“หรือก็คือ, อเล็คเชียกับครูเซนอนหมั้นหมายกัน และผมเป็นไม้กันหมา?”
ตอนนี้ผมกำลังเจอหน้ากับอเล็คเชียที่หลังตึกเรียน เมื่อเลิกเรียน
“ไม่ได้หมั้น แค่แคนดิเดตคู่หมั้น”
อเล็คเชียตอกกลับหน้านิ่ง
“เอาเหอะ ก็เหมือนๆกัน”
“ไม่เหมือนซะหน่อย, ยังไม่ได้ยืนยันเลยด้วยซ้ำ, แต่พยายามผลักดันการพูดคุยอยู่นั่นล่ะ ยุ่งยากชะมัด”
“จะยังไงก็ช่าง, โทษทีนะ แต่ผมไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย”
“อร่า, เป็นแฟนกันแท้ๆ แต่ใจร้ายจังนะ”
“แฟน? ก็แค่ใช้เป็นไม้กันหมาเท่านั้นไม่ใช่เหรอ?”
“ก็ถูกอยู่ แต่นายก็แบบเดียวกันไม่ใช่รึไง?”
รอยยิ้มไม่เป็นมิตรปรากฏบนหน้าอเล็คเชีย
“แบบเดียวกัน? พูดถึงอะไร?”
“อร่า, ทำเป็นไม่รู้เรื่องเหรอ? ซิด คาเกโน่คุง ผู้แพ้เกมลงทัณฑ์?”
รอยยิ้มเธอยิ่งโฉดมากขึ้น
อึก, เดี๋ยวนะ, ใจเย็นกันก่อน
“ใจร้ายจัง, หลอกลวงเล่นสนุกกับจิตใจอันไร้เดียงสาของเด็กสาว”
อเล็คเชียว่าพลางบีบน้ำตา โดยที่ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความไร้เดียงสา
ไม่เป็นไร, ผมยังนิ่งอยู่
“ไม่เห็นรู้เรื่องเลย พูดอะไรกัน, มีหลักฐานรึไง?”
ใช่แล้ว, หลักฐาน
ไม่ว่าจะสงสัยแค่ไหน, ตราบเท่าที่สองคนนั้นไม่ทรยศผม……
“ชื่อว่าจากะคุงสินะ? พอคุยด้วย ก็หน้าแดง เริ่มพูดออกมาทั้งที่ไม่ได้ถามเลยล่ะ, มีเพื่อนดีนะเนี่ย”
ผมอัดไอ้จากะอยู่ในใจ อยากจะทำให้กลายเป็นมันฝรั่งบด เพื่อรักษาสุขภาพจิตอันดีของผมไว้ซะจริง
“เป็นอะไรไป? หน้าตาบิดเบี้ยวเชียว”
“ไม่เป็นไร พอดีว่านิสัยเบี้ยว หน้าตาก็เลยเบี้ยวด้วย”
“อ้อเหรอ”
“แต่ก็ยังดีกว่าเธอนั่นล่ะ”
“หืม, พูดอะไรนะ?”
“เปล่า, แล้วต้องการอะไร?”
ผมยอมรับความพ่ายแพ้, แพ้เพราะเลือกเพื่อนผิด
“นั่นสิน้า……”
อเล็คเชียกอดอก เอียงพิงตึกโรงเรียน
“สำหรับตอนนี้, แกล้งทำเป็นคนรักกันต่อไป, จนกว่าหมอนั่นจะยอมแพ้”
“ผมเป็นแค่ตระกูลบารอน, พูดตามตรง ไม่มีแรงสกัดกั้นหรอก”
“รู้ดีน่า, ตราบเท่าที่ซื้อเวลาได้ ก็พอแล้ว, ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“แล้วผมก็ไม่อยากมีอันตราย, อีกฝ่ายเป็นครูสอนดาบของประเทศด้วย ถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมรับมือไม่ไหวหรอก"
“บ่นๆๆๆ, หนวกหูจังเลย”
อเล็คเชียว่า แล้วเอาเหรียญทองออกจากกระเป๋าหน้าอก มาโปรยลงพื้น
“เก็บสิ”
1 เหรียญทองคือ 100,000 เซนี่, และมีอย่างน้อย 10 เหรียญตกอยู่
“เห~, ผมดูเหมือนคนที่กระดิกหางเพื่อเงินรึไง?”
ผมตอบพลางคลานลงพื้นเพื่อเก็บของตกอย่างระมัดระวังทีละชิ้น
“ใช่สิ”
“สายตาดีนี่หว่า”
11 เหรียญ, 12 เหรียญ, 13 เหรียญ…… อ่ะ, ยังมีอีก!
พอผมจะยื่นมือไปหาเหรียญสุดท้าย, เท้าอเล็คเชียก็เหยียบเอาไว้
ผมมองขึ้นไปยังอเล็คเชีย, สายตาอเล็คเชียมองลงมา, เห็นภายในจีบกระโปรงเลย
“จะทำตามที่ฉันสั่งสินะ?”
อเล็คเชียยิ้มยืนยันให้เห็นว่าเธอช่างนิสัยเสียจริงๆ
“แน่นอน, แน่นอน”
ผมเองก็ตอบด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า
“ดีมาก โปจิ”
อเล็คเชียลูบหัวผมเหมือนเป็นหมา, แล้วก็สะบัดกระโปรงจากไป
ผมเช็ดเหรียญทองที่เธอเหยียบอย่างรอบคอบ ก่อนเก็บเข้าตัว
◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇◆◇
หลังจากเข้าโรงเรียนแล้ว ผมก็ยังคงลดเวลานอน เพื่อทำการฝึกฝนตนเอง
แต่ตอนนี้ ไอ้การแกล้งทำเป็นคู่รักกับอเล็คเชีย ทำให้เวลาของผมลดลงไปอีก
“มาด้วยกันซิ”
แค่คำเดียว ผมก็ถูกบังคับให้มาห้องเรียนวิชาบุชินสายเมืองหลวงกลุ่ม 1 ตั้งแต่เช้า
แสงแดดยามเช้าส่อง, ที่กว้างๆอันเงียบงัน ซึ่งมีเพียงเราสอง
เป็นการฝึกยามเช้า
อเล็คเชียเน้นแต่การหวดดาบ
ผมเอง ก็หวดดาบอยู่ข้างเธอ
ดาบของอเล็คเชียเปี่ยมไปด้วยความจริงจัง, อย่างน้อยๆ ผมก็ไม่ได้รังเกียจจุดนั้น
เราไม่คุยกัน, เพียงแต่หวดดาบต่อไปอย่างเงียบๆ
สำหรับผม ถือเป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้เจ็บปวดนัก
“แปลกจริงนะ, ดาบนาย”
เป็นอเล็คเชียที่ผ่าความเงียบก่อน
“มีพื้นฐานอยู่ แม้จะเห็นอยู่อย่างเดียวก็เถอะ แต่ว่า……”
แน่นอน, ผมออมพลังเอาไว้ ปิดบังความเร็ว ซุกซ่อนเวทมนต์ อำพรางความสามารถ, ปกปิดทุกอย่างก่อนหวดดาบต่อหน้าเธอ
จึงแน่นอน ว่าเหลือแต่พื้นฐานของดาบ
“ไม่รู้ทำไม, ถึงยากจะละสายตาได้”
“ขอบใจ”
เสียงนกร้องนอกห้องเรียน, เสียงจิ๊บๆที่น่ารักนี่ จริงๆไม่ใช่การร้องเพลง แต่เป็นการแย่งชิงอาณาเขต และผมก็ได้ยินเสียงจิกกันด้วย
“แต่ว่าไม่ชอบดาบของนายเลย”
แล้วบทสนทนาเราก็ตัดลง, เหวี่ยงดาบกันต่ออย่างเงียบๆ