด้วยนี่ตกใจเลยแฮะ

「งั้นเอาเป็นเครื่องป้องกันดีมั้ยครับ?」
「เครื่องป้องกัน?」
「ครับ เครื่องป้องกัน อย่างผ้าคลุมสีดำที่เป็นสัญลักษณ์ของจอมเวท
หรือเป็นเกราะฟูลเพลทใส่ทั้งตัวที่ชวนให้นึกถึงอัศวินแบบนี้น่ะครับ」
「ก็จริงนะ พวกอุปกรณ์สวมใส่แนวเครื่องประดับหรืออาวุธก็มีพอแล้ว
แต่เครื่องป้องกันนี่สิยังไม่มีเลย......」
「ใช่มั้ยล่ะครับ?  งั้นเอาเป็นเครื่องป้องกันที่เมื่อตะกี้นี้กระผมนึกขึ้นได้ว่าเหมาะกับคุณแล้วกัน」
「โอ้? แล้วมันคืออะไรล่ะ?」
「โม่งคลุมหัวครับ」
「ผิดหวังสุดๆ!」

โม่งคลุมหัวที่ว่านี่............คือหน้ากากที่ใช้ปล้นธนาคารแบบในหนังหรีอการ์ตูนใช่มั้ย!?

「ไม่ถูกใจสินะครับ?」
「ไม่ถูกใจแหงอยู่แล้วล่ะเฟ้ย!? แน่จริงลองสวมของพรรณนั้นเข้าเมืองดูสิ!
คุณทหารได้รีบวิ่งโร่มาหาแน่!?」
「เรื่องนั้นถ้าเห็นคงสนุกไม่เลวนะครับ」
「ไปตายซร้าาาาาา!」

ขอถอนคำพูดก่อนหน้านี้เลย!เจ้านี่แย่ซะยิ่งกว่าแย่อีก!

「งั้นหมวกเกราะสวมหัวเป็นไงครับ?」
「จะให้ชั้นเป็นอัศวินไร้หัวเหรอไง!หรือจะให้เป็นไอ้นั่น? คาเมนทีชเชอร์!?」

...........มันก็รู้สึกต่างกับคาเมนทีชเชอร์นิดหน่อยอ่ะนะ

「จะอันไหนก็ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละครับ
ก็ไม่มีอะไรมากหรอกแค่คิดว่าให้ใส่หมวกเกราะสวมหัวมาปิดหน้าไว้มันน่าสนุกกว่า
โอ๊ะ ตะกี้ความลับนะครับ 」
「ไม่ปิดปังจุดประสงค์จริงเลยนะ!แต่เฮ้ยนี่รู้จักอัศวินไร้หัวด้วยเหรอ!?」
「ครับ แน่นอน」

พระเจ้าช่วย เจ้าแกะนี่น่ากลัวสุดๆ

「เรื่องนั้นช่างเถอะ ว่าแต่ทำไมถึงเอาแต่แนะนำพวกของที่ใช้ปกป้องส่วนหัวล่ะ!
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นของที่ไว้ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าด้วยนะ!
มันไม่เห็นจำเป็นสำหรับชั้นเลยสักนิด!?」
「ไม่นะครับ สิ่งนี้ขอเรียนตามตรงว่าได้คิดอย่างจริงจังแล้วสำหรับเรื่องในอนาคตของท่านเซอิจิ」
「เรื่องในอนาคต?」
「ครับ หน้าตาของท่านเซอิจิในปัจจุบัน ตอนนี้เพราะสกิล『พรางตา』ที่ได้มา
ค่าเสน่ห์จึงแสดงออกมาแค่10 ค่าของเสห่นี่ถึงจะไม่ได้มีจำกัดไว้แต่
สเตตัสที่บอกไว้ว่า10นี่ขอเรียนตามตรงเลยว่าขยะชัดๆครับ」

ส สิ่งที่อยู่ในวงเล็บข้างๆสเตตัสเหลือเชื่อนั่น
คือประสิทธิภาพของพรางตาที่เอาไว้ใช้แสดงสเตตัสให้อีกฝ่ายเห็นงั้นเหรอ
ยังไงก็เหอะพูดจาได้โหดร้ายชะมัด

「.......จะว่าไป เรื่องที่ชั้นมีสกิลพลางตากับสเตตัสเสน่ห์10นี่ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ」
「แกะซะอย่างครับ」

ไม่ตบมุขให้แล้ว

「ยังไงก็ตามแต่ ตอนที่พรางตาทำงานอยู่นั้น คิดว่านอกจากผมหรือคนที่ท่านเซอิจิไว้ใจเต็มที่แล้ว
ทุกคนจะมองเห็นเป็นตัวเลขที่พรางตาแสดงออกมา
กล่าวคือ เสน่ห์10นี่ก็เทียบได้ว่ามีหน้าตาอัปลักษณ์สุดๆนั่นแหละครับ」

ถ้างั้นสเตตัสที่เป็น1เรียงกันสวยงามในตอนแรกของชั้นนี่คือเลวร้ายแบบสุดๆเลยงั้นเหรอ!
เล่นเอาเกือบร้องไห้แน่ะ!

「เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านั้นให้ท่านเซอิจิ
กระผมจึงต้องแนะนำอุปกรณ์สวมใส่ที่ปิดปังใบหน้าทั้งหมดไม่ให้เห็นเลยน่ะครับ」
「ไม่นะ ปัญหาอย่างนั้นก็แค่คลายสกิลพรางตาซะก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ........」

อ้ะ หรือว่าพอคลายสกิลพรางตาเสน่ห์จะเลวร้ายไปอีกก็เป็นได้.............
แม้แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ลองหน้าตายืนยันหน้าตาดูเลย

「อ่อนหัดจังนะครับ」
「หา?」

ความคิดอย่างนั้นของชั้นอยู่ดีๆก็โดนตอกกลับมาอย่างแรงชั้นเลยส่งเสียงงงๆออกมา

「หากคลายพรางตานั่นก็คือผู้คนจะได้รู้ถึงความสามารถของคุณนะ?
แล้วนั่นหมายความว่ายังไงรู้มั้ยครับ?」
「หือ ไม่รู้สิ..........」
「เดาได้ง่ายๆเลยครับ จะถูกดึงเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ไร้สาระของเหล่านาๆประเทศ
ถูกบรรดาผู้คนทั้งหลายปฏิบัติด้วยแบบเดียวกับสัตว์ประหลาด
แล้วสุดท้ายก็ต้องตายโดยแทบจะไม่สามารถเข้าไปผูกสัมพันธ์กับคนอื่นได้เลย」
「แบบนั้นไม่เอาด้วยหรอก...............」

ถึงซาเรียจะต่างออกไปแต่พวกโชตะที่มาโลกนี้ด้วยกันล่ะเป็นไง?
ถ้าได้เห็นสภาพของชั้นที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้วจะคิดยังไงกันบ้าง?
กับสเตตัสระดับสัตว์ประหลาดของชั้น บางทีอาจจะกลัวกันก็ได้
เรื่องนั้น.............ไม่อยากจะคิดเลย

「แหม ถ้าจากใจกระผมเหตุผลใหญ่ที่สุดเพราะมันน่าสนุกหรอกนะครับ」
「อย่างนายน่ะไม่เชื่อด้วยแล้ว!」

อะไรของมันฟะ!? คนเขาอุตส่าห์เริ่มมีบรรยากาศซีเรียสแท้ๆ!

「แต่คิดว่ามีปัญหามากมายจริงๆนะครับ?」
「ไม่อ่ะ ทั่วไปโม่งคลุมหัวน่ะไม่ได้อยู่แล้ว หมวกเกราะสวมหัวนี่ก็ไม่เอา
เดี๋ยวโดนหาว่าเป็นพวกโรคจิตกันพอดี」
「พูดอะไรน่ะครับ ก็เป็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?」
「หุบปาก!」

เจ้าแกะนี่ชักจะลามปามขึ้นเรื่อยๆแล้วนะ............!

「ช่วยไม่ได้น้า  งั้น เอาเป็นหมวกเกราะสวมหัวดีมั้ยครับ?」
「ไม่เฟ้ย แล้วช่วยไม่ได้อะไรกันฟะ!? ไหนลองบอกมาให้ละเอียดหน่อยซิ!?」
「ได้เลยครับ ก็นี่ไม่ใช่หมวกเกราะสวมหัวธรรมดาๆนะ?
มันจะช่วยมอบความสามารถหลายอย่างให้แบบล้นเหลือเลยล่ะครับ」
「อย่างเช่นว่า?」
「ความทนทานอันน่าภูมิใจชนิดที่ต่อให้โดนมังกรกัดหรือเหยียบก็ไม่มีแผลซักรอย」
「นั่นมันไม่ใช่หมวกเกราะแล้วเฟ้ย!」
「ต่อให้เป็นที่ๆร้อนระอุหรือเย็นสุดขั้วเพียงใดด้านในหมวกเกราะก็ยังชิวๆ」
「เฉพาะหัวเนี่ยนะ!? ถ้าไปที่ๆเหมือนนรกแบบนั้นล่ะก็ ร่างกายมันจะไปทนไหวได้ไงฟะ!? 」
「อย่างสุดท้ายก็เปิดได้เฉพาะส่วนปากเวลากินอาหารครับ」
「อันสุดท้ายนี่จืดสนิท!? แต่ฟังชั้นอย่างนั้นมีด้วยเหรอ!?」
「ตัดสินใจได้แล้วสินะ งั้นก็เป็นหมวกเกราะสวมหัวนะครับ」
「ฟังที่พูดหน่อยสิเฟ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!」

ตัดสินใจอะไรกันฟะ!? ไม่มีใครพูดสักหน่อยว่าใช้ได้!?
ทว่า แกะทำเป็นไม่สนใจชั้นแล้วเอาหมวกเกราะสวมหัวสีดำสนิทออกมาจากความว่างเปล่า

「นี่ครับ เชิญ」
「ก็บอกแล้วว่าไม่อ๊าววว!?」
「ไม่ต้องเกรงใจไปหรอกครับ กระผมเองยังไม่ต้องการเลย」
「ยิ่งไม่อยากได้เข้าไปใหญ่!」

แม้ชั้นจะพยายามปฏิเสธเต็มที่แต่แกะอยู่ๆก็โยนหมวกเกราะขึ้นไปบนอากาศแล้วตบเข้าให้
ขณะที่ชั้นกำลังตะลึงกับสิ่งที่ทำอย่างกะทันหันก็มีอะไรมาครอบหัวของชั้นแล้ว

「เฮ้ย!ตั้งแต่เมื่อไรกัน!? 」

พอลองเอามือตรวจดูก็พบว่ามันคือหมวกเกราะสวมหัวเมื่อตะกี้นั่นเอง

「นี่ก็มาจากการฝึกฝนของแกะครับ」
「ตกลงแกะนี่มันอะไรกันฟะ!?」

ชั้นพยายามถอดอย่างสุดชีวิตแต่ไม่รู้ทำไมถึงถอดไม่ออก

「อ้าว ถอดไม่ได้อ่ะ」
「ใช่ครับ ก็ต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว」
「เอาออกป๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย!」
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ถ้ามีโอกาสจะทำให้ครับ」

นี่มันประโยคของพวกที่ไมคิดจะทำชัดๆ!?
ระดับความน่าเชื่อถือประมาณ『ไว้พรุ่งนี้ค่อยเอาจริงแล้วกัน』แบบนี้เลย!?

310.jpg

「ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ เพราะกระผมอยู่ด้วยเลยถอดไม่ออกแต่หลังจากที่แยกกับกระผมไปแล้ว
เมื่อหมวกเกราะตัดสินว่าคนผู้นั้นเชื่อใจได้ก็จะถอดได้เอง
พูดในทางกลับกันคือหากมีคนแปลกหน้าอยู่ใกล้จะไม่มีทางถอดออกแน่ครับ」
「สเปกสูงเสียของสุดๆ!?」

คนที่เชื่อใจได้นี่หมวกเกราะจะเป็นคนตัดสินใจให้เองงั้นเหรอ!? เซอร์ไพรส์สุดๆ!

「อ้ะ ถ้างั้นกับซาเรียก็ไม่มีปัญหาใช่มะ?」
「ครับ ก็เป็นเช่นนั้น」
「งั้นหลักจากแยกกับนาย จะรีบถอดทิ้งซะเลย!」

ชั้นนี่หัวดีจังแฮะ!

「อ้ะ หมวกเกราะนั่น ถ้ามีคนที่เชื่อใจไม่ได้หรือคนแปลกหน้าอยู่ใกล้
จะบังคับสวมหัวโดยอัตโนมัติครับ จะหลบหลีกก็ไม่ได้ด้วยนะ」
「สาดเอ๊ย!นี่มันไม่ใช่สเปกสูงแล้วเฟ้ย มันคำสาปชัดๆ!บัดซบบบบบบบบบบบบ!」
「การไม่ยอมแพ้คือสิ่งสำคัญสำหรับมนุษย์ไม่ว่าใครก็ตามนะครับ คุณสัตว์ประหลาด」
「คำพูดกับสิ่งที่ทำมันจะขัดแย้งกันไปหน่อยมั้ย!」
「พอเวลาผ่านไปซักวันมันก็หลุดออกมาเองแหละครับ เพราะงั้น อย่าไปฝืนมันเลยดีกว่านะ?」

ไม่ไหวแล้วฟ่ะเจ้านี่ เอาไงก็เอาไม่ฝืนก็ได้ ก็ขนาดมังกรยังไม่ไหวเลยนี่นา? ความมั่นใจก็ไม่มีด้วย.....
ระหว่างที่เสียเวลาไปกับแกะจนเลือดหมดหลอดอยู่คนเดียว
คงเพราะซาเรียเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วล่ะมั้งเลยยื่นหน้าออกมาจากผ้าม่าน

「โอ๊ะ คุณหนูซาเรีย เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วเหรอครับ?」
「อื้ม เสร็จแล้วล่ะ!」
「งั้นเหรอครับ ถ้างั้นก็...............」

พอแกะตบมืออีกครั้ง ผ้าม่านที่กั้นระหว่างชั้นกับซาเรียก็หายวับไปทันที
เมื่อผ้าม่านหายไปที่ปรากฏออกมาคือคือซาเรียที่สวมชุดวันพีชสีขาวบริสุทธิ์

「เซอิจิ..........เป็นไงบ้าง? เหมาะมั้ย?」
「เอ๊ะ? อ อื้ม..............」

ชั้นตอบคำถามที่มากะทันหันของซาเรียไม่ได้เลย
ว่าซาเรียเหมาะกับชุดนั้นแค่ไหน
เพราะชุดสีขาวบริสุทธิ์นั้นช่วยทำให้ผมสีแดงเข้มส่องประกายยึ่งขึ้นไปอีก

「เอะเฮะเฮะ ดีใจจัง!」
「...........」

ไม่ไหวแล้ว ซาเรียน่ารักสุดๆ ...........ขอโทษนะครับที่อวดแฟน

「เห็นด้วยครับ  น่ารังเกียจจริงเชียว.............」
「นี่ ช่วยเลือกคำพูดซักหน่อยเป็นมั้ย!?」

เจ้าแกะนี่ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด..............
ถ้าให้พูดเกี่ยวกับเรื่องอ่านใจนี่เลิกตบมุขแล้ว เหนื่อยเปล่า

「เอาล่ะ ของที่ต้องส่งมอบก็ส่งให้เรียบร้อย งั้นก็เริ่มทำการวาร์ปกันเลยมั้ยครับ」
「อืม ยังไงชั้นก็เลือกไม่ได้อยู่แล้วนี่นา」
「งั้นจะทำการวาร์ปล่ะนะครับ」
「นายนี่จนสุดท้ายก็ยังไม่ฟังที่พูดเลยนะ!?」

ถึงชั้นจะบอกอย่างนั้น แกะก็ทำเป็นหูทวนลมไม่ใส่ใจกับคำพูดชั้นแล้วเตรียมตัวเริ่มวาร์ป

「เอาเถอะครับ สำหรับคำบ่นว่าไว้ถ้าได้เจอกันอีกครั้งตอนนั้นจะรับฟังให้แล้วกัน」
「นายเป็นคนบอกเองว่าการพิชิตสมบูรณ์แบบมันยากไม่ใช่เหรอไง!?
อีกอย่างชั้นก็ไม่อยากจะเจอแกอีกเป็นครั้งที่สองแล้วเฟ้ย!」
「ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ความรู้สึกของคุณน่ะรู้อยู่แล้ว ชอบกระผมใช่มั้ยล่ะ?」
「คิดอีกทีขอสักหมัดเถอะ!」
「โอ๊ะโอ การวาร์ปเริ่มแล้ว」
「เฮ้ย!?เดี๋ย--------」

พอแกะพูดขึ้นสุดท้ายชั้นก็ชกออกไปไม่สำเร็จได้แต่ยอมรับการถูกวาร์ปไปทั้งอย่างนั้น
นั่นก็เพราะร่างกายกลายเป็นเม็ดแสงแล้วเริ่มหายไปซะก่อนนั่นเอง
แต่ก่อนที่ร่ายกายของชั้นจะหายไปหมดก็ได้ตะโกนคำพูดสุดท้ายออกมา

「แก...........จนกว่าจะได้เจอกันคราวหน้าจำไว้เลยนะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ!」
「คุณแกะ ลาล่ะนะ!」
「ครับ ลาก่อน」

และแล้วชั้นกับซาเรียก็ถูกวาร์ปออกจาก【ป่าปลายทางแห่งรักอันแสนเศร้า】อย่างง่ายดายเหลือเชื่อ
คำพูดสุดท้ายดูเป็นลูกกระจ๊อกมากเลยเหรอ? ................ชั้นรู้ดีอยู่แล้วล่ะน่า!

◆◇◆

「ไปแล้วสินะ............」

กระผมคือคุณแกะที่ยืนพึมพำมองส่งทั้งสองคนที่ถูกวาร์ปออกไปเมื่อตะกี้นี้

「แต่ว่านะ.......『แก...........จนกว่าจะได้เจอกันคราวหน้าจำไว้เลยนะะะะะะะะะ』......งั้นเหรอ」

สุดท้ายคำตะโกนของท่านเซอิจิที่ออกมาจากปากเพียงอย่างเดียวก็ทำให้หลุดยิ้มออกมา

「จนกว่าจะได้พบกันคราวหน้า..........ท่านเซอิจิตั้งใจจะมาพบกับกระผมอีกให้ได้สินะ」

คิดว่าคำพูดนั้นมันยากแค่ไหนกันครับ...............
แต่ว่าคำพูดนี้ทำให้คนที่ไม่ได้คุยกับผู้คนมานานนับปีอย่างกระผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง

「ฟุฟุ แต่ว่านะ.............『แก(テメェ)』ที่ว่านี่กระผมไม่ใช่แพะเป็นแกะต่างหาก」

ที่ว่ามามันผิดไม่ใช่เหรอ? แต่ช่างเถอะ ยังไงกระผมก็ไม่เกี่ยวอยู่แล้วจะคิดยังไงก็คิดไปเถอะ

「เอาล่ะ ดันเจี้ยนแห่งนี้อีกไม่นานก็จะหายไปแล้วด้วยสิ.............ต้องรอดันเจี้ยนออกมาใหม่อีกแล้ว」

และหลังจากนั้น---------

「คอยอยู่นะครับ? ท่านเซอิจิ」

กระผมพึมพำชื่อของคนที่มองส่งเมื่อสักครู่นี้ด้วยท่าทางรื่มรมส์แล้วจากสถานที่แห่งนั้นไป

 
Copyright © 2016. NTDTranslate - All Rights Reserved
Powered by SirZIZ | NTDTranslate