อเล็คเชียนอนแผ่อยู่บนเตียงสะอาด, สายตามองขึ้นหาพี่สาวที่หน้าตาจริงจัง
“เข้าใจแล้ว”
ไอริสว่าจากข้างเตียง
“เหตุฆาตกรหั่นคนไม่ใช่ฝีมืออุทยานเงา แต่เป็นกลุ่มอื่นที่แอบอ้างชื่อ”
“เงาทมิฬว่างั้นนะ”
“ ‘เงาทมิฬ’…… ท้ายที่สุด, เราก็ยังไม่เข้าใกล้ถึงตัวตนที่แท้จริงอยู่ดี”
ไอริสคิดซักนิดก่อน
“ระหว่างเหตุวุ่นวายในเมืองหลวงตอนนั้น ฉันเอง ก็เจอกับนักดาบที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งท่าทางจะเป็นสมาชิกของอุทยานเงา”
“เห็นบอกว่าชื่ออัลฟ่าสินะคะ?”
ไอริสพยักหน้า
“จากรายงานอื่นๆ ก็แสดงให้เห็นว่าองค์กรที่เรียกว่าอุทยานเงา มีพลังต่อสู้สูงมาก, ที่เธอรายงานมา เราก็รู้ถึงชายที่เรียกว่าเงาทมิฬ กับชื่อขององค์กรแล้ว, แต่ก็มีเท่านั้น ที่เหลือยังคงเป็นปริศนา แม้กระทั่งวัตถุประสงค์ขององค์กรเองด้วย”
“เห็นเงาทมิฬเป็นศัตรูกับพวกลัทธิเดียโบลอสค่ะ หรือว่าเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับลัทธิ?”
“เบาะแสะอยู่ที่พวกลัทธิรึ……”
ไอริสถอนหายใจหนัก
“ท่านพี่……?”
“เคยคิดว่าก็เป็นแค่พวกบ๊องๆรวมตัวทำกิจกรรมบูชาปีศาจเดียโบลอส แต่ดูท่าจะหยั่งรากฝังลึกกว่าที่คิด”
“พูดถึงคดีวางเพลิงเหรอคะ?”
“การวางเพลิงก็ด้วย, แถมงบประมาณสำหรับอัศวินแดงชาดก็ไม่ได้รับการอนุมัติ, ฉันต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเองไปซักพักแล้ว”
อเล็คเชียอึ้ง
“แปลว่าไม่ใช่แค่มีพวกอยู่ในกองอัศวิน แต่แฝงอยู่ในข้าราชการพลเรือนด้วย?”
“ก็ไม่รู้สินะ อาจจะเป็นสมาชิกลัทธิเอง หรืออาจแค่ถูกควบคุมด้วยเงินตรา....การก่อตั้งอัศวินแดงชาดออกจะเป็นการบีบๆให้ทำแล้ว เลยบังคับมากไปกว่านี้ไม่ได้”
“ฉันช่วยออกเงินนะคะ”
“ขอบใจ แค่หวังดีก็พอแล้วล่ะ, รู้มั้ยว่าอัศวินแดงชาดมีสมาชิกกี่คน?”
“แปดคน”
“ใช่, แค่แปดคน ลำพังสมบัติส่วนตัวฉัน ก็พออยู่ได้เป็นสิบๆปีแล้ว”
“แต่แบบนี้, ก็ขยับขยายจำนวนไม่ได้สิคะ”
“สำหรับตอนนี้ ไม่ต้องขยายให้ใหญ่โตหรอก ไม่รู้ด้วยว่าใครเป็นมิตรหรือศัตรู”
“ท่านพี่, เอ่อ……”
อเล็คเชียมองพี่สาว ลำบากใจที่จะพูดคำต่อไป
“อัศวินแดงชาดจะเป็นศัตรูกับใครคะ – อุทยานเงา หรือลัทธิเดียโบลอส?”
ไอริสยิ้มตอบ
“ทั้งคู่แหล่ะ, ตราบเท่าที่อยู่ในอาณาเขตของเรา จะให้ทำตามอำเภอใจไม่ได้”
“ท่านพี่……เราสู้กับเงาทมิฬไม่ได้นะคะ”
อเล็คเชียกำผ้าห่มแน่น
“อเล็คเชีย, พูดแบบนี้อีกแล้วเหรอ……”
“ท่านพี่ไม่เคยเห็นเงาทมิฬกับตา ถึงยังพูดแบบนั้นได้, ไม่เห็นการโจมตีที่ทำให้สว่างไปทั่วท้องฟ้าเมืองหลวงเหรอคะ?!”
“นั่นมันคืออาร์ติแฟคเกิดหลุดจากการควบคุม”
“ฉันเห็นกับตาค่ะ ว่าเงาทมิฬเป็นผู้ปลดปล่อยการโจมตีออกมา!”
ไอริสเข้าใกล้เตียง และมองตาสีแดงของอเล็คเชีย
“เป็นไปไม่ได้หรอกที่มนุษย์จะควบคุมพลังมากปานนั้นอยู่, ความจำเธอคงสับสนจากการถูกขังเอาไว้นาน หรือไม่ก็ภาพหลอนจากการถูกยาเข้า, รู้ว่าไม่ได้โกหก แต่ตอนนั้นคงเหนื่อยอยู่”
“ท่านพี่คะ!”
สองมือไอริสกุมมืออเล็คเชียไว้
“ถึงแม้ว่าจะเป็นการโจมตีที่ปล่อยออกมาจากเงาทมิฬจริง, ฉันก็หนีไม่ได้ ถ้าฉันหนี ใครจะปกป้องประเทศนี้ล่ะ?”
“ท่านพี่……”
ไอริสลูบหัวอเล็คเชีย แล้วยืนขึ้น
“พักผ่อนหายไวๆนะ”
“…..พอหาย จะไปช่วยค่ะ”
“ไม่จำเป็นหรอก”
“เอ๋?”
“ลืมบอกไป, เธอถูกกักบริเวณชั่วคราว”
“เเเเเอ๋?!”
“โทษฐานขโมยหลักฐาน”
ไอริสเอายาเม็ดสีแดงออกมา ทำให้อเล็คเชียอึ้ง
“สำนึกซะด้วยนะ”
ประตูปิดปึง
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
ผมโดนจ้องอยู่
ทันทีที่เข้ามาในห้องเรียน รู้สึกว่าถูกจ้องจากทุกทิศ
ทุกคนมองผม พลางกระซิบกระซาบกัน
“นั่นไง, หมอนั่นล่ะ……”
“ขี้ราดขณะวิ่ง……”
“ได้ยินว่าปล่อยขี้กลางถนนล่ะ……”
ผมเขม็งตาใส่เฮียวโรจากะ, พวกมันตาหลุกหลิกเป็นยิ่งนัก
“ง-, ไง, เมื่อวานโชคไม่ดีเลยนะ”
“ว-, หวัดดีตอนเช้า เมื่อวานแย่เลยสินะ”
“เออ หวัดดี, รู้สึกได้เลยว่าวันนี้จะแย่กว่าเมื่อวานว่ะ”
พวกมันออกรอยยิ้มแข็งๆกัน
ผมถอนหายใจใหญ่
“ล-, แล้ว, วันนี้เอาช็อคโกแลตจากเมื่อวานมากันรึเปล่า?”
เฮียวโรว่าพลางเอาห่อช็อคโกแลตของตัวเองออกมา
“เอามาสิ”
จากะว่า
“ก็มีหรอก”
ผมตอบ
“ดีล่ะ, งั้นตอนกลางวัน ไปแจกของขวัญกัน!”
“มุหุหุ, น่าตื่นเต้นจัง”
“…… อืม”
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
แล้ว, พอพักเที่ยง
เฮียวโรจะ ‘ทำให้เราดูเป็นวิทยาทาน’ ดังนั้นผมกับจากะเลยตามไป
ตอนนี้เราอยู่ใกล้ห้องเรียนของปีสอง, เฮียวโรประจำพร้อมที่ลุย
เราสองคนมองอยู่ห่างๆไปหน่อย
“กับรุ่นพี่เหรอ, สมกับเป็นเฮียวโรคุง!”
“…… อืม”
ซักพัก, มีสาวน่ารักออกมา
“อ, เอ่อ-, โปรดรับสิ่งนี้ไว้”
เฮียวโรยื่นช็อคโกแลตให้, แต่ตอนนั้นเอง
“เห้ย, มีธุระอะไรกับคู่หมั้นชั้นวะ?”
มีมือมาแตะไหล่เฮียวโรอย่างหนักๆ
ข้างหลังเฮียวโร เป็นรุ่นพี่ตัวโตกล้ามถึก
“อ่า, เปล่า, แบบว่า……”
“ไปคุยกันทางโน้นดีกว่า”
เฮียวโรส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทางตา, แต่เราทำเป็นไม่เห็นและหันหนี
“ไปกันเหอะ”
“อืม”
เสียงกรีดร้องเฮียวโรดังเป็นฉากหลัง
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
สนามรบของจากะ คือห้องสมุด, ซึ่งห้องสมุดนี้ ใช้ร่วมกับโรงเรียนวิชาการมิดกัล, มีขนาดออกจะใหญ่
แน่นอน พวกสมองกล้ามเนื้อสายดาบเวท ไม่ค่อยได้มาที่นี่กันหรอก, ซึ่งก็รวมถึงผมด้วย
“เล็งนักเรียนวิชาการไว้อยู่เหรอ”
“ใช่ ตัวเราไม่ทำพลาดแบบเฮียวโรคุงหรอก, ทำการสืบเสาะข้อมูลมาอย่างดีแล้ว รู้ทุกอย่างเลย ไม่ว่าจะคนที่เธอคบหาสมาคมด้วย อาหารที่เธอชอบ เลขที่ห้องพัก ห้องน้ำที่ใช้บ่อยๆ ขนาดและกลิ่นของรองเท้า สีของกางเกงในที่มี ทรวดทรงสัดส่วน แล้วแก้วที่เธอใช้ ตัวเราก็……”
“เออๆ ไปๆได้แล้ว”
ผมดันหลังจากะเข้าไปในห้องสมุด, และหันหนีทันที
“กริ๊ดดดดดดดดด!! หมอนี่ สตอล์กเกอร์!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมา
ส่วนผม เดินดุ่มๆไม่สนใคร, ไม่ค่อยได้มาที่นี่นัก ทุกอย่างเลยเหมือนของสดใหม่
แล้วก็เรียกนักเรียนหญิงคนแรกที่สวนทางกัน
“ให้ช็อคโกแลตนะ”
“เอ๋?”
เป็นหญิงสาวน่ารักผมสีชมพู
หลังจากทิ้งช็อคโกแลตให้เสร็จๆไป, ก็เป็นอันหมดธุระแล้ว ออกจากห้องสมุดดีกว่า
“เอ๋?? เอ๋??”
ได้ยินเสียงสาวงงๆอยู่เบื้องหลัง
รู้สึกเหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหน แต่นึกไม่ออก, ช่างเหอะ