ตอนที่ 14 ปาฏิหารย์แห่งรัก
「ซาเรียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!」
ชั้นรีบวิ่งเข้าไปหาซาเรียแล้วประคองซาเรียที่ล้มลงอย่างไร้เรี่ยวแรงตั้งขึ้น
「ซาเรีย............ซาเรีย...........!」
แม้ชั้นจะเรียกซาเรียหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมา
「ทำไมล่ะ........ทำไมล่ะก็ชั้น.............!」
น้ำตาแห่งความเศร้าที่พยายามอดทนไม่ให้ไหลออกมาของชั้นถูกปล่อยออกมา
และแล้วในที่สุดซาเรียก็ลืมตาขึ้นเล็กน้อย
「ในที่สุด..........ก็เรียกชื่อฉัน ซะทีนะ」
「ซาเรีย!ตอนนี้แหละยารักษา.......!」
พอพูดไปก็พลางหยิบยารักษาชั้นเยี่ยมที่เก็บไว้ในไอเท็มบ็อก
แต่ซาเรียก็เอามือมาจับมือชั้นหยุดเอาไว้อย่างเงียบๆ
「ฉัน ที่ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ก็เพราะสกิล ยารักษา เป็นของสำหรับผู้มีชีวิต เพราะงั้น ใช้ไม่ได้หรอก」
「เอ๋............」
「ฉัน ตายไปกับ การโจมตีเมื่อกี้แล้ว ที่บอกว่ามีชีวิตอยู่ด้วยสกิล ก็คือแบบนี้แหละ 」
ในขณะที่ตาเบิกค้างด้วยความประหลาดใจและความสิ้นหวังผสมปนเปรุมเร้าเข้ามา
ซาเรียก็พูดต่อ
「เผ่าพันธุ์『Kaiserkong 』อย่างฉันมีสกิลเฉพาะตัวคือ................『เกียรติแห่งจักรพรรดิ์』
ที่ฉันยังพูดได้อยู่ตอนนี้ เพราะได้เจ้านี่แหละ」
「『เกียรติแห่งจักรพรรดิ์』.....................」
「ใช่ ประสิทธิภาพ ทำให้เคลื่อนไหวได้ชั่วคราว แม้ตายไปแล้ว แต่ ก็ไม่นานนักหรอก」
「!?」
ถ้างั้น............ซาเรียก็............
ชั้นสิ้นหวังไปในทันทีแล้วทันใดนั้นก็นึกถึง『ยาวิญญาณ』ที่ใช้ชุบชีวิตขึ้นมาได้
「จ จริงสิ!ถ้าเป็น『ยาวิญญาณ』ล่ะก็ต้องช่วยได้แน่!?รอเดี๋ยวนะ!จะทำให้เดี๋ยว---------」
「นั่นก็ ไม่ได้หรอก 『ยาวิญญาณ』ใช้ไม่ได้ผล กับมอนเตอร์」
「------------」
พอชั้นได้ฟังคำพูดของซาเรียก็นึกถึงประสิทธิภาพของ 『ยาวิญญาณ』ขึ้นมาได้
ถูกทำให้นึกขึ้นมาได้
พวกClever monkeyเองที่ไม่ใช้เพราะชุบชีวิตขึ้นมาไม่ได้แถมต้องหาวัตถุดิบตั้งมากมาย
อย่างเปล่าเประโยชน์เลยมีของอย่างยารักษาชั้นเยี่ยมที่ประสิทธิภาพเหมือนกันแทน
ยาวิญญาณจะใช้ไม่ได้ผลกับมอนเตอร์เลย ข้อมูลนั้นก็มีอยู่แล้ว..............
เมื่อนึกเรื่องนั้นขึ้นมาได้ ชั้นก็เลยไม่โต้เถียงออกไป
แต่กลับร้องตะโกนความรู้สึกที่ยากจะเอ่ยซึ่งถาโถมเข้ามากับซาเรียโดยไม่รู้ตัว
「งั้น............ทำไมต้องมาช่วยชั้นด้วยล่ะ!ทำไมต้องช่วยชั้นจนตัวตายด้วย!?
ก็จริงอยู่ที่ชั้นเคยบอกว่าชอบเธอออกไป!
แต่ก็ไม่ใช่ในแบบชายหญิงมิหนำซ้ำยังไม่ใช่แบบครอบครัวด้วยก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ!?
ทำไม่ดีด้วยก็ตั้งมากมาย!? พูดจาโหดร้ายใส่ก็เยอะแยะ!?
แล้วสุดท้ายก็หนีจากเธอมา!? ผลลัพธ์นั้นก็ดึงเธอมาพัวพันจนเป็นแบบนี้.............!」
ระหว่างที่พูดไปชั้นก็มีน้ำตาหลั่งรินลงมาทีละนิด
ถึงแม้จะมองย้อนกับไปยังวันเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่กับซาเรียเท่าไรก็ไม่เคยมีการใจดีด้วยเลยซักครั้งเดียว
ชั้นนี่มัน............ชั้นนี่มัน..........
มือนั้นได้ใส่แรงจับไปที่ไหล่ของซาเรีย
ทันใดนั้นซาเรียก็ค่อยๆเอามือสองข้างมากุมมือข้างที่ไม่ได้ประคองไว้อยู่ของชั้น
「ฉัน ชอบเซอิจิ นอกจากเรื่องนั้น ก็มีเหตุผล.........อยู่นะ?」
「----------」
ชั้นที่เป็นอย่างนั้น..............ซาเรียยังมาบอกว่าชอบอีก ทำไมล่ะ?
「ถึงเซอิจิ จะพูดนั่นพูดนี่ แต่สุดท้ายก็ยังยอมกินอาหาร ใจดีมากเลยล่ะ」
「เรื่องนั้น...........เรื่องนั้นก็แค่เสียดายอาหารเท่านั้นเอง........!」
「อย่างอื่นก็ ถึงรู้สึกรำคาญฉัน ก็ยังใส่ใจ คิดคำนึงถึงแทนที่จะเมินเฉย
ไม่ทำเป็นมองไม่เห็น พูดคุยกันเป็นปกติ แล้วก็ยัง...........อยู่ด้วยกัน อย่างสนุกสนาน
ช่างอบอุ่นเหลือเกิน」
「............」
「แม้ว่าจะ เอาแต่บ่น เอะอะคนเดียวอยู่ตลอด คอยด่าว่าฉันแต่ ก็ต่างกับพวกClever monkey
คนเดียวที่ปฏิบัติแบบนั้นกับฉันคือ เซอิจิ------------ชอบที่สุด」
รู้สึกสมเพชตัวเองจากคำพูดของซาเรียขึ้นเรื่อยๆ
ซาเรียน่ะเหรอเป็นกอลิล่าเวร? ไม่ใช่หรอก ที่เวรมันชั้นต่างหาก
ชั้นน่ะ..........เป็นคนที่ไม่เคยทำดีด้วยมาจนถึงตอนนี้เลยนะ?
ชั้นหยุดน้ำตาที่ไหลเหมือนเขื่อนแตกไว้ไม่ได้
ขณะที่ชั้นน้ำตานองใบหน้าซาเรียก็ยิ้มให้นิดๆแล้วพูดต่ออีก
「ฉันชอบใบหน้ายิ้มแย้ม ของเซอิจินะ เซอิจิตอนนี้ ไม่สมกับเป็นเซอิจิเลย
ยิ่งกว่านั้น ฉันก็สายไปแล้ว...........เพราะงั้นสุดท้ายก็อยากเห็น ใบหน้ายิ้มแย้มของคนที่รัก
นะ? ยิ้มสิ?」
ไม่ว่ายังไงซาเรียก็ยัง.............
ความรักอันบริสุทธิ์แน่วแน่ของซาเรีย ได้จุดไฟให้ชั้นที่จมดิ่งสู่ความมืดมิด
.............ไม่สิ รู้สึกไฟมันโชติช่วงขึ้นมาเลยต่างหาก
ชั้นจะยอมเป็นผู้ชายเฮงซวยต่อไปอีกงั้นเหรอ?.........ไม่มีทางอยู่แล้ว
ชั้นน่ะมีคติประจำใจอย่างนึงซึ่งพ่อแม่ที่เสียชีวิตไปกับอุบัติเหตุได้กล่าวไว้
นั่นคือ 『ไม่ว่ายังไงก็จงมองไปข้างหน้า อย่าสิ้นหวัง』
ชั้นพยายามเอาแขนเสื้อมาเช็ดน้ำตา
จากนั้นก็พยายามฝืนยิ้มออกมาแม้จะยังมีน้ำตาอยู่
「นั่นสินะ..........ต้องเอะอะโวยวายถึงจะสมเป็นชั้น!」
「อื้ม!」
พอชั้นทำหน้ายิ้มให้ ซาเรียก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
ระหว่างที่ชั้นกับซาเรียพูดคุยโต้ตอบกันนั้น ขุนนางแห่งความมืดเซนอสที่เงียบมาตลอดจนถึงตอนนี้
ก็เอ่ยปากขึ้น
『.........≪ความรัก≫ระหว่างคนกับกอลิล่า...........งั้นเหรอ』
「!」
ด้วยคำพูดนั้นทำให้ชั้นนึกเรื่องของเซนอสที่ลืมมาจนถึงตอนนี้ออกทันที
『น่าขันซะจริง...........ทั้งที่แค่ความรักระหว่างมนุษย์ด้วยกันก็น่าเกลียดพออยู่แล้ว.............
เจ้ายังจะไปรักใคร่สนิทสนมกับกอลิล่าอีกงั้นเหรอ』
「เป็นกอลิล่าแล้วมันผิดตรงไหน!」
ชั้นอุ้มซาเรียในท่าอุ้มเจ้าหญิงแล้วค่อยๆพาไปนอนลงที่ตรงมุมห้อง
「ชื่อเซนอสสินะ...........? ทำไมจนถึงตอนนี้ถึงไม่โจมตีเข้ามาล่ะ?」
ชั้นเปิดปากพูดแบบประจันหน้ากับเซนอสเป็นครั้งแรก
『ก็ไม่มีอะไรมาก ข้าแค่รู้สึกสนใจใน≪ความรัก≫ระหว่างกอลิล่ากับเจ้าเลยไม่โจมตีเข้าไป......
เอาเถอะก็เหมือนกับดูละครตลกราคาถูกล่ะนะ
ก็เจ้าไม่ได้มีความรักให้กอลิล่าเลย จะว่ากอลิล่าชอบอยู่ฝ่ายเดียวก็ว่าได้..........
แล้วอย่างนี้ถ้าไม่ใช่ละครตลก จะให้เรียกว่าอะไรล่ะ? ช่างน่าเบื่อซะจริง รีบๆปิดม่านไปได้แล้ว』
「งั้นเหรอ」
ชั้นค่อยๆเตรียมดาบมณีภูติน้ำกับตะบองลิงเจ้าปัญญาขึ้นมาช้าๆ
จากนั้น--------------
「แต่...........น่าเสียดายนะจะปิดม่านมันยังเร็วไป.........!」
『!』
ชั้นใช้สกิล『ก้าวพริบตา』เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วทะยานไปโจมตีที่ด้านหลังของเซนอส
ทว่า เซนอสก็หลบการโจมตีนั้นด้วยการเอี้ยวตัวเพียงเล็กน้อย
『โจมตีทีเผลออย่างนี้ขี้ขลาดจริงนะ.........』
「ขี้ขลาด? ก็ไม่ได้ผิดสักหน่อย เบื๊อกเอ้ย!」
...........ไรฟะ?ทีเซนอสยังโจมตีชั้นทีเผลอเลยไม่ใช่เหรอไง...........
ต แต่ถ้าไปใส่ใจก็แพ้กันพอดีน่ะสิ!
ชั้นใช้สกิล『ก้าวพริบตา』เข้าไปหาเซนอสอีกครั้ง
『น่ารำคาญ!』
เซนอสตะโกนขึ้นแล้วใช้ดาบเรียวยาวเล็งแทงเข้าใส่ชั้นเต็มแรง
เสี้ยววินาทีนั้นชั้นใช้ตะบองลิงเจ้าปัญญาป้องกันไว้แต่ก็ทำให้ตะบองลิงเจ้าปัญญาแตกกระจาย
โธ่ตะบองลิงเจ้าปัญญาของชั้น........... อุตส่าห์ถูกใจนะเนี่ย!
จะว่าไปชั้นอุตส่าห์ใช้ก้าวพริบตาแล้วไหงยังโจมตีโดนได้อีกล่ะ!?
『ทำไมเจ้ายังแยกเขี้ยวใส่ข้าอีกล่ะ? ความต่างของความสามารถก็เห็นกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?』
「ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!อย่างเจ้าน่ะไม่เข้าใจหรอก!」
『...........』
อ อ้าว? แปลกจังแฮะ........อุตส่าห์ลองเลียนแบบเซนอสดูนะเนี่ย...........
สายตามันจะว่ายังไงดีล่ะ............เจ็บปวดจังแฮะ
แม้ชั้นจะได้รับความเสียหายทางจิตใจจากความเงียบ
แต่ดูเหมือนเซนอสจะเข้าใจไปเองคนเดียยวเลยพูดขึ้น
『อย่างนี้นี่เอง..........ข้าคงเข้าใจผิดไป เจ้าน่ะรักกอลิล่านั่นจริงๆสินะ?
ทั้งที่คิดว่าเป็นแค่ละครตลกราคาถูกที่ทนดูไม่ได้............
แต่ถ้าเจ้ากับกอลิล่ารักกันล่ะก็นี่แหละคือละครตลกของจริงล่ะ!』
พูดแบบนั้นแล้วเซนอสก็เริ่มหัวเราะเสียงดังอยู่คนเดียว
แต่ชั้นอยากชดเชยให้กับซาเรีย
ทั้ยังต้องการสื่อความรู้สึกที่ผุดออกมานี้ให้ซาเรียได้รู้
เพราะงั้น ชั้นเลยจะสื่อออกไปโดยการปราบเซนอสตรงหน้านี้ในขณะที่สกิลของซาเรียยังมีผลอยู่
นี่แหละคือ-----------
「ใช่แล้ว!ชั้นน่ะ........รักซาเรีย!มีอะไรจะบ่นเหรอไง!?」
『!?』
ใช้ก้าวพริบตาเข้าไปใกล้อีกครั้งแล้วใช้ดาบมณีภูตน้ำฟันเข้าไป
แต่แล้วครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของชั้นไม่ได้ล่ะมั้งเลยไม่ได้หลบ
แต่ใช้ดาบเรียวยาวป้องกันไว้
『อุ.........』
เซนอสที่ป้องกันการโจมตีของชั้นปัดดาบออกไปแล้วทิ้งระยะห่างจากชั้น
จากนั้นชั้นก็พูดกับเซนอสที่ตั้งท่าแม้แต่มือสมัครเล่นก็ดูออกว่าไม่มีช่องว่าง
「ชั้นน่ะมันทั้งบ้าและเฮงซวย!
อีกฝ่ายเป็นกอลิล่า? ความคิดของชั้นมันแช่แข็งอยู่แบบนี้แหละเลยยอมรับซาเรียไม่ได้?
เพราะงั้นซาเรียถึงได้.............
แต่เรื่องร้องไห้เอาไว้ทีหลัง!เศร้าเสียใจก็ไว้ทีหลัง!
ทุกอย่างเพื่อปราบแกแล้วแสดงความเท่ห์ให้ซาเรียที่บอกชอบชั้นเป็นคนแรกได้เห็น!
ตอนนี้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น!มุ่งหน้าสุดตัว!」
ท่าทางชั้นนี่......จะปลงได้แล้วแฮะ!สลัดอะไรหลายๆอย่างทิ้งไปได้แล้ว!
แต่ ตอนนี้เท่านั้น...........แค่ตอนนี้เท่านั้นเพื่อซาเรียที่บอกชอบชั้นที่เอะอะโวยวาย...........
ความคิดแง่ลบน่ะทิ้งมันไปให้หมด!
ในขณะที่ตะโกนกู่ร้องการเตรียมใจของชั้น ซาเรียที่เอนนอนอยู่ก็พูดด้วเสียงเบาๆ
「เซอิจิ................」
เสียงอันแผ่นเบาที่ได้ยินนั้นรู้สึกเหมือนมีความยินดีปนอยู่ด้วย
และเซนอสที่ได้รับการตะโกนของชั้นตรงหน้าก็ดูเหมือนจะตะลึงไปเล็กน้อย
แต่ไม่นานก็หัวเราะออกมาอีก
『ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!ความรักที่มีให้กอลิล่าของเจ้า..............ดูจะเป็นของจริงนะ!』
「ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอไง!เรื่องน่าอายแบบนั้นเลิกพูดซักทีเถอะ!」
พอชั้นพูดแบบเขินๆไปไม่รู้ทำไมเซนอสถึงกับถอยเลย เดี๋ยวก็ร้องไห้ซะหรอก
『เอาเถอะ.............. ยังไงก็ตามแต่จะบอกเรื่องดีๆให้อย่างนึง
กับคนที่รักกอลิล่าแบบจริงจังอย่างแกแล้วกัน』
「?」
เรื่องดีๆ? เกี่ยวกับเสน่ห์ของชั้นเหรอ? .............ในสถานการณ์อย่างนี้ดูท่าจะไม่ใช่นะ
ตรงกันข้ามถ้าบอกของอย่างนั้นมาแล้วจะให้ตอบกลับไปยังไงล่ะ
『หากปราบข้าได้ล่ะก็..........กอลิล่านั่นก็อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้นะ?』
「!?」
ชั้นเปิดตากว้างด้วยความตกใจกับคำพูดของเซนอส
「จ จริงเหรอ!?」
พอเผลอตะโกนออกไป เซนอสก็หัวเราะแบบท้าทาย
『ฮิฮิฮิ..........ข้าไม่ทำเรื่องไร้สาระอย่างการโกหกหรอก
เจ้าเองหากปราบผู้แข็งแกร่งเช่นข้าได้รวมถึงกอลิล่านั่นด้วย ก็จะได้【วิวัฒนาการ】ไงล่ะ
ก็เจ้ากับกอลิล่าดูเหมือนว่าจะกิน【ผลวิวัฒนาการ】กันมาสินะ............
เอาเถอะ อย่างการล้มข้าได้เนี่ย มันก็เท่ากับเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วล่ะ』
「แก..........ใช้ตรวจสอบกับพวกเรางั้นเหรอ?」
『เฮอะ.........ก็แบบนั้นแหละ แล้วจะเอายังไงล่ะ?』
ไม่อยากเชื่อเลยแฮะ แม้แต่ตอนนี้ชั้นก็ยังได้【ผลวิวัฒนาการ】มาช่วยอีก
แถมซาเรียเองก็ยังเหลือประสิทธิภาพของผลวิวัฒนาการอีก1ครั้งด้วย
.............แต่ไม่ขอบคุณหรอกนะเฟ้ย
「ไม่เห็นจำเป็นต้องถาม............ชั้นก็แค่ต้องทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่อปราบแกก็เท่านั้นแหละ!」
พอชั้นตะโกนไปแบบนั้น เซนอสก็เปล่งแสงออกมาจากตาที่ไม่มีลูกตา
แล้วหลอมรวมไปกับห้วงอากาศหายไปเหมือนตอนโจมตีชั้นทีเผลอ
『ถ้างั้น............』
「!」
『ก็จงแสดงให้ข้าดู............!』
เซนอสปรากฏตัวตรงหน้าชั้นแล้วใช้ดาบเรียวยาวแทงมาที่หัวใจของชั้นอีกครั้ง
แต่ชั้นก็ไม่ได้งุ่มง่ามขนาดรับการโจมตีแบบเดิมอย่างนั้นอีก
เลยบังคับร่างกายให้เอาดาบสั้นมณีภูติน้ำในมือขวามาตั้งท่าป้องกันดายเรียวยาว
『โฮ่?』
「ย๊ากกกกกกกกก!」
จากนั้นก็สะบัดดาบสั้นมณีภูติน้ำที่ป้องกันไว้แล้วโจมตีกลับ
『ป้องกันการโจมตีของข้าได้เหรอ..........เกิดเรื่องคาดเดาไม่ได้หลายๆอย่างนี่ก็ไม่น่าเบื่อดี』
「ชั้นไม่ดีใจหรอกเฟ้ย!」
พูดประชดไปก็พลางเปิดฉากใช้สกิลโจมตีอย่างต่อเนื่อง
『เท้าสังหาร』『เล็บแกร่ง』『ก้าวพริบตา』
『เท้าสังหาร』『เล็บแกร่ง』『ก้าวพริบตา』-----------
ทว่าเซนอสกลับปัดป้องการโจมตีเหล่านั้นทั้งหมดได้ง่ายๆ
สกิลใช้ไม่ได้........ก็ต้องเวทมนตร์ล่ะ!
แล้วชั้นก็ใช้เวทธาตุน้ำที่ไม่ใช่เวทที่ใช้ยิงใส่ซาเรียแต่กินพลังเวทคล้ายกันออกมาทันที
「『Ocean Impact』!」
ชั้นตะโกนโดยตั้งท่าชูแขนขวาไปที่เซนอสแล้วก้อนน้ำแรงอัดมหาศาลก็พุ่งไปโจมตีด้วยความเร็วสูง
『โฮ่?เวทธาตุน้ำชั้นสูงงั้นเหรอ.......น่าสนุกดี!
ช่วงก่อนตายนอกจากดาบแล้วข้าก็เจนจัดด้านมนตร์มืดเช่นกัน!』
ทว่า เซนอสกลับยิ้มอย่างสนุกสนานเมื่อเห็นการโจมตีของชั้น
พลันตั้งท่าชูมือขวาชี้ไปทางที่ชั้นยิง『Ocean Impact』เข้าไปหา
「『Magic Hole 』!」
ฟู้วววววว!
มีเสียงหมุนวนฟังดูไม่ลื่นหูออกมาทันใดนั้นที่มือขวาของเซนอสก็มีหลุมดำเล็กๆปรากฏขึ้นมา
หลุมดำนั้นหมุนเหมือนกับน้ำวนให้ความรู้สึกไม่ดีเอามากๆ
และแล้วความรู้สึกไม่ดีของชั้นก็ตรงตามคาดเมื่อ『Ocean Impact』ที่เข้าไปใกล้เซนอส
ถูกหลุมดำที่หมุนวนดูดเข้าไปอย่างง่ายดายแล้วหายลับไป
『ก็คาดไม่ถึงนะว่าจะใช้เวทธาตุน้ำขั้นสูงได้แต่เดิมทีเวทมันก็ไม่มีผลกับข้าอยู่แล้วล่ะนะ!』
ว่าไงนะ!?โกงเกินไปป่าวเฮ้ย!? จะไม่ให้มีEasy modeซักหน่อยเหรอไง!?
แค่บั๊กหน่อยๆก็พอแล้ว!อย่ามาโกงกันสิฟะ!
「บัดซบ!」
ต้องมาเจอกับความเก่งอันเหลือเชื่อ ชั้นเลยสบถออกมา
『ความรักของเจ้าที่มีให้กอลิล่ามีแค่นี้เองเหรอ?』
แล้วเซนอสก็เข้าโจมตีต่อราวกับพูดว่าต่อไปตาข้าบ้าง
「โอ้ว!」
แม้ชั้นจะโดดถอยออกมาจากตรงนั้นแทบไม่ทันด้วยปฏิกิริยาโต้ตอบ
แต่ดาบเรียวยาวของเซนอสก็ยังเฉียดมาโดนตัวชั้นนิดหน่อย
「ชิ!」
『โฮ่.........หลบการโจมตีของข้าได้หลายครั้งแบบนี้
ก่อนจะกลายมาเป็นมอนเตอร์ก็นับได้เพียงไม่กี่คนเองนะ』
「ก่อนจะกลายเป็นมอนเตอร์นี่มันอะไรฟะ!? ตกลงนายเป็นมนุษย์งั้นเหรอ!?」
จู่ๆก็ดันเผลอตบมุขออกไปซะได้ แต่ไม่ผิดซักหน่อย ก็ดูสิตรงหน้าเนี่ยมันโครงกระดูกชัดๆ!
...............อ้ะ ศพคนตายก็กลายเป็นโครงกระดูกนี่หว่า
จะว่าไปเรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะแทนที่จะมาใส่ใจกับตัวจริงของเซนอส
สถานการณ์ที่การโจมตีของชั้นใช้ไม่ได้เลยต่างหากล่ะคือปัญหา
สกิลของซาเรียเองก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้วด้วย
ถ้าไม่ปราบให้ได้ในช่วงที่สกิลกำลังทำงานอยู่ล่ะก็..............
เดิมทีชั้นก็ยังใช้สกิลที่ได้มาจากClever monkeyกับAsh wolfไม่เต็มประสิทธิภาพของมันเหมือนกัน
แล้วจากสมุดโน๊ตความรู้ต่างโลกที่ได้มาจากพระเจ้าก็มีเขียนไว้ด้วยว่า
พวกสกิลเนี่ยแต่เดิมเป็นของที่เกิดจากตัวเอง ที่ไปชิงเอาจากคนอื่นอย่างชั้นเนี่ยแทบไม่มีเลย
เพราะงั้นแหละ ชั้นที่ไม่ได้สกิลมาด้วยตัวเองถึงได้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพไม่ได้
...........เพราะสุดท้ายแล้วมันก็แค่พลังของคนอื่น............
พอความคิดแบบนั้นแล่นเข้ามาในหัวโดยไม่ได้ตั้งใจก็รีบสลัดมันทิ้งไป
ถ้าเพราะสกิลของชั้นที่ได้มาเป็นพลังของคนอื่นล่ะก็งั้นทำให้มันเป็นพลังของชั้นซะเดี๋ยวนี้เลยก็พอ
ยิ่งกว่านั้นถ้าทำให้มันเป็นพลังของตัวเองได้ล่ะก็--------
「ชั้นก็จะพัฒนาขึ้นไปอีก...............!」
ชั้นวิ่งเข้าไปหาเซนอสอย่างเต็มสปีดอีกครั้ง
ทว่า จะใช้แค่สกิล『ก้าวพริบตา』เข้าไปหาเฉยๆเลยไม่ได้
ที่ใช้ไปมั่วๆจนถึงตอนนี้ถูกรับมือได้ทั้งหมด
เพราะงั้นตอนนี้คิดว่าคงต้องลองเปลี่ยนวิธีใช้หน่อยแล้ว
ในหัวคิดแผนไปพลางค่อยๆเข้าไปใกล้เซนอส
..........ถึงจะรู้สึกเอาป่านนี้แต่ชั้นนี่ก็วิวัฒนาการจริงด้วยแฮะ
ถึงจะวิ่งเต็มแรงอย่างตอนนี้ก็ยังไม่เหนื่อยเลย
แม้ว่าสปีดจะไม่ถึงขึ้นก้าวพริบตาแต่ก็เคลื่อนไหวได้เร็วมากๆ
อีกอย่างพอมาค่อยๆคิดดูดีๆแล้ว Lv1กับLv1500มาวัดดวงกันเนี่ยมันผิดปกติใช่มั้ยล่ะ?
.......ก็นั่นน่ะสิ? คงยกเว้นไว้สำหรับคนทั่วไปอ่ะนะ..........
เอาเถอะยังไงก็ตามแต่ก็วิวัฒนาการขึ้นมาจริงๆนั่นแหละ
ก็ดูสิ แรกเริ่มสเตตัสของชั้นมัน1หมดเลยด้วย
ระหว่างที่เข้าไปใกล้โดยคิดลึกๆอยู่แบบนั้น เซนอสก็พูดมาด้วยท่าทางที่เบื่อหน่าย
『บ้าเลือดไปแล้วเหรอเจ้ามนุษย์เอ๋ย
คิดว่าสปีดจะเหนือกว่าการรับรู้ของข้าได้โดยไม่ใช้สกิลงั้นเหรอ?』
คงเพราะเซนอสประเมินว่าไม่จำเป็นต้องหลบเลยหยุดยืนอยู่กับที่อย่างใจเย็น
แล้วตั้งท่าเตรียมสวนกลับชั้น
---------ทว่านั่นแหละคือที่ชั้นเล็งไว้
อีกนิด..........อีกนิด..........อีกนิด...........!
และแล้วชั่วพริบตาที่ชั้นหวังไว้ก็มาเยือน
『น่าเสียดายนะเจ้ามนุษย์ ≪ความรัก≫ของเจ้ามันก็แค่นี้แหละ』
เซนอสส่ายอาวุธไล่ตามชั้นที่รวดเร็วจนเกือบจะตามไม่ทันจากการวิวัฒนาการ
เพื่อจะใช้ดาบเรียวยาวแทงไปที่หัวใจของชั้น
ซึ่งหากชั้นวิ่งสุดแรงเป็นเส้นตรงเข้าไปหาเซนอสแบบนี้หลบไม่ได้แน่
เพราะงั้นเลยต้องใช้『ก้าวพริบตา』...............ถอยไปด้านหลัง
『อะไรกัน!?』
ชั้นแบ็คสเตปด้วยความเร็วที่เหนือการรับรู้ของเซนอสกะทันหัน
ดาบเรียวยาวของเซนอสจึงแทงได้แต่อากาศ
และแล้วเซนอสก็เปิดช่องว่างคราวนี้เลยใช้『ก้าวพริบตา』ไปข้างหน้าแบบที่ใช้ประจำอีกครั้ง
「โอ้ววววววววววววววววว!」
อีกทั้ง『ก้าวพริบตา』ที่ใช้ในตอนนี้ก็ต่างกับที่ใช้มาจนถึงตอนนี้
เป็นการเคลื่อนที่ไปเพื่อโจมตีเท่านั้น นั่นก็คือเปลี่ยน『ก้าวพริบตา』เป็นพลังโจมตี-------!
โดยพอใช้ก้าวพริบตาก็ใช้ดาบสั้นมณีภูติน้ำตั้งท่าแทงใส่เซนอสทั้งอย่างนั้นเลย
ทันใดนั้น ในหัวก็ได้ยินเสียงว่าได้เรียนรู้สกิลเหมือนตอนวิวัฒนาการดังขึ้น
『ศาสตร์ลับ≪ลมกรด≫ได้เรียนรู้แล้ว』
ศาสตร์ลับ!?อะไรล่ะนั่น!?
แม้ชั้นจะตกใจกับคำศัพท์ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนแต่ก็เปลี่ยนความคิดนั้นไปทันที
เพราะตอนนี้------------เซนอสมาอยู่ตรงหน้าแล้ว!
ชั้นทุ่มสุดตัวเท่าที่ชั้นทำได้ในตอนนี้ใส่ไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
การโจมตีนั้นลอดผ่านการป้องกันด้วยดาบเรียวยาวของเซนอส
และด้วยความเร็วที่เหนือกว่าการรับรู้ของเซนอสก็พลันตรงเข้าไปที่หัวใจ
จากนั้น---------
「------------」
『------------』
---------------ดาบสั้นมณีภูติน้ำเสียบเข้าไปตรงส่วนหัวใจของเซนอส
「.....................」
『....................』
ความเงียบสงัดเข้าครอบคลุมโดยรอบ
ดาบสั้นมณีภูติน้ำเสียบลึกเข้าไปตรงส่วนหัวใจของเซนอส
แม้ตรงส่วนคอขึ้นไปจะเป็นโครงกระดูกแต่ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านมือมานั้น
กลับเป็นเลือดเนื้อที่ถูกเชือดเฉือนเข้าไปอย่างน่าประหลาด
แต่ตรงนี้จะดึงออกมาดูไม่ได้ จนกว่าจะแน่ใจว่าฆ่าอีกฝ่ายได้-----------
แล้วช่วงเวลาอันประหลาดจนพูดไม่ถูกระหว่างชั้นกับเซนอสก็ผ่านไปครู่หนึ่ง
แก็งงง
ในห้องก็มีเสียงประกอบอันจืดชืดดังขึ้นมา
พอคิดว่าเป็นเสียงอะไรแต่มันก็คือเสียงดาบเรียวยาวสีดำในมือของเซนอสตกไปบนพื้นนั่นเอง
『...............ฮิฮิฮิฮิฮิ.............ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!』
ทันใดนั้นเซนอสก็เริ่มหัวเราะเสียงดังในสภาพที่โดนชั้นแทงทะลุหัวใจขึ้นมากะทันหัน
『ข้า.............ข้าแพ้แล้วล่ะนะ!』
「!」
คำพูดนั้นของเซนอสก็ทำให้ชั้นรับรู้ได้
และพร้อมกันนั้นร่างกายของเซนอสก็ถูกห่อหุ้มด้วยเม็ดแสง--------
มันคือปรากฎการณ์ตอนที่ปราบมอนเตอร์ได้นั่นเอง
ชั้น------------ชนะแล้ว
ขณะที่เข้าใจในเรื่องนั้นแล้วเตรียมพร้อมกับความรู้สึกอย่างนึงที่กำลังพุ่งออกมา
เซนอสก็พึมพำราวกับหัวเราะเยาะตัวเองออกมา
『นี่ข้าพ่ายแพ้...............เพราะความหยิ่งยโสมัวเมาไปกับพลังของตัวเองงั้นเหรอ........』
เมื่อเซนอสส่ายหัวโครงกระดูก คราวนี้เสียงที่ถ่ายทอดออกมา
กลับเป็นเสียงอันอ่อนโยนอย่างคาดไม่ถึงผิดกับตอนแรกที่ได้เผชิญหน้ากันทันที
『ไม่สิ-----------ที่พ่ายแพ้เพราะ≪ความรัก≫ของท่านกับท่านกอลิล่ามากกว่า』
「.............」
เอ่อคือว่า..............จะตอบกลับไปยังไงดีล่ะเนี่ย?
อยู่ดีๆมาท่านกับท่านกอลิล่าเนี่ย............แบบว่า แกมันใครกันฟะ
ระหว่างที่ชั้นคิดอยู่แบบนั้นเซนอสก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนต่อ
『ตอนที่ข้าเป็นมนุษย์นั้นได้เจ็บแค้นชิงชังมนุษย์จวบจนวันตาย
เพราะงั้นจึงรังเกียจวามรักที่บิดเบี้ยวเยี่ยงนี้...........』
「............」
『ทว่าสุดท้ายท่านกับท่านกอลิล่าก็ได้แสดง≪ความรัก≫ที่แท้จริงให้เห็น』
ชั้นยังคงตะลึงอยู่และแล้วเซนอสก็ได้กล่าวปิดท้าย
『ที่แสดง≪ความรัก≫อันยิ่งใหญ่ให้ข้าได้เห็นนั้น----------ต้องขอขอบคุณ』
พอพูดเสร็จใบหน้าโครงกระดูกของเซนอสก็รู้สึกเหมือนมีบรรยากาศแจ่มใสขึ้นมาตรงไหนสักแห่ง
『แมรี่...........ฉันกำลังจะไปทางโน้นแล้วนะ------------』
พอเซนอสพูดจบก็กลายเป็นเม็ดแสงแล้วหายไปจากตรงนั้น
แล้วที่ตรงนั้นก็มีของที่ดูเหมือนเป็นดรอปไอเท็มหลายชิ้นตกลงมา
และดาบเรียวยาวสีดำที่ตกอยู่บนพื้นในตอนแรกนั้นก็มีดาบเรียวยาวสีขาวที่ตรงข้ามกันตกอยู่ด้วย
เอาจริงๆจะพูดว่ายังไงดีก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เซนอสดูมีความสุขก็ดีแล้วล่ะนะ
เดี๋ยวค่อยมาตรวจดูจาก【ช่วงชีวิตของเซนอส】ที่เป็นดรอบไอเท็มเอาทีหลังก็ได้
พอชั้นแน่ใจแล้วว่าเซนอสที่เป็นเม็ดแสงหายไปก็รีบวิ่งเข้าไปหาซาเรียทันที
「ซาเรีย!」
แม้ชั้นจะรีบวิ่งไปหาแต่ชั้นพูดไม่ออกเลยกับสภาพของซาเรียที่เห็น
「ซ ซาเรีย ร ร่างกาย.........」
ใช่แล้ว ร่างกายของซาเรียเริ่มมีเม็ดแสงเหมือนตอนที่เซนอสหายไปเมื่อตะกี้
ขณะที่ชั้นตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ซาเรียที่นอนโดยไร้เรี่ยวแรงอยู่ก็ได้ตอบกลับมาด้วยเสียงโรยแรง
「เซอิจิ.........ขอบคุณ นะ.........」
「ซ ซาเรีย............?」
「เซอิจิ เท่ห์.............มากๆเลย」
「ล้อเล่นใช่มั้ย? นี่.............」
อุตส่าห์...........อุตส่าห์ปราบเซนอสได้แท้ๆ........
ร่างกายของซาเรียค่อยๆกลายเป็นเม็ดแสงแทนที่จะฟื้นฟูขึ้นมา
「ไม่เอานะ............ไม่เอานะ..........!」
ชั้นตะโกนพลางส่ายหัวไปด้วยแต่ซาเรียก็ยิ้มอย่างอ่อนแรงแล้วหันมา
「ทำหน้าอย่างนั้น............ไม่ได้นะ เดี๋ยวหน้าเท่ห์ๆ...........ก็เสียหมดหรอก?」
「..............」
ชั้นน้ำตาหลั่งรินลงมาอีกครั้ง
ไม่ทันเวลา..............
ชั้นทำได้แค่สิ้นหวังกับความเป็นจริงนั้น
ทันใดนั้นซาเรียก็เอามือมาแนบที่แก้มของชั้น
「ฉัน ดีใจนะ..........ที่ได้เจอกับเซอิจิ」
「.................」
「วันเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเซอิจิ ก็ดี」
「.............」
「ที่ได้ชอบเซอิจิไป------------ก็ดี」
ถึงซาเรียจะบอกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแต่ชั้นตอบอะไรกลับไปไม่ได้เลย
เรื่องแบบนี้........จะให้ทำใจยอมรับได้ยังไงล่ะ
ไม่เอานะ..............ไม่เอาเด็ดขาด..........
โชคชะตามันช่างโหดร้าย โหดร้ายเกินไปแล้ว
เพราะแม้แต่ตอนนี้ร่ายกายของซาเรียก็ยังค่อยๆเปลี่ยนเป็นเม็ดแสงเรื่อยๆอยู่เลย
แล้วชั้นที่คิดอะไรไม่ออกไปแล้วนั้นซาเรียก็ได้บอกคำขอสุดท้ายออกมา
「คือว่านะ? เซอิจิ...........」
「...............」
「ฉัน.........อยากจะเป็นเจ้าสาว ของเซอิจิจัง...............」
「!!!!」
พูดไปพลางตาของซาเรีย.............ก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา
-------ทั้งความเป็นจริงทั้งโชคชะตาจะคอยตอกย้ำพวกเราอย่างไร้เหตุผลไปถึงไหนกัน
ต่อให้ตะเกียกตะกายสักเท่าไรก็ไม่มีทางต่อสู้กับมันได้เลย............
ยิ่งกว่านั้นโลกนี้ก็บอกไว้แล้วด้วยว่าจะไม่มีพระเจ้าเข้ามายุ่งเกี่ยว
ถ้างั้นมันก็แน่นอนอยู่แล้วว่าของอย่างปาฏิหารย์ก็ไม่มีเช่นกัน
ทั้งที่ไม่มีปาฏิหารย์แต่ก็ยังมีความจริงอันโหดร้ายกับโชคชะตารอคอยอยู่
แต่ว่านะ? เมื่อมนุษย์ไร้ซึ่งหนทางล่ะก็ยังไงก็ต้องอธิษฐานกันอยู่ดี
----------------ต่อปาฏิหารย์
「............」
สิ่งที่ชั้นจะทำได้ในตอนนี้
มีเพียงแค่การอธิษฐาน
...........อธิษฐานต่อปาฏิหารย์เท่านั้นเอง
แต่จะมานั่งอธิษฐานอย่างเดียวคงไม่ได้
เพราะปาฏิหารย์จะเกิดขึ้นรึเปล่านั้นก็ไม่มีทางรู้ได้ เดิมทีมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้นอยู่แล้ว
เพราะปาฏิหารมันเป็นแบบนั้นฉันถึงอยากทำความหวังของซาเรียให้เป็นจริง
ถึงไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยแต่ถ้าปาฏิหารย์ไม่เกิดขึ้นล่ะก็ชั้นได้เสียใจไปชั่วชีวิตแน่.........
เรื่องความหวังของซาเรียที่จะเป็นเจ้าสาวของชั้นน่ะ
ยังไงก็ไม่มีใครหน้าใจจะอยากเป็นเจ้าสาวกับคนอย่างชั้นอยู่แล้ว
ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่ชั้นจะทำให้ซาเรียที่อยู่ในสภาพนี้ได้ก็มีจำกัดด้วย
เพื่อไม่ให้ซาเรียต้องทุกข์ใจและเป็นสิ่งที่ซาเรียหวังมากที่สุด
ผลลัพธ์จากการคิดแบบนั้น ชั้นกับซาเรียก็-------------
「!」
「---------------」
-------------ประกบปากกัน
เป็นจูบของชายที่ไม่เคยได้คบกับผู้หญิงมาก่อน
ก็แค่ ริมฝีปากของชั้นประกบกับริมฝีปากของซาเรียอย่างแผ่วเบาเท่านั้น
ด้วยความรัก และความสงสาร..........
ริมฝีปากได้มาประกบกัน
เป็นจูบอันรวดเร็วที่รู้สึกยาวนาน พอชั้นรู้สึกได้แล้วก็ค่อยๆปล่อยริมฝีปากออกมา
จากนั้นก็ค่อยๆวางซาเรียลงไปบนพื้น
และแล้วซาเรียที่ความรู้สึกพุ่งขึ้นไปถึงขีดสุดก็หลั่งน้ำตาออกมาพลางยิ้มไปด้วย
「ขอบคุณนะ............!」
จากนั้นทันทีที่ซาเรียเอ่ยออกมา
ร่ายกายของซาเรียก็เปล่งแสงเจิดจ้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน
มันแตกต่างกับปรากฏการณ์ที่ปราบมอนเตอร์แล้วกลายเป็นเม็ดแสงหายไปอย่างสิ้นเชิง
เป็นปรากฏการณ์ที่ชั้นไม่เคยรู้มาก่อนเลย
เฮ้ย เดี๋ยวดิ..........จะมีอะไรเกิดขึ้นเหรอ!?
แต่ว่าก่อนหน้านั้น------------
「ตา......ตาช้านนนนนนนนนนนนนนน!」
ก็เพราะมาแบบไม่ทันตั้งตัว ตาชั้นเลยรับแสงเข้าไปเต็มๆโดยไม่ทันป้องกันเลยน่ะสิ!?
ตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของพันเอกมุสุกะได้เลย...........!
ชั้นเอามือกดตาแล้วกลิ้งไปมา ไม่นานนักเมื่อความสามารถในการมองเห็นเริ่มกลับมา
จึงค่อยเปิดตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
พอเปิดตาขึ้นมาแสงอันเจิดจ้านั่นก็จางลงแล้ว
「ก เกิดอะไรขึ้น.............」
ตอนที่พึมพำออกมานั้นชั้นก็หันสายตาไปตรงที่ซาเรียอยู่อีกครั้ง
「.............」
ชั้นใบ้กินเลย
「.............」
ทำไมตรงที่ซาเรียนอนอยู่จนถึงเมื่อตะกี้ถึงได้มีผู้หญิงเปลือยนอนอยู่ได้อ่ะ
............................หืม?
เอ ใครหว่า? แล้วไหงถึงเปลือยอ่ะ? แล้วซาเรียล่ะ? เอ? อา?
ในหัวสับสนไปหมด สับสนจนสมองจะช็อคแล้วนะเนี่ย
อา เอ? แปลกจังน้า...........ชั้นน่าจะมีสกิล『ต้านทานสับสน』อยู่นี่นา...............
「------ไม่ใช่อย่างนั้นเฟ้ย!?」
ตกลงมันใครกันอ่ะ!? แล้วซาเรียหายไปไหน!?
แต่ก่อนหน้านั้น ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า..........!
ยิ่งกว่านั้น ตรงส่วนสำคัญมีเส้นผมปังไว้มิดเหมือนพลังอะไรบางอย่างทำงานอยู่
จนชั้นมองไม่เห็นสักนิด...............!
มันอะไรกันฟะเนี่ย!?
ขณะที่การประมวลผลในหัวหมุนตามเหตุการณ์ที่ตัวเองเจอไม่ทันจนตาจะหมุนไปด้วยแล้วนั้น
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าจู่ๆก็เปิดตาขึ้นแล้วยกตัวขึ้นมาช้าๆ
「.............」
「อ เอ่ออออ..............」
ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ไหนหรอกแต่ก็ไม่อยากให้จู่ๆก็ถูกบอกว่าเป็นพวกโรคจิตหรอกนะ.........!
ในสภาพที่ระวังตัวMAXนั้นหญิงสาวก็หันหน้ามา
ผมสีแดงประกายเพลิงยาวลงมาจนถึงเอว ใต้ขนตายาวและหนานั้นมีดวงตาสีแดงราวกับรูบี้
จมูกเรียว ริมผีปากสีชมพูชุ่มฉ่ำ หน้าเล็ก
หน้าตาที่จัดระเบียบสวยงามจนน่ากลัวอย่างนี้ต่อให้เป็นที่โลกเดิม
ก็เป็นสาวสวยระดับที่กินขาดสาวงามสองมิติได้เลย
พูดสั้นๆคือ สาวสวยมาก บอกตามตรงคือ สุดยอด
ต่อให้เป็นโรงเรียนที่ชั้นเรียนอยู่ก็ถูกจัดเป็นระดับท็อปคลาสแน่
รูปร่างนี่ก็...........อื้ม สุดยอดหลายๆอย่าง จะพูดประมาณไหนดีล่ะ
ยังไงก็ตามแต่น่าเสียดายที่ส่วนสำคัญต่างๆถูกผมปิดไว้หมดเลย............นี่ไม่ได้คิดแบบนั้นหรอกนะ
.................อื้ม
อ อย่ามาพูดว่าโรคจิตนะ! ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา!? ............นี่ตกลงทำอะไรอยู่คนเดียวฟะเนี่ย
เหตุการณ์มันกะทันหันจนสับสนเกินเหตุแล้วนะเนี่ยชั้น...............
แต่ว่านะ ดูๆแล้วก็อายุพอๆกับฉันเลยนี่นา............
ขณะที่ครื้นเครงและสงบใจลงพลางค่อยๆสังเกตุอยู่คนเดียวนั่นเอง
แววตาของหญิงสาวก็มาสบกับชั้นโดยไม่รู้ตัว
「!」
「เอ่อ..........」
แล้วตอนที่ชั้นกำลังจะพูดอะไรบางอย่างกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านั่นเอง
「-------------จิ」
「เอ๋?」
เหมือนได้ยินเสียงพูดอะไรเบาๆแต่มันเบาจนฟังไม่ออก แล้วพอคิดจะถามกลับไปก็-------
「---------จิ
------------อิจิ...............เเเเเเเเเเเซอิจิ!」
「อุหวา!?」
จู่ๆหญิงสาวก็เข้ามากอดชั้น
............ถูกกอดด้วยอ่ะ!? ท ทำไมกัน!?
ทั้งตกใจทั้งทำอะไรไม่ถูก...........ยังไงก็ตามแต่ชั้นที่หัวสับสนกับอะไรหลายๆอย่าง
หญิงสาวก็พูดมาด้วยน้ำตาที่ชุ่มเครือดวงตาอันงดงาม
「สำเร็จแล้ว...........สำเร็จแล้วล่ะ เซอิจิ!ฉัน........ฉันพูดอะไรได้อีกเยอะแยะแล้ว!
แล้วยังได้อยู่กับเซอิจิต่อไปด้วย!แล้ว........แล้วยังบอกรักได้ด้วย!」
「เดี๋ยว............หาา!?」
อะไรเนี่ย!?สำเร็จอะไรเหรอ!?เด็กคนนี้อะไรของเขาเนี่ย!?
แม้ชั้นจะสับสนก็ยังพยายามคิดถึงเรื่องนั้น
แต่เพราะรู้สึกถึงความคิดของชั้นล่ะมั้งหญิงสาวตรงหน้าเลยมีสีหน้าเศร้านิดหน่อยแล้วถามออกมา
「เซอิจิ...........ไม่เข้าใจฉันเหรอ?」
「ก็มัน ถึงจะถามว่าไม่เข้าใจก็เถอะแต่..........」
แล้วตอนที่ชั้นตอบไปแบบนั้นนั่นเอง
............อะไรสักอย่าง..........รู้สึกติดอยู่ในใจอะไรสักอย่าง
นั่นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก.........เหมือนมีฟันเฟืองติดอยู่ตัวนึง รู้สึกอะไรแบบนั้น
แล้วตอนที่พยายามคิดถึงเรื่องที่ติดอยู่ในใจให้ออกขึ้นมานั่นเอง
หญิงสาวที่กอดชั้นอยู่ก็ช้อนตาที่ชุ่มเคลือขึ้นมาโดยมีสีหน้ากังวลใจเล็กน้อย
จากนั้นก็บอกกับชั้นด้วยอารมส์ที่เหมือนเตรียมใจกับอะไรสักอย่าง
「ฉัน.........ชอบเซอิจิ!ชอบมากๆเลย!เพราะงั้น..........ช่วยรับเป็นเจ้าสาวทีนะ!」
「--------------」
ด้วยคำพูดสั้นๆนั้น เฟืองของชั้นที่ขัดกันอยู่ก็กลับเข้าที่ รู้สึกสดชื่นยังไงไม่รู้แฮะ
เข้าใจเรียบร้อยแล้วล่ะ
นั่นก็คือ--------
「ซาเรีย...........เหรอ?」
ชั้นที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจได้พยายามเปล่งคำพูดออกมา
ทันใดนั้น หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า----------ซาเรียที่ตาชุ่มเครือก็ยิ้มกว้างออกมา
「อื้ม!」
ชั้นพูดอะไรไม่ออกไปซักพัก
ในโลกที่ไม่มีพระเจ้าแห่งนี้ ปาฏิหารย์ได้เกิดขึ้นแล้ว
เรื่องนั้นตั้งแต่ที่ชั้นมายังโลกนี้ก็ผ่านวิกฤติชีวิตมานับไม่ถ้วน
แต่เพราะมีผลไม้แห่งปาฏิหารย์อย่างเดียวที่มีอยู่ในโลกนี้【ผลวิวัฒนาการ】
...........เพราะสิ่งนี้แหละ
เจ้าผลไม้นี้ได้ช่วยเอาไว้
เป็นปาฏิหารย์ที่ป่าอันโหดร้ายแห่งนี้มอบให้กับชั้น
มีแค่ความรู้สึกขอบคุณนี้เท่านั้นที่จะลืมไม่ได้ ไม่ว่าจะต้องเผชิญกับสิ่งใดก็ตาม...........
และที่ตรงนี้ก็ได้รับรู้ถึงมันอีกครั้ง ซาเรียที่อยู่ตรงหน้าทำให้รับรู้ถึงสิ่งนั้นอีกครั้ง
เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือต้องตะโกน ได้แต่ตะโกนออกไปเท่านั้น
「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!??」
ซาเรียเนี่ยนะเป็นสาวสวย!? เอ่อ นี่ก็นับเป็นวิวัฒนาการด้วยเหรอ!? มันจะแปลกไปหน่อยมั้ย!?
นี่มันเปลี่ยนเผ่าพันธุ์กันชัดๆเลยนะเฮ้ย!? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ฟะ!?
อ้ะ ถ้ามองดูดีๆตรงแถวก้นกบก็ยังมีหาง................อะไรหลายๆอย่างเป็นพิษต่อสายตาชั้นจังฟ่ะ.....!
นี่อย่ามาดูถูกความหื่นของนักเรียนชายม.ปลายที่อดอยากมานานหลายปีนะเฟ้ย!
..........เปล่าหรอกไม่มีอะไรครับ
แต่เดี๋ยวก่อนนะ ขอชั้นใจเย็นๆเรียบเรียงสถานการณ์ก่อน
ตอนนี้ชั้นกำลังกอดกันกับซาเรียอยู่ใช่มะ?
แล้วความรู้สึกนุ่มนิ่มที่ส่งผ่านมาที่ร่างกายชั้นนี่ก็
..............โธ่ ก็อันนั้นน่ะแหละ ไม่ต้องพูดก็รู้ๆกันอยู่ เอาเป็นว่ารู้กันเนอะ
..................................
.............ถ้าชั้นไม่เข้าสู้สภาพไร้ใจนี่ไม่ดีแน่
แถมได้กลิ่นหอมๆมาตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้วด้วย..............
มันช่างทรมานในหลายๆความหมาย ก็มันจริงนี่นา
นี่ลำบากกว่าสู้กับเซนอสอีก จริงๆนะ
ก่อนอื่นลองมาบอกความรู้สึกในใจชั้นเป็นประโยคสั้นๆกันดีกว่า
.........................
สติสตังค์ชั้นมันปลิวไปหมดแล้ว............!