ตอนที่ 12 ผลตัดสิน
「............」
「............」
เหมือนมีเส้นคั่นบางๆระหว่างชั้นกับKaiserkong
.........นั่นสิ มันอะไรกันเนอะ
วางท่ามั่นใจเหลือหลายขนาดนั้นแล้วดันพลาดซะได้เนี่ย
อยากตายชิบ
แต่ก่อนอื่นถ้าโดนโจมตีทั้งที่อยู่ในสภาพนี้ไม่ดีแน่
ชั้นเลยฝืนร่างกายที่เจ็บปวดไปหมดลุกขึ้นมา
「ฮิ ฮิฮิฮิ..........ทำได้ไม่เลวเลยนะ.........」
「เปล่านะ ทำตัวเองชัดๆ.........」
「ว๊ากกกกกกกกก!」
อยากมุดดินจังเฟ้ย!อุตส่าห์ตั้งใจจะแถ ดันมาตบมุขแบบแทงใจกันได้นะ!
อย่างนั้นสินะ เวทมนตร์มันจำเป็นต้องฝึกฝนด้วย ไม่งั้นร่างกายชั้นรับไม่ไหวแน่
「...........ต่อเลยได้มั้ย?」
「ขอชั้นสงบใจก่อนสิ............」
จะต่ออะไรอีก? ตอนนี้ชั้นจิตใจแหลกสลายจนแทบจะตายไปเองอยู่แล้วนะ?
แล้วอย่างนี้ยังจะมาต่ออีกเหรอครับคุณกอลิล่า?
「..........จะเอารึยัง?」
ถึงKaiserkongจะถามมาแต่ถ้าเข้ามาโจมตีในสภาพนี้เลยก็โดนจัดการได้ไม่ยากแน่
ร่างกายเจ็บไปหมดแถมยังไม่ฟื้นตัวขนาดที่จะใช้สกิลได้ทันทีด้วย
แล้วในสภาพที่แม้แต่เวทก็ยังใช้ไม่ได้ดั่งใจเนี่ย........ชั้นจะเอาเทคนิคอะไรไปปราบเจ้านี่กันล่ะ?
แต่ว่าKaiserkongตรงหน้านี่ก็ซื่อดีจัง
ยังอุตส่าห์ถามว่าจะโจมตีชั้นได้รึยังด้วย
............อย่างน้อยที่ว่าไม่เมตตากันเลยสักนิดคงคิดไปเอง
ก็โชคของชั้นมันสูงขึ้นแล้วนี่เนอะ?
เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าไม่มีแผนการจริงๆจังๆที่ทำให้หลุดจากสถานการณ์นี่ไปได้ล่ะก็..........
สกิลก็ไม่ได้ เวทชั้นก็ใช้ได้ไม่ดี แถมจะใช้ยารักษาเพื่อฟื้นฟูร่างกายระหว่างนั้นอาจถูกโจมตีได้ด้วย
แต่ซื่อขนาดถามว่าโจมตีได้รึเปล่าเนี่ย คงยอมให้ฟื้นฟูล่ะน่า..............
เหลืออะไรบ้าง.............ชั้นมีอะไรเหลือให้ใช้บ้าง........!
แล้วตอนที่พยายามใช้ความคิดอย่างสุดความสามารถเพื่อฝ่าสถานการณ์นี้ไปให้ได้นั่นเอง
「รอพอแล้ว ลุยล่ะ」
「เอ๋!?」
แล้วตอนที่คิดว่าคงจะรอได้อีกสักนิด Kaiserkongก็พุ่งมาหาชั้นด้วยสปีดอันน่ากลัว
แต่ก็ยังดีไม่ได้ใช้สกิลมาเพราะงั้นจะหลบก็หลบได้อยู่แล้ว
..........ถ้าเป็นตัวชั้นที่แข็งแรงดีล่ะก็นะ
เพราะดันถูกเวทที่แรงที่สุดของตัวเองยิงใส่ร่างกายเลยเจ็บปวดไปหมดจนเคลื่อนไหวไม่ได้ดั่งใจ
ความจริงแม้แต่ตอนนี้ขายังสั่นพั่บๆอยู่เลย
「ชิ!」
อีกไม่นานKaiserkongจะเข้ามาถึงตัว
ชั้นไม่มีเวลาแล้ว
จะทำยังไงดี..........!
แล้วตอนที่คิดแบบนั้น ชั้นก็นึกถึงอาวุธลับที่ตัวเองเก็บไว้เป็นความลับขึ้นมาได้
「ชั้นน่ะ.............ยังมีกลิ่นอยู่ไม่ใช่เหรอ!」
กลิ่นมรณะนั่นที่ทำให้Clever monkeyถึงกับตายได้...............!
อ้ะ แต่ว่า เพราะเวทตะกี้อาจทำให้กลิ่นลดลงไปก็ได้นา.............
แต่เรื่องแบบนั้นไม่ใช่ปัญหากับชั้นในตอนนี้แล้ว
นั่นก็เพราะมีฉายา『ผู้ใช้กลิ่น』อยู่ยังไงล่ะ!
เป็นฉายาที่มีประสิทธิภาพทำให้ควบคุมกลิ่นได้ตามใจชอบนี่ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเศร้าใจกับมันดี
「วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!Kaiserkongเอ๋ย!」
「หืม!............อะไรเหรอ!」
Kaiserkongเลิกพุ่งเข้ามาแล้วหยุดยืนอยู่ที่ตรงนั้นเลย
.............ซื่อจริงๆเลยน้า
「โอกาสที่แกจะชนะได้ไม่มีอีกแล้ว!」
「ทำไมล่ะ?」
「นั่นก็เพราะ..........ชั้นมีอาวุธลับอยู่ยังไงล่ะ!」
「ว ว่าไงนะ!?」
ทำไมแกถึงรู้เรื่องนั้นด้วยล่ะ
ไม่หรอก แค่บังเอิญล่ะน่า
「จากตอนนี้ไปถ้าแกเข้ามาใกล้ชั้นล่ะก็ได้ดับดิ้นสิ้นชีวิตแน่..........!」
「.........พูดเรื่องอะไรกันน่ะ?」
Kaiserkongรู้สึกสับสนกับคำพูดของชั้นอย่างปิดไม่มิด
ถึงมันจะเป็นอย่างนั้นก็เถอะ
แต่มาบอกว่าเข้าใกล้แล้วตายใครมันจะไปเชื่อ
แต่ทว่าก็เพราะว่าเป็นกลิ่นตัวอันร้ายกาจของชั้นนั่นแหละเลยเป็นเทคนิคปลิดชีพได้!
เป็นเทคนิคสุดยอดที่ต้องสละศักดิ์ศรีในฐานะมนุษย์ถึงจะได้มาครอบครองเลยนะ!
ชั้นรีบใช้ประสิทธิภาพของฉายา『ผู้ใช้กลิ่น』ปล่อยกลิ่นออกมาเต็มพิกัด
ถึงฉายานี้จะทำให้ควบคุมกลิ่นได้ตามใจชอบแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้
สรุปก็คือกลิ่นจะแรงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับกลิ่นแท้ๆของตัวเองเท่านั้น
เพราะงั้นภายในรัสมี10cmรอบตัวชั้นจะมีกลิ่นอันรุนแรงของชั้นลอยอบอวลอยู่นั่นเอง
ทว่าระยะทางที่จะใช้ประสิทธิภาพของกลิ่นมันก็ช่างน้อยนิดจริงๆ
ชั้นก็เลยต้องใช้แผนเอาเสื้อตัวเองมาโบกสะบัดให้กลิ่นปลิวไปนอกขอบเขต
ไม่งั้นล่ะก็ได้โดนกำปั้นยัดหน้าก่อนกลิ่นไปถึงแน่
「เอ้า!เข้ามาเลย!」
「...........」
ชั้นสะบัดเสื้อพั่บๆแล้วพูดไป
Kaiserkongที่ยังตัดสินใจไม่ถูกก็ได้แต่มองแบบงงๆ
แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาก็ตัดสินใจได้แล้วตรงที่Kaiserkongอยู่ก็ถูกขูดออกแล้วหายตัวไป
คงใช้สกิล『หมัดไร้เงา』ออกมานั่นแหละ
「...........จบล่ะ」
ต้องที่ได้ยินคำพูดสั้นๆนั้นที่ตรงหน้าก็มีKaiserkongโผล่มาในชั่วแว่บเดียว
โดยมีกำปั้นกำลังพุ่งเข้ามาด้วย
「ชิ!」
ไม่ไหวจริงๆเหรอเนี่ย!? แม้แต่กลิ่นยังเอาชนะไม่ได้!? หรือไปไม่ถึงกันแน่นะ!?
ชั้นในสภาพที่ส่งกลิ่นของตัวเองไปไม่ถึงKaiserkongนั้น
เผลอรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองขึ้นมาเลย
บ้าจังนะ กลิ่นมันจะไปฆ่าใครได้ไง
..............ถึงClever monkeyจะตายไปจริงๆก็เถอะ
ต ตอนนั้นก็แค่บังเอิญแหละน่า!
แล้วตอนที่ทำใจยอมแพ้เตรียมรับกำปั้นที่กำลังเข้ามานั่นเอง
「!」
กึก
กำปั้นอันทรงพลังหยุดฉิวเฉียดก่อนจะเข้าหน้าชั้นโดยมีเสียงประกอบเหมือนในหนัง
เผลอจ้องกำปั้นจนเหงื่อไหลเต็มหลังเลยนี่ไม่เอาอีกแล้ว
แล้วที่ฉี่เล็ดออกมานิดหน่อยนี่ความลับนะ
ชั้นกระพริบตาหลายครั้งโดยจ้องมองกำปั้นไว้
แล้วตอนที่กำลังคิดว่าทำไมอยู่ดีๆถึงหยุดต่อยก็เลยลองมองสีหน้าของKaiserkongดู
「ป๊อง..........」
「............」
ไม่น่าไปมองเลย
ทำเอาขนลุกเลยนะเนี่ย!
ก็เพราะกอลิล่าตัวเมียมาทำเป็นเขินหน้าแดงไม่สมตัวน่ะสิ!?
เอาไว้ว่ากันทีหลังแต่Kaiserkongตกลงเป็นอะไรไปอ่ะ!? มันเกิดอะไรขึ้น!?
แล้วตอนที่คิดแบบนั้น Kaiserkongก็กลับเป็นสีหน้าจริงจังกะทันหัน...............คิดว่างั้นนะแต่
กลับจับไหล่สองข้างของชั้นไว้แน่นทั้งอย่างนั้น
..........นี่เพราะขนลุกอยู่งั้นเหรอเลยมีปฏิกิริยาโต้ตอบช้าไป?
ก็กังวลอยู่ว่าความผิดพลาดของตัวเองจะทำให้เกิดอะไรขึ้นแต่พอมองKaiserkongที่อยู่ตรงหน้า
ก็กลับเป็นหน้าแดงชวนขนลุกขึ้นมาอีก แล้วจากนั้นก็พูดขึ้น
「..........ชอบ」
「..............................................หา?」
เดี๋ยวเดี๋ยวเดี๋ยว
Wait Wait Wait
ขอชั้นตั้งสติก่อนนะ
เอ เมื่อกี้ว่าไงนะ?
ถ้าชั้นไม่ได้คิดไปเองก็คือได้ยินว่าคำว่า『ชอบ』อ่ะนะ............
ชั้นพยายามโยนความเป็นไปได้นั้นทิ้งไปแต่ตอนที่ประหม่าอยู่นั่นเองก็โดนใส่ตามมาอีก
「แต่งงานกัน เดี๋ยวนี้เลย」
「.........................」
แย่ล่ะ ทำไงดี
นี่มันเกินขอบเขตการประมวลผลที่สมองของชั้นจะรับได้ไปแล้ว
พูดอะไรของมันฟะ เจ้ากอลิล่านี่
Kaiserkongจับแขนชั้นโดยไม่สนใจชั้นที่ยังสับสนอยู่แล้วลากเดินไปทั้งอย่างนั้นเลย
「ตัวผู้ที่แข็งแกร่ง ฟีโรโมนยอดเยี่ยม เท่ห์จัง มากลับรังแล้วทำเด็กกันเถอะ」
「......................」
ชั้นเริ่มทำความเข้าใจกับสถานการณ์ได้ทีละนิดๆ
จากนั้นก็------------
「หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!????」
ตะโกนสุดเสียง
◆◇◆
「ไม่ไหวแฮะ ไม่เข้าใจเลยสักนิด.................!」
ชั้นพยายามหาสาเหตุที่ทำให้ได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากKaiserkong
ก็เลยลองนึกย้อนกลับไปหาเหตุผลแต่.................
มันเป็นอย่างนั้นไปได้ไงเนี่ย!? ชั้นทำอะไรลงไปเหรอ!?
นี่ชั้นก็พยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของตัวเองแล้วนะแต่
แต่ยังไงก็ไม่เข้าใจสักทีว่าทำไมถึงอยู่ในสภาพนี้ได้
「มีอะไรเหรอ? อาหารนี่กินมั้ย?」
ที่กำลังแนะนำให้ชั้นกินอาหารคือคุณKaiserkongซาเรีย เจือกเฟ้ย
「คือว่านะ?ชั้นบอกแล้วใช่มั้ยว่าไม่เอา? ยิ่งกว่านั้นจะปล่อยชั้นไปได้มั้ย?」
「ไม่ได้ เซอิจิคือสามีของฉัน」
「ไม่ใช่เฟ้ยยยยยย!ชั้นน่ะเป็นมนุษย์!ส่วนแกมันกอลิล่าเวร!เข้าใจมั้ย!?
เผ่าพันธุ์ไม่เหมือนกันสักนิด!?อย่างแรกเลยนะชั้นไม่มีทางแต่งกับกอลิล่าหรอกเฟ้ย!
ภาษานี่ก็เข้าใจไม่ใช่เหรอไง!?」
「ฉัน ไม่ใช่กอลิล่าเวร ซาเรียต่างหาก」
「หุบปากไปได้แล้วววววววววววว!」
ใครก็ได้!ไม่มีใครจะมาร่วมแบ่งเบาความทุกข์ทรมานนี้กับชั้นเลยเหรอ!?
ถ้ามีช่วยมาด้วยความไวแสงเลยนะ!
แล้วที่กอลิล่าเวรนี่รู้ชื่อของชั้นก็เพราะการถามที่เรียกว่าขู่ก็ได้เลยจำใจยอมบอกไป
ก็แบบถูกบอกว่าถ้าโกหกจะจูบซะเลยนี่นา
ยิ่งกว่านั้นต่อให้โกหกออกไปก็ถูกจับได้ง่ายๆแน่เลยต้องบอกชื่อจริงไปอย่างช่วยไม่ได้
อยากตายจังฟ่ะ
ฮ่าห์ ฮ่าห์.............ถึงแม้ชั้นจะตบมุขต่อเนื่องจนหอบ
แต่ตาก็ได้กลับไปมองอาหารที่มาวางอยู่ตรงหน้าอีกครั้ง
เพราะอาหารที่เตรียมมาให้ชั้นโดยเอามาวางตรงหน้านั้นดูน่าอร่อยสุดๆไปเลย
เป็นเนื้อกับผลไม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย ผักก็มีตั้งเยอะ
ไม่เข้าใจว่าปรุงได้ยังไงแต่บอกได้เลยว่านี่แหละคือ『อาหาร』ล่ะ
ถึงปากจะปฏิเสธแต่ก็หิวอยู่เหมือนกัน
แล้วท้องก็ส่งเสียงออกมาที่ตรงนั้น-----------
จ๊อกกกกกกกก
「...................」
「ท้องร้องแล้วนะ อาหาร กินสิ」
ไม่เอาแล้วววววววววววว!
แต่ท้องร้องออกมาแบบนี้จะบอกว่าอิ่มต่อก็ไม่ได้แล้วด้วย
ชั้นที่ทำแข็งขืนกับการดูแลเอาใจใส่ของกอลิล่าเวรจนถึงเมื่อตะกี้
เลยต้องรับจานมากินอาหารอย่างช่วยไม่ได้
แล้วถึงจะใส่พิษมา พิษก็ทำอะไรชั้นในตอนนี้ไม่ได้อยู่ดี..........มั้งนะ
ถึงมีสกิลก็ยังกังวลใจอยู่นิดหน่อยชั้นเลยแค่ค่อยๆเอาแค่อาหารมาใกล้ปาก
ของบนจานที่ยื่นมาให้นั้นเป็นเนื้อที่ชั้นไม่รู้จักย่าง
ทว่าไม่ใช่แค่ย่างเฉยๆ เดาจากกลิ่นก็มีกระเทียม พริกไทย
แล้วก็พวกเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมทำให้จมูกของชั้นรู้สึกผ่อนคลาย
พอใช้ตรวจสอบดูก็แสดงออกมาเป็น『Pond dragon steak』
มังกรอ่ะ.................. สมกับเป็นKaiserจริงๆ
แล้วชั้นก็เอาอาหารที่ให้มาเข้าปากอย่างหวาดๆ
「...............」
เคี้ยวจนละเอียดแล้วกลืนลงไป
「------------!」
ชั้นนี่ตาเป็นประกายเลย!ก็แค่เบิ่งตากว้างอ่ะนะ
แต่ถ้านี่เป็นรีแอคชั่นของการ์ตูนทำอาหารอะไรสักอย่างล่ะก็ตาได้ยิงเลเซอร์ออกมาแล้ว
ยังไงก็ตามแต่ความอร่อยของPond dragon steakที่กินเข้าไป..........ก็ได้รีแอคชั่นประมาณนั้นแหละ
ม ไม่หรอก!เพราะวัตถุดิบต่างหาก!แค่วัตถุดิบมันดีเท่านั้นเอง!
อาหารอื่นก็............ถ้าลองกินอาหารที่เหมือนสตูว์ตรงหน้ามันก็ไม่มีทางจะอร่อยเหมือนกันแน่!
คราวนี้เลยหยิบของที่เหมือนสตูว์มาตรวจสอบดู
ก็แสดงออกมาเป็นเนื้อของClever monkeyที่ชั้นรู้จักเป็นอย่างดี .............เอ๊ะ............
「Clever monkey!?」
กินกันเองงั้นเหรอ!? ไม่สิ เผ่าพันธุ์ต่างกันคงเรียกว่ากินกันเองไม่ได้หรอก..............
แต่ก็เป็นพวกพ้องกันไม่ใช่เหรอ!? แล้วจับมาทำอาหารแบบนี้เนี่ยนะ!?
พอเห็นชั้นตกใจกับวัตถุดิบ Kaiserkongก็เลยอธิบายให้ฟัง
「เจ้าพวกนั้นไม่ใช่พวกพ้อง แค่ตามกันมาเองเท่านั้น แต่ก็เชื่อฟังที่พูด ฉันเลยสบาย」
อุหวา..............Clever monkeyเอ๋ย don't mind
ทั้งที่หัวดีกลับเป็นฝ่ายถูกใช้ซะได้
แต่ว่าเนื้อของClever monkeyมันน่าจะไม่อร่อยเพราะงั้นอาหารนี่ก็ต้องไม่อร่อยเช่นกัน
ของกินที่ไม่อร่อยก็พอเดาได้นะว่าไม่อยากกินหรอกแต่ตอนนี้จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ได้
ก็เลยต้องทำตรงข้ามกับที่ต้องการโดยเอาสตูว์เข้าปากอีกครั้ง
「...............」
ชั้นคอตกลงมา
อร่อย............. อะไรกันเนี่ย? นี่มันอะไรกัน...........
แล้วตอนที่รู้สึกแบบนั้นก็มีเรื่องที่สร้างความเสียหายต่อจิตใจของชั้นประดังเข้ามาอีก
「ทั้งหมดนี่ฉันทำเอง อร่อยมั้ย?」
「จริงดิ!?」
โกหกน่า.................ทำไมถึงทำอาหารเก่งด้วยอ่ะ............
แล้วตอนที่กำลังรู้สึกเศร้าไปเลยนั้น กอลิล่าเวรตรงหน้าก็ไล่จู่โจมเข้ามาอีก
「จะว่าไป เซอิจิเสื้อผ้าแย่จัง เอาของใหม่ที่ทำไปนะ」
「ทำได้ด้วยเหรอ!?」
ที่Kaiserkongยื่นมาให้ชั้นเป็นเสื้อเชิ้ตสำเร็จรูปกับกางเกง
ที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพดีที่แม้แต่โลกเก่าก็ยังไม่เคยเห็น
เสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสีดำ
「ทั้งคู่ ทำจากด้วยของจากมอนเตอร์ วัตถุดิบดีเลยทนทาน」
เสื้อผ้าตรงหน้าเป็นของที่กอลิล่าเวรนี่ทำเองครับ
「เสื้อผ้า เดี๋ยวถอดมาด้วยนะ จะไปซักที่แม่น้ำให้」
「ใครก็ได้ช่วยด้วยยยยยยยยยยยยยยย!」
ชั้นตะโกนเสียง
ตกลงนี่มันอะไรกันเนี่ย!? ความเป็นกุลสตรีสูงชิบ!มันจะไม่เสียของไปหน่อยเหรอไงฟะ!?
ทำอาหาร ซักผ้า เย็บปักถักร้อย.............แถมรังที่เป็นมุมหนึ่งของป่านี่ก็สะอาดซะเหลือเกิน
ก็แปลได้ว่าทำความสะอาดเก่งด้วย
นี่มันระดับภรรยายอดเยี่ยมเลยไม่ใช่เหรอ!?
แถมยังร่างกายที่สมบูรณ์แบบอีก!? ...............ถ้าไม่ใช่กอลิล่าล่ะก็นะ!?
「ฉัน เป็นภรรยาที่ดีใช่มั้ยล่ะ?」
「จะไม่ใช่ได้ยังไงล่ะ!? ถ้าอีกฝ่ายเป็นกอลิล่าล่ะก็นะ!」
「อะไรกันน่ะ...........เขินจัง ถ้าเซอิจิพูดถึงขนาดนั้นล่ะก็ มาแต่งงานกันเลยนะ」
「ก็บอกว่าถ้าเป็นกอลิล่ายังไงเล่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
เดี๋ยวปั๊ดเชือดเลย..........!แต่ชนะไม่ได้แหง.............!ชีวิตมันขมขื่นชิบบบบบบบบบบ!
มันเป็นแบบนั้นสินะ? คือในใจของกอลิล่าเวรนี่ชั้นจัดอยู่ระดับเดียวกับกอลิล่างั้นเหรอ!?
อย่างนั้นสินะ!?
ชั้นที่จมอยู่กับความสิ้นหวังก็พยายามหายใจเข้าลึกๆซ้ำกันหลายครั้งเพื่อเรียกความเยือนเย็นกลับคืนมา
พอลมหายใจอยู่ตัวและหัวเย็นลงก็ทำให้คิดได้
ไม่ว่ายังไงก็ตามต้องหนีไปจากนรกแห่งนี้ให้ได้..............!
เพื่อการนั้นก็จำเป็นต้องรู้ทิศทางที่จะหนีว่าจะไปที่ไหน?
ถ้าจะหนีล่ะก็.............ใช่แล้ว จากทั้งข้อมูลของClever monkeyกับAsh wolf
ก็ควรหนีไปตรงส่วนที่ทาสีดำบนแผนที่นี่แหละ
ทั้งที่Clever monkeyมีโอกาสสูงที่จะคอยติดตามเจ้ากอลิล่าเวรนี่ตลอด
ยังมีส่วนที่ทาสีดำก็หมายความว่ากอลิล่าเวรนี่ก็อาจจะไม่รู้จักที่ๆทาสีดำนี่เช่นกัน
แต่ต่อให้รู้สถานที่ก็ใช่ว่าจะรู้ว่าเป็นที่แบบไหน ประมาณนี่ล่ะมั้ง?
งั้นจะหนีตอนไหนดีล่ะ..............
แล้วตอนที่คิดเรื่องนั้นอยู่นั่นเอง
ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญทำไมพึ่งมานึกได้ป่านนี้นะ?
ชั้นก็เลยถามเรื่องที่นึกขึ้นมาได้กับกอลิล่าเวรตรงหน้าทันที
「เฮ้ย กอลิล่าเวร」
「ไม่ใช่กอลิล่าเวร ฉัน ซาเรีย」
「หนวกหู แล้วทำไมแกถึงพูดภาษาเดียวกับชั้นได้ล่ะ?」
เรื่องที่สงสัยคือเรื่องที่กอลิล่าเวรตรงหน้าใช้ภาษาเดียวกับชั้นได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
ขนาดClever monkeyยังพูดไม่ได้เลย
แล้วไหงกอลิล่าเวรตรงหน้าถึงได้สื่อสารกับชั้นได้อย่างง่ายดายล่ะ
ดีใจที่ชั้นถามรึเปล่านะก็เลยเริ่มอธิบายมาด้วยท่าทางที่ดูสนุกสนาน
「เรื่องนั้น เพราะหนังสือที่เจอในถ้าใกล้ๆนี้」
「ถ้ำ? แล้วก็หนังสืองั้นเหรอ?」
พอชั้นเอียงคอ กอลิล่าเวรก็ไปหยิบหนังสือสองเล่มออกมาจากพุ่มไม้ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกล
ทั้งสองเล่มดูรุ่งริ่งซึ่งมีเล่มนึงหนา เล่มนึงบาง
「อ่านภาษาของหนังสือนี่เลยจำได้」
「............」
จริงดิ...........เจ๋งนี่หว่า กอลิล่าเวร
ชั้นรับหนังสือสองเล่มมาแล้วก็พลันมองดูที่เขียนบนหน้าปกของหนังสือเล่มบาง
『แก่นแท้ของเวทในชีวิตประจำวัน』
「เวทแห่งในชีวิตประจำวัน?」
เพราะรู้สึกงงกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยเลยเปิดหนังสือขึ้นมาดู
ทั้งหมดที่เขียนอยู่ในหนังสือนั่นคือเวทมนตร์ที่อำนวนความสะดวกในชีวิตประจำวันนั่นอง
อย่างเวทจุดไฟกองเล็กๆอย่างง่าย เวทที่ปล่อยน้ำออกมาประมาณแก้วนึง
เวทช่วยอบผ้าแห้ง เวททำให้ดินอ่อนนุ่มช่วยให้พรวนดินได้ง่าย...............
ถึงแม้จะจิ๊บจ๊อยสุดๆแต่ก็เป็นเวทที่เอามาใช้อำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี
แล้วในนั้นก็มีเวทหนึ่งที่เตะตาชั้น นั่นคือเวทมนตร์ที่ชื่อ『Wash 』
พูดง่ายๆคือเวทที่ใช้ทำความสะอาดฝุ่น รอยเปื้อน ขี้ไคลที่ติดตามร่างกายพวกนี้นั่นแหละ
ไม่รู้ทำไมดูเหมือนว่าจะใช้ทำความสะอาดพวกเสื้อผ้าไม่ได้
แต่ถ้าใช้นี่ล่ะก็จะทำความสะอาดร่างกายได้ในรวดเดียวเลย
ก็ชั้นมันสกปรกนี่นา...............
เอาเถอะตอนที่โดนเวทตัวเองไปรอบซะเกือบตายก็รู้สึกสะอาดขึ้นมานิดหน่อยแล้วอ่ะนะ
ดูเหมือนว่าเวทนี้สามัญชนทั่วไปจะใช้กัน
ส่วนสิ่งที่เรียกว่าการอาบน้ำจะมีแต่ระดับพ่อค้าหรือขุนนางผู้ร่ำรวยทำกัน
「เห...........เป็นเวทที่สะดวกสบายดีจัง」
แล้วตอนที่ชั้นบ่นพึมพำอยู่คนเดียวนั่นเอง
『ได้เรียนรู้เวทในชีวิตประจำวันแล้ว』
「.................」
มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นในหัว
...........จะว่ายังไงดีล่ะ จำได้ง่ายจังอ่ะ
สิ่งที่เรียกว่าการฝึกฝนมันไม่จำเป็นเลยเหรอไงเนี่ย?
...............เอาเถอะ จำได้ก็ไม่เสียหาย
ชั้นที่จำเวทในชีวิตประจำวันได้แล้วก็ปิดหนังสือ『แก่นแท้ของเวทในชีวิตประจำวัน』
จากนั้นก็หยิบหนังสือเล่มหนา
『ไดอารี่ของผู้กล้าอาเบล』
「เห ไดอารี่ของผู้กล้าอาเบลงั้นเหรอ...........」
ไดอารี่เหรอ...............เรื่องที่ต้องคอยทำอยู่ตลอดชั้นก็ไม่เก่งซะด้วยเลยไม่เคยทำ.............
................
「ผู้กล้า!?」
พอชั้นตะหนักถึงเรื่องนั้นได้ก็ส่งเสียงตกใจออกมา
เอ๋!? ไดอารี่ของผู้กล้า!? จริงดิ!? ไม่ใช่ของปลอมแน่เหรอ!?
ชั้นที่ได้รับความน่าตกตะลึงนั้นก็พลางเปิดหนังสือออกมาดู
『ปี××เดือน●วันที่○ ในที่สุดก็เป็นวันที่ชั้นซึ่งได้รับเลือกเป็นผู้กล้าได้ออกเดินทาง
โดยมีพวกพ้องคือบาทหลวงปีแอร์ทำหน้าที่รักษา นักรบการุสเป็นแนวหน้า
นักปราชญ์ริริอานกับพรานแอนนาเป็นแนวหลัง
ซึ่งทุกคนได้มาจากพระราชาโดยตรงเพื่อปราบจอมมารจึงเป็นพวกพ้องคนสำคัญกับการเดินทางนี้
แต่ถึงจะเพื่อปกป้องโลกนี้ชั้นก็ไม่อยากให้คนพวกนี้ต้องมาตาย
เพราะงั้นต้องสู้ด้วยกำลังของตัวเองเท่าที่ทำได้!』
「โอ้ว เป็นผู้กล้าแบบสุดๆไปเลยแฮะหมอนี่ จะว่าไป ไม่ใช่แค่ผู้กล้ากับจอมมารยังมีพระราชาด้วย」
ก็นะ พวกในโรงเรียนชั้นก็ถูกการอัญเชิญผู้กล้าดึงตัวไปนี่นา? พวกเคนจิจะเป็นยังไงกันบ้างนะ
แล้วชั้นก็อ่านต่อในสภาพที่นึกถึงเรื่องของเพื่อนที่ถูกอัญเชิญผู้กล้าไปด้วย
แต่ยิ่งเปิดไปหน้ากระดาษมันก็ยิ่งรุ่งริ่งขึ้นไปอีก
『ปี××เดือน●วันที่○ ตั้งแต่ออกเดินทางก็ผ่านมา1ปีแล้ว
ไม่ได้สูญเสียเพื่อนไปเลยหน้ำซ้ำที่เดินทางมาได้นานขนาดนี้ก็เพราะได้ทุกคนคอยช่วยเหลือ
ระหว่างที่เดินทางนั้นก็ได้ไปเยือนหมู่บ้านกับเมืองต่างๆมากมาย
สภาพในสถานที่เหล่านั้นก็มีที่ๆอยากเบือนสายตาหนีด้วยความน่าสลดใจอยู่เช่นกัน
ทำให้รู้สึกที่ต้องเร่งไปปราบจอมมารเพิ่มมากขึ้นด้วย
ชั้นในฐานะผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้กล้าจากราชา-------แห่งประเทศ------
สำหรับผู้คนที่คอยสนับสนุนนั้นต้องตอบแทนพวกเขาให้ได้!』
『ปี××เดือน●วันที่○จัดการไล่ล่าผู้นำคนหนึ่งในกองทัพจอมมารได้สำเร็จ
ทว่าก็ต้องชดเชยด้วยสิ่งใหญ่หลวงเช่นกัน
นั่นคือการุสที่เป็นพวกพ้องซึ่งเดินทางด้วยกันมาหลายปีได้ตายจากไป
ผลมาจากการรับการโจมตีแทนชั้น
ทั้งความสมเพชความอ่อนแอของตัวเอง ความโกรธที่ไม่มีที่ไปได้พอกพูน
จนจะระเบิดออกมาเดี๋ยวนี้ให้ได้ ทำไมชั้นถึงอ่อนแออย่างนี้!ไม่ได้แข็งแกร่งเลยสักนิด!
ทั้งที่ผู้คนรอบข้างกล่าวขานให้เป็นผู้กล้าแล้วผลลัพธ์ที่รู้สึกดีไปกับมันก็นี่แหละ............!
ชั้นจะไม่ให้เกิดความผิดพลาดนี้อีกแล้ว
จิตใจที่แตกสลายนั้นได้ริริอานกับแอนนาคอยปลอบใจให้อย่างอ่อนโยน
การุส สื่งที่จะชดใช้ให้นายได้มากที่สุดก็คือหัวของจอมมารนี่แหละ!』
「............ผู้กล้านี่เนื้อหอมดีจังนะ ส่วนปิแอร์นี่น่าสงสารจัง.........」
『ปี××เดือน●วันที่○ ในที่สุดก็ปราบจอมมารได้สำเร็จ
แต่สิ่งที่รอพวกเราอยู่นั้นคือความจริงอันแสนโหดร้าย ปิแอร์ได้ทำการหักหลัง
โดยเข้ามาโจมตีชั้นที่อ่อนแรงจากการปราบจอมมาร
ถึงแม้จะฝืนปกป้องริริอานกับแอนนาได้อย่างปลอดภัยโดยหนีอย่างสุดชีวิตได้สำเร็จ
เรื่องที่ปิแอร์หักหลังนั้นก็มี---------รายงานกับราชา------ของประเทศ--------』
「หักหลัง!? ปิแอร์น่ะเหรอ!? ไอ้นั่นสินะ เพราะอิจฉากผู้กล้าที่เนื้อหอมใช่มั้ยล่ะ?」
『ปี××เดือน●วันที่○ ชั้นสิ้นหวังในตัวมนุษย์แล้ว
สิ่งที่รอชั้นกลับไปรายงานกับประเทศคือชาวเมืองที่เข้ามาโจมตี
ดูเหมือนจะกลายเป็นว่าชั้นทรยศต่อประเทศ----------แทน
จากข้อมูลเบื้องหลังข่าวลือนั้นมาจาก----------ผู้นำคนหนึ่งของกองทัพจอมมารที่กำจัดพลาดไป
แต่พอ------------โยงข้อมูลเบื้องหลังเข้าด้วยกัน รวมถึงเรื่องที่จอมมารคืนชีพกลับมา
ทั้งหมดกลับเป็นละครอันโหดร้ายที่ผู้นำประเทศนั้นเป็นผู้เขียนขึ้นมา
แต่มันก็ไม่เกี่ยวกับชั้นอีกต่อไปแล้ว
ตอนที่กลับประเทศนั้นริริอานกับแอนนาที่รักถูกฆ่ารวมถึงชั้นด้วย
นี่เป็นบทสุดท้ายของไดอารี่นี้
แม้จะเป็นชีวิตที่โง่เขลาเพียงใดก็ตามมีเพียงความทรงจำตอนที่เดินทางกับพวกริริอานเท่านั้น
ที่ไม่อยากให้หายไป หากมีใครได้อ่านไดอารี่นี้ล่ะก็ ช่วยอย่าทำผิดพลาดเช่นนี้อีกเลยเถิด
ขอภาวนาต่ออนาคตที่อยู่เบื้องหน้า---------อาเบล』
ชั้นค่อยๆปิดไดอารี่ลง
..................
「ปวดตับเฟ้ย!」
ปาไดอารี่ลงพื้นเต็มแรง
「อะไรฟะเนี่ย!? ไดอารี่ทั่วไปมันต้องเขียนเรื่องสนุกสนานที่เจอมาในแต่ละวันไม่ใช่เหรอไง!?
แน่นอนว่าอาจจะมีเขียนเรื่องราวที่ขมขื่นหรือเศร้าใจบ้าง แต่นี่มันมากเกินไปแล้วเฟ้ย!?」
เอ.........แล้วยังไงล่ะเนี่ย?
ชั้นที่อ่านไดอารี่นี่ก็ต้องพยายามไม่ให้ผิดพลาดเหมือนกันด้วยรึเปล่า?
อย่ามาพูดบ้าๆน่า!ก่อนอื่นเลยนะส่วนสำคัญมันแหว่งไปหมดเลยไม่ใช่เหรอไง!
นี่จงใจทำไว้ใช่มั้ยเนี่ย!?
「ฮ่าห์............ฮ่าห์.............」
「เซอิจิ ใจเย็นไว้ ฉันยังอยู่」
「แกอยู่ด้วยแล้วมันมีอะไรฟะ!」
「แต่งงานได้?」
「ไปตายซะไป!」
ไม่ว่ายังไงก็ต้องหนีจากกอลิล่าเวรนี่ไปให้ได้...............!ชั้นสาบานไว้อย่างนั้น