“ไม่แปลกไปหน่อยเหรอ?!”
“แปลกสิ”
“แปลกอย่างแรง”
เที่ยงวันต่อมา, ผมกินอาหารกลางวันกับเพื่อนตัวประกอบ พลางงงกันกับเรื่องเมื่อวาน
เราทั้งสามต่างมีความเห็นเป็นเอกฉันท์, ว่ามันแปลก
“พูดตามตรง, อย่างแกไม่มีคุณสมบัติอะไรจะคบกับเจ้าหญิงอเล็คเชียได้เลย ถ้าเป็นชั้นยังพอทำเนานะ”
เฮียวโร ヒョロ ว่างั้น, เขาเป็นลูกชายคนที่สองของบารอน การิ ガリ , ตัวสูงผอม ซึ่งหากว่าพยายามแต่งตัว ก็คงพอดูๆได้หรอก แต่ว่าเป็นคนไม่มีเซนส์ด้านแฟชั่น, จากห่างๆ อาจมองผ่านได้ว่าหล่อ....ไม่เสร็จ, ผมว่าเอากลับเข้าโรงหล่อไปเหอะ
แน่นอน ว่าการิ เฮียวโร ไม่มีคุณสมบัติเด่นใดๆเพียงพอจะคบกับเจ้าหญิงอเล็คเชียได้, ทำไมน่ะรึ? ก็เพราะว่าผมยอมรับเขาไว้เป็นเพื่อนตัวประกอบไง
“ถ้าซิดคุงทำได้ อย่างตัวเราเองก็สำเร็จได้หรอก, อา~,รู้งี้ตัวเราคงไปสารภาพเองแล้ว”
ส่วนนี่คือ จากะ ジャガ, ลูกชายคนที่สองของบารอน อิโม イモ, ตัวเล็กมีแต่ก้าง, เหมือนกับตัวเศษเกินในชมรมเบสบอล, ไม่ว่าจากมุมไหน ก็ตัวประกอบที่หาความหล่อไม่ได้ชัดๆ
แน่นอนว่าเป็นตัวประกอบที่ผ่านการรับรองแล้วจากผมเช่นกัน, ไม่มีจุดเด่นอะไรจะพอคบหากับเจ้าหญิงอเล็คเชียได้หรอก
อ้อ, ผ่านมา 10 ตอนแล้ว ผมเพิ่งจะบอกชื่อตัวเองสินะ, ผมชื่อ ซิด シド, ซิด คาเกโน่, เมื่ออยู่ในชื่อนี้ จะเป็นตัวประกอบ เป็นค่าเฉลี่ยที่หาได้ทั่วไป
“มันไม่ราบลื่นอย่างที่คิดหรอก, น่ากลัวว่าจะต้องมีสถานการณ์อะไรอยู่เบื้องหลังแน่, แต่ไหนแต่ไร ชีวิตความเป็นอยู่ก็ห่างชั้นกันเกินไปด้วย”
“ถูกเผงเลย ก็แกมันห่วยกว่าชั้นอีก, อย่างดีคงคบกันได้ 1 สัปดาห์มั้ง”
“คงได้ซัก 3 วันแหล่ะ, ก็ดูรอบข้างสิ”
เมื่อจากะบอก, ผมกับเฮียวโรก็ดูรอบๆ, เมื่อทุกคนในโรงอาหารมองมาทางผม พลางซุบซิบกัน
“ดูสิ, คนนั้นล่ะ ……”
“โกหกแล้ว! ดูพื้นๆชะมัด……”
“มีความเข้าใจผิดอะไรกันรึเปล่า……”
“อ่ะ, งั้นฉันก็ทำได้สิ……”
“เอ๋ー!”
ว่ากันไป
“ได้ยินมาว่ามันค้นพบจุดอ่อน แล้วใช้เป็นเครื่องบีบบังคับล่ะ......เจ้าคนชื่อเฮียวโร การิ บอกข่าวมา”
“จริงดิ?! ยังงี้ต้องฆ่ามันทิ้ง ……”
“ทำให้เหมือนอุบัติเหตุซะล่ะ ……”
“ถ้าเราไม่ต่อต้าน จะเรียกว่าลูกผู้ชายได้ไ
งกัน ……”
เอาเข้าไป
ผมมีหูดี, เลยได้ยินหมด, แต่ก่อนอื่นนะ ไอ้เฮียวโร การิ
“หือ, มีอะไร?”
“…….เปล่า”
มิตรภาพระหว่างตัวประกอบก็เป็นงี้ล่ะ
“เอาจริงๆนะ ทำไงดีเนี่ย? ถ้าเลิกคบวันต่อมาหลังสารภาพรัก คงน่าสงสัยสุดๆ”
แต่ไหนแต่ไร ก็ไม่สมกับเป็นตัวประกอบอยู่แล้ว ที่จะเลิกคบกับเจ้าหญิง, แต่ก็นะ ตั้งแต่เจ้าหญิงตอบรับ ผมก็ถูกบังคับให้ออกจากการเป็นตัวประกอบแล้ว
“ก็ทำตามน้ำไปสิ? อาจได้เป็นความทรงจำดีๆก็ได้”
เฮียวโรยิ้มว่างั้น
“นั่นสิ ถึงจะเป็นความผิดพลาด แต่ตอนนี้ก็ได้คบกับเจ้าหญิงแล้ว มัวกลัวนี่นั่นอยู่ก็น่าเสียดายออก”
“จะไปทำงั้นได้ไงเล่า?”
ยิ่งสภาพเช่นนี้คงอยู่นานเท่าไหร่ ข่าวลือก็ยิ่งแพร่สะพัดออกไป และยิ่งทำให้ผมห่างไกลจากชีวิตตัวประกอบจืดจาง
“แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว จะหลุดปากออกมาว่าเป็นแค่เกมลงทัณฑ์ก็ไม่ได้”
จากะว่า
“เห็นด้วยอย่างยิ่ง, ถ้าหลุดออกไป เกิดความวุ่นวายแหง, เพราะงั้นขอร้องล่ะ, โดยเฉพาะเฮียวโรเลย”
“ชั้นเหรอ? หิ, ชั้นไม่บอกใครหรอก”
“แน่นอน, ตัวเราก็ไม่บอกใครด้วย”
“นี่ขอร้องอย่างจริงจังเลยนะ”
ผมถอนหายใจ แล้วยื่นมือเข้าหาชุดอาหาร 980 เซนี่สำหรับชนชั้นสูงผู้ยากจน
กินให้ไว แล้วรีบออกจากโรงอาหารที่น่าอึดอัดนี่ดีกว่า
แต่สายไปแล้ว
มีชุดอาหาร 100,000 เซนี่สำหรับชนชั้นสูงโคตรรวย มาตั้งตรงข้ามที่นั่งผม, โดยมีเมดมาวาง ด้วยความสง่างาม
และ
“ตรงนี้ว่างสินะ?”
เจ้าหญิงอเล็คเชียออกโรง
ชิบหาย, ว่าแล้วเชียว ถึงได้อยากกินให้เสร็จไวๆเนี่ย
“ช-ช-ช-ช-เชิญครับ!”
“ป-ป-ป-ป-ป-ป-ป-เป็นเกียรตินัก ด้วยความยินดียิ่ง!”
เห็นเฮียวโรกับจากะแทบจะห่อตัวหดแล้ว
เจ้าพวกนี้ เมื่อกี้ยังอวดดีอยู่เลยว่าพร้อมจะคบกับเจ้าหญิง, สมกับเป็นเพื่อนตัวประกอบที่ผมยอมรับว่าเป็นตัวประกอบอย่างแท้จริง
โอย อยากร้องไห้
“นั่งได้ถ้าต้องการครับ”
อเล็คเชียรอคำตอบผมอยู่ เลยต้องตอบ
“งั้นก็”
เธอนั่งลง
“อากาศดีเนอะ?”
แรกเริ่ม ผมเติมช่องว่างด้วยการยกเอาเรื่องอากาศขึ้นมา
“นั่นสิ”
คุยกันด้วยเรื่องจืดจางต่อไป
ด้วยท่าทางสง่างาม, เธอแตะต้องอาหารสุดจะหรู
สมกับเป็นเจ้าหญิง, มารยาทงามมาก, ชนชั้นสูงระดับล่างอย่างเรา ก็แทบจะเหมือนสามัญชนโปะฉายาห้อยท้าย
“อาหารหรูหราเยอะแยะเลยเนอะ”
“นั่นสิ? ทานไม่หมดเสมอๆเลย”
“น่าเสียดายชะมัด”
“พูดตรงๆ อยากเลือกคอร์สที่ระดับต่ำลงหน่อย แต่ฉันทำแบบนั้น คนอื่นก็จะลำบากใจในการสั่งคอร์สนี้”
“อ้อ, งี้นี่เอง, ถ้ากินไม่หมด ขอบ้างได้ไหม?”
“ก็ได้หรอก, แต่……”
“ถ้าห่วงเรื่องมารยาท ก็ไม่ต้องกังวล, ก็เป็นเขตที่นั่งชนชั้นสูงระดับล่างนี่นะ”
ผมฉกเอาเนื้อจานหลักจากอเล็คเชียที่อึ้งๆ มาเข้าปากก่อนเธอจะได้บ่นอะไร
อืม, อร่อย
“อ่ะ……”
“ขอปลาด้วยแล้วกัน”
“เดี๋ยว……”
แหม่, โชคดีชะมัด
เพราะเธอ, ทำให้ท้องผมเปี่ยมไปด้วยความสุข
เทียบกับเมื่อวาน, ท่าทีของผมตอนนี้ต่ออเล็คเชีย คือสุดจะไร้มารยาท
เหตุผลเหรอ?
ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างปฏิบัติการ ‘ทิ้งผมซะทีเซ่’ ไง
“เห้อ…… เอาเถอะ”
“ขอบคุณสำหรับอาหาร, ไปล่ะนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ผมกะยัดเข้าปากให้เสร็จๆแล้วรีบจากไปเหมือนไม่ใช่ธุระตัวเอง, แต่ไม่สำเร็จ จึงต้องนั่งลงอย่างเจ็บแค้น
“ฝึกปฏิบัติหลังเที่ยงของนาย คือวิชาสายบุชินเมืองหลวงสินะ?”
“ใช่”
โรงเรียนนี้แบ่งคาบเรียนออกเป็นช่วงทฤษฎี ก่อนเที่ยง กับเรียนภาคปฏิบัติ หลังเที่ยง
เรียนทฤษฎีจะแบ่งออกเป็นชั้นเรียน, แต่เรียนปฏิบัติจะขึ้นกับการเลือก และมีนักเรียนจากชั้นต่างๆปะปนกัน, นี่ก็เพื่อให้เลือกเรียนรูปแบบการต่อสู้ที่เหมาะสมกับตนเองที่สุด
“ฉันก็สายบุชินเมืองหลวง, ไปด้วยกันไหม?”
“ไม่ได้หรอก, คือ อเล็คเชียอยู่กลุ่ม 1, ผมอยู่กลุ่ม 9”
สายบุชินเป็นวิชาที่ได้รับความนิยม, แต่ละกลุ่ม มีนักเรียน 50 คน โดยกลุ่ม 1 คือชำนาญสุด ส่วนกลุ่ม 9 ก็แย่สุด
ผมเพิ่งเข้าเรียนได้ 2 เดือน จึงยังอยู่กลุ่ม 9, ผมกะว่าจะไปหยุดอยู่ตรงกลุ่ม 5 ล่ะ
“ด้วยคำแนะนำของฉัน กลุ่ม 1 จึงมีที่ว่าง, ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก”
“แบบนี้คือใช้อำนาจโดยมิชอบรึเปล่าอ่ะคับ?”
“หรืออยากให้ฉันไปอยู่กลุ่ม 9?”
“ได้โปรดอย่าทำลายชีวิตของผมเลยนะคับ”
“มีแค่สองตัวเลือกนี่ล่ะ เลือกมาอันนึง”
“เอาจริงดิ?”
“นี่เป็นคำสั่ง, ด้วยอำนาจของเจ้าหญิง”
“ไปกลุ่ม 1 คับ!”
อาหารกลางวันของผมจบลงเท่านี้
เฮียวโรกับจากะยังคงเป็นไม้ประดับประกอบฉากจนถึงที่สุด